เวินลั่วฉิงได้รับข้อความของถังหลินก็ตกใจ เธอรีบเงยหน้ามองไปยังถังหลิน
สีหน้าถังหลินมืดครึ้มมาก ดวงตาเย็นแข็งถึงขีดสุด เสมือนสามารถฆ่าคนได้ตลอดเวลา
เวินลั่วฉิงช็อก เธอไม่ต้องถามก็รู้ว่าถังหลินหมายถึงยาอะไร และเธอรู้ความร้ายกาจของยาชนิดนี้ดี
“ดังนั้น?”เวินลั่วฉิงรีบตอบกลับหนึ่งข้อความ ดื่มยาประเภทนั้นเข้าไป แม้จะมีจิตใจที่แข็งแกร่งเพียงใด สุดท้ายก็คงควบคุมตัวเองไม่ไหวอยู่ดีหรือเปล่า?
“เมื่อคืนมีผู้หญิงจริงๆ แต่ไม่ใช่คุณกงแน่นอน”ถังหลินกะพริบตารัวๆ จากนั้นก็ส่งข้อความให้เวินลั่วฉิงอีกครั้ง ถังหลินรู้ว่าสถานการณ์เช่นนี้ จำเป็นต้องให้เวินลั่วฉิงรู้ความจริง
เวินลั่วฉิง“……”
โอ้พระเจ้าช่วย!
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
จะบีบเธอให้ตายหรือนี่?สะเทือนฟ้าสะเทือนดินอย่างนี้จะให้เธอรับอย่างไร?!
พี่ชายแท้ๆของเธอ อย่าล้อเล่นกันอย่างนี้สิ?
เขาเสวยสุขเสร็จ แล้วให้เธอตามล้างตามเช็ดอย่างนั้นหรือ?
และอีกอย่างตอนนั้นเขาโดนวางยา แถมยังมีผู้หญิงจริงๆหนึ่งคน?ถึงแม้ไม่ใช่คุณกง แต่ก็ยังมีผู้หญิงอื่น
ดังนั้น จะให้เธอตามล้างตามเช็ดเรื่องเละเทะอย่างไร?
ตามล้างตามเช็ดอย่างไร?
เธอเป็นคน ไม่ใช่ทวยเทพ!!
เวินลั่วฉิงสูดลมหายใจยาวๆ มันเหนือความคาดหมายของเธอ ไม่นึกว่าจะกลายเป็นแบบนี้ไปได้?
ไม่ว่าอย่างไรเธอก็คิดไม่ถึงว่าเมื่อคืนถังหลินจะทำ……
มิน่าล่ะผลตรวจออกมาชี้ชัดว่าเป็นของถังหลินจริงๆ!!
เวินลั่วฉิงสูดลมหายใจเข้า ออก พยายามสุดความสามารถเพื่อให้ตัวเองสงบลง สงบลง!
“พี่มั่นใจได้อย่างไรว่าไม่ใช่คุณกง?”จากนั้นเธอก็ส่งข้อความให้ถังหลินอีกครั้ง
ไม่ใช่เวินลั่วฉิงไม่เชื่อมั่นในตัวถังหลิน แต่เธอรู้ว่าโดนวางยาอย่างนั้นแล้วจะไม่มีสติ เกรงว่าถังหลินเองก็ไม่รู้ว่าเอากับใครอยู่?
อีกทั้ง โรงแรมกั๋วซินไม่ใช่ว่าใครจะเข้ามาเพ่นพ่านได้ เมื่อคืนองค์ชายประเทศDทั้งสองพระองค์พักอยู่ที่ชั้นแปด ซึ่งคนทั่วไปไม่อาจย่างกรายเข้ามาได้
ผู้หญิงที่ถังหลินบอกมันโผล่มาจากไหน?หรือเป็นภาพหลอนของถังหลิน?
“พี่มั่นใจ”ถังหลินไม่ได้บอกสาเหตุ แต่ท่าทางหนักแน่นมาก
เวินลั่วฉิงชะงัก ในเมื่อถังหลินมั่นใจขนาดนี้ เธอควรเชื่อถังหลินใช่ไหม?
