หากถังหลินพูดเช่นนี้ตั้งแต่ต้น คงต้องเกิดความสงสัยมากมาย ยิ่งไปกว่านั้นอาจทำให้ถูกด่าอย่างเหยียดหยามอีกด้วย
หลักพิสูจน์ได้ว่คุณกงพูดปด คำพูดของถังหลินก็มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
“ถังหลิน ด้วยความสามาถของคุณ หากมีคนแอบเข้าห้องของคุณ คุณก็ไม่รู้สึกตัวเลยหรือ?ใครจะเชื่อคำพูดของคุณ?”ครั้งนี้กู้ฉิ้งหยู่ตอบสนองไวมาก สวนกลับถังหลินทันทีทันใด ซึ่งคำพูดของกู้ฉิ้งหยู่ก็ถือว่ามีเหตุผลใช้ได้
เพราะถังหลินไม่ใช่คนทั่วไป!
“แต่คุณกงเป็นพนักงานโรงแรมแห่งนี้ เธอเปิดประตูเองได้ ซึ่งเสียงเปิดประตูเบามาก เมื่อใช้กุญแจเปิดประตูจะไม่มีเสียงอะไรเกิดขึ้นเลย”เวินลั่วฉิงเดินไปยังประตู ก่อนจะปิดประตูแล้วเปิดใหม่ ซึ่งยืนยันคำพูดของเธอได้เลยว่าเกือบไม่มีเสียงใดๆ
“ผลตรวจคราบอสุจิในร่างกายคุณกงยืนยันว่าเป็นของถังหลิน ซึ่งนี่คือหลักฐานที่หนักแน่นมาก ถังหลินไม่มีทางปัดความรับผิดชอบได้เลย”กู้ฉิ้งหยู่ไม่พอใจ ไม่พอใจที่จะยอมแพ้เป็นอย่างยิ่ง เขาคิดว่าครั้งนี้เอาถังหลินให้ตายได้แล้ว คาดไม่ถึงว่าสถานการณ์กลับตาลปัตรเช่นนี้ไปได้
“อันที่จริงถ้าอยากได้ของแบบนี้ของถังหลินก็ไม่ใช่เรื่องยาก?ฉันจำได้ว่าคนที่มีสถานะพิเศษ เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน มักจะเก็บเชื้อของตัวเองไว้ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่เป็นลูกคนเดียวในครอบครัว”เวินลั่วฉิงยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย พูดอย่างมีเลศนัยอย่างโจ่งแจ้ง
แน่นอน เวินลั่วฉิงจงใจพูดให้นักข่าวที่อยู่ในเหตุการณ์ฟัง
“คุณหมายความว่าอะไร?คุณหมายความว่าฉันขโมยเชื้อของถังหลินแล้วมาทำร้ายตัวเองอย่างนี้หรือ ใช้ความบริสุทธิ์และชื่อเสียงของฉันมาทำร้ายถังหลินหรือ?”ใบหน้าคุณกงมีความโกรธแค้นหลายส่วน ซึ่งมาบางส่วนเสแสร้ง แต่บางส่วนก็เป็นความโกรธแค้นที่แท้จริง ถ้าพูดให้ละเอียดก็คืออับอายจนโกรธแค้นนั่นเอง
เห็นได้ชัดว่าเธอคาดไม่ถึงว่าเรื่องราวจะดำเนินการมาเป็นเช่นนี้ เธอรู้ดีว่าสถานการณ์เช่นนี้ไม่เป็นปัจจัยเกื้อหนุนเธอเลย วาจาที่เธอเอ่ยออกมาในขณะนี้ อาจไม่มีคนเชื่อเลยด้วยซ้ำ
“คุณกง ฉันไม่ได้พูดเช่นนี้นะ ทั้งหมดทั้งมวลนี้คุณเป็นคนพูดเอง แต่หลังจากพิสูจน์ว่าคุณพูดโกหก พวกเราก็มีเหตุผลสงสัยเจตนาของคุณ และมีเหตุผลซักถามทุกอย่างที่สงสัย”เวินลั่วฉิงมองไปยังเธอ โดยไม่ได้เผยอารมณ์ทางสีหน้ามากนัก แต่ทุกถ้วนคำที่เอ่ยออกมานั้นน่าเกรงขามเป็นอย่างยิ่ง
