บทที่ 537 สถานะของเธอถูกเปิดเผย ในที่สุดคุณชายสามเย่ก็เห็นใบหน้าที่แท้จริงของเธอแล้ว (15)
“นายโอหังกันใหญ่แล้วนะ กล้าว่าพี่ขนาดนี้เชียว”คุณชายห้าฉิงจ้องเขม็งเขาแวบหนึ่ง พลางเม้มปากไปด้วย “นายฉลาดอยู่คนเดียว ไหนลองบอกมาสิว่าเรื่องมันเป็นยังไง？”
อันที่จริงในใจของคุณชายห้าฉิงคาดเดาได้ว่าเรื่องเป็นอย่างไรแล้ว เพียงแต่เขาไม่อยากยอมรับความจริงก็เท่านั้นเอง
เพราะเดิมทีวันนี้เขาก็มีความคิดอยากสู่ขอถังฉิ้นเอ๋อด้วย
“รอพี่สามถึงก่อนแล้วค่อยว่ากัน”เสี่ยวชีมองหน้าคุณชายห้าฉิงแวบหนึ่ง แต่ไม่ได้พูดอะไร
เสี่ยวชีรู้ว่าด้วยนิสัยของพี่สาม หากไม่สนใจจริงๆก็จะไม่ถามว่าพี่ห้าอยู่ไหน ดังนั้นเสี่ยวชีรู้สึกว่าพี่สามกดวางสาย ไม่ใช่ไม่สนใจ แต่เป็นเพราะพี่สามรีบร้อนจะมา ไม่มีเวลาพูดไร้สาระกับพี่ห้า
ทำให้พี่สามมีอากัปกิริยาเช่นนี้ได้ จึงมีความเป็นไปได้ทางเดียว นั่นก็คือถังฉิ้นเอ๋อก็คือเวินลั่วฉิง ถังฉิ้นเอ๋อก็คือพี่สะใภ้สาม
เสี่ยวชีมองพวกผู้ชายสิงสากระทิงแรดทั้งหลาย มุมปากอดยกขึ้นมายิ้มไม่ได้ ต่อจากนี้จะมีช็อตเด็ดให้ดูแล้ว
เขาคิดว่าพี่สามใช้เวลาไม่นานก็จะต้องมาถึงอย่างแน่นอน
และในเวลานี้ ตรงประตูหน้าห้องก็เกิดเสียงเอะอะโวยวายขึ้นมา
เสี่ยวชีคล้ายกับได้ยินคนพูดถึงคุณชายสามเย่
แววตาเสี่ยวชีตกตะลึง พี่สามมาถึงเร็วเพียงนี้เลยเหรอ ยอดแห่งความเร็วจริงๆ！！
เป็นดังคาด ขอเพียงเกี่ยวข้องกับพี่สะใภ้สาม พี่สามจะกระตือรือร้นเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
“เกิดอะไรขึ้น？ทำไมพี่ถึงได้ยินคนพูดถึงพี่สามอยู่？พี่สามมาถึงเร็วขนาดนี้เลยเหรอ？วางสายยังไม่ถึงสิบนาที？”เห็นได้ชัดว่าคุณชายห้าฉิงก็ได้ยิน ใบหน้ามีความประหลาดใจเช่นกัน
“เซี่ยเถียนเถียน คุณมาหาเรื่องใช่ไหม พี่สาวฉันคบกับคุณชายสามเย่แล้วเกี่ยวอะไรกับคุณด้วย？”ระดับเสียงหน้าประตูดังขึ้นมาหลายส่วน ฝั่งเสี่ยวชีก็ได้ยินอย่างชัดแจ๋ว ที่แท้ไม่ใช่คุณชายสามเย่มาถึงแล้ว แต่กำลังมีคนแย่งชิงคุณชายสามเย่กันอยู่ต่างหาก
เสียงของกู่หลิงหลิงดังกังวาน แม้กระทั่งท่านย่าถังก็ได้ยิน แน่นอนเวินลั่วฉิงที่อยู่ข้างกายท่านย่าถังก็ได้ยินเช่นกัน
“อย่างหล่อนนี่นะ？คบกันคุณชายสามเย่？คุณชายสามเย่จะชอบหล่อนได้ยังไง？”เซี่ยเถียนเถียนไม่ใช่คนดีอะไร จ้องมองกู่หยิงหยิงแวบหนึ่งด้วยแววตาของความเย้ยหยันอย่างเห็นได้ชัด
“แต่ว่าคุณชายสามเย่ชอบพี่สามฉัน ทำไม？”กู่หลิงหลิงมีใบหน้าลำพองใจ ยิ่งพูดระดับเสียงก็ยิ่งดังขึ้นมาด้วยความโอ้อวด
“เกิดอะไรขึ้น？ทำไมทะเลาะกันได้”ดวงตาท่านย่าถังลุ่มลึก มีการทะเลาะเบาะแว้งกันในงานเลี้ยงตระกูลถังเชียวหรือ？อีกทั้งฟังดูคล้ายกับเกี่ยวข้องกับลูกชายบ้านตระกูลเย่ด้วย？
