บทที่ 664 หญิงสำส่อนรนหาที่ ผลที่เกิดขึ้นน่าสะพรึงกลัวมาก (6)
“ใช่ เสียดายตอนนั้นพวกเราไม่ได้ลิ้นรส ถึงตอนนี้กูยังรู้สึกขาดทุนอยู่เลย”หัวหน้าแก๊งหรี่ตา พลางเม้มปาก ใบหน้าเผยความเสียดายหลายส่วน
“ใช่ ตอนนั้นต้องโทษเย่โป๋เหวิน……”ผู้ชายรอยแผลเป็นพูดต่อหนึ่งประโยค
ลูกพี่ใหญ่หันไปกวาดสายตามองเขาแวบหนึ่งอย่างเย็นเหยียบ ชายรอยแผลเป็นรู้ตัวว่าตนปากพล่อยเสียแล้ว จึงรีบหยุดทันที
ยังไม่นับว่าตอนนี้มีผู้หญิงอยู่คนหนึ่ง แม้แต่‘พี่น้อง’พวกเดียวกันของพวกเขาก็ไม่มีใครรู้เรื่องในอดีตสักคน
ซึ่งพี่น้องที่ร่วมกันก่อคดีนี้ในตอนนั้น ส่วนมากก็ตายหมดแล้ว เหลือพวกเขาสองคนหนีมาได้อย่างหวุดหวิด
“ผู้หญิงคนนี้หน้าตาดีมาก วันนี้ก็ใช้ผู้หญิงคนนี้ชดเชยแล้วกัน”ลูกพี่ใหญ่มองหน้าเวินหรวนหรวน มุมปากเผยรอยยิ้มออกมา ดูแล้วทำให้กลัวเหลือเกิน
ต้องบอกว่าเวินหรวนหรวนมีหน้าตาสวยจริงๆ บวกกับตอนนี้เธอแต่งหน้าด้วย อยู่ภายใต้แสงไฟสลัว ใบหน้าของเวินหรวนหรวนยิ่งรู้สึกประณีตขึ้นเป็นพิเศษ
พวกเขากลุ่มนี้เลวแบบไม่ห่วงชีวิต ต่างเป็นชายแกร่งจอมห้าวกันทั้งนั้น ปกติออกไปหาผู้หญิงกิน แต่ก็ไม่มีทางได้เจอสาวๆที่หน้าตาดี ผิวพรรณเปล่งปลั่งเรียบเนียนอย่างเวินหรวนหรวน
เวินหรวนหรวนเป็นถึงระดับลูกคุณหนู เลี้ยงดูอย่างทะนุถนอมมาตั้งแต่เด็ก
รูปร่างของเวินหรวนหรวนก็ไม่เลว ด้านหน้าที่ควรจะอวบอิ่มก็นูนออกมา ดูแล้วใหญ่เป็นพิเศษ
ลูกพี่ใหญ่คนนั้นเดินไปจับแรงๆหนึ่งครั้ง ก่อนจะหัวเราะเสียงดัง“แม่ง ใหญ่จริงๆ”
“ลูกพี่ จะเป็นของปลอมหรือเปล่า?ผมดูในเน็ตแล้วผู้หญิงหลายคนทำปลอมกันทั้งนั้น”มีคนมองเวินหรวนหรวนก็กลืนน้ำลายลงคอเต็มแรง
“ของปลอมก็ดีกว่าไม่มี ไอ้บ้า มึงอยากจับใช่ไหม?”ลูกพี่กลอกตาใส่ผู้ชายที่กลืนน้ำลาย อดหัวเราะไม่ได้ “วางใจเถอะ มึงก็มีส่วนแน่นอน”
ตอนนี้เวินหรวนหรวนยังถูกมัดไว้ขยับตัวไม่ได้ ปากก็ถูกยัดไว้พูดไม่ได้ เธอได้แต่ส่ายหัวแรงๆ
“คลายเชือกเธอออก พวกเรามีกันมากมาย เธอจะหนีไปได้เหรอ?อีกอย่างที่นี่ก็ไม่มีคนนอกเข้ามา”มาถึงถิ่นของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาก็สบายใจหายห่วง
ผู้ชายที่กลืนน้ำลายเมื่อสักครู่รีบเข้าไปแก้มัดให้เวินหรวนหรวน แน่นอน เขาฉวยโอกาสจับแรงๆไปหลายครั้ง
หลังแก้เชือกที่มัดตัวเวินหรวนหรวนได้ ปฏิกิริยาตอบสนองแรกของเธอก็คือหนี แต่เห็นคนล้อมเธอมากมายขนาดนี้ เธอรู้ว่าตัวเองหนีไม่ได้
“ฉันไม่ใช่เวินลั่วฉิง ฉันไม่ใช่เวินลั่วฉิงจริงๆ ฉันคือเวินหรวนหรวน ฉันเป็นลูกสาวของหลี่หยุน พวกนายจับผิดคนแล้ว”เวินหรวนหรวนรีบอธิบายอย่างร้อนรน หวังว่าพวกเขารู้ตัวว่าจับผิดคนแล้วก็จะปล่อยตัวเธอ
ลูกพี่ใหญ่ขมวดคิ้วมองหน้าผู้ชายที่จับตัวเวินหรวนหรวนกลับมาเมื่อกี้ “ยังไงกันแน่?”
