บทที่ 583 ในที่สุดลูกรักทั้งสองก็กลับมาแล้ว (1)
เวินลั่วฉิงหลบคนพวกนั้น เข้าไปทางประตูหลัง เดิมทีร่างกายของคุณปู่เวินไม่ดี วันนี้ก่อความวุ่นวายกันอย่างรุนแรง จึงหลับไปแล้ว
เวินลั่วฉิงรู้สึกเสียใจมากยิ่งขึ้น ดวงตาก็เย็นชามากยิ่งขึ้น กระทั่งเมื่อถึงเวลาห้าทุ่มกว่า เวินลั่วฉิงมองผ่านจากหน้าต่างเห็นด้านล่างยังมีคนล้อมอยู่
ดวงตาของเวินลั่วฉิงหรี่ลงเล็กน้อย คนพวกนั้นไม่ใช่นักข่าวทั้งหมด หรือว่ามีคนจงใจส่งคนพวกนี้มา?
เป็นคนที่คุณปู่เย่ส่งมา?
เพราะเวินลั่วฉิงคิดถึงแผนการของเธอ ไม่อยากให้เกิดปัญหาเพิ่มขึ้นในตอนนี้ จึงไม่ได้ลงไปสอบถามดู
และเธอก็รู้ว่า ถ้ามีคนส่งมาจริงๆ เธอลงไปตอนนี้ คนเหล่านั้นจะตะครุบเธออย่างบ้าคลั่ง
วันที่สอง เวินลั่วฉิงตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้าตรู่ คุณปู่เวินยังไม่ตื่น เวินลั่วฉิงแอบออกมาจากทางประตูหลัง
หลังจากออกมาจากบ้านตระกูลเวิน เวินลั่วฉิงเตรียมจะตรงไปที่โรงพยาบาล
ระหว่างทาง เวินลั่วฉิงรับสายโทรศัพท์จากเยว่หงหลิง
“ฉิงฉิง ฉันพาเด็กทั้งสองคนขึ้นเครื่องแล้ว จากนี่ถึงเมือง Aไม่ไกล ประมาณสี่ชั่วโมงก็ถึงแล้ว ถึงตอนนั้นคุณจะมารับพวกเราไหม?” เยว่หงหลิงและเด็กทั้งสองคนขึ้นเครื่องบินแล้ว
เยว่หงหลิงโทรหาเวินลั่วฉิงก่อนที่เครื่องบินจะขึ้นบิน นัดเวลา เพื่อความสะดวกในการติดต่อ
“ถังหลินจะไปรับพวกคุณที่สนามบิน” เวินลั่วฉิงแอบถอนหายใจเงียบๆ ความจริงแล้ว เธออยากไปรับพวกเขา แต่ตอนนี้เรื่องของวิดีโอยังแก้ไขไม่ได้ เธอจึงไม่สะดวกไป
ไม่ว่าจะในฐานะของถังฉิ้นเอ๋อ หรือในฐานะของเวินลั่วฉิงก็ไม่สะดวกทั้งนั้น
เพราะว่าไม่ว่าตอนนี้เธอในสถานะไหน แค่ออกจากประตู ก็จะมีคนจ้องมากมาย แค่ไม่ระวังนิดหน่อยก็สามารถถูกพบได้
ภายใต้สถานการณ์อย่างนี้ เธอไม่สามารถให้เด็กทั้งสองคนถูกคนเจอได้เร็วขนาดนี้
ตัวตนของเด็กทั้งสองคนจะเปิดเผยต่อสาธารณะได้ต้องรอหลังจากเรื่องทั้งหมดของเธอกับเย่ซือเฉินจะยุติลง
“แต่ฉันไม่รู้จักถังหลิน ถังหลินก็น่าจะไม่รู้จักพวกเราเหมือนกัน? ถึงตอนนั้นกลัวจะหากันไม่ง่ายน่ะ? ตอนนี้ทางฝั่งคุณเกิดเรื่องอย่างนั้นขึ้น ตัวตนของเด็กทั้งสองคนละเอียดอ่อนเกินไป สนามบินใหญ่ขนาดนั้น จะเกิดเรื่องไหม?” เยว่หงหลิงฟังที่เวินลั่วฉิงพูด กังวลเล็กน้อย เยว่หงหลิงรู้เรื่องที่เกี่ยวกับวิดีโอแล้ว