คุณกงขยับมุมปาก แต่ครั้งนี้ไม่มีเสียงโต้แย้ง
“เรื่องนี้มีข้อสงสัยหลายจุด จำเป็นต้องตรวจสอบให้ละเอียด แน่นอน ในเมื่อตรวจสอบแน่ชัดแล้วว่ามีบุคคลที่สามในเหตุการณ์ ขอเพียงหาบุคคลนี้เจอ เชื่อว่าหลายๆคำถามก็คงกระจ่างเสียที คุณหมอนิติเวชมีตัวอย่างเลือดของคนผู้นั้น พอถึงเวลาก็สามารถตรวจยืนยันคนผู้นั้นได้อย่างแม่นยำ”บัดนี้เวินลั่วฉิงเน้นยำจุดนี้เป็นพิเศษ เพราะป้องกันการหาคนมาเป็นแพะรับบาป จากนั้นก็ใส่ร้ายถังหลิน
“คุณกง คุณยังยืนยันจะสืบสวนต่อหน้าสาธารณชนอีกไหม?”เวินลั่วฉิงมองคุณกงด้วยแววตาราบเรียบ แต่กลับเจือความเฉียบคมที่สามารถมองทะลุทุกสิ่งอย่างได้
คุณกงเม้มปาก ถึงแม้ไม่เต็มใจ แต่ก็พูดเสียงเบาว่า“ไม่ต้องแล้ว”
ตรวจสอบต่อหน้าผู้คนในตอนนี้ มันไม่เป็นผลดีต่อเธอเลย หากดำเนินต่อไปก็อาจจะแย่กว่าตอนนี้ก็เป็นได้
เวินลั่วฉิงเงยหน้ามองผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ จากนั้นสายตาก็หยุดอยู่ที่บรรดานักข่าว “เรื่องนี้ยังไม่ได้สรุปคดี เรื่องนี้ยังมีข้อสงสัยมาก หวังว่าทุกท่านจะไม่รายงานข่าวที่ผิดต่างจากความจริง”
เวินลั่วฉิงรู้ว่าห้ามไม่ให้นักข่าวไม่ออกข่าวคงไม่ได้ ขอเพียงพวกเขาไม่เขียวมั่วซั่ว ไม่บิดเบือนความจริง ผลของวันนี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว
ต่อจากนี้ก็ต้องคิดหาวิธีตามหาอีกคนหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์เมื่อคืน
ผู้หญิงคนนั้นคือประเด็กสำคัญ!!
เพียงแต่เวินลั่วฉิงคิดไม่ตก ทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงได้ปรากฏตัวที่ห้องถังหลินด้วย?
ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาได้อย่างไร?
ถึงแม้ในชั้นแปดจะไม่มีกล้องวงจรปิด แต่ทางขึ้นชั้นแปดมีกล้องวงจรปิดที่ไม่มีมุมให้หลบ ซึ่งไม่ว่าจะขึ้นมาชั้นแปดจากจุดไหน กล้องวงจรปิดก็จับภาพได้ทั้งหมด
ก่อนหน้านี้บอดี้การ์ดได้ตรวจสอบแล้วว่า เมื่อคืนหลังจากถังหลินขึ้นมาชั้นแปดแล้ว ก็ไม่มีผู้สงสัยเข้าออกชั้นแปดอีกเลย
ซึ่งเมื่อคืน นอกจากมีองค์ชายทั้งสองคนกับถังหลินแล้ว ก็ไม่มีคนอื่นเข้าพักอีกเลย
ดังนั้นผู้หญิงคนนั้นเข้ามาในห้องของถังหลินได้อย่างไร?
