บทที่ 506 เพราะเขาไม่อนุญาต
“คุณชายสามเย่ คุณเร็วหน่อย เธอจะเข้ามาแล้ว”เหลยเห้อเผยสีหน้าไม่พอใจหลายส่วน แต่เห็นท่าทางของกู้หนานที่อยู่ด้านนอก จึงจำเป็นต้องเตือนเย่ซือเฉินเข้าไว้
อันที่จริงเรื่องราวก่อนหลังพวกนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วินาทีเอง
“จำไว้ คุณเป็นของผม……”เย่ซือเฉินสบตาเวินลั่วฉิงด้วยสีหน้าตั้งใจอย่างไม่เคยมีมาก่อน
“ด้านในไม่มีเสียง เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า พวกนายชนประตูเข้าไปเลย”เวลานี้กู้หนานถึงกับสั่งให้บอดี้การ์ดพังประตูเข้ามาเลยทีเดียว
“เร็ว ออกไป”เวินลั่วฉิงตกใจรีบลากเย่ซือเฉินออกจากห้องมา ประตูจะต้านทานการทุบตีของบอดี้การ์ดได้อย่างไร?
“ไม่ต้องครับ พวกเราไม่ดื่มชา ขอบคุณครับ”ในขณะเดียวกัน เหลยเห้อพูดออกไปด้านนอกหนึ่งประโยค
เย่ซือเฉินถูกเธอลากออกจากห้อง แอบถอนหายใจหนึ่งเฮือก เวลานี้กู้หนานก็เริ่มให้คนทุบประตูจริงๆแล้ว
ไม่ทราบว่าเธอไม่ได้ยินคำพูดของคุณเหลยเห้อเมื่อสักครู่นี้ หรือจงใจทำกันแน่ แต่เวินลั่วฉิงคิดว่าน่าจะจงใจมากกว่า ซึ่งก็คือกู้หนานอยากเข้ามา จึงได้ทำทุกวิถีทาง
ดวงตาเวินลั่วฉิงหรี่ขึ้นเล็กน้อย บัดนี้เธอได้ทำการแปลงโฉมใหม่เสร็จอีกครั้งแล้ว
เหลยเห้อเดินไปเปิดประตูห้อง
กู้หนานที่ยืนถือน้ำชาอยู่หน้าประตูเห็นประตูเปิดออก ใบหน้าของเธอก็ฉายรอยยิ้มบางๆขึ้นมา“คุณเหลย คุณชายสามเย่ หัวหน้ากงให้ฉันมาเสิร์ฟชาให้พวกคุณค่ะ”
ระหว่างที่พูด เธอก็ได้เหยียบย่างเข้ามาภายในห้องเสียแล้ว วางน้ำชาไว้ที่โต๊ะ แต่เธอกลับไม่ได้ออกไปไหน
“หัวหน้ากงบอกว่า ต่อจากนี้เวลาคุณถังสืบคดี ซึ่งจะต้องตรวจดูเอกสารลับของแปดตระกูลใหญ่ ฉะนั้นช่วงนี้ไม่ควรอยู่กับคนนอกค่ะ”กู้หนานหันไปมองเวินลั่วฉิง ใบหน้ายังคงประดับรอยยิ้มอยู่ เพียงแต่ความโหดร้ายในดวงตายากจะอำพรางได้
“ถึงแม้คุณเหลยเห้อจะเป็นสมาชิกขององค์กรสันติภาพโลก แต่หัวหน้ากงรู้สึกว่าอะไรที่เลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงไว้ก่อนค่ะ”กู้หนานหันไปมองเหลยเห้อ ตอนนี้เธอกำลังมองเหลยเห้ออยู่ แต่เห็นได้ชัดว่าคำพูดนี้ชี้ไปยังคุณชายสามเย่
เห็นได้ชัดว่าตระกูลกู้รู้ว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ ฉะนั้นรู้สาเหตุที่เหลยเห้อกับคุณชายสามเย่มาที่นี่แล้ว
ในเมื่อรู้ว่าพวกเขาเป็นพวกเดียวกัน ตระกูลกู้จึงต้องหาวิธีแยกพวกเขาจากกัน
เพราะสถานะของเหลยเห้อกับคุณชายสามเย่ไม่ธรรมดา หากพวกเขาต่างให้ความช่วยเหลือผู้หญิงคนนี้ หากคดีนี้คลี่คลายได้จริงๆ……