“ลูกพี่ เธอก็คือเวินลั่วฉิง ผู้หญิงคนนี้เจ้าเล่ห์มาก เมื่อกี้ก็อยากใช้เหตุผลนี้หลอกพวกผม”
“ใช่ ใช่ ผู้หญิงคนนี้เจ้าเล่ห์มาก เมื่อกี้ลูกสาวหลี่หยุนส่งเธอออกมาเอง ลูกสาวหลี่หยุนรู้แผนการของพวกเรา ต้องไม่ผิดแน่”
“ไม่ใช่ ฉันไม่ได้หลอกพวกนาย ฉันไม่ใช่เวินลั่วฉิงจริงๆ ฉันคือเวินหรวนหรวน พวกนายไม่เชื่อก็เข้าเน็ตเซิร์สดูก็ได้ ในเน็ตมีวิดีโอที่เกี่ยวกับเวินลั่วฉิงมากมาย เวินลั่วฉิงคนนั้นขี้เหร่จะตาย พวกนายมองแวบเดียวก็ดูออกแล้ว……”
ลูกพี่ใหญ่คนนั้นได้ยินเวินหรวนหรวนพูด ดวงตาพลันกะพริบเล็กน้อย “เธอคิดว่าพวกเราเป็นเด็กสามขวบเหรอ?ที่นี่ไม่มีสัญญาณ โทรยังไม่ได้เลย ยิ่งไปต้องพูดถึงเรื่องเข้าเน็ตดูวิดีโอเลย เธอทำตัวดีๆหน่อย อย่าตุกติก”
เวลานี้พวกเขาอยู่ในห้องใต้ดิน ซึ่งไม่รู้ว่าใครเป็นผู้สร้างขึ้น พวกเขามาพบที่นี่โดยบังเอิญ และพบว่าที่นี่ไม่มีคนอยู่ จึงยึดเป็นของตนเสียเลย
ชั้นใต้ดินนี้ไม่มีสัญญาณ
อันที่จริง ถึงแม้จะมีสัญญาณ ลูกพี่ใหญ่ได้ยินเวินหรวนหรวนพูดประโยคสุดท้ายก็ไม่อยากไปตรวจสอบแล้ว
คนขี้เหร่กับสาวงามที่ผิวเนียนอ่อนนุ่ม เขาเป็นผู้ชายคนหนึ่ง เรื่องนี้เลือกไม่ยากเลย
ฉะนั้นลูกพี่ใหญ่ไม่เชื่อว่าพวกเขาจะจับคนผิด
พวกเขาเป็นโจร ปกติก็ไม่ค่อยดูข่าว ถึงแม้ช่วงนี้เวินลั่วฉิงจะโด่งดังในโลกโซเชียล แต่พวกเขาก็ไม่เคยดู
หลี่หยุนก็กังวลว่าพวกเขาจะรังเกียจเวินลั่วฉิงที่หน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่ ไม่ยอมทำเรื่องนี้ หรืออาจเรียกเงินเพิ่ม หลี่หยุนจึงไม่ได้ให้รูปถ่ายของเวินลั่วฉิงกับพวกเขา
ดังนั้นพวกเขาไม่รู้ว่าหน้าตาเวินลั่วฉิงเป็นยังไง
หากเวลานี้เวินหรวนหรวนบอกว่าเวินลั่วฉิงหน้าตาสะสวย ไม่แน่หัวหน้าแก๊งอาจให้คนไปตรวจสอบก็ได้ แต่เวินหรวนหรวนโง่ดักดานเกินไป
“ลูกพี่ อย่าพูดไร้สาระกับผู้หญิงคนนี้ เธอเจ้าเล่ห์เกินไป”เห็นได้ชัดว่ามีคนรอไม่ไหวแล้ว
