หากตีความหมายจากคำพูดของเห้อถงถง แสดงว่าเห้อถงถงก็คือผู้หญิงของคุณชายสามเย่ อย่างน้อยก็เป็นผู้หญิงที่คุณชายสามเย่เคยแตะต้องมาก่อน
ถังจื่อซีพยักหน้า แสดงให้รู้ว่าเธอเสียใจมากจริงๆ!
ผู้คน“……”
หรือจะเป็นลูกสาวนอกสมรสของคุณชายสามเย่จริงๆ?วันนี้มานับพ่อจริงๆ?
หากเด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกสาวของคุณชายสามเย่จริงๆ ผู้หญิงคนนี้คงไม่พูดต่อหน้าคุณชายสามเย่หรอก เพราะคำโกหกจะถูกเปิดโปงง่ายๆด้วยการตรวจดีเอ็นเอ
รู้สึกว่าเป็นละครยักษ์ใหญ่แห่งปีเลย ต่อจากนี้จะตีกันอีกไหม?
ถ้าตีกันอีก ไม่รู้ว่าคุณชายสามเย่จะช่วยใคร?
เพราะอีกฝ่ายเป็นลูกสาวของเขา ส่วนอีกฝ่ายก็เป็นผู้หญิงของเขา
เมื่อสักครู่คุณชายสามเย่แสดงให้เห็นว่ารักเวินลั่วฉิงมากๆ!!
ทว่าหากคนนี้เป็นลูกสาวแท้ๆของคุณชายสามเย่จริงๆ งั้น……
ละครยักษ์ใหญ่อย่างนี้ ผู้ชมชอบที่สุด ต่างจ้องมองแบบเบิกตากว้าง
เลขาหลิวรู้สึกงงไปหมด ตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น?!
ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร?คิดอยากจะจับท่านประธานของเขาใช่ไหม?
คุณนายจะเข้าใจผิดไหม?
ท่านประธานของเขาเพิ่งคืนดีกับคุณนาย ได้โปรดอย่าเกิดเรื่องไม่คาดฝันเลย!
เลขาหลิวมองไปยังเวินลั่วฉิง เห็นเวินลั่วฉิงโกรธอย่างชัดแจ้ง พลางพูดในใจว่าไม่ดีแล้ว ฉิบหายแน่ ฉิบจจจหายแน่ คุณนายเข้าใจผิดแล้วแถมยังโกรธจัดอีกด้วย
“เข้าใจผิดแล้วครับคุณนาย มันเป็นการเข้าใจผิดครับ เด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของท่านประธานอย่างแน่นอนครับ ผมรับรองได้”เลขาหลิวรู้สึกว่าตอนนี้เขาจำเป็นต้องกล้าหาญ มันเป็นสิ่งที่เลขาอย่างเขาจำเป็นต้องปฏิบัติ
เลขาหลิวพูดเช่นนี้ ทุกคนก็รีบเบนสายตามามองเขาอย่างรวดเร็ว
เห้อถงถงมองเขาด้วยความช็อก!
ถังจื่อซีมองเขาด้วยโทสะอันแรงกล้า!
เวินลั่วฉิงมองเขาด้วยสายตาเฉียบแหลม
มุมปากเห้อถงถงอดกระตุกไม่ได้ ตอนนี้เธอคิดว่าคุณชายสามเย่หาเรื่องใส่ตัวมากแล้ว เหนือความคาดหมายก็คือยังมีคนเสนอหน้ามาเพิ่มอีกคน
ไม่หาเหาใส่หัวก็จะไม่ตาย เลขาหลิว คุณแน่มาก!!
“คนลวงโลก”เจ้าหญิงน้อยถังจื่อซีจ้องเลขาหลิว ซึ่งเป็นแววตาที่มองคนชั่วที่เลวระยำเกินกว่าจะให้อภัย เมื่อกี้เลขาหลิวยังพูดว่าเธอคือเจ้าหญิงน้อย ตอนนี้กลับพูดว่าเธอไม่ใช่ลูกสาวของคุณพ่อ
“ไม่ ผมไม่ใช่คนลวงโลก เจ้าหญิงน้อยอย่างพึ่งโกรธเลย ผม……”เลขาหลิวสบตากับเจ้าหญิงน้อย เขาก็รู้สึกสะเทือนใจกะทันหันโอ้สวรรค์ เมื่อกี้เขาทำอะไรลงไป?
