บทที่ 473 คุณชายสามเย่เอาแต่ใจขนาดนี้จะดีเหรอคะ (1)
แต่ว่าเย่ซือเฉินกลับทำเหมือนไม่ได้ยินคำพูดของเวินหรวนหรวน ไม่ตอบโต้เลยแม้แต่คำเดียว แม้กระทั่งมองยังไม่มองเวินหรวนหรวนเลยสักนิด สายตาของเขายังคงมองหน้าเวินลั่วฉิงอยู่
“พี่เขยครับ คุณมาร่วมงานเลี้ยงครอบครัวของพวกเรา คุณมาที่นี่เพราะพี่สาวผมเหรอครับ?” เวินจื้อหลงไม่เข้าใจกับกิริยาท่าทางของคุณชายสามเย่ จึงลองถามดูคำหนึ่ง
พี่สาวที่เวินจื้อหลงพูดก็คือเวินหรวนหรวน แต่สำหรับคุณชายสามเย่แล้ว เวินหรวนหรวนก็เหมือนเป็นเพียงอากาศเท่านั้น แต่ว่าถูกเขาเมินเฉยไม่สนใจเลย
ในตอนนี้ เย่ซือเฉินได้ยินคำพูดของเวินจื้อหลง ในสมองไม่ได้นึกถึงเวินหรวนหรวนเลย ปฏิกิริยาแรกก็คือนึกถึงเวินลั่วฉิง เพราะเวินจื้อหลงก็ควรเรียกเวินลั่วฉิงว่าพี่สาว
เย่ซือเฉินได้ยินคำว่าพี่เขยในตอนนี้ รู้สึกดีมาก ดังนั้น เขาจึงไม่โต้ตอบ
คุณชายสามเย่ไม่โต้ตอบอะไรในตอนนี้ สีหน้าและแววตาของทุกคนทั้งโต๊ะต่างก็เปลี่ยนไปทันที
ไม่ว่าใครก็รู้อยู่แล้ว พี่สาวที่เวินจื้อหลงพูดอยู่ในตอนนี้คือเวินหรวนหรวน ดังนั้น ต่างก็คิดว่าคุณชายสามเย่ที่มาตระกูลเวินในครั้งนี้ เพราะเวินหรวนหรวนจริงๆ
แม้แต่พี่เขยก็ยอมรับแล้ว เห็นทีว่าตั้งใจจะแต่งงานกับเวินหรวนหรวนจริงๆ
แววตาของคุณปู่เวินกระพริบเบาๆหนึ่งครั้ง สองตามองไปที่ตัวเวินลั่วฉิงและเย่ซือเฉินไปๆมาๆหลายครั้งและรู้สึกว่าในนี้เหมือนมีอะไรที่ไม่ปกติ
ทำไมเขารู้สึกว่าเย่ซือเฉินไม่ได้คัดค้านคำว่าพี่เขยของจื้อหลง เป็นเพราะว่าฉิงฉิง?
แต่ว่าฉิงฉิงกับเย่ซือเฉิน?
เป็นไปได้เหรอ?
เวินหรวนหรวนเห็นตอนแรกคุณชายสามเย่ไม่สนใจเธอ รู้สึกเกร็งๆ แต่ตอนนี้เห็นจื้อหลงเรียกพี่เขย แต่คุณชายสามเย่ไม่ค้าน ในใจรู้สึกตื่นเต้นและดีใจเป็นอย่างมาก เห็นเช่นนี้แล้ว คุณชายสามเย่คิดจะแต่งกับเธอหรือ?
นี่คือเรื่องจริงๆเหรอ?
เธอไม่ได้ฝันไปใช่ไหม?
ในตอนนี้ เย่ซือเฉินมองดูกุ้งตัวใหญ่ที่อยู่ตรงด้านหน้า พูดขึ้นมากะทันหัน: “ผมอยากกินกุ้ง”
ตอนที่เย่ซือเฉินพูดคำนี้ กำลังมองดูกุ้งตัวใหญ่อยู่ แต่คำพูดนี้เขากำลังพูดกับเวินลั่วฉิง
เวินลั่วฉิงเป็นคนฉลาด ต้องฟังเข้าใจอยู่แล้ว ในตอนนี้เธออยากจะเหลือบตาใส่เย่ซือเฉินเหลือเกิน
เขาอยากกินกุ้งก็กินกุ้งสิ กุ้งก็อยู่ตรงหน้าแล้วไง? แค่เขายื่นมือออกไปก็หยิบได้แล้ว เรียกร้องทำไม? เรียกร้องแล้วกุ้งจะบินเข้าปากเลยรึไง?