ควรเชื่อเขา!!
หากเป็นอย่างที่ถังหลินบอกจริงๆ งั้นเรื่องนี้คงต้องวางแผนระยะยาวเสียแล้ว
เวินลั่วฉิงรู้ว่าแม้เรื่องนี้จะยากเพียงใด แต่เธอก็ต้องคิดหาทางออกให้ได้
จำเป็น!!
ต้องคิดหาทางออก!!
ใครใช้ให้ถังหลินเป็นพี่ชายเธอกัน?
แน่นอนเธอเชื่อมั่นในตัวถังหลิน เชื่อว่าถังหลินไม่ได้แตะคุณกง
“คุณกง คุณว่าคุณเปิดประตูให้ถังหลิน ถังหลินเลยดึงคุณเข้าห้อง ตอนนั้นคุณต่อต้านตลอด ใช่ไหม?”นัยน์ตาของเวินลั่วฉิงรีบหันไปมองคุณกง น้ำเสียงเย็นเยียบหลายส่วน แต่ไม่มีความผิดแปลกบนใบหน้า
“ใช่”แววตาคุณกงมีความสับสนแวบผ่าน จากนั้นก็ผงกหน้า เพราะเมื่อกี้เธอเพิ่งพูดเองหยกๆ ตอนนี้คงแก้ไม่ได้แล้ว
“แต่จากประตูถึงบนเตียงไม่เห็นความยุ่งเหยิงอะไรเลย ไม่เห็นร่องรอยการต่อต้านเลยสักอย่าง”ดวงตาเวินลั่วฉิงมองจากประตูไปยังเตียง คำพูดนี้มีเลศนัยแฝงอยู่
“คุณถังหมายความว่าอย่างไร?คุณถังอยากบอกว่าฉันเต็มใจอย่างนั้นหรือ?อยากใช้สิ่งนี้ทำให้ถังหลินบริสุทธิ์ใช่ไหม?”คุณกงได้ยินคำพูดของเวินลั่วฉิง ดวงตาก็หรี่ขึ้น ทันใดนั้นเธอเงยหน้ามองเวินลั่วฉิงด้วยใบหน้าแค้นเคืองหลายส่วน
“คิกคิก……โทษเต็มใจเบากว่าข่มขืนจริงๆ”คุณกงมองเวินลั่วฉิงด้วยรอยยิ้มเสียงเย็นอย่างเย้ยหยัน ความหมายของคำนั้นชัดเจนมาก
เวินลั่วฉิงจงใจให้เธอเข้าใจผิด ดังนั้นจึงไม่ได้อธิบายอะไร และจงใจถามต่อไปว่า “งั้นระหว่างนั้นมีคนอื่นเข้ามาที่ห้องบ้างไหม มีคนเห็นคุณกงต่อต้านอย่างดิ้นรนบ้างไหม?”
“ไม่มี ไม่มีใครเข้ามา ดังนั้นไม่มีคนเห็นฉันต่อต้าน”ความเย้ยหยันตรงมุมปากของคุณกงยิ่งเด่นชัดมากขึ้น“ทำไม?ความหมายของคุณถังคือ ไม่มีใครเห็นฉันต่อต้าน แสดงว่าฉันเต็มใจอย่างนั้นหรือ?งั้นขอถามคุณถังหน่อยว่า แผลบนตัวฉันมันเป็นอะไรกันแน่?”
ใบหน้าคุณกงมีความแค้นเคืองอย่างแรงกล้า ดูแล้วสมจริงมากๆ!!
“จากที่คุณกงเล่ามา เมื่อคืนคุณกงถูกถังหลินดึงเข้าห้อง วันรุ่งขึ้นคุณกงตื่นมาแล้วยังอยู่ในห้องนี้อีก จากนั้นคุณก็แจ้งความ ถูกต้องไหม?”ไม่รู้ว่าเวินลั่วฉิงเข้ามาในห้องเมื่อไหร่ ดวงตาของเธอจับอยู่ที่ตัวคุณกง:“ระหว่างนั้นไม่มีใครเคยเข้ามา ถูกไหม?”
