บทที่ 630 เรื่องบานปลายใหญ่โต คุณชายสามเย่โกรธจริงๆแล้ว (5)
“เด็กดีจื่อซี”เวลาที่ท่านย่าถังมองถังจื่อซี ใบหน้ามีรอยยิ้มเพิ่มขึ้นหลายส่วน เพียงแต่เวินลั่วฉิงยังคงสังเกตเห็นความกังวลใจบนใบหน้าท่านย่าถังได้
ท่านย่าถังเรียกจื่อซีหนึ่งคำ แล้วหันมามองเวินลั่วฉิงต่อ พร้อมกับทักทายเวินลั่วฉิง จึงยิ่งทำให้เวินลั่วฉิงสงสัย
ถังจื่อซีนั่งบนโซฟา เอารีโมทขึ้นมาเปิดโทรทัศน์
“คุณกู่ครับ ขอเรียกถามหน่อยครับว่าผู้หญิงที่อยู่กับคุณชายสามเย่เมื่อคืนเป็นคุณหรือเปล่าครับ?”จากนั้นเวินลั่วฉิงก็ได้ยินเสียงโทรทัศน์แว่วเข้ามา
เวินลั่วฉิงรีบเงยหน้ามอง เห็นภาพการรายงานข่าวในโทรทัศน์ ดวงตาเธอก็หรี่ขึ้น
ซึ่งในโทรทัศน์ ใบหน้ากู่หยิงหยิงมีรอยยิ้มเล็กน้อย แต่ไม่ได้พูดอะไร
แต่เสื้อผ้าที่กู่หยิงหยิงใส่?
เสื้อผ้าที่กู่หยิงหยิงใส่เหมือนกับเสื้อตัวที่เธอใส่ไปหาเย่ซือเฉินเมื่อคืนทุกอย่าง
สีเดียวกัน แบบเดียวกัน เธอคิดว่าคงเป็นแเบรนด์เดียวกันอีกแน่ๆ
ยิ่งไปกว่านั้น ทรงผมของกู่หยิงหยิงในตอนนี้ยังเหมือนทรงผมเธอทุกอย่าง
เธอจำได้ว่าตอนเห็นกู่หยิงหยิงเมื่อคืน ทรงผมหล่อนยังไม่ใช่ทรงนี้ เห็นได้ชัดว่าทรงผมกู่หยิงหยิงยาวกว่ามาก
เพียงชั่วค่ำคืน กู่หยิงหยิงก็เหมือนเธอทุกอย่าง
เวินลั่วฉิงปะติดปะต่อกับคำถามก่อนหน้านี้ของนักข่าว……
กู่หยิงหยิงก้มหน้าเล็กน้อยตลอด ไม่ได้พูดอะไร คุณนายกู่ที่อยู่ข้างกายหล่อนอธิบายแทนหล่อน“นักข่าวท่านนี้ อย่าถามตรงๆอย่างนี้สิคะ หยิงหยิงของพวกเราเป็นผู้หญิง จะกล้าพูดเรื่องอย่างนี้ได้ยังไง แต่เมื่อคืนตระกูลกู่กับตระกูลเย่ พวกเราทั้งสองฝ่ายได้ทำการหมั้นหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ”
ความหมายนั้นชัดเจนเกินพอ
เมื่อวานพวกเขาหมั้นหมายกันแล้ว ดังนั้นทั้งสองคนจึงอยู่ด้วยกันได้แล้ว
“ความหมายของคุณนายกู่ก็คือ คุณชายสามเย่กับคุณกู่หมั้นกันแล้วใช่ไหมครับ?”นักข่าวจับประเด็นคำพูดของคุณนายกู่มาถาม เห็นได้ชัดว่ามีความตื่นเต้นดีใจเพิ่มขึ้นหลายส่วน
อันนี้เป็นข่าวใหญ่เลยนะ!!