เขาทำร้ายจิตใจเจ้าหญิงน้อยแล้วหรือเปล่า?
เจ้าหญิงน้อยจะให้อภัยเขาไหมนะ
แต่สถานการณ์อย่างนี้ เขาจะทำอะไรได้?เขาจะปฏิบัติเช่นไรได้อีก?
“คุณก็คือคนลวงโลก”องค์หญิงถังจื่อซีโกรธแล้ว แสดงออกมาว่าไม่เชื่อเขาอีกต่อไป ยิ่งไม่มีทางให้อภัยเขา
“ไม่ ผมไม่ใช่คนหลอกลวงจริงๆ”เลขาหลิวร้อนใจจนจะร้องไห้แล้ว แต่กลับไม่มีคนช่วยเขาเลย ไม่มีใครแยแสเขา ทำไมชีวิตของเขาช่างรัดทนเช่นนี้?
คุณชายสามเย่มองเลขาหลิวแวบหนึ่ง ไม่ได้มีทีท่าจะยื่นมือเข้าช่วยเหลือเลย
เวินลั่วฉิงมองเลขาหลิวก็ไม่มีทีท่าจะช่วยเขาเช่นกัน
เลขาหลิวอดเศร้าใจไม่ได้ เขาทำอย่างนี้เพื่ออะไร?เพื่อใคร?
เขาทำเพื่อใคร?!
“ถ้าคุณไม่ใช่คนหลอกลวง ทำไมต้องว่าหนูไม่ใช่ลูกสาวของแด๊ดดี้ด้วย?”องค์หญิงน้อยถังจื่อซีจ้องเลขาหลิว พลางเชิดหน้าเล็กขึ้นเล็กน้อย แสดงให้เห็นว่าเธอโกรธมากจริงๆ
“เจ้าหญิงน้อยเข้าใจผิดแล้ว แม่ของหนูไม่ใช่ท่านประธานแน่นอน ไม่ใช่แน่นอน”ถึงแม้เลขาหลิวจะชื่นชอบองค์หญิงน้อยมากๆเลื่อมใสองค์หญิงน้อยมากๆ แต่นี่คือปัญหาของหลักการแห่งความจริง ซึ่งหลักการนี้จะมั่วไม่ได้
มั่วแล้วจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นได้!!
ซ้ำร้ายอาจถึงขั้นตาย แน่นอน คนที่ต้องตายก่อนเป็นคนแรกก็คือเขานั่นเอง!!
“คุณมันคนหลอกลวง หนูไม่สนใจคุณแล้ว”ถังจื่อซีลั่นออกมาอย่างเย็นชา โกรธจนไม่แยแสเขาอีกต่อไป
คุณชายสามเย่ไม่พูดจาเลยสักคำ จ้องมองอย่างนั้นท่าเดียว ซึ่งไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
“คุณรู้ได้อย่างไรว่าเธอไม่ใช่ลูกสาวของท่านประธานของคุณ?”เวินลั่วฉิงเห็นจื่อซีของเธอโกรธจัด เธอจึงรีบหันไปมองเลขาหลิว
ตอนนี้แววตาเวินลั่วฉิงยังถือว่าเรียบเฉย
“คุณนายต้องเชื่อผมนะครับ ผมรับรองว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของท่านประธานแน่นอนครับ”เมื่อเลขาหลิวสบตากับเวินลั่วฉิงก็ต้องสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เขาคิดว่าเวินลั่วฉิงไม่เชื่อเขา ถึงเวลาที่เขาจะต้องยืนหยัดอย่างแน่วแน่แล้วล่ะ
“คุณเอาอะไรมารับรอง?”หางคิ้วเวินลั่วฉิงยกขึ้นเล็กน้อย ตอนถามประโยคนี้ เธอจงใจมองไปยังคุณชายสามเย่
เวลานี้ผู้ชายคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่?ทำไมไม่มีทีท่าอะไรเลย ไม่พูดสักคำ
