“ถ้าไม่ใช่!เรื่องนี้ก็แปลกแล้วล่ะ!!”
“ตามที่คุณกงเล่ามา เมื่อคืนเธอถูกถังหลินดึงเข้าห้องแล้วอยู่จนถึงตอนนี้ ระหว่างนี้ไม่มีใครเข้ามา ดังนั้น……”
“อย่าดังนั้นเลย รอผลตรวจเงียบๆเถอะ อย่าได้พูดเหลวไหลก่อนผลตรวจจะออกมา”
เกิดเหตุการณ์นี้ที่โรงแรมกั๋วซิน ยังเชื่อมโยงถึงถังหลินอีก ดังนั้นนักข่าวจึงไม่กล้าพูดพร่ำเพรื่อ
นักข่าวรู้ดีว่าตอนนี้เรื่องนี้สับสนเป็นปริศนามาก หากพูดจาส่งเดชในเวลานี้เกรงว่าจะรนหาปัญหาใส่ตัวเปล่าๆ
กู้ฉิ้งหยู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย ใบหน้าเผยความสงสัยหลายส่วน ดวงตาทั้งคู่มองไปยังคุณกงที่นั่งอยู่บนโซฟา
เวินลั่วฉิงดูออกว่ากู้ฉิ้งหยู่ไม่ค่อยรู้รายละเอียดของเรื่องมากนัก เช่นนั้นผู้ที่บงการใส่ร้ายเรื่องนี้ คงรู้ว่าตระกูลกู้กับตระกูลถังไม่ถูกกัน ดังนั้นจึงจงใจจัดกู้ฉิ้งหยู่มารับผิดชอบคดีนี้
ดูออกว่าคุณกงสำคัญกว่ากู้ฉิ้งหยู่เล็กน้อย
ชั่วขณะนี้ ภายในห้องไม่มีใครพูดคุย ต่างนั่งรอผลตรวจอยู่เงียบๆ
ผลตรวจสำคัญมาก และเป็นประเด็นสำคัญมาก!!
เวลาค่อยๆล่วงเลยไปทีละนิด คนรอเริ่มใจร้อนมาบ้างแล้ว แต่ไม่มีใครเร่ง คุณหมอนิติเวชยังคงตรวจสอบอย่างตั้งใจอยู่……
“นี่มันอะไรกัน?”ซึ่งเวลานี้มีเสียงส่งเข้ามากะทันหัน
จากนั้นก็มีผู้ชายเดินเข้ามา ผู้ชายคนนี้หน้าตาหล่อเหลา ทุกอิริยาบถแฝงไปด้วยกลิ่นอายของชนชั้นสูง เมื่อยืนเทียบกับเย่ซือเฉินและถังหลินแล้วก็ไม่ได้ข่มบารมีแต่อย่างใด
“เย่ คุณไม่ใช่บอกว่าไม่มาหรอกเหรอ?เกิดอะไรขึ้น?หรือว่าคุณมาภายหลัง?แล้วทำไมคุณไม่บอกผมล่ะ?”มีผู้ชายเดินเข้ามา เมื่อเห็นเย่ซือเฉินดวงตาก็เบิกกว้าง ไม่ปิดบังความประหลาดใจของเขาเลยสักนิด
เวินลั่วฉิงเงยหน้ามองผู้ชายที่เพิ่งเดินเข้ามา พลางหรี่ตาขึ้น คนนี้คือคนที่จองห้องให้เย่ซือเฉิน นัดเย่ซือเฉินเจอกันที่โรงแรมกลางดึกกลางดื่น?
เจ้าชายใหญ่ประเทศD!
เห็นได้ชัดว่าเจ้าชายใหญ่เพิ่งตื่นนอน เวินลั่วฉิงมองดูเวลาก็เห็นยังไม่ถึงแปดโมง เขาตื่นมาในเวลานี้ก็ถือว่าปกติ
ภายในห้องมีระบบกั้นเสียงที่ดีเยี่ยม ก่อนหน้านี้เขาน่าจะไม่ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวด้านนอก
เย่ซือเฉินมองเจ้าชายใหญ่แวบหนึ่ง แต่ไม่ได้สนใจเขา
เจ้าชายใหญ่ประเทศDก็ไม่ได้ซีเรียส ใบหน้ายังคงมีรอยยิ้มหลายส่วน“ตอนผมโทรหาคุณเมื่อคืน คุณบอกว่าไม่มา คุณรู้ไหมว่าผมเสียใจขนาดไหน?”
