ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – บทที่ 723 การตรวจดีเอ็นเอที่ทำให้เธอขวัญหนีดีฝ่อ (13)

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 723 การตรวจดีเอ็นเอที่ทำให้เธอขวัญหนีดีฝ่อ (13)

บทที่ 723 การตรวจดีเอ็นเอที่ทำให้เธอขวัญหนีดีฝ่อ (13)

“ใช่ แต่น้องถามเรื่องนี้ทำไม??”ถังหลินไม่เข้าใจเล็กน้อย เธอหาผลตรวจDNAของเย่โป๋เหวินทำไม?

“พี่ ถ้าสะดวกส่งผลตรวจมาให้ฉันได้ไหม?”เวินลั่วฉิงพูดคำนี้ เธอรู้สึกว่าตัวเองหัวใจเต้นเร็วหนักมาก เธอตื่นเต้น และกลัวด้วยมั้ง?

ใช่ เธอกลัว หากสิ่งที่เย่โป๋เหวินพูดเป็นความจริง เธอก็ไม่รู้ควรทำอย่างไรดี

แต่เธอเชื่อว่าสวรรค์คงไม่โหดร้ายต่อเธอขนาดนั้นหรอก

เธอกับเย่ซือเฉินมีลูกน่ารักสองคนแล้ว

“ได้ พี่หาเจอแล้วส่งให้น้อง”ถังหลินฟังเสียงผิดแปลกของเธอออก อดถามหนึ่งประโยคไม่ได้ “ฉิงฉิง เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า?”

“พี่ส่งมาให้ฉันก่อน มีผลตรวจแล้วฉันค่อยบอกพี่”เวินลั่วฉิงรู้ว่าหากเรื่องนี้เป็นความจริง คงปิดเรื่องนี้ไม่แน่หรอก แต่ก่อนจะเกิดขึ้น เธอไม่อยากเพิ่มคนกังวลมากขึ้นอีกหนึ่งคน

เธออยากดูผลตรวจก่อน

“ตอนนั้นพี่เอาผลตรวจของเย่โป๋เหวินมาจากโรงพยาบาล จากนั้นก็ให้คนไปสับเปลี่ยนเลย ตอนนี้ในมือพี่ไม่มีผลตรวจDNA พี่ให้คนไปเอามาให้น้องนะ”ถังหลินค้นหาดูแล้วก็ไม่เจอ จากนั้นก็รีบอธิบาย

“ค่ะ”เวินลั่วฉิงตอบกลับ พลางแอบถอนหายใจด้วยอารมณ์หนักอึ้งอย่างเห็นได้ชัด

“ไม่คิดจะบอกพี่ว่าเกิดอะไรขึ้นจริงๆเหรอ?”น้ำเสียงถังหลินปนความห่วงใยอย่างชัดเจน ช่วงนี้เกิดเรื่องมากมายกับเธอ เขากลัวจริงๆ

เวินลั่วฉิงเม้มปากไม่ได้พูดอะไร

“เกี่ยวข้องกับเย่ซือเฉินใช่ไหม?”ถังหลินคิดว่าสามารถทำให้เธอมีท่าทีเช่นนี้ น่าจะเกี่ยวข้องกับเย่ซือเฉินมั้ง?

เย่โป๋เหวินคือพ่อของเย่ซือเฉิน

แต่เขายังคงคิดสาเหตุที่เธอเอาผลตรวจดีเอ็นเอของเย่โป๋เหวินไม่ออก

“พี่อย่าเพิ่งถามเลย ตอนนี้ฉันยังไม่อยากพูด”

เวลาเวินลั่วฉิงพบเจอปัญหาไม่ชอบวิ่งหนี แต่เรื่องนี้ เธอไม่ได้เด็ดขาดเฉกเช่นเมื่อก่อน เธอถึงขั้นไม่อยากเอ่ยถึงเรื่องนี้ด้วยซ้ำ หรือเธอรู้สึกไม่กล้าพูดเล็กน้อย

“ได้ งั้นพี่ไม่ถามหนูแล้ว พี่หาเจอแล้วจะส่งให้น้องนะ”ถังหลินฟังเธอพูดอย่างนี้ จึงไม่ได้ถามต่อ

เขาอยากปกป้องเธอ แต่เขาก็เคารพความลับส่วนตัวของเธอด้วย เธอไม่อยากพูด เขาก็ไม่บังคับเธอ

