บทที่ 681 คุณพ่อสุดยอดที่สุดแล้ว (11)
“คุณกู่ คุณเป็นถึงลูกคุณหนู ทำไมถึงทำเรื่องต่ำช้าไร้ยางอายได้คะ?”
คำถามของนักข่าวแต่ละคำเฉียบขาด แผดร้อนแบบไม่มีใครยอมใคร
นาทีนี้กู่หยิงหยิงตอบอะไรไม่ได้เลย และก็ไม่กล้าตอบด้วย เธอรู้ว่าสถานการณ์อย่างนี้ เธอพูดอะไรก็ผิด
แต่ด้วยเหตุการณ์เช่นนี้ หากเธอไม่ตอบ นักข่าวไม่มีทางปล่อยตัวเธอเด็ดขาด
ดวงตากู่หยิงหยิงกะพริบ เธอคิดเรื่องแกล้งสลบ สถานการณ์ชุลมุนเช่นนี้ คงมีเพียงเธอ ‘สลบ’แล้ว นักข่าวพวกนี้ถึงยอมปล่อยเธอไป กู่หยิงหยิงเลือกมุมเสร็จ จากนั้นก็ทิ้งตัวลงไป
ทิศทางที่กู่หยิงหยิงเลือกมีนักข่าวหญิงสองคน กู่หยิงหยิงคิดว่าเธอล้มตัวลงไปแล้ว นักข่าวหญิงทั้งสองคนคงรับตัวเธอไว้แน่ เธอคงไม่ต้องล้มหัวฟาดพื้นหรอก
ทว่านักข่าวหญิงทั้งสองคนเห็นเธอล้มมากะทันหันก็หลบด้วยจิตใต้สำนึก จากนั้นกู่หยิงหยิงก็ฉุนแรงไม่อยู่เกิดเสียง ตู๊ม ล้มไปที่พื้นเรียบร้อย
การล้มครั้งนี้สมจริงสมจัง ล้มชนิดที่เรียกว่าปวด คาดว่าถึงจะสลบจริงๆ แต่ก็คงฟื้นจากความเจ็บปวดของการล้มแน่ๆ
ทว่ากู่หยิงหยิงรู้ดีว่าสถานการณ์เช่นนี้เธอฟื้นไม่ได้ เธอจำเป็นต้องแกล้งสลบต่อ
“อุ๊ย โอ้แม่เจ้า นี่คือจงใจชนเครื่องลายครามให้แตก เพื่อฉกฉวยผลประโยชน์หรอกเหรอ มารยาร้อยเล่มพันเกวียนจริงๆ?ยังดีที่ฉันหลบเร็ว”นักข่าวสาวเมื่อสักครู่ตกใจจนต้องตบหน้าอกตัวเอง
“นิสัยอย่างคุณกู่ เรื่องจงใจชนเครื่องลายครามก็หยิบมาใช้จนได้?หากคุณกู่อ้างเรื่องเป็นลมนี้ซัดโทษขึ้นมา เรื่องนี้ก็ไม่จบง่ายๆหรอก”นักข่าวหญิงอีกคนพูดจาถากถางออกมา
“คุณกู่ คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม พวกเราไม่แกล้งเป็นลมแล้วได้ไหม?ลุกขึ้นมาตอบคำถามดีๆได้ไหม?”
“วิชาแกล้งเป็นลมของคุณกู่ยอดเยี่ยมมากเลย”
เวลานี้กู่หยิงหยิงนอนอยู่บนพื้น โดยไม่มีใครเข้าไปช่วยพยุงเลย และไม่มีใครเห็นใจเธอ ทุกคนต่างพูดจาเย้ยหยันอย่างเสียงดัง
เห็นได้ชัดว่า ทุกคนดูออกว่ากู่หยิงหยิงแกล้งสลบ
“คุณกู่ตอบคำถามพวกเราก่อนแล้วค่อยสลบได้ไหม?”