เวินลั่วฉิงมองเจ้าชายใหญ่อีกครั้ง แววตาเฉื่อยชามากๆ……
“คุณหุบปากได้แล้ว”เย่ซือเฉินเห็นเวินลั่วฉิงมองคุณชายใหญ่แวบหนึ่ง สีหน้าของคุณชายสามเย่ก็เคร่งขรึมเล็กน้อย คำพูดนี้ไม่ได้เกรงใจกันเลย
ทุกคนเห็นภาพนี้ก็ต้องตะลึงงัน ท่านนี้คือเจ้าชายจากประเทศD เป็นแขกสำคัญของประเทศ ได้ยินว่าเจ้าชายใหญ่ของประเทศ Dมาครั้งนี้ก็เพื่อมาร่วมเซ็นสัญญาการค้าที่มีมูลค่าสูง
แต่คุณชายสามเย่แสดงท่าทีเช่นนี้ต่อเขา?มันสมควรแล้วหรือ?
มันเหมาะสมหรือ?!
“คุณว่าพวกเราไม่เจอกันตั้งนาน ผมก็แค่อยาก……”ทว่าเจ้าชายใหญ่ไม่ได้โกรธ ยังคงมีรอยยิ้มบนใบหน้า ยังคงเป็นน้ำเสียงแกล้งแหย่เช่นเดิม
คุณชายสามเย่หรี่ตาขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็ทอแสงเย็นเยียบออกไป ความเย็นเยียบนี้ปนความอันตรายอย่างไม่ปิดบังเลยสักนิด
คุณชายใหญ่สบตากับคุณชายสามเย่ จากนั้นก็ลูบจมูกแล้วไม่พูดอะไรต่อ
“เกิดอะไรขึ้น?ทำไมวุ่นวายแต่เช้าอย่างนี้?ผู้หญิงคนนี้เป็นอะไร?ทำไมมีสภาพเหมือนโดนทำร้ายอย่างนั้น?”ในที่สุดเจ้าชายใหญ่ก็เบี่ยงเบนความสนใจไปที่เรื่องอื่นภายในห้องแล้ว
“คุณเป็นคนจองห้องนี้ให้ผม คุณว่าผู้หญิงคนนี้เป็นอะไรกัน?”ดวงตาคุณชายสามเย่มืดมน รีบกวาดสายตามองเขา แววตานั้นเย็นเยียบเล็กน้อย แต่ไม่มีอารมณ์อย่างอื่น
“หมายความว่าอะไร?คุณหมายความว่าเมื่อคืนผู้หญิงคนนี้นอนห้องนี้?”เจ้าชายใหญ่ชะงัก พลางกะพริบตารัวๆ จากนั้นก็มองไปยังเย่ซือเฉินอีกครั้ง:“ปัดโธ่ เสียดายเมื่อคืนคุณไม่มา ไม่งั้นโบนัสจากสาวงาม ไม่แน่อาจเป็นของคุณ”
ผู้คน“……”
อันนี้ถือว่าเป็นโบนัสจากสาวงามหรอกหรือ?โบนัสอย่างนี้คงไม่มีใครอยากได้หรอก
รูในสมองเจ้าชายใหญ่ใหญ่ไม่เบาเลย
เวินลั่วฉิง“……”
เธออยากโยนคนนี้ออกไป ได้หรือเปล่า?!
“คุณเชื่อไหมว่าผมจะโยนคุณออกไป?”เวินลั่วฉิงกำลังคิด ทันใดนั้นก็ได้ยินประโยคนี้ขึ้นมา
ชั่วพริบตานั้น เวินลั่วฉิงคิดว่าตัวเองไม่ระวังเอ่ยความในใจออกมา เมื่อได้สติถึงพบว่าเย่ซือเฉินเป็นคนพูดประโยคนี้ออกมา
เย่ซือเฉินกล่าวความในใจของเธอ อืม เธอกับเย่ซือเฉินสื่อใจกันได้จริงแท้!!
