บทที่ 508 กลยุทธ์ชายงามของใครบางคน (2)
แต่สำหรับเธอแล้วไม่มีประโยชน์อะไรเลย ที่ผ่านมาเธอไม่เคยดูเรื่องพวกนี้เลย ฉะนั้นถึงแม้หัวหน้ากงเอารายงานผลวิเคราะห์ไปทั้งหมด แต่ก็ไม่อาจส่งผลกระทบต่อเธอได้
ในทางกลับกัน เอกสารยิ่งน้อย เธอก็ยิ่งตรวจสอบได้ง่าย
กู้หนานยืนดูอยู่ด้านข้าง ตอนแรกก็ไม่ได้ทำอะไร แต่เมื่อหล่อนเห็นเวินลั่วฉิงเอาเอกสารออกมาดูหลายกอง จากนั้นก็เริ่มอ่านอย่างตั้งใจ ดวงตาของหล่อนก็กะพริบวาววับ
ต่อมาหล่อนก็เอามือถือออกมาปรับเสียงให้สูงที่สุด ก่อนจะเริ่มเล่นเกมส์พร้อมกับตะโกนร้องเพลงไปด้วย
เพลงที่หล่อนร้องหลุดคีย์เพี้ยนไปถึงมหาสมุทรแปซิฟิก ไม่น่าฟังมากๆ ไม่รู้ว่าปกติหล่อนก็ร้องเพลงอย่างนี้อยู่แล้วหรือจงใจทำกันแน่
เวินลั่วฉิงแอบหัวเราะเยาะอยู่ในใจ หากทำแค่นี้ก็รบกวนสมาธิเธอได้ เธอก็คงไม่อาจเป็นถึงระดับผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาอาชญากรรมหรอก
เวินลั่วฉิงไม่ได้รับผลกระทบใดๆ คล้ายกับไม่ได้ยินเสียงรบกวนจากกู้หนานเสียอย่างนั้น
กู้หนานเห็นเธอไม่ได้รับผลกระทบอะไร ดวงตาก็ลุ่มลึก ก่อนหล่อนมา พ่อของหล่อนกำชับนักหนาว่าห้ามให้ผู้หญิงคนนี้ตรวจพบข้อมูลที่เป็นประโยชน์เด็ดขาด
แต่ตอนนี้หล่อนทำถึงขนาดนี้แล้ว ผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ได้รับผลกระทบใดๆเลย หล่อนคงไปตีให้ผู้หญิงคนนี้สลบไม่ได้มั้ง?
กู้หนานมองดูนาฬิกา ตอนนี้เธอทำได้แต่เพียงย่นเวลาให้สั้นลงเท่านั้น เพราะกว่าจะดูข้อมูลมากมายจบก็คงต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง
เมื่อสักครู่หล่อนบอกไปแล้วว่าอีกหนึ่งชั่วโมงครึ่งหล่อนจะไปประชุม ฉะนั้นหล่อนให้เวลาผู้หญิงคนนี้แค่ห้าสิบนาที ซึ่งเวลาห้าสิบนาทีดูข้อมูลเศษหนึ่งส่วนสิบยังไม่ทันเลย จึงไม่มีประโยชน์อะไรมากนัก
เหลือเวลาที่หัวหน้ากงให้ถังหยุนเฉิงคลี่คลายคดีอีกสามวัน หล่อนถ่วงเวลาไว้เช่นนี้ สามวันก็จะผ่านพ้นไปแบบไร้ประโยชน์อย่างนี้
พอถึงเวลานั้นก็ไม่มีใครช่วยถังหยุนเฉิงและบ้านตระกูลถังได้อีกต่อไป
กู้หนานมองดูนาฬิกาอยู่ตลอดเวลา เกรงว่าหากไม่ดูเวลาดีๆก็จะเป็นการเพิ่มเวลาให้แก่เวินลั่วฉิงได้ หล่อนคิดว่าเวลาห้าสิบนาทีจะผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว เวลาสั้นๆเช่นนี้ดูอะไรไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
กู้หนานยิ่งได้ใจก็ยิ่งตื่นเต้นดีใจมากเท่านั้น
“ฉันดูเสร็จแล้ว”เพียงแต่ยังไม่ถึงสี่สิบนาที เวินลั่วฉิงอ่านข้อมูลทั้งหมดเสร็จก็เก็บไปไว้ที่เดิม จากนั้นก็หันหน้ามาทางกู้หนานด้วยรอยยิ้ม
“อะ?อะไร?คุณว่าอะไรนะ?”กู้หนานหยุดชะงัก ดวงตาคู่กลมโตเบิกกว้าง จ้องมองเวินลั่วฉิงอย่างเหลือเชื่อ หล่อนไม่ใช่ไม่ได้ยินคำพูดของเวินลั่วฉิง เพียงแต่ไม่เข้าใจ ไม่ น่าจะเป็นเพราะไม่อยากจะเชื่อเสียมากกว่า
ดูเสร็จแล้ว?ข้อมูลมากมายเช่นนี้ ผู้หญิงคนนี้ใช้เวลาไม่ถึงสี่สิบนาทีก็ดูจบ?
