ตอนนี้ตำรวจทำคดีไม่แม้แต่จะจดบันทึกคำให้การ?มันไม่เป็นไปตามหลักการจริงๆ
“คุณ?”กู้ฉิ้งหยู่โกรธจนหน้าเขียว“คุณเป็นคนของตระกูลถัง……”
เวินลั่วฉิงได้ยินเขาพูดเช่นนี้ก็รู้ว่าเขาจะพูดอะไร มุมปากเวินลั่วฉิงยกขึ้นพร้อมกับมองไปยังคุณกงที่นั่งอยู่บนโซฟา รีบกล่าวว่า “แต่ก็น่าชื่นชมกับความกล้าหาญของคุณกง น่าเลื่อมใสยิ่งนัก ฉันสนับสนุนคุณกง ผู้หญิงถูกทำร้ายก็ควรยืนออกมาอย่างกล้าหาญ จับตัวผู้ชายต่ำทรามมาลงโทษตามกฎหมาย”
กู้ฉิ้งหยู่:“……”
ทุกคน:“……”
บอดี้การ์ดที่มาพร้อมกับถังหยุนเฉิง:“……”
คุณหนูใหญ่ คุณชายใหญ่ถังคือพี่ชายของคุณ คุณพูดอย่างนี้จะดีเหรอ?
“คุณกง คุณพูดต่อเลย?เล่าเรื่องที่ผู้ชายต่ำทรามทำกับคุณออกมา ให้หัวหน้ากู้คืนความยุติธรรมให้คุณ”เวินลั่วฉิงมองไปยังคุณกงด้วยสีหน้าที่ให้กำลังใจโดยแท้จริง
เวินลั่วฉิงมั่นใจว่าเรื่องพวกนี้ถังหลินไม่ได้เป็นคนทำ แต่บาดแผลบนร่างกายของคุณกงนั้นเป็นของจริง หากถังหลินไม่ได้ทำ ดังนั้นจึงต้องมีคนอื่นทำอย่างแน่นอน
สิ่งสำคัญคือใครทำให้คุณกงบาดเจ็บเพียงนี้?จากนั้นก็ใส่ร้ายป้ายสีให้ถังหลิน?!
ทุกคน“……”
คุณกงก็มึนงง ไม่เข้าใจความหมายของเวินลั่วฉิง?
นาทีนี้สายตาทุกคนหันมาอยู่ที่คุณกงอีกครั้ง คุณกงมองสายตาผู้คนแล้วแอบถอนหายใจหนึ่งเฮือก ก่อนจะพูดต่อไปว่า “ตอนนั้นฉันดิ้นสุดชีวิต ต่อต้านให้ถึงที่สุด แต่เขาก็ไม่ปล่อยฉัน เขาทำร้ายฉัน ไม่สนใจการต่อต้านของฉัน เขาฝืนใจฉัน ต่อมาฉันก็สลบไป พอฉันตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้นก็รีบแจ้งความทันที……”
คุณกงร้องไห้อย่างปวดใจหนักกว่าเก่า
“คุณกงเป็นลมตอนไหน?”เวินลั่วฉิงหรี่ตา ยังคงใช้เสียงราบเรียบ ฟังความผิดแปลกไม่เจอ
“ฉันไม่รู้เวลาแน่ชัด แต่ฉันรู้สึกเหมือนผ่านไปนานมาก น่าจะประมาณตีสองตีสามเห็นจะได้……”แผลบนตัวคุณกงไม่ใช่เพิ่งมี ดังนั้นเธอจึงต้องพูดให้สอดคล้องกับรอยแผลบนร่างกายจริงๆ
“คุณกง คุณบอกว่าระหว่างนี้คุณดิ้นรนและต่อต้านตลอดใช่ไหม?”เวินลั่วฉิงยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย รีบถามหนึ่งประโยค
“ใช่”คุณกงไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมตอนนี้เวินลั่วฉิงถึงได้ถามเช่นนี้ แต่ก็ยังคงพยักหน้าเบาๆ
“หากคุณกงต่อต้านจริงๆ งั้นบนกายชายต่ำทรามคงต้องมีรอยแผลทิ้งไว้ อย่างเช่นรอยเล็บข่วนอะไรประมาณนี้ ใช่ไหม?”เวินลั่วฉิงรอคำนี้ของเธอ ดังนั้นเมื่อสิ้นเสียงคุณกง เวินลั่วฉิงก็รีบเสริมขึ้นมาหนึ่งประโยค
ซึ่งนี่เป็นการวิเคราะห์ที่ปกติมาก ในเมื่อคุณกงต่อต้านสุดชีวิต งั้นก็ต้องมีรอยแผลบนตัวถังหลินถึงจะถูก……
เวินลั่วฉิงพูดจบ ทันใดนั้นถังหลินก็หันมามองเวินลั่วฉิง พลางจ้องเขม็งเวินลั่วฉิงอย่างแปลกประหลาด
เวินลั่วฉิงชะงัก ทำไมเหรอ?เธอพูดอะไรผิดไป?
