บทที่ 610 คุณชายสามเย่สารภาพรักอย่างองอาจ สะเทือนไปทั่วทั้งงาน (5)
“แม่ แม่วางใจเถอะ เจ้าเด็กซือเฉินนั่นไม่เหมือนกับคุณปู่เย่หรอก เขาทำอะไรมีขอบเขตอยู่” เฟิ่งเหมียวเหมียวมองไปที่เวินลั่วฉิงที่กำลังจ้องมองทีวีอยู่ทีหนึ่ง แววตาสั่นไหวเล็กน้อย เธอดูออกว่าตอนนี้ฉิงฉิงเหมือนว่าจะตื่นเต้นอยู่เล็กน้อย
เพราะฉะนั้น คำพูดของเธอถึงจะพูดให้ท่านย่าถังฟัง แต่ก็พูดให้เวินลั่วฉิงฟังด้วยเหมือนกัน
“อืม ทางที่ดีก็ให้เป็นแบบนั้น ไม่งั้นละก็ จะไม่มีทางปล่อยเขาไปง่าย ๆ แน่” ท่านย่าถังหึเสียงเย็นเบา ๆ คำหนึ่ง
“แม่ แม่วางใจเถอะ เวลาแบบนี้ซือเฉินเปิดแถลงข่าวก็คงจะอยากจะอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้ชัดเจน เขารู้ดีว่าความจริงเป็นยังไง ไม่มีทางไปเข้าข้างพวกคุณปู่เย่หรอก” เฟิ่งเหมียวเหมียวพูดคำพูดพวกนี้ไป แล้วก็มองไปที่เวินลั่วฉิงอีกครั้ง
เฟิ่งเหมียวเหมียวคิดว่า งานแถลงข่าวกับนักข่าวแบบนี้ เย่ซือเฉินสามารถจัดขึ้นมาได้สักครั้งก็ไม่ง่ายแล้ว
ริมฝีปากของท่านย่าถังเม้มเข้าหากันเล็กน้อย แล้วไม่พูดอะไรอีก ความคิดของเธอก็คล้าย ๆ กับเฟิ่งเหมียวเหมียว ในงานแถลงข่าวแบบนี้ ไม่มีใครกล้าพูดไปเรื่อย แล้วก็ไม่มีใครกล้าพูดให้ชัดเจนมากนัก
ที่สำคัญ เย่ซือเฉินจัดแถลงข่าวในเวลาแบบนี้ เธอเองก็ไม่กล้าคาดหวังมากเท่าไหร่ ของแค่เย่ซือเฉินไม่พูดคำพูดอะไรที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อฉิงฉิงก็พอแล้ว
“คุณเย่ คุณมาจัดงานแถลงข่าวในเวลาแบบนี้ เป็นเพราะว่ามีอะไรอยากจะพูดกับทุกคนใช่ไหม?” ในตอนนี้ นักข่าวมาเผชิญหน้าอยู่กับเย่ซือเฉิน ล้วนพกพาความระแวดระวังมา ไม่กล้าพูดอะไรไปเรื่อย
“ใช่ครับ” เย่ซือเฉินค่อย ๆ พยักหน้า ตอบกลับอย่าแน่วแน่และซื่อตรง
“งั้นคุณเย่มาเปิดแถลงข่าวในเวลานี้ เพื่อคุณปู่เย่และคุณย่าเย่หรือเปล่า?” เวลาที่เย่ซือเฉินเลือกนี้ช่างบังเอิญเกินไปแล้ว ประจวบเหมาะกับเวลาที่คุณปู่เย่เกิดเรื่องขึ้นพอดี
เพราะฉะนั้น ทุกคนต่างก็คิดว่าเขามาเพื่อคนแก่ทั้งสองของตระกูลเย่
ในเมื่อตอนที่เวินลั่วฉิงโดนด่ารุนแรงสักขนาดนั้น เขาก็ไม่เคยออกมาอธิบายเลยตลอด แต่ตอนนี้พอคลิปที่คุณปู่เย่แกล้งบาดเจ็บถูกปล่อยออกมา เขาก็รีบมาเปิดแถลงข่าวแล้ว นี่มันทำให้คนเข้าใจผิดได้ง่ายมากจริง ๆ
“คุณเย่ อาการบาดเจ็บที่ขาของคุณปู่เย่เห็นได้ชัดว่าเป็นของปลอม ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ คุณเย่ยังจะช่วยคุณปู่เย่แก้ต่างไหม?” มีนักข่าวคนหนึ่งที่อดไม่ไหวอยู่ดี แล้วถามคำถามที่ค่อนข้างแหลมคมออกมาคำถามหนึ่ง
เย่ซือเฉินหันสายตา มองไปที่นักข่าวคนนั้น ท่าทีเรียบเฉย ไม่ได้มีการหลบหลีกสักนิด ริมฝีปากขยับเล็กน้อย แล้วก็พูดขึ้นช้า ๆ ทีละคำทีละคำ “การบาดเจ็บที่ขาของเขาจะจริงหรือปลอมก็ไม่เกี่ยวกับผม”
พอคำพูดนี้ของเย่ซือเฉินพูดออกไป ทั้งห้องก็แตกตื่นขึ้นมา คุณปู่เย่นั้นเป็นปู่แท้ ๆ ของเย่ซือเฉินเลยนะ แต่ตอนนี้เขากลับพูดว่าอาการบาดเจ็บที่ขาของคุณปู่เย่ไม่ว่าจะจริงหรือปลอมก็ไม่เกี่ยวข้องกับเขาเหรอ?