เมื่อคืนคุณชายสามเย่เพิ่งสารภาพรักเวินลั่วฉิงในงานแถลงข่าว บอกว่าจะแต่งกับเวินลั่วฉิงแต่เพียงผู้เดียว แต่ผ่านไปแค่คืนเดียว จู่ๆก็หมั้นหมายกับกู่หยิงหยิง การพลิกแพลงไปมาอย่างนี้ จะยิ่งทำให้เป็นที่จับตามองของประชาชน
“เมื่อคืนมีแค่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายตกลงเรื่องนี้กันเองค่ะ สักครู่ทางตระกูลเย่ก็จะประกาศเรื่องนี้ออกมาค่ะ”ใบหน้าคุณนายกู่ประดับรอยยิ้ม ความหมายนี้ชัดเจนมาก
เวินลั่วฉิงเม้มปาก ไม่พูดอะไร สายตาของเธอจับอยู่ที่เสื้อผ้าของกู่หยิงหยิง
เธอคิดว่า วันนี้กู่หยิงหยิงใส่เสื้อผ้านี้ บวกกับทรงผมนี้ คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นการจัดเตรียมอย่างแนบเนียนเสียมากกว่า……
“คุณกู่ครับ คนในวิดีโอเป็นคุณจริงๆใช่ไหมครับ?เมื่อวานคุณชายสามเย่เพิ่งจัดแถลงข่าว ซึ่งคุณชายสามเย่พูดอย่างชัดเจนว่า คนที่เขาชอบคือเวินลั่วฉิง ทำไมยังไม่ถึงหนึ่งวัน เรื่องก็เปลี่ยนไปได้ครับ?”มีนักข่าวถามความสงสัยภายในใจ
ดวงตากู่หยิงหยิงหรี่ขึ้น สองมือจับไว้แน่น แต่หล่อนไม่ได้เผยสีหน้าผิดปกติมากมายนัก ผ่านไปสักพัก หล่อนเงยหน้าขึ้นมองนักข่าว
ส่ายหัวเบาๆ “ฉันไม่รู้ค่ะ”
ไม่ชมไม่ได้แล้ว เวลานี้กู่หยิงหยิงตอบได้ดีมาก และใบหน้าไร้เดียงสายิ่งเสแสร้งได้อย่างเหมาะสมลงตัว
เวินลั่วฉิงมองกู่หยิงหยิงในโทรทัศน์ มุมปากเพิ่มความยิ้มหยันขึ้นมาหลายส่วน
วิดีโอ?
คาดว่าตอนเธอไปหาเย่ซือเฉิน คงถูกบันทึกวิดีโอไว้สินะ?
เมื่อคืนเย่ซือเฉินบ้าคลั่งมาก ตอนนั้นเธอเกือบรับมือไม่ไหว ดังนั้นจึงไม่ได้สังเกตเห็นว่ามีคนกำลังแอบถ่ายอยู่
ถ้าเช่นนั้นเมื่อคืนถูกบันทึกวิดีโอแบบไหนกัน?
“ฉิงฉิง หนูไม่ต้องเสียใจนะ ผู้ชายดีๆมีเยอะ พวกเรา……”ท่านย่าถังถอนหายใจ ท่านรู้ว่าเรื่องนี้ปิดไม่อยู่ ฉิงฉิงต้องรู้เรื่องไม่ช้าก็เร็วแน่ๆ
“พวกท่านดูวิดีโอแล้วใช่ไหมคะ?”เวินลั่วฉิงนึกถึงการตอบสนองตอนที่เธอลงมา คาดว่าคงเป็นเพราะพวกเขาได้ดูวิดีโอแล้ว
ทุกคนไม่ได้ตอบ แสดงว่ายอมรับแล้ว
“เอาวิดีโอมาให้หนูดูหน่อยค่ะ”มือถือของเวินลั่วฉิงชาร์จแบตไว้บนห้อง เมื่อคืนโทรหาเย่ซือเฉินตลอด ต่อมาก็ไม่มีโอกาสชาร์จแบตเลย ดังนั้นจึงไม่มีแบตแล้ว
เด็กน้อยถังจื่อโม่เอามือถือของเขาออกมายื่นให้เวินลั่วฉิง เวลานี้ใบหน้าถังจื่อโม่มีความสงสัยหลายส่วน
เมื่อคืนคุณแม่ออกไปไม่กลับมาทั้งคืน คุณแม่ต้องอยู่กับเย่ซือเฉินแน่ๆ แล้วเรื่องผู้หญิงคนนั้นเป็นยังไงกันแน่?