“ขอบคุณค่ะพี่”ทันใดนั้นเวินลั่วฉิงรู้สึกปวดจี๊ดที่หัวใจ มีความรู้สึกที่บรรยายไม่ได้

เธอเข้มแข็ง พึ่งพาตัวเอง หลังคุณแม่เสียชีวิต ถึงเธอจะกลับไปอยู่ในบ้านตระกูลเวินแล้ว แต่เธอพึ่งตัวเองแทบทุกเรื่อง

เธอคิดว่าขอเพียงพยายาม ไม่มีอะไรยากสำหรับเธอ ขอเพียงมุมานะเต็มที่ ไม่มีเรื่องอะไรทำไม่สำเร็จ

แต่วินาทีนี้เธอกลับรู้สึกทำตัวไม่ถูก

เวินลั่วฉิงพูดเสร็จก็วางสาย เพราะเธอรู้ดีว่าเวลานี้เธอไม่อาจควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ เธอกลัวถังหลินจะฟังออก ตอนนี้เธอไม่อยากให้ใครรู้ทั้งนั้น……

ถังหลินกำมือถือไว้ ดวงตาทั้งคู่ค่อยๆหรี่ขึ้น เห็นได้ชัดว่าวันนี้เธอไม่ชอบมาพากล สภาพจิตใจของเธอแปลกๆ เธอเกรงใจต่อเขามากอย่างนี้ก็แปลกอีก

เกิดอะไรขึ้นกันแน่?

ทำไมเธอต้องเอาผลตรวจดีเอ็นเอของเย่โป๋เหวินด้วย?

หลังเวินลั่วฉิงวางสายก็พิงอยู่ที่เบาะนั่งรถ ดวงตาทั้งคู่มองออกไปยังกระจกรถ ทิวทัศน์นอกหน้าต่างเปลี่ยนแปลงเร็วมาก แต่กลับไม่เข้าตาเธอสักนิด

ดวงตาของเธอมองไปยังด้านนอก แต่ราวกับไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น สายตาเธอไม่ได้จดจ่อกับสิ่งใดเลย

เธอแค่นั่งอยู่เงียบๆ ไม่ขยับ ไม่พูดคุย และไม่มีการตอบสนองใดๆ

ไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้เธอคิดอะไรอยู่

ลุงหลี่เห็นท่าทางของเธอก็อดเป็นห่วงไม่ได้ แต่ไม่ได้ถามอะไร หลังเธอขึ้นรถก็ไม่ได้บอกว่าจะไปไหน ลุงหลี่คิดดูแล้วจึงอดถามเสียงเบาไม่ได้“คุณหนูครับตอนนี้จะกลับบ้านใช่ไหมครับ?”

เวินลั่วฉิงคล้ายกับไม่ได้ยินคำพูดของเขา เธอยังคงมองนอกหน้าต่างรถโดยไม่มีการตอบสนองใดๆ

ลุงหลี่ตกใจเล็กน้อย อดหันกลับไปมองเธอไม่ได้

“ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ กลับบ้านเถอะ”เวินลั่วฉิงเหมือนตื่นด้วยความตกใจ หันไปมองลุงหลี่แวบหนึ่ง จากนั้นก็พูดออกมาเสียที

เพียงแต่น้ำเสียงของเธอตอนนี้ดูล่องลอยไม่มั่นคง

“ครับ”เห็นเธอเป็นอย่างนี้ ลุงหลี่ก็ไม่กล้าถามอะไรมากมาย แต่เธอบอกว่าจะกลับบ้าน ลุงหลี่ก็รู้สึกโล่งอก

เวินลั่วฉิงละสายตาจากนอกหน้าต่างรถกลับมา จากนั้นดวงตาทั้งคู่ก็จ้องมองแต่มือถือของตัวเอง เธอจับมือถือไว้แน่ จับแน่นมาก แน่นมาก

เธอรอถังหลินส่งข้อมูลมาให้เธอ

เธอรอ รอ……

เธอไม่เคยมีอารมณ์นี้มารอคอยเรื่องเรื่องหนึ่ง

อันที่จริง ก่อนหน้านี้ความสังสัยของเย่โป๋เหวินนั้นถูกต้อง ตอนนั้นเธอเสนอจะไปตรวจ DNAเอง เพราะตัวเองมีความคิดไม่ซื่อจริงๆ

ตอนนั้นเธอคิดว่า หากผลตรวจปรากฏว่าเธอกับเย่โป๋เหวินมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดจริง เธอจะไม่บอกความจริงกับเย่โป๋เหวิน