แต่ว่า คุณชายสามเย่ในตอนนี้แค่มองดูเฉยๆ ไม่ขยับมือเลย
“ฉันช่วยปอกให้นะคะ” เวินหรวนหรวนนึกว่า เย่ซือเฉินพูดกับเธอ เวินหรวนหรวนถนัดเรื่องพวกนี้มากอยู่แล้ว คุณชายสามเย่พูดแบบนี้ในเวลานี้ ความหมายมันชัดเจนมาก ว่าอยากให้เธอช่วยปอกให้
คำร้องขอของคุณชายสามเย่แบบนี้ เธออยากทำจนตัวสั่นอยู่แล้ว
เวินหรวนหรวนพูดแล้ว รีบหยิบกุ้งสองตัวมาวางบนถ้วยของตน เริ่มปอกอย่างละเอียดอ่อน เห็นได้ชัดเจนว่าเธอต้องปอกให้เย่ซือเฉิน
เวินลั่วฉิงตกใจเล็กน้อย แต่งานกับเย่ซือเฉินสามเดือน เธอรู้ว่าเย่ซือเฉินเป็นคนที่รักความสะอาดมาก
ของที่คนอื่นแตะต้องแล้ว เย่ซือเฉินไม่ยอมแตะมันอย่างแน่นอน
แต่ว่าเธอเป็นคนพิเศษ เธอกำลังคิดอยู่ว่าตอนที่เย่ซือเฉินจูบเธอ แม้แต่น้ำลายของเธอเขาก็กินมาแล้ว ดังนั้นถ้ากุ้งเธอปอกให้ยังไม่ยอมกิน ก็รักสะอาดเกินไปแล้ว
เวินลั่วฉิงคิดว่า ในเมื่อเย่ซือเฉินรักสะอาดขนาดนี้แล้ว กุ้งที่เวินหรวนหรวนปอกให้ เขาไม่มีทางแตะแน่ๆ ไม่แน่ บางทีอาจจะมีข้อยกเว้น เพราะเวินหรวนหรวนก็ถือว่าเป็นผู้หญิงที่สวยเหมือนกัน
เวินลั่วฉิงกำลังคิดและรู้สึกมีสายตาจ้องมองบนตัวเธอ เธออยากจะเพิกเฉยแต่ไม่อาจเพิกเฉยได้เลย
เวินลั่วฉิงได้แต่เงยหน้าขึ้นและหันไปมอง จากนั้นจ้องตาของเย่ซือเฉินพอดี
เย่ซือเฉินหรี่ตาลงเล็กน้อยและกำลังมองเธออยู่ สายตานั้นดุร้ายและเห็นได้ชัดว่า ถ้าเธอกล้าปล่อยให้กุ้งที่เวินหรวนหรวนปอกมาใส่ในถ้วยของเขาล่ะก็ เขาต้องฉีกเธอจนเละแน่
เวินลั่วฉิงตกใจนิดๆ เขาไม่อยากได้กุ้งที่เวินหรวนหรวนปอกให้ เขาบอกเวินหรวนหรวนได้นี่ เขาโมโหใส่เวินหรวนหรวนได้นี่ เกี่ยวอะไรกับเธอล่ะ?
เรื่องอะไรมาโมโหใส่เธอ?
เธอเสียเปรียบไปมั้ย?
เวินลั่วฉิงคิดก็คิดแบบนั้น แต่ว่าภายใต้สายตาแบบนั้นของคุณชายสามเย่ สุดท้ายก็ต้องยอม เธอรีบๆหยิบกุ้งมาหนึ่งตัว หักหัวกุ้งและหางออก จากนั้นปอกเปลือกออก เพียงแค่วินาทีเดียว ก็เสร็จเรียบร้อย แล้วเวินลั่วฉิงหยิบกุ้งไปใส่ในถ้วยของเย่ซือเฉินในทันที
สายตาของเย่ซือเฉินอ่อนโยนลงทันที ก้มหน้าและคีบกุ้งที่เวินลั่วฉิงปอกให้เมื่อกี้ใส่เข้าไปในปาก จากนั้นยิ้มด้วยความพอใจ
ไม่เลว กุ้งที่เมียปอกให้อร่อยจริงๆ ว่าไปแล้ว พวกเขาแต่งงานกันสามเดือน เขายังไม่เคยมีความสุขกับการมีคนดูแลเช่นนี้ ความรู้สึกแบบนี้ดีจังเลย!!