คำพูดนี้ไม่เหมาะสมหรอกมั้ง?
แต่ว่าตอนนี้คุณชายสามเย่นั้นจริงจังมาก และที่สำคัญท่าทีก็เฉียบขาดมาก
ตอนนี้ คนทั้งหมดต่างก็รู้สึกถึงความผิดปกติ คุณชายสามเย่พูดคำพูดแบบนี้ออกมาต่อหน้านักข่าวในตอนนี้ แสดงว่าจะแตกหักกับคุณปู่เย่แล้วใช่ไหม?
“เจ้าสารเลวนี่ มันหมายความว่ายังไงกับ? มันอยากจะทำอะไรกัน?” คุณปู่เย่ที่กำลังดูทีวีอยู่ทั้งตกใจทั้งโกรธ แล้วก็โกรธจนตะคอกออกมา “ฉันเป็นปู่ของมันนะ”
คุณย่าเย่กลับยิ่งตกใจจนค้างไปแล้ว ไม่ว่ายังไงเธอก็คิดไม่ถึงว่าเย่ซือเฉินจะพูดคำพูดแบบนี้ออกมาต่อหน้าสาธารณชนได้ เขาคงไม่ได้อยากจะออกไปจากตระกูลเย่หรอกนะ?
ในห้องโถงใหญ่ตระกูลถัง คนทั้งหลายคนต่างก็ตกใจจนอึ้งไปแล้ว
ท่านย่าถังตกใจจนตาแทบจะถลนออกมาแล้ว ส่วนเฟิ่งเหมียวเหมียวกำลังดื่มน้ำชาอยู่ ก็ตกใจจนพ่นน้ำชาออกทั้งคำ
แต่กลับเป็นเวินลั่วฉิงที่สงบเงียบที่สุด ยังคงนั่งนิ่ง ๆ อยู่ และดูทีวีอยู่อย่างเงียบ ๆ ไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย
“เจ้าเด็กนี่ช่างกล้าพูดจริง ๆ มีความกล้าหาญ” ท่านปู่ถังอดไม่ได้ที่จะชื่นชมขึ้นมาคำหนึ่ง กล้าพูดคำพูดแบบนี้ออกไปตรง ๆ ในงานแถลงข่าว คิดว่าคงจะหาคนที่สองไม่ได้อีกแล้ว
“คำพูดนี้ของคุณเย่หมายความว่ายังไง? ความหมายของคุณเย่คือจะช่วยเวินลั่วฉิงเหรอ?” นักข่าวในที่อยู่ที่นี่พอตั้งสติได้ ก็รีบถามขึ้นมาประโยคหนึ่ง
“ไม่” เย่ซือเฉินหันสายตา ไปมองนักข่าวคนนั้นทีหนึ่ง จากนั้นก็พูดคำพูดง่าย ๆ ที่ไม่รู้ว่าจะง่ายขนาดไหนแล้วออกมาคำหนึ่ง
ชั่วขณะหนึ่ง ทุกคนต่างก็มึนงงไปหมด นี่มันสถานการณ์อะไร? ไม่ช่วยคุณปู่เย่ และก็ไม่ช่วยเวินลั่วฉิง? งั้นที่เขาเปิดงานแถลงข่าวนั้นเพื่ออะไรกันล่ะ?
“งั้นตกลงที่คุณเย่เปิดงานแถลงข่าวในวันนี้เพื่ออะไรกันล่ะ?” มีนักข่าวคนหนึ่งอดไม่ได้จึงถามขึ้นมาประโยคหนึ่ง และได้ถามความสงสัยที่อยู่ในใจของทุกคนออกมาด้วย
ปกติเย่ซือเฉินเป็นคนที่ถ่อมตัวมาตลอด ในส่วนนี้ใคร ๆ ก็รู้ดี!
เรื่องที่สามารถทำให้เย่ซือเฉินเป็นคนจะจัดงานแถลงข่าวเองตอนแรกก็น้อยยิ่งกว่าน้อยแล้ว เพราะฉะนั้น ตอนนี้ทุกคนต่างก็เดาไม่ออกว่าตกลงเขาหมายความว่ายังไงกันแน่?