“ฉิงฉิง ไม่งั้นให้ฉันพาเด็กทั้งสองคนเที่ยวที่นี่อีกหน่อย รอให้เรื่องราวสงบลงก่อนฉันค่อยพาเด็กทั้งสองคนกลับไป” เยว่หงหลิงรักเด็กทั้งสองคนอย่างจริงใจ ไม่อยากให้เด็กทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บใดๆ
ดวงตาของเวินลั่วฉิงเปล่งประกายขึ้นมาทันที ความจริงแล้วเธอก็กังวลนิดหน่อย แต่เธอกลัวว่าถ้าโอ้เอ้ต่อไป จะเกิดอุบัติเหตุขึ้น พูดตามจริง เธอกลัวว่าเพื่อนนักเรียนทางฝั่งนั้นจะทำเรื่องอะไรขึ้น
“สบายใจได้ ถังหลินจะจัดการได้ดี” เวินลั่วฉิงยังคงตัดสินใจให้เด็กทั้งสองรีบกลับมา
เมื่อวานนี้ เธอคุยเรื่องนี้กับถังหลินแล้ว ถังหลินบอกแล้วว่าจะไปรับเด็กทั้งสองคน ถังหลินจะใช้ช่องทางเดินพิเศษ ไม่ต้องกังวลว่าจะมีคนเจอ
เธอค่อนข้างมั่นใจถังหลินจัดการธุระ
เธอปรึกษากับถังหลินไว้แล้ว หลังจากที่ถังหลินรับเด็กทั้งสองคน จะพาเด็กทั้งสองตรงไปที่บ้านตระกูลถัง
เธอรู้ ไม่ว่าตัวตนของเด็กทั้งสองคนคืออะไร คนของตระกูลถังทั้งหมดจะรับเด็กทั้งสองคนอย่างจริงใจ และจะรักเด็กทั้งสองคนอย่างไม่แสลงใจ
“ก็ได้” เวินลั่วฉิงพูดอย่างนี้แล้ว เยว่หงหลิงก็ไม่ต้องกังวลมากแล้ว เธอรู้ว่าเวินลั่วฉิงทำอะไรเชื่อถือได้มาโดยตลอด
“คุณพูดกับจื่อซีหน่อยเถอะ เด็กคนนี้เธอจ้องโทรศัพท์ฉันตั้งแต่ฉันเริ่มโทรหาคุณแล้ว อย่างกับจะกลืนกินฉันโทรศัพท์ลงไป” เยว่หงหลิงเห็นท่าทางแบบนั้นของจื่อซีก็อดหัวเราะไม่ได้
“ได้สิ ได้สิ ขอบคุณน้าหงหลิง” เมื่อจื่อซีได้ยิน ยิ้มมีความสุขทันที น้าหงหลิงพูดไม่ผิด เธออยากจะแย่งโทรศัพท์มาจริงๆ แต่แม่บอกว่า ต้องรู้จักมารยาท เวลาที่คนอื่นกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ห้ามพูดแทรก ห้ามรบกวน ดังนั้นเธอจึงรออย่างเชื่อฟังมาตลอด
เวินลั่วฉิงพูดได้ยินที่เยว่หงหลิงพูด ก็อดหัวเราะไม่ได้เช่นกัน
“หม่ามี๊ พวกเราอยู่บนเครื่องบินแล้ว พวกจะถึงในเร็วๆ นี้ หม่ามี๊คิดถึงพวกเรามากไหม” ถังจื่อซีส่งเสียงหวานมา หัวใจของเวินลั่ว ฉิงอ่อนลงทันที
“อืม คิดถึงมาก คิดถึงมากๆ” รอยยิ้มบนใบหน้าของเวินลั่วฉิงค่อยยิ้มออกมาไม่หยุด แค่ได้ยินเสียงของเด็กน้อย ความกังวลทั้งหมดก็หายไป
“หนูกับพี่ชายก็คิดหม่ามี๊มาก” ถังจื่อซียิ้มดีใจยิ่งขึ้น แต่เมื่อถังจื่อซีเงยหน้าขึ้นมา เพิ่งจะเห็นสายตาที่พี่ชายของตัวเองส่งมาจึงถามต่อว่า : “หม่ามี๊ พวกเรากลับไปครั้งนี้ ต้องกลับไปบ้านหลังไหน?”