สองตาก็ยังกำลังมองไปที่เวินลั่วฉิง
เวินลั่วฉิงรู้สึกหงุดหงิดมากในตอนนี้ กินไป กินเข้าไป ไม่กินให้ตายไปเลยล่ะ?
เวินหรวนหรวนในตอนนี้ทั้งโกรธทั้งเกลียด จนอยากกลืนกินเวินลั่วฉิงให้ได้เลย ทั้งทั้งที่เธอจะปอกกุ้งให้คุณชายสามเย่ก่อน กลับถูกเวินลั่วฉิงอีเลวนั่นชิงไปเสียก่อน อีกทั้งคุณชายสามเย่ยังกินกุ้งที่เวินลั่วฉิงปอกให้ด้วย?
“พวกเธอรู้จักกันหรือ?” สายตาของคุณปู่เวินจ้องดูบนตัวของเย่ซือเฉินและเวินลั่วฉิงไปๆมาๆอีกรอบ จากนั้นถามขึ้นมากะทันหัน
ที่จริงคุณปู่เวินจงใจถามเช่นนี้ เพราะก่อนหน้านั้นตระกูลเย่ได้ร่วมลงทุนกับตระกูลเวินแล้ว เวินลั่วฉิงกับเย่ซือเฉินรู้จักกันก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ
แต่ว่าคุณปู่เวินถามเช่นนี้ในตอนนี้ เห็นได้ชัดว่ามีจุดประสงค์อื่น
ถึงแม้เขาจะรู้สึกว่าระหว่างฉิงฉิงและเย่ซือเฉินไม่น่าจะมีความสัมพันธ์กัน แต่ปฏิกิริยาของทั้งสองคนทำให้คนมองดูแล้ว……
“รู้จัก”
“ไม่รู้จัก”
คุณชายสามเย่และเวินลั่วฉิงตอบคำถามที่แตกต่างกันพร้อมๆกัน
แน่นอน คนที่พูดว่ารู้จักคือคุณชายสามเย่ คนที่พูดว่าไม่รู้จักต้องเป็นเวินลั่วฉิง
ตอนที่เย่ซือเฉินได้ยินคำว่าไม่รู้จักของเวินลั่วฉิง สองตาหรี่ลงอย่างรวดเร็ว เขารู้ว่าเธอไม่อยากให้คุณปู่รู้เรื่องความสัมพันธ์ของพวกเขา แต่ว่าตอนนี้เธอกลับบอกว่าไม่รู้จักเขา!
ไม่รู้จักเขา!!
ดี ดีมาก เธอนี่เก่งจริงๆ
“ตกลงพวกเธอรู้จักหรือไม่รู้จักกันแน่?” แววตาของคุณปู่เวินเต็มไปด้วยความสับสน คนหนึ่งบอกว่ารู้จัก อีกคนกลับบอกว่าไม่รู้จัก ตกลงมันยังไงกันแน่?
อีกทั้งคนที่บอกว่ารู้จักคือเย่ซือเฉิน?
ถ้าฉิงฉิงเป็นคนพูดว่ารู้จัก เย่ซือเฉินเป็นคนพูดว่าไม่รู้จัก เรื่องนี้ยังถือว่าปกติ แต่ว่าตอนนี้กลับตรงกันข้าม
และเห็นได้ชัดว่า ฉิงฉิงบอกว่าไม่รู้จัก เย่ซือเฉินดูเหมือนจะโกรธ ดังนั้นคุณปู่เวินยิ่งรู้สึกแปลกใจ
คนอื่นๆอีกหลายคนมองไปที่เย่ซือเฉินและเวินลั่วฉิง ต่างก็อยากรู้ว่าตกลงมันยังไงกันแน่?
ครั้งนี้ เย่ซือเฉินไม่ตอบคำถาม แค่มองเวินลั่วฉิง เขาจะดูซิว่าเธอจะตอบยังไง
แต่งานกันสามเดือน เขาและเธอเป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้อง พวกเขาทานข้าวบนโต๊ะเดียวกัน นอนอยู่บนเตียงเดียวกัน นอนกอดจูบเธออยู่ทุกคืน ผู้หญิงคนนี้บอกว่าไม่รู้จักเขาในตอนนี้?
เขาจะคอยดูว่าเธอจะพูดอธิบายยังไง?