ถึงเวลานั้นถังหยุนเฉิงก็จะได้เลื่อนตำแหน่ง มันไม่มีผลดีกับตระกูลกู้ของพวกเขาเลย
“ว่ากันว่าคนขี้เหร่มักทำอะไรที่ผิดแปลก คำพูดนี้ไม่ผิดเลยจริงๆ”คุณชายสามเย่ชำเลืองมองกู้หนานแวบหนึ่ง น้ำเสียงเจือความเย้ยหยันอย่างชัดเจน
ซึ่งคำพูดของคุณชายสามเย่ไม่ไว้หน้ากันเสียเลย
ไม่มีผู้หญิงคนไหนยินดีรับฟังคนอื่นว่าตนขี้เหร่หรอก ยิ่งไปกว่านั้นกู้หนานมั่นใจว่าตัวเองสวยมาโดยตลอด เธอเป็นคนที่สวยที่สุดในบ้านตระกูลกู้เชียวนะ ซึ่งทำให้เธอภาคภูมิใจมาตลอด
ได้ฟังคำพูดของคุณชายสามเย่ สีหน้ากู้หนานก็เปลี่ยน เพลิงโกรธในนัยน์ตาของเธอลุกโชนอย่างต่อเนื่อง แต่สุดท้ายก็ระงับเก็บเข้าไป
เธอรู้ว่าขัดใจคุณชายสามเย่จะได้รับจุดจบอย่างไร
คุณชายสามเย่สามารถทำให้เธอตายได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม
“หัวหน้ากงบอกว่าคุณถังไปห้องเอกสารได้ค่ะ แต่ต้องมีคนที่เกี่ยวข้องอยู่ด้วย สุดท้ายหัวหน้ากงตัดสินใจให้ฉันอยู่เป็นเพื่อนคุณถังหากคุณถังอยากจะไปดูข้อมูลก็เชิญได้เลยค่ะ วันนี้ฉันอยู่ที่นี่พอดีเลย ไม่แน่ว่าพรุ่งนี้ฉันอาจมีภารกิจต้องทำแล้วทำให้ต้องออกไปข้างนอก ถึงเวลานั้นคุณถังอยากดูข้อมูลก็ต้องมีปัญหาแล้วค่ะ”กู้หนานอดกลั้นความโกรธจากคุณชายสามเย่ไว้ สายตาที่มองเวินลั่วฉิงฉายแววโหดร้ายเจือความพอใจหลายส่วน
เวินลั่วฉิงรู้เจตนาที่แท้จริงของพวกเขา ถึงแม้ตอนนี้หัวหน้ากงต้องแกล้งยอมให้เธอเข้าห้องเอกสาร แต่หัวหน้ากงอยากหาเหตุผลที่ดูดีเพื่อให้กู้หนานจับตามองเธอนั้นก็ไม่ยากเลย
เวินลั่วฉิงรู้ดีว่าไมเพียงแต่จับตามองเท่านั้น ยังคิดจะก่อความวุ่นวายและขัดขวางการทำงานของเธออีกด้วย
คำพูดเมื่อสักครู่ของกู้หนานแจ่มชัดมากแล้ว วันนี้มีเวลา พรุ่งนี้ก็ไม่แน่แล้ว
ความหมายที่แฝงอยู่ในคำพูดของกู้หนานก็คือ หากเสียโอกาสครั้งนี้ไป เวินลั่วฉิงคิดอยากจะให้กู้หนานเข้าห้องเอกสารเป็นเพื่อนก็ยากเสียแล้ว
“ได้ค่ะ ถ้างั้นก็รบกวนคุณกู้แล้ว”เวินลั่วฉิงไม่อยากถือสาตระกูลกู้ในเวลานี้ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือไขคดีความ และทุกสิ่งที่ตระกูลกู้ทำก็คือขัดขวางการสืบค้นคดี เพื่อไม่ให้เธอคลี่คลายได้นั่นเอง
เธอไม่ยอมให้ตระกูลกู้ฉกฉวยโอกาสไปได้เด็ดขาด
ดวงตาหรี่ของเย่ซือเฉินปะปนกลิ่นอายอันตรายหลายส่วน กว่าเขาจะได้พบหน้าผู้หญิงของตนนั้นไม่ง่ายเลย ยังจูบไม่พอก็ถูกรบกวนเข้าเสียแล้ว อีกทั้งยังมาในช่วงนาทีสำคัญอีกต่างหาก!!