“เย่ อย่าโมโหสิ ผมแค่ล้อเล่น คุณไม่มีภรรยา ไม่มีแฟนาสาว ผมก็เลยล้อเล่นหน่อย คุณจะเครียดไปทำไม?”เจ้าชายใหญ่โบกมือพร้อมกับถอยหลังไปหลายก้าว โดยเว้นระยะห่างกับเย่ซือเฉินไว้ เกรงว่าจะถูกเย่ซือเฉินโยนออกไปจริงๆ
“วันนี้ผมต้องไปดูงานอีก ไม่ใช่จัดให้ถังหลินไปดูงานเป็นเพื่อนผมหรอกหรือ?ถังหลินพวกเราไปได้หรือยัง?”จากนั้นเจ้าชายใหญ่ก็มองถังหลินที่นั่งอยู่ด้านข้าง พลางพูดหนึ่งประโยคอย่างจริงใจ
ทุกคน“……”
เจ้าชายใหญ่ตาบอดไปแล้วหรือ?หรือว่าปัญญาอ่อน?จนป่านนี้เขายังดูไม่ออกหรือว่าถังหลินเกิดเรื่องขึ้นแล้ว?
หรือเจ้าชายใหญ่กำลังแสร้งโง่?
เวินลั่วฉิงนึกได้ว่าเจ้าชายใหญ่เป็นคนจองห้องนี้ งั้นเจ้าชายใหญ่จะเกี่ยวพันกับเรื่องนี้ไหม?!
“ถังหลินกระทำความผิด ไปไม่ได้ครับ วันนี้ไปดูงานเป็นเพื่อนเจ้าชายใหญ่ไม่ได้เสียแล้วครับ”กู้ฉิ้งหยู่รีบตอบอย่างรวดเร็ว
“อ่อ ใช่เหรอ?”เจ้าชายใหญ่กะพริบตา มองกู้ฉิ้งหยู่แวบหนึ่ง:“งั้นผมจะอยู่ดูความคึกคัก”
คนนี้คือเจ้าแห่งการไม่กลัวใต้หล้าจะอุตลุด
คุณชายสามเย่เหล่ตามองเจ้าชายใหญ่ แต่ครั้งนี้ไม่ได้พูดอะไร
หมอนิติเวชยังตรวจสอบอยู่ ผลยังไม่ออกมา ดังนั้นตอนนี้ก็ไม่มีสีสันอะไรให้เจ้าชายใหญ่ดู
“เจ้าชายใหญ่ครับ คุณหยวนมาถึงแล้วครับ กำลังรอท่านอยู่ที่ห้องโถงครับ”ไม่นาน บอดี้การ์ดเจ้าชายใหญ่ก็เข้ามารายงาน
“ออ ได้สิ ผมจะลงไปเดี๋ยวนี้”เจ้าชายใหญ่ลุกขึ้นด้วยท่าทางคุยกันได้ทุกอย่าง จากนั้นก็เดินออกไปด้านนอก
เจ้าชายใหญ่เดินออกจากห้องมาก็เห็นเจ้าชายน้อยยืนอยู่ที่นอกประตู กำลังมองมาที่ห้องนอนของถังหลิน
“ทำไมเมื่อกี้น้องไม่เข้าไปดูความคึกคัก?ยืนอยู่ที่นี่ทำไม?”เจ้าชายใหญ่มองเจ้าชายน้อยแวบหนึ่ง พลางขมวดคิ้วมุ่น
“มีอะไรน่าดู ไปกันเถอะ คุณหยวนรอพวกเราอยู่?”เจ้าชายน้อยถอยหลังไปหลายก้าว ถอยไปได้ระยะทางหนึ่ง
“ไม่ถูกสิ?ปกติน้องชอบดูความคึกคักนี่นา ปกติถ้ามีให้ดู น้องจะพยายามเบียดเข้าไปดู วันนี้ผิดปกตินะ!ไม่ใช่สิ ผิดปกติมากๆ?หลินเป้ย น้องไปทำผิดอะไรมาหรือเปล่า?”เจ้าชายหลินเก๋อเข้าใกล้เขากะทันหัน พร้อมกับจ้องมองเขาไม่หยุด