เธอกำลังช่วยเขาล้างมลทินอยู่นะ
สถานการณ์อย่างนี้ อยากพลิกคดีนั้นยากแสนยากเลยรู้ไหม?
ไม่ง่ายเลยกว่าเธอจะหาทางออกของคดีนี้ได้ แล้วถังหลินจ้องเธออย่างนั้นทำไม?
ถังหลินไม่ได้แตะต้องผู้หญิงคนนี้ ผู้หญิงคนนี้ก็คงไม่ได้ทำร้ายเขา เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าเป็นวิธีพลิกคดีที่ไม่เลวเลย
สถานการณ์เช่นนี้ เธอหาทางออกอย่างนี้ได้ก็นับว่ายากเย็นแสนเข็ญแล้ว!
นอกเสียจาก……
เวินลั่วฉิงตกใจ จากนั้นเบิกตากว้างมองถังหลิน
ถังหลินจ้องเขม็งเธอเช่นนี้?คงไม่ใช่บนกายถังหลินมีรอยข่วนจริงๆหรอกนะ?
เวินลั่วฉิงตื่นตระหนกตกใจ!!
ใครบอกเธอได้บ้างว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกันแน่?!
เกิดอะไรขึ้นหรือ?
เธอต้องการเวลาประเมิน ต้องประเมินดีๆ!!
“ใช่ ตอนนั้นฉันข่วนเขาจริงๆ บริเวณแขนและหลังของเขามีรอยที่โดนฉันข่วน”คุณกงเงยหน้ามองเวินลั่วฉิง พร้อมกับพูดออกมาทีละคำ
บัดนี้แววตาส่วนลึกของคุณกงมีความลำพองใจหลายส่วน
เวินลั่วฉิง“……”
เธอรู้สึกเหมือนขุดหลุมให้พี่ชายตน เธอจะฝังพี่ชายของตนตัวเป็นๆหรือเปล่า?
ทว่าข้อมูลที่ถังหลินให้เธอคือเขาไม่ได้แตะต้องผู้หญิงคนนี้นี่นา ไม่ได้แตะ แล้วทำไมถึงถูกผู้หญิงคนนี้ข่วนได้?
ถังหลินที่เป็นผู้ระมัดระวังตัว สถานการณ์อย่างอื่นจะโดนผู้หญิงข่วนได้หรือ?
มันเป็นไปไม่ได้เลย ไม่มีทางอย่างแน่นอน?
งั้นมันผิดจุดไหนกัน?
ใช่ เธอเป็นนักเชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา แต่เธอไม่ใช่เทพธิดา ตอนนี้เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น ปล่อยให้เธอทายอยู่อย่างนี้ จะหาเบาะแสได้อย่างไร?