เวินลั่วฉิงคิดปัญหานี้ไม่ตกจริงๆ และไม่มีใครสามารถให้คำตอบเธอได้ เพราะบัดนี้แม้แต่ถังหลินก็ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร
ถังหลินถูกแจ้งความ แถมตำรวจยังหาหลักฐานในเหตุการณ์เจอ ดังนั้นถังหลินถูกกุมขังเป็นการชั่วคราว
คุณกงให้ข้อมูลเท็จ จึงถูกตำรวจนำตัวไปด้วย
“พี่ชาย พี่รู้ไหมว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร?”เวินลั่วฉิงขอเข้าพบถังหลินเป็นการส่วนตัวในสถานีตำรวจ เพื่ออยากรู้เหตุการณ์ให้ได้มากที่สุด
มีเพียงได้ข้อมูลที่มากพอ เธอถึงจะช่วยถังหลินสืบคดีนี้ได้ แน่นอน บัดนี้เธอยังแอบมีใจอยากส่องเรื่องชาวบ้านอีกด้วย
“ไม่รู้”ถังหลินหรี่ตาขึ้น มีความเย็นเยียบเล็กน้อย ยิ่งมีความอันตรายหลายส่วน
ถังหลินไม่ได้จงใจปิดบัง แต่เขาไม่รู้จริงๆ
“แล้วทำไมพี่ถึงมั่นใจนะว่าไม่ใช่คุณกง?”สำหรับจุดนี้ เวินลั่วฉิงรู้สึกสงสัยจริงๆ
“ไม่ใช่หาหลักฐานเจอแล้วหรือ?”ถังหลินมองเธอแวบหนึ่ง พลางตอบแบบไม่ต้องสงสัย
เวินลั่วฉิง“……”
ไอ้บ้า?
เรื่องนี้ยังไม่ทันข้ามแม่น้ำก็คิดจะพังสะพานแล้วหรือ?
“พี่ชาย พี่พูดอย่างนี้ฉันไม่มีปัญญาช่วยหาคนนั้นให้พี่นะ”เธอยอมรับว่ามีความอยากรู้อยากเห็นจริงๆ แต่สิ่งสำคัญก็ยังคงเป็นการช่วยเขาตามหาคนคนนั้น
หาคนนั้นเจอแล้วถึงจะแสดงความบริสุทธิ์ของเขาได้……
ไม่ เขาไม่ได้บริสุทธิ์แล้ว สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้คือพิสูจน์ว่าเขาไม่ได้ข่มขืนคุณกง ไม่ได้ทำอย่างนั้นกับคุณกง
แต่เวินลั่วฉิงก็นึกถึงปัญหาที่รุนแรงกว่า ตอนนั้นถังหลินโดนวางยา จากนั้นก็‘ขืนใจ’หญิงสาว แล้วหญิงสาวผู้นี้จะช่วยเป็นพยานให้เขาหรอกหรือ?
ไม่ใช่ถึงเวลามาแจ้งความถังหลินอีกคนนะ?
เช่นนั้นก็จะยิ่งวุ่นวายกันมากขึ้น!!
“พี่ไปหาเอง”ถังหลินขบกรามแน่น เค้นเสียงตอบกลับ เจือความเกลียดอย่างยิ่งยวด
ผู้หญิงคนนั้น เขาจะไปหาออกมาด้วยตัวเขาเอง
ขโมยของของเขาแล้ว ยังกล้า?ยัง……
ถังหลินนึกถึงสิ่งที่ตื่นมาเจอในเช้าวันนี้ พลางกัดฟันอีกครั้ง
สายตาของเขามองบริเวณท้องของตัวเองด้วยสัญชาตญาณ พลางหายใจหอบหนัก
เวินลั่วฉิงกะพริบตารัวๆ ตามหลักแล้วพี่ชายเธอขืนใจผู้หญิง ผู้หญิงน่าจะเป็นฝ่ายโกรธถึงจะถูก แล้วพี่ชายเธอทำท่าเกลียดแค้นอย่างนี้หมายความว่าอย่างไรกันแน่?
“พี่ เธอทำอะไรกับพี่?”เวินลั่วฉิงเห็นถังหลินเป็นเช่นนี้ แววตามีความเสือกแวบผ่าน!!เสือกเรื่องชาวบ้านเต็มๆ!!
เธอรู้สึกว่าต้องมีเงื่อนงำเป็นแน่ อีกทั้งยังเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ธรรมดาเลยที่ทำให้ถังหลินโกรธขนาดนี้ได้