ริมฝีปากของเย่ซือเฉินคลี่ออกเล็กน้อย ดวงตาหันไปเล็กน้อย และจ้องกับเข้ากับกล้องตรง ๆ เขารู้ว่า ตอนนี้เขามองไปที่กล้อง ก็เหมือนกับมองไปที่เธอ
ในห้องโถงใหญ่ ตอนนี้เวินลั่วฉิงกำลังจ้องหน้าจอทีวีอยู่ แล้วดวงตาก็สบเข้ากับดวงตาของเย่ซือเฉิน
“วันนี้ ผมมีคำพูดอะไรนิดหน่อย จะพูดกับภรรยาของผม” เย่ซือเฉินค่อย ๆ เปิดปากพูดขึ้นกับหน้ากล้อง น้ำเสียงไม่ได้ดังมาก แต่เหมือนกับว่าจะสามารถทำให้สั่นสะเทือนไปจนถึงก้นบึ้งหัวใจได้โดยตรง
พอได้ยินคำพูดนี้ของเย่ซือเฉิน คนทั้งหมดต่างก็ตกใจค้างไปเลย คุณชายสามเย่จัดงานแถลงข่าวเพื่อจะสามารถพูดอะไรกับภรรยาของเขาหน่อยงั้นเหรอ?
“คุณเย่ภรรยาที่คุณพูดถึงคือเวินลั่วฉิงใช่ไหม?” มีคนคนหนึ่งตั้งสติได้ แล้วก็ถามขึ้นเสียงดัง
มุมปากของเย่ซือเฉินค่อย ๆ โค้งขึ้นมาเป็นมุมที่สวยงามมุมหนึ่ง แล้วก็ไม่มีความลังเลใด ๆ และตอบกลับไปว่า “ใช่ครับ”
คำพูดของเขาหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วก็อธิบายขึ้นว่า “ถ้าจะพูดให้ถูกต้องคือ ตอนนี้เธอเป็นภรรยาเก่าของผม เป็นเพราะว่าผมทำได้ไม่ดีพอ จึงทำให้เธอจากผมไป”
ทุกคนต่างก็รู้ว่าปกติคุณชายสามเย่นั้นชอบวางอำนาจ หยิ่งยโส และยังแข็งแกร่ง แล้วคุณชายสามเย่ก็พูดว่าตัวเองทำได้ไม่ดีพอ นี่จะต้องเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดครั้งแรกในโลกแน่
คนที่สามารถทำให้เขาพูดคำพูดแบบนี้ออกมาได้ แสดงว่าคนคนนี้สำหรับเขาแล้ว จะต้องพิเศษและสำคัญมากแน่
“คุณเย่ ฟังจากคำพูดนี้ของคุณหมายความว่าเวินลั่วฉิงเป็นคนพูดว่าจะหย่าใช่ไหม?” พวกคลิปก่อนหน้านั้นล้วนเป็นผลเสียต่อเวินลั่วฉิงเป็นอย่างมาก พวกเขารู้เรื่องที่คุณชายสามเย่แต่งงานกับเวินลั่วฉิงแล้วก็หย่า แต่ว่าเรื่องราวมันเป็นยังไงนั้น ก็ไม่มีใครรู้ชัดเจน
“ใช่” เย่ซือเฉินกลับไม่ได้อธิบายมากนัก บางครั้งยิ่งเป็นคำตอบง่าย ๆ กลับยิ่งทำให้คนสั่นไหว และคำพูดของคุณชายสามเย่ก็จะไม่มีคนสงสัยด้วย และก็ไม่มีคนกล้าสงสัย หรือว่ากล้าถาม
“ตอนนี้ ผมแค่อยากจะพูดคำเดียว ผมเย่ซือเฉินตลอดชีวิตนี้จะมีเมียแค่คนเดียว แค่เธอคนเดียว จะเป็นแค่เธอคนเดียว และต้องเป็นแค่เธอ” ดวงตาของคุณชายสามเย่มองไปที่กล้องตรง ๆ คำพูดแต่ละตัวแต่ละตัวก็ส่งผ่านไปอย่างนี้ ส่งเข้าไปถึงหูของทุก ๆ คน
และก็ส่งเข้าไปถึงหูของเวินลั่วฉิงด้วย
“คุณเย่ ความหมายของคุณคือจะคืนดีกับเวินลั่วฉิงเหรอ?” คำพูดของคุณชายสามเย่นั้นความหมายชัดเจนมาก คนทั้งหมดต่างก็ฟังเข้าใจหมดแล้ว แต่ว่าก็ยังมีคนที่อดไม่ได้แล้วถามขึ้นมาประโยคหนึ่ง
“ใช่ ถ้าเธอไม่เห็นด้วยกับการที่จะคืนดีกับผม งั้นผมก็จะโดดเดี่ยวเดียวดายไปจนแก่” วันนี้ ความอดทนของคุณชายสามเย่นั้นดีมาก แล้วก็ตอบกลับทีละคำทีละคำอีกครั้ง
แน่นอนว่า คำพูดของเขานั้นไม่ได้พูดให้นักข่าวฟัง แต่คือพูดให้เวินลั่วฉิงฟัง เขารู้ว่าตอนนี้เวินลั่วฉิงจะต้องดูทีวีอยู่อย่างแน่นอน และก็ต้องได้ยินคำพูดของเขาแน่นอน