“ใช่เหรอ?งั้นเชิญถังหลิน……”กู้ฉิ้งหยู่ได้ยินคำพูดของคุณกง ดวงตาก็สว่างเจิดจ้า รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันควัน
เจตนาของกู้ฉิ้งหยู่ชัดเจนมาก ในเมื่อร่างกายถังหลินมีรอยข่วน ดังนั้นก็ต้องถอดเสื้อให้ทุกคนดู
โอกาสดีๆอย่างนี้จะปล่อยไปได้อย่างไร
“เป็นชายชั่วจริงๆ”เวินลั่วฉิงถุยน้ำลายแรงๆ เธอเป็นคนขุดหลุมให้ถังหลิน ดังนั้นหลุมนี้ต้องเป็นเธอที่จะกลบให้กลับมาเรียบอีกครั้ง การตอบสนองของถังหลินเมื่อสักครู่ เวินลั่วฉิงก็รู้ว่าร่างกายถังหลินมีรอยข่วนจริงๆ แถมยังมีไม่น้อยด้วย
ถ้าถอดเสื้อถังหลินเวลานี้จริงๆ เธอไม่กล้าคิดผลที่ตามมาเลย
โอ้พระเจ้า!!
ล้อเล่นอะไรขนาดนี้?!
“ถังฉิ้นเอ๋อ คุณด่าใคร?”กู้ฉิ้งหยู่หน้าเปลี่ยนสี เพราะเวินลั่วฉิงแทรกเข้ามาด่าตอนที่เขาพูด ฟังแล้วเหมือนกำลังด่าเขาอยู่จริงๆ
“ฉันด่าผู้ชายชั่วที่ทำร้ายคุณกง”เวินลั่วฉิงมองเขาแวบหนึ่ง พร้อมกับตอบอย่างมีเหตุผล
“คนที่ทำร้ายคุณกงคือถังหลิน”กู้ฉิ้งหยู่หัวเราะเสียงเย็น เขาพูดในขณะที่จงใจมองถังหลิน
“อืม ไม่ว่าใครเป็นคนทำร้ายคุณกง ล้วนเป็นชายชั่วทั้งนั้น”เวินลั่วฉิงรีบเสริมหนึ่งประโยคด้วยใบหน้าเที่ยงตรง
กู้ฉิ้งหยู่:“……”
เธอพูดเช่นนี้ทำให้กู้ฉิ้งหยู่ต่อความยาวสาวความยืดไม่เป็นเลย
“ฉันได้ยินว่าห้องนี้จองให้คุณชายสามเย่ ซึ่งองค์ชายใหญ่ของประเทศDมอบหมายให้คุณหยวนจองห้องให้คุณชายสามเย่ ถังหลินรู้เรื่องนี้ไหม?”เวินลั่วฉิงรีบเปลี่ยนหัวข้อการสนทนาทันที เธอปล่อยให้กู้ฉิ้งหยู่จับถังหลินถอดเสื้อไม่ได้
“รู้สิ องค์ชายใหญ่ประเทศDบอกฉันแล้ว ซึ่งตอนนั้นหยวนจุนหลินก็อยู่ด้วย”ถังหลินเข้าใจเจตนาของเวินลั่วฉิง พลางตอบเสียงต่ำหนึ่งประโยค
“ในเมื่อองค์ชายใหญ่ประเทศDจองห้องให้คุณชายสามเย่ งั้นคุณชายสามเย่ก็มาได้ทุกเมื่อ ถ้าถังหลินเข้ามาทำอย่างนั้นที่ห้องคุณชายสามเย่จริงๆ ไม่กลัวคุณชายสามเย่จะมาเห็นหรือ?ทำไมไม่กลับห้องตัวเอง?”คำพูดของเวินลั่วฉิงจงใจจุดประกายความสงสัยขึ้น ถังหลินรู้ว่าเป็นห้องของคุณชายสามเย่ ดังนั้นก็ต้องรู้ว่าคุณชายสามเย่จะมาถึงตลอดเวลา สถานการณ์เช่นนี้ ถังหลินจะรีบร้อนทำเรื่องอย่างนั้นจริงๆหรือ?
ไม่เพียงแต่ถังหลินไม่ทำ คนปกติก็ไม่ทำเช่นกัน?