ท่านไม่ให้ลูกชายบ้านตระกูลเย่เข้ามาแล้ว ทำไมยังเกิดเรื่องอย่างนี้เพราะลูกชายบ้านนั้นได้อีก？
“แม่ค่ะ หนูไปห้ามดูค่ะ”เฟิ่งเหมียวเหมียวแอบส่วยหัว คนพวกนี้ไม่ดูสถานที่บ้างเลย ทำไมถึงได้ทะเลาะกันอย่างนี้ด้วยนะ
“อย่าเพิ่งไปห้าม ฉันเหมือนได้ยินสาเหตุที่ทะเลาะกันนั้นเกี่ยวข้องกับลูกชายตระกูลเย่ ฟังดูสิว่าพวกหล่อนจะพูดอย่างไรบ้าง？”ดวงตาท่านย่าถังกะพริบ จู่ๆก็ห้ามเฟิ่งเหมียวเหมียวไว้
เพราะยังไงเสียก็ได้ทะเลาะกันแล้ว แน่นอนว่าพวกหล่อนก็ไม่อาจก่อเรื่องใหญ่โตอะไรได้ จึงลองฟังว่าเกิดอะไรขึ้นจะดีกว่า？
เวินลั่วฉิงมองหน้าท่านย่าถังแวบหนึ่ง พลางเม้มปากเล็กน้อย เธอเข้าใจเจตนารมณ์ของท่านย่าถังดี ที่ทำเช่นนี้ก็เพื่อเธอทั้งนั้น
เฟิ่งเหมียวเหมียวหยุดเดิน ไม่ได้เข้าไปหา แต่ท่านย่าถังดึงเวินลั่วฉิงไปยังด้านหน้าเล็กน้อย
บัดนี้ทั้งสองคนทะเลาะกันจนเสียงดังขึ้นกว่าเดิม ผู้คนที่รุมกันมาดูความครึกครื้นก็ยิ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าเก่า
“คนอย่างกู่หยิงหยิงนี่นะ ไม่มีดีทั้งหน้าตาและความสง่างาม คุณชายสามเย่จะชอบเธอได้ยังไง？คิดจะหลอกใครกัน？”เซี่ยเถียนเถียนเห็นท่าทางของกู่หยิงหยิงก็อดอิจฉาในใจไม่ได้ ทำไมถึงเป็นกู่หยิงหยิงไปได้ หล่อนดีกว่ากู่หยิงหยิงตั้งสิบเท่า ทำไมถึงไม่ใช่หล่อน เธออุตส่าห์รักคุณชายสามเย่มาตั้งแต่เด็ก
“คุณหมายความว่ายังไง？พี่สาวฉันไม่ดีตรงไหน พี่สาวฉันสวยกว่าคุณเยอะ เซี่ยเถียนเถียนหน้าตาคุณเหมือนหมูซะอย่างนั้น ยังมีหน้ามาว่าคนอื่นอีก”ปากของกู่หลิงหลิงก็ดุร้ายไม่เบา
“กู่หลิงหลิง คุณกล้าด่าฉันเหรอ ดูสิว่าฉันจะฉีกคุณเป็นชิ้นๆหรือเปล่า”ใบหน้าเซี่ยเถียนเถียนเปลี่ยนไปในชั่วขณะจนดูไม่ได้เป็นอย่างมาก
“คุณกล้าเหรอ？คุณลองดีสิ？ใครจะเป็นฝ่ายถูกฉีกกันแน่”กู่หลิงหลิงก็ไม่อ่อนข้อ ตะคอกใส่พร้อมกับเดินไปด้านหน้าด้วยท่าทางพร้อมรับมือ
เห็นท่าจะตีกันเสียแล้ว
“เสี่ยวหลิง ช่างเถอะ อย่าพูดอีกเลย”กู่หยิงหยิงถึงเปล่งเสียงออกมาห้ามปราม ซึ่งน้ำเสียงไม่เร่งไม่ช้า ไม่ดังไม่เบา ทุกถ้วนคำเปล่งออกมาได้อย่างเหมาะสมพอดิบพอดี
อีกทั้งหล่อนเลือกเวลาได้พอเหมาะเหลือเกิน……
“พี่ หล่อนพูดจาดูถูกมากเกินไปแล้ว หล่อนเป็นคนมาหาเรื่องเอง หล่อนพูดจาไม่น่าฟังขนาดนี้เลยนะ”กู่หลิงหลิงรู้สึกไม่พอใจ มุ่ยปากขึ้นสูง
“ใครเป็นคนพูดจาไม่น่าฟังกันแน่？ฉันไม่ได้พูดซี้ซั้วเสียหน่อย แค่พูดไปตามความจริง คนอย่างหล่อนจะคู่ควรกับคุณชายสามเย่ได้ยังไง？คุณชายสามเย่ไม่ชอบหล่อนหรอก”เซี่ยเถียนเถียนเน้นย้ำจุดนี้เสมอมา เธอไม่เชื่อว่าจะเป็นจริงดังที่กล่าวมา
“เชอะ ตาแดงก่ำขนาดนี้แล้ว ไม่ใช่เพราะอิจฉาหรอกเหรอ ฉันรู้ว่าคุณก็ชอบคุณชายสามเย่ด้วย อยากแต่งงานกับคุณชายสามเย่ แต่เสียดายคุณชายสามเย่ไม่ได้ชอบคุณ คุณชายสามเย่เขาชอบพี่สาวฉันต่างหาก”กู่หลิงหลิงโต้กลับไปทันควัน
“เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด”เซี่ยเถียนเถียนแอบถอนหายใจหนึ่งเฮือก กัดฟันกรอด คุณชายสามเย่ไม่มีทางชอบกู่หยิงหยิงเด็ดขาด
“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้？คุณย่าเย่เป็นคนไปสู่ขอที่บ้านฉันเอง คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่พอใจในตัวพี่สาวฉันมาก พวกเขาเชิญพี่สาวฉันไปที่บ้านมาแล้วสองครั้ง คุณปู่เย่บอกว่าอยากให้พี่สาวฉันกับคุณชายสามเย่แต่งงานกันเร็วๆ”กู่หลิงหลิงพูดถึงจุดนี้ สีหน้ายิ่งมีความลำพองใจและโอ้อวดขึ้นมาหลายส่วน
เวินลั่วฉิงเคยได้ยินจากท่านย่าถังว่าคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่กำลังเสาะหาคนที่เหมาะสมให้กับเย่ซือเฉิน ให้เย่ซือเฉินแต่งงาน ดังนั้นสิ่งที่กู่หลิงหลิงพูดออกมาจึงไม่ได้แปลกใจอะไร
“คิก ตาเฒ่าเย่คัดสรรแล้วคัดสรรเล่า จนสุดท้ายเป็นกู่หยิงหยิง ช่างมีแววตาที่ดีมากเลย”จู่ๆท่านย่าถังก็หัวเราะขึ้นมา เพียงแต่เสียงหัวเราะนี้เจือความเย้ยหยัน ดูแวบแรกก็รู้ว่าคัดค้านไม่เห็นด้วย
“กู่หยิงหยิงเด็กคนนี้ ดูผิวเผินอาจจะเหมือนอ่อนโยนและเป็นเด็กดี แต่ความคิดหล่อนนั้นลุ่มลึกไม่ธรรมดา แม้กระทั่งฉันก็ยังรู้สึกกลัวเลย”เฟิ่งเหมียวเหมียวได้ยินคำพูดของท่านย่าถัง จึงเสริมขึ้นมาหนึ่งประโยคด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
ฝั่งทั้งสองคนทะเลาะกันหนักขึ้นเรื่อยๆ
“คุณปู่เย่ชื่นชอบแล้วจะมีประโยชน์อะไร ประเด็นสำคัญคือคุณชายสามเย่ต้องชอบด้วย หากคุณชายสามเย่ไม่ชอบ คุณปู่เย่พูดอะไรก็ไม่แต่งเด็ดขาด”เห็นได้ชัดว่าเซี่ยเถียนเถียนรู้จักนิสัยของคุณชายสามเย่อยู่บ้าง
“ฉันว่าคุณชายสามเย่ไม่อยากแม้แต่เหลียวมองพี่สาวคุณเลย พี่สาวคุณไปบ้านตระกูลเย่ เกรงว่าไม่ได้เจอหน้าคุณชายสามเย่ใช่ไหม？คุณชายสามเย่ไม่ชอบก็มักจะสนใจพวกคุณอยู่แล้ว”บัดนี้เซี่ยเถียนเถียนเผยสีหน้าเยาะเย้ย แต่ในใจกลับอิจฉาเป็นบ้าเลย
ไม่ว่าจะยังไง ได้รับความโปรดปรานจากผู้ใหญ่ทั้งสองท่านก็ยังดี เธอตัดสินใจว่าพรุ่งนี้จะไปประจบประแจงให้ผู้ใหญ่ตระกูลเย่ชื่นชอบให้ได้
“ใครบอกว่าคุณชายสามเย่ไม่ชอบกันล่ะ ใครว่าคุณชายสามเย่ไม่สนใจ เมื่อวานพี่สาวฉันไปบ้านตระกูลเย่ คุณชายสามเย่ก็อยู่ด้วยตลอด อยู่ทั้งวันเลย สุดท้ายคุณชายสามเย่ยังไปส่งพี่สาวฉันด้วยตัวเองอีก ยังส่งดอกไม้ให้พี่สาวฉันเยอะแยะเลย”ตอนที่กู่หลิงหลิงพูดคำนี้ออกมารู้สึกได้ใจจนตัวจะลอยไปแล้วเชียว
“คาดไม่ถึงว่าลูกชายบ้านตระกูลเย่จะเป็นคนตาบอด”สีหน้าท่านย่าถังเคร่งขรึม คุณปู่เย่ทำเรื่องเหลวไหล เธอก็โกรธไปตามเนื้อเรื่อง แต่ท่านก็รู้ว่าคุณปู่เย่เป็นคนอย่างนี้อยู่แล้ว