ได้ แค้นใหญ่นี้ ต้องชำระแน่ๆ
แต่คุณชายสามเย่ก็รู้ว่าอยู่ในสถานการณ์พิเศษ ฉะนั้นจึงไม่ได้พูดอะไร และไม่ได้หยุดยั้งเวินลั่วฉิงด้วย
“ถ้างั้นก็ไปกันเถอะค่ะ คุณถังน่าจะรู้ว่าฉันเป็นคนภายในของแปดตระกูลใหญ่ ไม่อาจจะจัดเวลาเองได้ มีเรื่องฉุกเฉินได้ทุกเมื่อ”บัดนี้สีหน้าของกู้หนานยิ่งลำพองใจ หัวหน้ากงให้เธออยู่เป็นเพื่อนก็เพราะไม่ให้ผู้หญิงคนนี้ตรวจเจอข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อคดีความ
เวินลั่วฉิงไม่ได้พูดอะไร เธอมองแวบเดียวก็มองทะลุถึงวัตถุประสงค์ของกู้หนานได้แล้ว มุมปากของเธอยกยิ้มขึ้นด้วยความเย้ยหยัน
“คุณชายสามเย่ พวกเรากลับไปก่อนดีกว่า ตอนนี้จะให้เกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกไม่ได้นะครับ หากให้ตระกูลกู้รู้ว่าเธอคือเวินลั่วฉิง ตระกูลกู้ก็คงเอาเรื่องนี้มาต่อว่ากันยกใหญ่ พอถึงเวลานั้นเธอไม่เพียงแต่ไม่มีเวลาสืบคดี เกรงว่าอาจเกิดปัญหาหรือมีอันตรายได้นะครับ”บัดนี้สีหน้าของคุณเหลยเห้อมีความเคร่งขรึมเพิ่มขึ้น
“ลุงคิดว่าผมยอมให้ผู้หญิงของผมต้องมีอันตรายไหม?”มุมปากเย่ซือเฉินยกขึ้นเล็กน้อย แววตามีไอสังหารอย่างเห็นได้ชัด
“ลุงรู้ว่าความสามารถของคุณชายสามเย่ไม่มีทางให้เธอมีอันตรายได้ แต่ตอนนี้เธอรับคดีนี้มาทำ โชคชะตาของเธอเชื่องโยงกับตระกูลถังไว้ด้วยกัน ฉะนั้นก่อนที่คดีจะจบลง จะทำอะไรพลการไม่ได้ รอให้ไขคดีได้แล้ว อำนาจในการตัดสินใจก็อยู่ที่มือของเธอและตระกูลถังแล้ว ตอนนั้นถึงจะเป็นเวลาที่ดีเยี่ยมสำหรับพวกเรา”เหลยเห้อเป็นคนเฉลียวฉลาด สามารถมองทะลุปรุโปร่งได้เพียงแวบเดียว “ฉะนั้นให้ตระกูลกู้ลำพองใจไปก่อนจะเป็นไรไป?”
ตอนนี้ตระกูลกู้ยิ่งลำพองใจ อีกหน่ายก็ยิ่งทรมานมากเท่านั้น
“ให้ตระกูลกู้ลำพองใจสักช่วงหนึ่งก่อนได้ แต่ให้ผู้หญิงของผมลำบากไม่ได้”มุมปากของคุณชายสามเย่เจือความเย้ยหยันจางๆ
ผู้หญิงของเขา เขาทนดูเธอลำบากไม่ได้ ถ้ากู้หนานถือเป็นตัวอะไรกัน?
คุณชายสามเย่รีบเอามือถือออกมาโดยพลัน จากนั้นก็โทรออกไป“ครั้งก่อนนายเคยบอกว่ากู้หนานเคยมีการแลกเปลี่ยนกับนายมาก่อนใช่ไหม?งัดหลักฐานทั้งหมดออกมา”
ผู้หญิงของเขา ไม่ว่าจะเวลาไหนก็ไม่อาจให้ทนคนอื่นควบคุมได้
เพราะเขาไม่อนุญาต!