เวินลั่วฉิงรับมือถือมาเปิดดูวิดีโอ
วิดีโอเป็นภาพเธอกับเย่ซือเฉินเมื่อคืนจริงๆ ตอนนั้นอยู่นอกประตูใหญ่คฤหาสน์ตระกูลเย่ พวกเขาจูบกันอย่างดื่มด่ำ
ในวิดีโอ สามารถมองออกอย่างชัดเจนว่าผู้ชายคือเย่ซือเฉิน แต่กลับจับภาพใบหน้าของเธอไม่ได้
เพราะเย่ซือเฉินจุมพิตเธอตลอดเวลา จึงขวางกั้นใบหน้าของเธอไว้
แต่ในวิดีโอสามารถเห็นเสื้อผ้าและทรงผมของเธอได้อย่างชัดเจน
วิดีโอจบลงตอนเธอขึ้นรถขับออกไป
แต่ ต่อมาก็มีวิดีโอตอนใหม่โผล่ออกมา
เป็นวิดีโอที่เช้านี้ กู่หยิงหยิงเดินออกจากโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง ซึ่งในวิดีโอกู่หยิงหยิงสวมใส่เสื้อผ้า และจัดทำทรงผมเดียวกับเธอทุกอย่าง
ส่วนสูงของกู่หยิงหยิงเกือบเท่าเธอ ดังนั้นหากดูผิวเผินก็จะเหมือนเป็นคนเดียวกัน
เห็นได้ชัดว่าเป็นแผนการของกู่หยิงหยิง
“คิดไม่ถึงว่าไอ้หลานตระกูลเย่จะเป็นคนแบบนี้ ฉิงฉิง ผู้ชายอย่างนี้ไม่เอาก็ช่าง”เห็นได้ชัดว่าเวลานี้สีหน้าของท่านย่าถังมีความโกรธอยู่หลายส่วน
“ฉิงฉิง อันนี้มีเรื่องเข้าใจผิดหรือเปล่า?หรือหนูลองโทรไปถามซือเฉินดูหน่อยไหม”เวลานี้เฟิ่งเหมียวเหมียวสงบสติกว่าใครอื่น
เฟิ่งเหมียวเหมียวพูดประโยคนี้ สายตาจับจ้องอยู่ที่วิดีโอ “ทำไมฉันรู้สึกว่าคนในวิดีโอไม่เหมือนกู่หยิงหยิง แค่เสื้อผ้ากับทรงผมเหมือนเท่านั้นเอง ซึ่งคนผมตรงก็มีไม่น้อย สำหรับเรื่องเสื้อผ้า……”
เฟิ่งเหมียวเหมียวหยุดพูดกะทันหัน รีบเงยหน้ามองเวินลั่วฉิง เธอจำได้ว่าก่อนหน้านี้ เธอเคยซื้อเสื้ออย่างนี้ให้ฉิงฉิงมาก่อน
อีกอย่างทรงผมของฉิงฉิงเหมือนผู้หญิงในวิดีโอมากกว่า!!
“ไม่ว่าผู้หญิงคนนั้นจะเป็นใคร เรื่องนี้จะยกโทษให้ไม่ได้เด็ดขาด”ท่านย่าถังตวาดเสียงหนึ่งประโยค “มันเป็นปัญหาเรื่องนิสัยของเขา ผู้หญิงเป็นใครก็ไม่สำคัญ”
“แต่ ตอนนี้ผู้หญิงสมัยนี้ ช่าง……”ท่านย่าถังมองวิดีโออีกครั้ง พลางส่ายหัวช้าๆ “หนูดูสิ ไม่รู้จักระวังตัวเลย ยิ่งไปกว่านั้น ยังวิ่งเต้นไปถึงบ้านตระกูลเย่ยามดึกอีกต่างหาก”
เวินลั่วฉิงได้ยินคำพูดของท่านย่าถัง ร่างกายแข็งค้าง ไม่รู้ควรพูดอย่างไรไปชั่วขณะ
“แม่ค่ะ หนูรู้สึกว่า อันที่จริงผู้หญิงคนนั้นเป็นใครมันสำคัญมากค่ะ”ถึงแม้เฟิ่งเหมียวเหมียวจะพูดให้ท่านย่าถังฟัง แต่ดวงตาของเธอก็อยู่ที่ตัวเวินลั่วฉิง