บทที่ 674 คุณพ่อสุดยอดที่สุดแล้ว (4)
“เธอช่วยพวกเราทำไม ทั้งที่เธอรู้เรื่องหมดแล้ว……” ในตอนที่หลี่หยุนมองไปทางเวินลั่วฉิงอีกครั้ง ไม่ได้กัดฟันด้วยความโกรธเหมือนตอนแรกแล้ว แค่ยังมีความสงสัยมากมาย
เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าเวินลั่วฉิงรู้เรื่องหมดแล้ว เวินลั่วฉิงรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว ทำไมถึงยังช่วยพวกเธอล่ะ?
“ฉันไม่อยากเป็นคนคนหนึ่งตายไปแบบนี้” สีหน้าของเวินลั่วฉิงหนักแน่นเล็กน้อย เธอรู้สึกว่า ควรให้ความเคารพกับชีวิต
“เธอสามารถช่วยหรวนหรวนกลับมาได้จริงหรอ?” หลี่หยุนยังคงมีความสงสัยในใจ แต่ก็มีความหวังมากขึ้น ไม่ว่ายังไงแล้วก็คือลูกสาวแท้ๆ ของเธอ คือก้อนเนื้อที่ตกออกมาจากร่างกายของเธอ
เธอจะต้องเจ็บใจอย่างแน่นอน
ตอนนี้เนื้อหาที่อยู่บนอินเทอร์เน็ตต่างก็ถูกปิดไปหมดแล้ว ผ่านไปสักพัก ผู้คนก็จะค่อยๆ ลืมเรื่องนี้ไปแล้ว
ฉะนั้น เธอจะช่วยหรวนหรวนของเธอกลับมา
“ฉันสามารถช่วยคุณได้ แต่ว่าคุณต้องให้เบาะแสคร่าวๆเกี่ยวกับคนพวกนั้น สำหรับคนพวกนั้น พวกเรายิ่งรู้เยอะ ถึงจะหาพวกเขาเจอ ได้แต่หาพวกเขาเจอ จึงจะสามารถช่วยเวินหรวนหรวนออกมา” แววตาของเวินลั่วฉิงในขณะนี้เงียบสงบมาก ไม่ได้เห็นถึงอารมณ์มากมาย
ตอนแรกหลี่หยุนสงสัยเธอ แต่ว่าพอเห็นสีหน้าของเธอแล้ว ความสงสัยในใจก็น้อยลง ไม่ว่ายังไงเวินลั่วฉิงก็รู้เรื่องทั้งหมดแล้ว เธอก็ไม่มีอะไรต้องปิดบังต่อหน้าเวินลั่วฉิงแล้ว
“ที่จริงแล้ว ฉันก็รู้เรื่องของพวกเขาไม่มาก ฉันไม่เคยเจอหน้าพวกเขาเลย ฉันแค่ติดต่อกับพวกเขาทางโทรศัพท์ ฉันมีแต่เบอร์โทรศัพท์ของพวกเขา แต่ว่า ตอนนี้เบอร์โทรศัพท์นั้นโทรไม่ติดแล้ว….” หลี่หยุนลังเลไปสักพัก จึงจะค่อยๆ เปิดปากพูด
“พวกเขายังให้เลขบัญชีธนาคารหนึ่งกับฉันด้วย แต่ว่าชื่อนั้นเป็นชื่อของผู้อาวุโสคนหนึ่งที่อาศัยอยู่บนเขา” หลี่หยุนหยุดพูดไปสักพัก แล้วรีบพูดเสริมไปหนึ่งประโยค
“คุณนำเบอร์โทรศัพท์และเลขบัญชีให้ฉัน ฉันจะรีบไปสืบ” แววตาของเวินลั่วฉิงเปล่งประกายขึ้นทันที เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าหลี่หยุนเองก็รู้ไม่มาก แต่ว่ามีเรื่องพวกนี้ก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลย เบาะแสใดๆ ล้วนสามารถเป็นตัวแตกความได้
“ฉิงฉิง เธอจะสืบยังไง? นี่ใช่เรื่องที่คนทั่วไปจะสืบได้หรอ?” เวินจีหยันมองไปทางเวินลั่วฉิง ในแววตายังคงมีความสงสัยอยู่ ถึงขั้นมีความระแวงเพิ่มขึ้น
เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าเวินจีหยันกังวลว่าเวินลั่วฉิงจะแจ้งตำรวจ