ยามนี้นักข่าวอยากถามข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากกู่หยิงหยิงใจแทบขาด จึงมีหลายคนเดินเข้าหากู่หยิงหยิง ซึ่งไม่รู้ว่าด้วยเหตุสุดวิสัยหรือจงใจกันแน่ มีคนเหยียบนิ้วมือของกู่หยิงหยิงเข้าซะแล้ว
กู่หยิงหยิงปวดจนต้องสูดลมหายใจเข้า ไม่ว่านิ้วทั้งสิบจะเจ็บตรงไหน ล้วนเจ็บเข้าถึงทรวงอกทั้งสิ้น มันเจ็บจริงอะไรจริง
จากนั้นก็มีคน‘ไม่ระวัง’เหยียบโดนนิ้วมือ แขนและขาของกู่หยิงหยิงไม่ขาดสาย
กู่หยิงหยิงปวดจนอดรนทนไม่ไหว หากโดนอย่างนี้ต่อไป คาดว่ามือของเธอคงพิการเป็นแน่
กู่หยิงหยิงจึงได้แต่แสร้งทำเป็นพึ่งได้สติกลับมา ค่อยๆลืมตาขึ้น
“อุ๊ย คุณกู่ฟื้นแล้ว ในที่สุดคุณกู่ก็ฟื้นแล้ว”นักข่าวหลายคนที่รุมอยู่รอบข้างเห็นกู่หยิงหยิงลืมตาขึ้นก็ตะโกนร้องกันใหญ่
นักข่าวทั้หมดมามุงล้อมอีกครั้ง
“คุณกู่ค่ะ ตอนนั้นคุณยืนอยู่ในจุดที่ไม่ไกลนัก คุณบอกพวกเราได้ไหมคะว่าผู้หญิงที่คุณชายสามเย่จูบเป็นใคร?”
“คุณกู่ค่ะ ตอนนี้พวกเราแค่ถามคำถามนี้เท่านั้น คำถามนี้คงไม่ยากสำหรับคุณกู่นะคะ?”
ตอนนี้ทุกคนอย่างได้คำตอบนี้ที่สุด
ดวงตากู่หยิงหยิงกะพริบปริบๆ เธอรู้ว่าตอนนี้ตัวเองพูดไม่ได้ ตอนนี้เธอพูดอะไรไม่ได้
กู่หยิงหยิงชักสีหน้าคิดจะจากไป
แต่นักข่าวล้อมเธอแน่นขึ้น ไม่มีโอกาสให้เธอออกไปได้เลย
“ขอโทษด้วยค่ะ เชิญพวกคุณหลีกไป ไม่เช่นนั้นฉันจะแจ้งความ”เวลานี้กู่หยิงหยิงได้แต่ใช้วิธีข่มขู่เท่านั้น
“คุณกู่จะแจ้งความ?คุณกู่มีสามัญสำนึกขึ้นมา อยากมอบตัวแล้วเหรอคะ?”
“คุณกู่คือโจรร้องจับผู้ร้ายหรือเปล่าเนี่ย”
แต่เห็นได้ชัดว่านักข่าวไม่ได้ยำเกรงการแจ้งความของเธอเลย ซึ่งถูกแต่ละคนสวนกลับด้วยประโยคไม่น่าฟังเลย
ชั่วขณะนั้นกู่หยิงหยิงไม่รู้ควรเผชิญหน้าอย่างไร เธอได้แต่ยืนนิ่งกับที่ โดยไม่พูดอะไร ไม่ว่านักข่าวจะถามอย่างไร เธอก็ไม่ตอบ
ไม่ชมไม่ได้ว่ากู่หยิงหยิงเป็นคนฉลาดไม่เบา วิธีการตอนนี้คือวิธีที่ดีที่สุด
ต่อมาทางตระกูลกู่รับรู้เหตุการณ์ จึงรีบส่งคนช่วยตัวกู่หยิงหยิงกลับไป
บัดนี้ภายในห้องโถงตระกูลถัง ทุกคนกำลังดูรายงานข่าวอยู่
“ความจริงกระจ่างแล้ว สะใจเหลือเกิน”เฟิ่งเหมียวเหมียวชอบอกชอบใจยิ่งนัก เหลือเพียงไม่ได้ปรบมือ กล่าวว่าดีเยี่ยมเท่านั้น
“กู่หยิงหยิงก็ได้รับกรรมที่ตัวเองก่อขึ้น คำโกหกก็เป็นคำโกหกวันยันค่ำ ต้องถูกเปิดโปงไม่ช้าก็เร็วอยู่แล้ว”ท่านย่าถังส่ายหัว พลางถอนหายใจเบาๆ
“เรื่องโกลาหลมาถึงขั้นนี้ เกรงว่างานแต่งของตระกูลกู่กับตระกูลเย่คงไม่เป็นผลแล้วสินะ?”เวลานี้คุณปู่เวินก็อยู่ที่บ้านตระกูลถังด้วย สิ่งที่เขากังวลที่สุดในตอนนี้คือเรื่องฉิงฉิงของเขา
“ฉันคาดว่าหายใจไม่ทันเลยแหละ ฉันรู้สึกเหมือนดูละครชุดใหญ่ยังไงอย่างนั้น เมื่อวานทางตระกูลเย่เพิ่งประกาศวันเวลาจัดงานแต่งงาน ฉันยังเป็นห่วงฉิงฉิงอยู่เลย วันนี้ทำไมกลายเป็นอย่างนี้ไปได้แล้วล่ะ?”เฟิ่งเหมียวเหมียวรู้สึกว่าเรื่องนี้พิสดารมาก
“รายงานก่อนหน้านี้คือคุณย่าเย่เปิดเผยว่า ผู้หญิงในวิดีโอไม่ใช่กู่หยิงหยิง จากนั้นกู่หยิงหยิงก็นำ ‘หลักฐาน’ออกมาแสดง จากนั้นก็กลายเป็นภาพวิดีโอเช่นนี้ ทำไมฉันรู้สึกว่ามีคนวางแผนทีละขั้นไว้ก่อนแล้ว?”