“ใช่”แววตาคุณกงล่องลอยเล็กน้อย แต่ก็ยังคงตอบอย่างรวดเร็ว
เวินลั่วฉิงมองผ่านเธอ จากนั้นก็เดินไปอยู่ด้านหน้าเตียง พลางหาเส้นผมที่ใต้หมอนเจอหนึ่งเส้น ต่อด้วยยื่นให้กับหมอนิติเวช “คุณหมอค่ะ รบกวนช่วยตรวจสอบหน่อยค่ะว่าเป็นเส้นผมของถังหลิน?หรือเป็นของคุณกง?”
“เส้นผมนี้สั้นมาก ดูแล้วไม่เหมือนของคุณกง และยาวกว่าเส้นผมถังหลินเล็กน้อย……”เวินลั่วฉิงรำพึงอีกหนึ่งประโยค
“อาจเป็นของแขกที่ผ่านมาก็ได้”กู้ฉิ้งหยู่รีบตอบหนึ่งประโยค
“คุณกงเป็นพนักงานที่นี่ น่าจะรู้ดีว่าชั้นแปดนี้ดูแลกันอย่างไร?ความเป็นไปได้อย่างที่หัวหน้ากู้กล่าวมานั้นไม่มีทางเป็นไปได้เลย”เวินลั่วฉิงกวาดสายตามองกู้ฉิ้งหยู่ จากนั้นก็มองคุณกง มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย
คุณกงไม่พูด แต่สีหน้าพลันเปลี่ยนไปอย่างเลือนราง
“ตรงมุมผ้าห่มมีคราบเลือดนิดหนึ่ง รบกวนคุณหมอตรวจสอบหน่อยค่ะว่าเป็นของคุณกง?หรือของถังหลิน?”เวินลั่วฉิงดึงผ้าห่มออก พบว่าตรงมุมผ้าห่มมีรอยเลือดอยู่นิดหนึ่ง ซึ่งจางมากๆ หากไม่สังเกตดีๆคงไม่พบง่ายๆ
กู้ฉิ้งหยู่นำตำรวจมา ไม่ได้สำรวจอย่างละเอียด ดังนั้นจึงไม่สังเกตพบสิ่งนี้
ทันใดนั้นสีหน้าคุณกงตึงเครียดหลายส่วน พลางนั่งตัวตรงด้วยจิตใต้สำนึก
“ครับ”หมอนิติเวชตอบรับ พร้อมกับเริ่มเก็บตัวอย่างชิ้นส่วน
“คุณหมอค่ะ พอจะตรวจสอบได้ไหมคะว่าทิ้งคราบเลือดไว้ตอนไหน?”เวินลั่วฉิงเห็นหมอนิติเวชเก็บตัวอย่างชิ้นส่วนก็ถามขึ้นมาหนึ่งประโยคกะทันหัน
“ได้ครับ สามารถวิเคราะห์จากความเข้มข้นของเลือดว่าซึมเข้าเวลาไหนได้ครับ”หมอนิติเวชหยุดการกระทำ จากนั้นก็มองเวินลั่วฉิง พลางตอบอย่างรวดเร็วและเชี่ยวชาญ
“อืม งั้นรบกวนคุณหมอช่วยตรวจหาเวลาที่มีรอยเลือดนี้ด้วยค่ะ”มุมปากเวินลั่วฉิงยกขึ้นเล็กน้อย ยังจงใจมองคุณกงแวบหนึ่งด้วยแววตาลึกซึ้ง
คุณกงนั่งตัวตรงมากขึ้น
นักข่าวเห็นสถานการณ์เช่นนี้ก็เริ่มวิพากษ์วิจารณ์เสียงเบา
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
“เจอของพวกนั้นที่เตียง ปกติก็ควรเป็นของคุณกงหรือไม่ก็เป็นของถังหลินนะ?”
“ถ้าไม่ใช่?”