“วางใจเถอะ ตอนนี้ฉันไม่แจ้งตำรวจแน่นอน สืบเรื่องพวกนี้ก็ไม่จำเป็นต้องแจ้งตำรวจ” แน่นอนว่าเวินลั่วฉิงมองออกถึงความคิดของเวินจีหยัน เธอแจ้งความตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ฉะนั้น ตอนนี้จะไม่แจ้งความแน่นอน
ภายในห้อง หลี่หยุนจับปากกา ก้มหน้า เขียนเบอร์โทรศัพท์และเลขบัญชี เพราะว่าเธอก้มหัวอยู่ตลอดเวลา ฉะนั้นจึงมองไม่เห็นอารมณ์สีหน้าบนใบหน้าเธอ
หลังจากที่หลี่หยุนเขียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ยื่นกระดาษให้เวินจีหยันที่อยู่ใกล้กับประตู ฉะนั้น เวินลั่วฉิงไม่ได้เห็นสีหน้าขณะนี้ของหลี่หยุน
เวินจีหยันรับมา ลังเลไปสักพัก จากนั้นก็ยื่นให้เวินลั่วฉิง
เวินลั่วฉิงรับกระดาษมา แล้วรีบพาหลิงหลินออกจากที่นี่ เธอต้องรีบบอกเรื่องพวกนี้กับถังหลิน หวังว่าจะมีประโยชน์เล็กน้อย
“คุณหนูใหญ่ ในห้องของพวกเขามีกระบองไม้” หลังจากที่เดินออกไประยะหนึ่งแล้ว หลิงหลินก็พูดด้วยเสียงเบามาประโยคหนึ่ง
เวินลั่วฉิงหรี่ตาเล็กน้อย ฉะนั้น ตอนแรกเวินจีหยันและหลี่หยุนอยากจะหลอกเธอเข้าไปในห้อง เพราะอยากจะช็อตให้เธอสลบ?
“เธอเอาเบอร์โทรศัพท์และเลขบัญชีให้คุณชายถังของพวกเธอ” ตอนนี้เวินลั่วฉิงไม่อยากจะพูดเกี่ยวกับเรื่องพวกนั้น ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือสืบถึงคนพวกนั้น แล้วช่วยเวินหรวนหรวนออกมาก่อน
เมื่อกี้หลี่หยุนบอกว่าโทรไม่ติด ชื่อบัญชีธนาคารก็เป็นของผู้อาวุโสที่อาศัยอยู่บนเขา ไม่รู้ว่าถังหลินจะสามารถหาเบาะแสอะไรได้ไหม
“เวินลั่วฉิงจะช่วยหรวนหรวนของเรากลับมาจริงหรอ?” หลังจากที่เวินลั่วฉิงจากไป เวินจีหยันรีบปิดประตู “เธอเชื่อใจเวินลั่วฉิงจริงๆ หรอ?”
“เชื่อใจเธอ? จะเชื่อใจเธอได้ยังไง?” ทันใดนั้นหลี่หยุนก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ หรี่ดวงตาคู่นั้นขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วแฝงความน่ากลัวและโหดร้ายอยู่ “ตอนนี้ฉันอยากจะลากยัยเวินลั่วฉิงนั่นมาถลอกหนัง สาดโปรยขี้เถ้ากระดูกของมันมาก……”
“ในเมื่อเธอไม่เชื่อใจเวินลั่วฉิง ทำไมเธอถึงนำเบอร์โทรศัพท์และเลขบัญชีให้เวินลั่วฉิงล่ะ? เธอไม่กลัวเวินลั่วฉิงแจ้งตำรวจ ให้ตำรวจมาจับพวกเราหรอ?” เวินจีหยันเห็นท่าทีของเธอในใจตอนนี้ ยิ่งรู้สึกมึนงงไปใหญ่
“ถ้าหากเมื่อกี้เวินลั่วฉิงแค่มาหลอกพวกเรา? งั้นตัวตนพวกเราก็ถูกเปิดโปงแล้วสิ?” เวินจีหยันนึกถึงความเป็นไปได้นี้ บนสีหน้ามีความกังวลเพิ่มขึ้น