“เธอจะเจ้าเล่ห์ยังไง แต่จะหนีไปได้หรือ?”ผู้เป็นลูกพี่หัวเราะอย่างร้ายกาจ“เข้ามาในถิ่นของพวกเราแล้ว คิดอยากจะหนี เป็นไปไม่ได้ หญิงงามอย่างนี้ พวกเราต้องเก็บไว้เชยชมหลายวันถึงจะได้”
“ลูกพี่พูดถูกที่สุด ยายแก่หลี่หยุนยังบอกว่าเอาให้ตายก็ไม่เป็นไร ขอแค่เอาวิดีโอลงโซเชียลก็พอ”
“ไม่ ไม่เอา ฉันไม่เอา ฉันไม่ใช่เวินลั่วฉิงจริงๆ ฉันคือลูกสาวของหลี่หยุน พวกนายปล่อยฉันไปเถอะ ปล่อยฉันไปเถอะ”เวินหรวนหรวนได้ยินพวกเขาพูด ตกใจจนอกสั่นขวัญหายกันเลยทีเดียว
พวกเขามีมากขนาดนี้ เธอคิดว่าไม่ต้องหลายวันหรอก แค่วันเดียวเธอก็ตายอยู่แล้ว
ไม่ เธอยังไม่อยากตาย เธอไม่อยากถูกอัดคลิปวิดีโออย่างนั้น เธออย่างกลับบ้าน
แต่เธอลืมไปว่า ตอนแรกพวกเธอก็จะใช้วิธีนี้ทำร้ายเวินลั่วฉิง
เธอไม่เต็มใจ หรือเวินลั่วฉิงจะเต็มใจกัน?
อีกอย่าง หากไม่ใช่เธออยากเห็นสภาพน่าเวทนาของเวินลั่วฉิงเกินไป กลัวเวินลั่วฉิงจะหนี ก็คงไม่ต้องถูกคนพวกนี้จับผิดตัวหรอก
มีประโยคหนึ่งกล่าวว่า กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นใครรับ ประโยคไม่ผิดเลยจริงๆ
“พวกนายโทรหาแม่ฉันแล้วจะเข้าใจ ที่นี่ไม่มีสัญญาณ แต่พวกนายก็ส่งคนออกไปโทรได้นี่”เวินหรวนหรวนพยายามคิดหาวิธีทุกอย่าง เพื่อแสดงสถานะของตน เธอรู้ว่าเวลานี้ไม่มีทางหนีไปได้ มิฉะนั้นคืนนี้ก็ต้องจบกัน
“ลูกพี่ หลังจับตัวผู้หญิงคนนี้ได้ พวกเราก็โทรหาหลี่หยุนแล้ว ตอนนั้นหลี่หยุนบอกว่าให้ทำตามแผนทุกอย่าง”ผู้ชายคนที่โทรหาหลี่หยุน ไม่รอให้ลูกพี่เอ่ยปากก็รีบตอบทันที
“ตอนนั้นลูกสาวหลี่หยุนส่งผู้หญิงคนนี้ออกมา เสร็จแล้วลูกสาวหลี่หยุนคงกลับไปถึงแล้ว และรายงานให้หลี่หยุนทราบแล้ว ผมเคยโทรหาหลี่หยุน ตอนนั้นหลี่หยุนไม่ได้พูดอะไรเลย ยิ่งไม่ได้ถามอะไร ดังนั้นไม่ผิดตัวแน่ ผู้หญิงคนนี้คิดจะเล่นลูกไม้กับพวกเรา อยากหาโอกาสหนี”ผู้ชายคนนั้นวิเคราะห์ได้ชัดเจน ตรรกะมีเหตุมีผล
ผิดก็ผิดที่หลี่หยุนโหดเกินไป ใจร้อนเกินไป