“คุณนายครับผมอยู่กับท่านประธานทุกวัน ต้องรู้อยู่แล้วครับ”เลขาหลิวรู้สึกว่าเหตุผลของตนหนักแน่นมาก มีพลังโน้มน้าวใจมาก
“ใช่หรือ?หรือว่าทุกครั้งที่ท่านประธานของคุณไปหาผู้หญิงจะพาคุณไปด้วยเสมอ?”เวินลั่วฉิงได้ยินคำพูดของเลขาหลิวก็อยากหัวเราะ เหตุผลอย่างนี้เลขาหลิวยังกล้าพูดออกมาได้
เธอจำได้ว่าห้าปีก่อน ครั้งนั้นเลขาหลิวก็ไม่ได้อยู่กับคุณชายสามเย่
เลขาหลิว“……”
พูดตามตรง เรื่องอย่างนี้ท่านประธานไม่มีทางพาเขาไปด้วยแน่ แต่เขารู้ดีว่าตลอดหลายปีมานี้คุณชายสามเย่ไม่รับผู้หญิงมาอยู่ข้างกายเลยสักคน
“พูดหมายความว่าไง?อะไรที่เรียกว่าทุกครั้งที่ผมไปหาผู้หญิง?ผมเคยไปหาผู้หญิงตั้งแต่เมื่อไหร่?”เดิมทีคุณชายสามเย่คอยสังเกตการณ์โดยไม่ให้สุ้มเสียง เมื่อได้ยินเวินลั่วฉิงพูดอย่างนี้ สีหน้าพลันเปลี่ยนไปเล็กน้อย
เธอพูดอย่างนี้ก็เกินไป!!
เขาไม่เคยไปหาผู้หญิงมาก่อน อีกอย่างหลายปีมานี้ ผู้หญิงที่เสนอตัวถึงบ้าน เขายังไม่ได้มองดีๆเลย แน่นอน ยกเว้นเธอคนเดียว!!
“คุณนายครับ ท่านประธานไม่เคยไปหาหญิงอื่นมาก่อนเลยครับ ผู้หญิงไร้ยางอายที่เสนอตัวมาถึงบ้าน ท่านประธานยังไม่มองเลยครับ
ยิ่งไม่มีทางแตะต้องเด็ดขาด”เลขาหลิวรีบคล้อยตาม เกรงว่าเวินลั่วฉิงจะไม่เชื่อ
“เสนอตัวมาถึงบ้านเอง……ผู้หญิงไร้ยางอาย……ไม่มองแม้แต่แวบเดียว ยิ่งไม่มีทางแตะต้อง?”เวินลั่วฉิงมองไปยังคุณชายสามเย่ คำพูดนี้มีเลศนัยอย่างเห็นได้ชัด
ห้าปีก่อน เธอก็ถือว่าเสนอตัวถึงบ้านเองหรือเปล่า?แถมเธอยังไปบ้านเขากลางดึก เขาไม่ใช่แตะต้องแล้วเหรอ?
เมื่อแตะต้องแล้วก็อาจจะมีลูกได้ เขาที่เป็นคนฉลาดปราดเปรื่องมาโดยตลอดยังคิดไม่ได้อีกหรือ?
จื่อซีที่รักมาหาถึงที่แล้ว เขายังคิดอะไรอยู่?ยังไม่อยากยอมรับ?
“นอกจากคุณ”คุณชายสามเย่เข้าใจความหมายของคุณ รีบแสดงความภักดีของตน
“อืม”เวินลั่วฉิงตอบรับหนึ่งคำ พลางหันไปมองถังจื่อซีอีกครั้ง ลูกรักจื่อซีมาถึงที่แล้ว คงอยากนับพ่อกับเขาเต็มแก่มากแล้ว
ตอนนี้เธอไม่คัดค้านกับเรื่องนี้เลย
คุณชายสามเย่เห็นเวินลั่วฉิงมองไปยังถังจื่อซีอีกครั้ง ดวงตาของเขาก็กะพริบรัวๆ ทันนั้นก็พูดอย่างกะทันหันว่า “คุณต้องเชื่อผม ผมไม่มีทางมีลูกสาวนอกสมรสแน่ นอกเสียจาก……”