“ไม่กลัว เรื่องนี้เธอรู้ตั้งนานแล้ว ถ้าหากจะแจ้งตำรวจก็แจ้งตั้งนานแล้ว เธอไม่ได้แจ้งตำรวจแปลว่าเธอไม่มีหลักฐาน อีกอย่างตอนนี้ก็เกิดเรื่องขึ้นกับหรวนหรวน แต่เธอไม่เป็นอะไร เธอไม่สามารถทำอะไรพวกเราได้” เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าริมฝีปากของหลี่หยุนเย็นชาลงเยอะมาก
“แต่ว่า เมื่อกี้เธอเอาเบอร์โทรศัพท์และเลขบัญชีให้เวินลั่วฉิงแล้ว?” เวินจีหยันยิ่งสับสนเข้าไปใหญ่
“สิ่งที่ฉันให้พวกเขาเป็นของปลอม ตอนแรก เป็นเพราะว่าฉันเป็นห่วงหรวนหรวน เกือบจะติดกับดักแล้ว โชคดีตอนที่เขียนเบอร์โทรศัพท์ดึงสติกลับมาได้ ฉะนั้นสิ่งที่ฉันให้พวกเขาคือของปลอม ไม่มีความเกี่ยวข้องกับคนพวกนั้น หากเธอนำสิ่งเหล่านี้ไปแจ้งตรวจ พอถึงเวลาพวกเราก็สามารถย้อนกลับได้ว่าเธอใส่ร้ายเรา” หลี่หยุนยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ได้ใจไปใหญ่
“สุดยอด ภรรยาช่างฉลาดจริงๆ” เวินจีหยันได้ยินคำพูดของเธอแล้ว ก็ยิ้มทันที
“แล้วหรวนหรวน?” ขณะนี้เวินจีหยันยังสามารถนึกถึงลูกสาวแท้ๆ ของเขา ถือว่ายากจริงๆ
“ฉันคิดไว้แล้ว คลิปก็แพร่ออกไปแล้ว ทั้งชีวิตนี้ของหรวนหรวนก็จบสิ้นแล้ว ถึงแม้จะช่วยกลับมา หรวนหรวนก็คงจะใช้ชีวิตอยู่ในความเจ็บปวดทรมานทั้งชีวิต อีกอย่าง ตั้งแต่เมื่อวานถึงตอนนี้ เวลาผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว หรวนหรวนคงจะ…..” ในตอนที่หลี่หยุนพูดถึงลูกสาวแท้ ความได้ใจบนใบหน้าจึงจะค่อยๆ เก็บหายไป
“ถูก เธอพูดถูก เรื่องเป็นแบบนี้แล้ว ช่วยหรวนหรวนกลับมาจะยิ่งเจ็บปวดไปใหญ่” เวินจีหยันกลับพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของหลี่หยุน
มีเหตุผลหนึ่งคือถึงเสือจะร้ายก็ไม่กินลูกตัวเอง แต่ว่าตอนนี้สองคนนี้กลับส่งลูกสาวแท้ๆ ของตัวเองไปตาย อีกอย่างยังหาเหตุผลที่เชิดชูตัวเองขึ้นมาอีกด้วย
“อีกอย่างพวกเราห้ามให้เวินลั่วฉิงหาคนพวกนั้นเจอเด็ดขาด หากคนพวกนั้นถูกจับแล้ว พอถึงเวลาลากพวกเราออกด้วย พวกเราก็จบแล้ว” หลี่หยุนหรี่ตาขึ้น สีหน้าดูมีความเด็ดขาดเพิ่มขึ้น
ฉะนั้น เพื่อตัวเธอเอง เธอได้แต่ต้องสละชีพหรวนหรวนแล้ว
ในตอนแรกหลี่หยุนยังคิดที่จะช่วยเวินหรวนหรวน หลี่หยุนเปลี่ยนความคิดในวินาทีสุดท้าย ส่วนเวินลั่วฉิงก็คิดว่าหลี่หยุนอยากจะช่วยเวินหรวนหรวนจริงๆ คิดว่าหลี่หยุนน่าจะไม่พูดโกหก ฉะนั้นตอนนั้นจึงคิดไม่ถึงสถานการณ์อื่นเลย
ทางของถังหลินพอได้รับเบอร์โทรศัพท์และเลขบัญชีแล้ว ก็รีบให้คนไปสืบเลย
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ก็หาเจ้าของเบอร์โทรศัพท์เจอ และหาเจ้าของเลขบัญชีเจอ….