เป็นไปได้ยังไง?
เป็นไปได้ยังไง?มันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด
“ฉันดูจบแล้ว พวกเราไปกันเถอะ”มุมปากเวินลั่วฉิงยกขึ้น ท่าทางเมื่อสักครู่ของกู้หนานช่างโง่เง่าเต่าตุ่นสิ้นดี
เวินลั่วฉิงไม่ได้แยแสกู้หนาน แต่เตรียมเดินออกไปด้านหน้าทันที
“คุณ?คุณ?คุณดูเสร็จแล้วจริงๆเหรอ?”กู้หนานไม่เชื่อ เชื่อไม่ได้ และไม่ยินดีจะเชื่อด้วย
ครั้งนี้เวินลั่วฉิงไม่ได้สนใจหล่อน เปิดประตูห้องเอกสารแล้วเดินจากไป
กู้หนานจ้องเขม็งแผ่นหลังของเวินลั่วฉิง ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึงและหวาดผวาอย่างไม่อาจปิดบังได้
ในเมื่อเวินลั่วฉิงออกไปแล้ว หล่อนก็ต้องออกไปด้วยเช่นกัน
ตอนที่กู้หนานออกมา เวินลั่วฉิงได้เดินทิ้งห่างไปช่วงหนึ่งแล้ว
“คุณกู้ คุณช่างร้ายกาจจริงๆ สามารถไล่เธอออกมาได้เร็วมากเลยครับ”บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านข้างกู้หนานยกหัวแม่มือให้กู้หนานด้วยความเลื่อมใส
กู้หนานจ้องเขม็งบอดี้การ์ดแวบหนึ่ง รู้สึกทั้งตื่นตระหนกตกใจและโมโหในเวลาเดียวกัน ยิ่งอดรู้สึกกังวลใจไม่ได้ หล่อนไม่อาจทำภารกิจที่คุณพ่อมอบหมายให้สำเร็จได้ คุณพ่อคงต้องตำหนิหล่อนเป็นแน่
บัดนี้เวินลั่วฉิงไม่ได้สนใจกู้หนาน เพราะถังหยุนเฉิงเป็นคนส่งรถมารับเธอ ดังนั้นเวินลั่วฉิงจึงให้คนขับรถขับรถออกไป
“เร็วอย่างนี้เลยเหรอ ดูหมดหรือยัง?”ถังหยุนเฉิงเห็นเธอกลับมาก็อึ้งอย่างเห็นได้ชัด แต่นึกถึงครั้งก่อนเธอดูเอกสารเพียงไม่กี่ชั่วโมงหมด จึงรู้สึกว่าตอนนี้ก็เป็นเรื่องปกติ
“อืม หัวหน้ากงเอาเอกสารรายงานการเกิดเหตุครั้งที่สามไปซ่อน และฉันอ่านเจอว่าหลังเกิดเหตุร้ายครั้งที่หนึ่งกับครั้งที่สอง แปดตระกูลใหญ่ได้ส่งเหล่าทหารราบไปไล่ตาม แต่หลงกลเจอกับดัก ทำให้บาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก เหล่าทหารราบนอกจากถูกยิงตายแล้ว นอกนั้นก็ตายเหมือนที่เกิดเหตุทุกอย่าง”บัดนี้เห็นได้ชัดว่าสีหน้าเวินลั่วฉิงมีความเคร่งขรึมหลายส่วน
“เหล่าทหารราบที่ไล่ตามผู้ร้ายตายแบบเดียวกับผู้ตายในที่เกิดเหตุ และครั้งที่สองก็เช่นกัน ซึ่งหลังจากเกิดเหตุร้ายครั้งที่สาม กลุ่มที่ส่งไปไล่ล่าไม่ใช่เหล่าทหารราบ ทุกคนล้วนตายด้วยการถูกยิงทั้งหมด วิธีฆ่าจึงไม่เหมือนกับที่เกิดเหตุ”
“แล้วหมายความว่าอย่างไร?”ถังหยุนเฉิงรู้เรื่องนี้ดี ตอนนั้นเพราะส่งเหล่าทหารราบไปไล่ล่าสองครั้งติดต่อกันจนบาดเจ็บล้มตายกันอย่างระเนระนาด ดังนั้นครั้งที่สามจึงส่งสมาชิกแปดตระกูลใหญ่ออกไปแทน ซึ่งตอนนั้นมีจุดจบน่าอนาถยิ่งกว่าเก่าหลายเท่า
จากรายงานทางนั้น ทราบว่าตอนนั้นตายไปทั้งหมดหกสิบกว่าคนด้วยกัน
ตอนนั้นหัวหน้ากงเป็นผู้สั่งการเอง ซึ่งถังหยุนเฉิงก็เคยดูรายงาน ทุกคนดูแล้วก็รู้สึกว่าไม่มีประโยชน์ต่อรูปคดีแต่อย่างใด
ดังนั้นหากจับได้ว่าหัวหน้ากงเอาเอกสารไปก็ไม่รุนแรงเท่าไหร่นัก
แต่ว่าเห็นได้ชัดว่าตอนนี้นังหนูคนนี้จับจุดนี้เป็นประเด็นสำคัญ ซึ่งถังหยุนเฉิงไม่เข้าใจเอาเสียเลย!!
“ฉันรู้สึกว่าเป้าหมายสุดท้ายของพวกเขาคือเหล่าทหารราบของแปดตระกูลใหญ่”มุมปากเวินลั่วฉิงขยับเล็กน้อย เธอค่อยๆพูดบทสรุปของเธอออกมา
เอกสารที่หัวหน้ากงแอบเก็บไว้ก็คือความผิดที่สั่งการไม่เหมาะสมจนทำให้ต้องสูญเสียสมาชิกไปเป็นจำนวนมาก คาดว่าตอนนั้นคงไม่ใช่ตายแค่หกสิบกว่าคนอย่างแน่นอน
สำหรับคนอื่นแล้ว ข้อมูลพวกนั้นไม่ได้สำคัญอะไร แต่สำหรับเวินลั่วฉิงกลับสำคัญมากทีเดียว
“เป้าหมายของพวกเขาคือเหล่าทหารราบ?ทำไม?”ถังหยุนเฉิงตกตะลึง สีหน้าเผยความประหลาดใจหลายส่วน“แต่ว่า เหตุการณ์ทั้งสามเหตุการณ์ผู้ที่ถูกทำร้ายต่างเป็นสมาชิกธรรมดาของแปดตระกูลใหญ่”
“อันนี้คือการคาดเดาขั้นแรกของฉันค่ะ คงต้องวิเคราะห์รายละเอียดของภาพรวมทั้งหมดอีกที”บัดนี้เวินลั่วฉิงก็ไม่มีคำตอบ เธอจำเป็นต้องตรวจสอบและวิเคราะห์ไปอีกขั้น
“ฉันเข้าไปตรวจสอบข้อมูลหน่อยค่ะ”ช่วงก่อนเป็นเพราะเวินลั่วฉิงมัวแต่ยุ่งอยู่กับการวางแผน จึงไม่ได้เข้าห้องเอกสาร ตอนนี้เธอดูข้อมูลฝ่ายโน้นแล้ว จึงต้องเข้าไปดูข้อมูลของที่นี่ด้วย เพื่อจะได้ทำการสรุปการวิเคราะห์ต่างๆ
“ได้ ได้ ได้”ถังหยุนเฉิงตอบรับ เขาไม่ได้จำกัดการเข้าดูห้องเอกสารของเขากับเธอเลย
ครั้งนี้ หลังจากเวินลั่วฉิงเข้าห้องเอกสารของถังหยุนเฉิงก็ไม่ได้ออกมาเป็นเวลาเนิ่นนาน ถังหยุนเฉิงไม่อยากรบกวนเธอ แต่ฟ้ามืดจน
เลยเวลากินข้าวเย็นแล้ว แต่เธอก็ยังไม่ได้กินข้าวเลย
ถังหยุนเฉิงรู้สึกไม่อาจทนดูได้ ถึงแม้เขาก็รอคอยอยู่ด้านนอกมาตลอดเช่นกัน และไม่ได้กินข้าวเย็นเหมือนกัน
แต่เขาเป็นผู้ชาย เค้าเป็นผู้หญิงตัวน้อยๆจะเทียบกับเขาได้อย่างไร