พี่ชายบอกว่า ที่เมือง Aพวกเขามีบ้านหลายหลัง!
มีบ้านปู่ย่า บ้านตายาย ยังมีบ้านของพ่ออีก
“ไปบ้านตายายก่อน” เวินลั่วฉิงคิดไม่ถึงว่าถังจื่อซีจะถามคำถามแบบนี้ ตะลึงนิดหน่อย
“หม่ามี๊ งั้นพ่อจะอยู่ที่บ้านของตายายด้วยไหม? พวกเราเจอพ่อได้ไหม?” เด็กน้อยถังจื่อซีอยากรู้ว่าจะได้เจอพ่อไหม นี้ก็เป็นเรื่องที่พี่ชายอยากจะถาม
มุมปากของเวินลั่วฉิงยกขึ้น หัวเราะเบาๆ : “เด็กๆ อยากเจอพ่อ?”
เธอคิดไม่ถึงว่าเด็กทั้งสองคนจะคิดถึงพ่อขนาดนี้ แต่พ่อของพวกเขาเคยพูดว่าไม่ชอบเด็ก
อืม นี้เป็นปัญหาร้ายแรงอีกปัญหาหนึ่ง
“พี่ชายบอกว่า ไม่สามารถยอมรับพ่อได้อย่างง่ายดาย พี่ชายบอกว่าพวกเราโตจนห้าขวบแล้ว พ่อไม่เคยเลี้ยงพวกเราเลยสักวัน พวกเราไม่เคยกินข้าวบ้านพ่อสักเม็ด จะให้เขาได้รับเด็กน้อยน่ารักไม่มีที่ติอย่างพวกเราทั้งสองคนไปอย่างง่ายดายได้ยังไง บนโลกนี้ไม่มีเรื่องราวดีๆ ที่ง่ายดายขนาดนั้น” ถังจื่อซีเขย่าขา เลียนแบบคำพูดของพี่ชายได้อย่างเหมือนเป็นพิเศษ
เวินลั่วฉิง : “……”
เมื่อกี้ความรู้สึกของเธอผิดไปหรือ? เด็กสองคนนี้ไม่อยากเจอเย่ซือเฉินเร็วๆ?
สมควรแล้วที่สองคนนี้เป็นพ่อลูกกัน!!
เยว่หงหลิงได้ยินที่ถังจื่อซีพูด มุมปากกระตุกอย่างอดไม่ได้ เด็กสองคนนี้เข้มแข็งสุดๆ
เธอแอบสงสารคุณชายสามเย่ในใจหนึ่งวินาที
“งั้นพวกลูกหมายความว่าอะไร? ไม่ยอมรับพ่อ?” เวินลั่วฉิงยิ้มมุมปาก เธอรู้ว่าเด็กสองคนนี้มักจะมีความคิดที่ยิ่งใหญ่ เธออยากจะฟังว่าเด็กสองคนนี้ต้องการจะสื่อความหมายอะไร?
“พี่ชายบอกว่า ต้องดูความจริงใจของพ่อ พี่ชายบอกว่าคิดบททดสอบไว้ให้พ่อหลายอย่าง พ่อผ่านบททดสอบไปได้พวกเราก็จะยอมรับ ผ่านไม่ได้พวกเราก็จะช่วยหาสามีใหม่ให้แม่” ตอนที่ถังจื่อซีพูดประโยคนี้ เขย่าขาสนุกยิ่งขึ้น เธอเงยหน้าขึ้นมองไปทางถังจื่อโม่ ยิ้มถามอย่างประจบประแจง : “พี่ชาย หนูพูดถูกไหม?”
“อืม ถูกมาก” ถังจื่อโม่พยักหน้าอย่างตั้งอกตั้งใจ
เปลือกตาเยว่หงหลิงกะพริบขึ้นลง การทดสอบของเด็กน้อยถังจื่อโม่
เธอแอบอธิษฐานให้คุณชายสามเย่ในใจสามวินาที
เวินลั่วฉิงฟังคำพูดของเด็กทั้งสองคน อารมณ์ซับซ้อนขึ้นมาเป็นพิเศษชั่วขณะ