“ต้องมีคนแผนวางอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นหนูจะได้ดูละครเด็ดอย่างนี้เหรอ?”ท่านปู่ถังก็อดแสดงความคิดเห็นไม่ได้
“คือใคร?ใครเป็นคนวางแผนคะ?”เฟิ่งเหมียวเหมียวชะงัก เผยใบหน้าสงสัยหลายส่วน
ท่านย่าถังก็รีบเบนสายตามองท่านปู่ถังทันที เห็นได้ชัดว่าท่านย่าถังก็อยากรู้ว่าเป็นใคร?
“นอกจากเย่ซือเฉินแล้วยังมีใครอีก?”มุมปากท่านปู่ถังยกขึ้นเล็กน้อย“คาดว่าคงมีแต่เย่ซือเฉินเท่านั้นที่คิดวิธีนี้ได้ เขาไม่ต้องลงทุนอะไรเลย แต่สามารถทำให้ทั้งสองฝ่ายกัดกันเอง แก้ปัญหาทุกอย่างของเขาได้หมดเลย ซึ่งมันมีน้ำหนักกว่าที่เขาออกมาอธิบายหลายสิบเท่า ร้อยเท่า ไอ้เด็กคนนี้เจ้าเล่ห์จริงๆ”
“คุณบอกว่านี่เป็นแผนการของเย่ซือเฉิน?”ท่านย่าถังกะพริบตาถี่ๆอย่างเข้าใจสักที “ฉันก็ว่าทำไมก่อนหน้านี้เขาไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรเลย รู้สึกเหมือนกำลังซ่อนวิธีเด็ดอยู่”
“คุณชายสามเย่สมคำร่ำลือจริงๆ ลงมือเมื่อไหร่ มักจะทำให้ศัตรูอนาถแบบไม่อาจทนมองได้”เฟิ่งเหมียวเหมียวอดใจไม่ไหวหัวเราะออกมา
“ผมรู้สึกว่าตระกูลกู่ไม่ยอมยุติง่ายๆหรอก เรื่องนี้คงไม่จบง่ายๆ”คิ้วของท่านปู่ถังขมวดขึ้น
“อืม คุณปู่เวินพูดถูก ตระกูลกู่ไม่ยอมจบแน่ๆ ดังนั้นต่อจากนี้ยังคงปะทะกันอีกแน่ ปะทะจนกว่าจะยกเลิกงานแต่งงานสำเร็จ ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่เย่ซือเฉินอยากได้”มุมปากท่านปู่ถังยกขึ้น ใบหน้ามีรอยยิ้มหลายส่วน“ผมคาดว่าต่อจากนี้เย่ซือเฉินยังคงคอยผสมโรงยุแยงต่อไป”
เรื่องนี้ปิดท่านปู่ถังไม่มิดจริงๆ
“พูดอย่างนี้ แสดงว่าต่อจากนี้ก็ยังได้ดูงิ้วตระการตาตระการใจอีกใช่ไหมคะ?”ใบหน้าเฟิ่งเหมียวเหมียวมีความตื่นเต้นดีใจหลายส่วน เธอชอบดูงิ้วตระการตาอย่างนี้ที่สุด