แต่ถูกเย่โป๋เหวินมองทะลุเสียจนได้ ดังนั้นเย่โป๋เหวินจึงไปตรวจด้วยตัวเอง

การตรวจDNA ถึงแม้จะใช้เส้นสาย แต่เร็วสุดก็หนึ่งวัน ส่วนเธอสามารถเอาผลมาได้เลย ต้องได้รับผลตรวจก่อนเย่โป๋เหวินเป็นแน่

ถ้า เธอบอกว่าถ้าเกิด……

ถ้าเกิดผลตรวจDNAแสดงข้อมูลว่าเธอกับเย่โป๋เหวินมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดจริงๆ เธอจะต้องคิดหาวิธีเปลี่ยนผลตรวจแน่ๆ

ผลเช่นนั้น มันทำร้ายเธอ ทำร้ายเย่ซือเฉิน และยิ่งทำร้ายลูกรักทั้งสองคนของเธอ

หากเธอกับเย่ซือเฉินมีความสัมพันธ์เช่นนั้นจริงๆ มันจะเป็นเรื่องโหดร้ายสำหรับลูกๆมาก โหดร้ายมาก ผลลัพธ์เช่นนั้นเธอคิดไม่ได้ไม่กล้าคิด……

ดังนั้นเธอไม่มีทางอนุญาตให้ผลปรากฏออกสู่สาธารณชนเด็ดขาด ถึงแม้จะต้องปิดฟ้าข้ามทะเล เธอก็จะซ่อนเร้นเอาไว้

เธอรู้ว่าเรื่องปกปิดอำพรางไม่ได้ยากสำหรับเธอ แต่อนาคตล่ะ?

อนาคตเธอจะแกล้งทำเป็นไม่เกิดอะไรขึ้นได้ไหม?แกล้งทำเป็นไม่รู้อะไรเลย?

เธอปิดบังเย่โป๋เหวินได้ ปิดบังเย่ซือเฉินได้ ปิดบังลูกรักทั้งสองคนได้ และปิดบังคนทั้งโลกได้ แต่เธอก็ปิดบังตัวเองไม่ได้

มันเป็นความรู้สึกแบบไหนกัน?

ตอนนี้เธอได้แต่หวังว่าอย่ามีผลเช่นนั้นเลย

หากรู้ว่าจะเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น ตอนแรกเธอก็ไม่ควรไปพบหน้าเย่โป๋เหวิน

แต่เวินลั่วฉิงรู้ดีว่า ถึงวันนี้เธอไม่พบหน้าเย่โป๋เหวิน เรื่องนี้ก็หนีไปไม่พ้น

ไม่ช้าก็เร็วเย่โป๋เหวินหาตัวเธอเจอแน่!!

เวินลั่วฉิงกำลังคิด มือถือของเธอก็ดังขึ้นกะทันหัน!

เวินลั่วฉิงรีบเอามือถือออกมาดู จะรับสายด้วยจิตใต้สำนึก เธอคิดว่าถังหลินโทรหาเธอ แต่เมื่อเห็นเบอร์ มือของเธอก็แข็งค้าง ทุกการกระทำของเธอก็แข็งค้างกันหมด

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Status: Ongoing

มองที่เด็กๆ ที่มีหน้าตาเหมือนกับตัวเอง สมองเขาว่างเปล่า ชั่วคราว”แม่เราก็คือภรรยาของคุณนะคะ ทำไม ภรรยาของ คุณมีลูกสองคน คุณไม่รู้หรอ”เด็กๆ จ้องมองเขา เตือนเขา อย่าง”มีน้ำใจ” เขาชะงักไปสองวินาที สีหน้าเปลี่ยนหลาย แบบ”ที่รัก อยู่ไหน” วินาทีต่อไป เขาโทรหาเวินลั่วฉิง “ได้ รอ ฉันสักครู่ ฉันจะไปที่ที่อยู่ทันที จะมีSurpriseให้นะ”ดี ดีจัง เขาอยากจะดูว่าเธอยังมีเรื่องอะไรที่ปิดบังเขาไว้ จะคิดบัญชี อย่างจริงจังแล้วนะ”นี่มันร้ายใจเกินไปมั่ง”เด็กสองคนนี้ตะลึง Surpriseนี่มันใหญ่จัง ดูเหมือนว่า คนนั้นจะซวยค่ะ! ! !

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท