“แล้วเชื้ออสุจิที่พบเจอในร่างกายของกงหยุนคือเรื่องยังไงกันแน่?” คำถามนี้ก็เป็นอีกคำถามหนึ่งที่ทุกคนสงสัย
ในตอนที่หลินเป้ยได้ยินคำพูดของนักข่าว แววตาคู่หนึ่งก็เปล่งประกายขึ้นทันที คืนนั้น ถังหลินจะเอาเธอครั้งแล้วครั้งเล่าเหมือนคนบ้าเลย ตอนนั้นถังหลินถูกวางยา โดยเฉพาะในตอนแรกนั้นเขาบ้าคลั่งมาก ดังนั้น จะทำออกไปอยู่ข้างนอกก็เป็นไปได้
เธอยังจำได้ ต่อมาถังหลินยังพบเจอกับเธอที่ห้องอาบน้ำอีกครั้ง ตอนนั้นถังหลินน่าจะได้สติแล้ว ตอนแรกถังหลินคิดจะอุ้มเธอไปอาบน้ำ แต่ว่าอาบอยู่อาบอยู่สุดท้ายก็เปลี่ยนไปแล้ว…..
ต่อมา เธอก็เหนื่อยจนสลบไปเลย
ตอนที่เธอตื่นขึ้นมาเป็นเวลาใกล้ตีสี่แล้ว ตอนนั้นที่เธอจากไป กงหยุนยังไม่ได้ไปที่ห้องของถังหลิน
ต้องเป็นหลังจากที่เธอจากไปแล้วแน่ๆ กงหยุนจึงจะเข้าไป เพราะว่าถังหลินถูกวางยา แล้วก็บ้าคลั่งไปทั้งคืน ความระมัดระวังและไหวพริบในการป้องกันตัวก็ไม่มีแล้ว
แต่ว่า ไม่รู้ว่ากงหยุนหาอสุจิมาจากไหนกัน? บนเตียง? หรือว่าในห้องน้ำ?
“คนที่หน้าด้านอย่างกงหยุน ใครจะไปรู้ว่าเธอใช้วิธีน่าอายยังไงบ้าง?”
“เธอสามารถสละความบริสุทธิ์ของตัวเองเพื่อแลกมากับการใส่ร้ายคุณชายถัง นั่นแปลว่าเรื่องอะไรเธอก็ทำออกมาได้แน่ๆ”
หลินเป้ยยังไม่ได้ตอบ พวกนักข่าวก็เริ่มพูดกันขึ้นมา
หลินเป้ยได้ยินคำพูดของนักข่าวไม่กี่คนแล้ว ก็วางใจแล้ว หากเป็นแบบนี้ ก็คงจะไม่มีปัญหาอะไรแล้ว
หลินเป้ยกลับไปที่โรงแรม กลับไปยังห้อง จากนั้นก็คิดว่าจะไปนอนหลับสบายๆ
หลังจากนอนอยู่บนเตียงแล้ว จู่ๆ หลินเป้ยก็นึกเรื่องหนึ่งออก วันนั้นถังหลินจะเอาเธอหลายรอบมาก ตอนนั้นพวกเธอไม่ได้มีการป้องกันอะไรเลย……
คืนนั้นเวลานั้นประมาณตีสี่กว่าเธอจึงจะกลับมาที่ห้อง ตอนนั้น ทั้งตัวของเธอเหมือนร่างกายของตัวเองถูกปล่อยออก ไม่มีแรงเลยแม้แต่น้อย
อีกอย่างเวลานั้น ร้านยาต่างก็ไม่เปิด เธอไม่สามารถซื้อยาได้ แต่แรกเธอยังคิดอยู่ว่าจะไปซื้อยาตอนเช้าวันที่สอง แต่ว่าพอวันที่สอง ทางถังหลินก็เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น เธอกังวลใจอยู่ตลอดเวลา ต่อมาก็ลืมเรื่องที่ตัวเองต้องทานยาไปเลย
หลินเป้ยยิ่งคิดก็ยิ่งตกใจ เธอ เธอคงจะไม่ท้องหรอกมั้ง? ก่อนหน้านี้เหมือนเป็นช่วงอันตรายของเธอด้วย
ได้ข่าวมากว่าช่วงเวลาลาอันตรายมีความเป็นไปได้ที่จะท้องสูงมาก……
อีกอย่างวันนั้นพวกเขายังทำไปตั้งหลายครั้ง!
หลินเป้ยนอนอยู่บนเตียง ร่างกายไม่ขยับเลย แค่รู้สึกเหมือนถูกน้ำแข็งล็อกตัวเองไว้
หากเธอท้องขึ้นมาแล้วจริงๆล่ะ?!
จะทำยังไงดี?
วันที่สอง ถังหลินตื่นขึ้นมา แล้วเห็นรายงานข่าวที่เต็มไปทั่วทุกแห่ง เมื่อคืน คลิปที่หลินเป้ยสัมภาษณ์กับนักข่าวก็ถูกเผยแพร่ลงบนอินเทอร์เน็ต
หลังจากที่ถังหลินดูคลิปวิดีโอการสัมภาษณ์ทั้งหมดแล้ว สีหน้าก็อึมครึมแย่จนสามารถบีบเป็นน้ำหมึกออกมาได้เลย
ยัยผู้หญิงสมควรตายนี่ เธอมันแน่จริงๆ!!
เธอนัดกับนักข่าวไว้กลางดึกแบบนั้น เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าเพื่อที่จะหลบเขา
ภายในคลิปวิดีโอ เธอตั้งใจพูดย้ำว่าตัวเธอเป็นผู้ชาย
ความคิดของเธอ แน่นอนว่าถังหลินต้องเข้าใจอยู่แล้ว
แต่ว่า ถังหลินจะปล่อยให้เป็นไปตามที่เธอหวังได้ยังไงล่ะ
และในขณะเดียวกัน คนในตระกูลถังต่างก็กำลังดูรายงานข่าวอยู่
มองดูหลินเป้ยทำการยืนยันความบริสุทธิ์ให้ถังหลิน
“หากเป็นแบบนี้ คนที่อยู่ในห้องของถังหลินในคืนนั้นก็คือเจ้าชายน้อยจริงๆ ด้วย?” หลังจากที่เฟิ่งเหมียวเหมียวดูแล้ว สีหน้าก็ดูซับซ้อนเป็นพิเศษ
“ดูเหมือนว่าน่าจะไม่ปิดแล้ว” แววตาของท่านย่าถังก็ยังคงมองไปทางทีวี น้ำเสียงนั้นมีความแปลกแอบแฝงอยู่
“เจ้าชายน้อยคนนี้บอกว่า ตอนนั้นเขาแค่พูดคุยเรื่องงานที่ห้องของถังหลิน ไม่ได้เกิดเรื่องอื่นๆ ขึ้น” ท่านย่าถังรีบหันมองไปทางเฟิ่งเหมียวเหมียว แล้วเน้นย้ำจุดนี้
“แม่ คนอื่นไม่รู้ หรือว่าพวกเรายังไม่ชัดเจนอีกหรอ? ตอนนั้นถังหลินถูกวางยา ตัวถังหลินเองก็พูดแล้วว่า ตอนนั้นเขาได้…..ถังหลินบอกว่าเขาได้แตะต้องตัวผู้หญิง แต่ว่าตอนนั้นถังหลินถูกวางยา สติของเขาไม่ได้ชัดเจนมากนัก ตอนนั้นคนที่อยู่ห้องของถังหลินก็มีแต่เจ้าชายน้อย ตอนนั้นคนที่ถังหลินแตะต้องคือเจ้าชายน้อยแน่ๆ” เฟิ่งเหมียวเหมียวเองก็ไม่อยากจะยอมรับในจุดนี้ แต่ว่าความจริงเป็นแบบนี้ เธอไม่สามารถไม่ยอมรับได้
“แล้วเรื่องนี้จะทำยังไงล่ะ?” ท่านย่าถังอึ้งไปสักพัก แววตาคู่หนึ่งก็เปล่งประกายขึ้น “แล้วถังหลินบ้านเราจะรับผิดชอบเจ้าชายน้อยคนนั้นหรือเปล่า”
“แม่ ผู้ชายสองคนจะรับผิดชอบยังไง? เจ้าชายน้องก็พูดแล้ว เขาเป็นผู้ชาย ชอบผู้หญิง ถึงแม้ว่าถังหลินอยากจะรับผิดชอบเขา เขาก็ไม่มีทางตอบตกลงหรอก” เฟิ่งเหมียวเหมียวเม้มปาก หากคืนนั้นถังหลินแตะต้องตัวผู้หญิงจริงๆ งั้นพวกเขาทั้งบ้านคงจะให้ถังหลินสู่ขอผู้หญิงคนนั้นกลับมา
แต่ว่า ผู้ชายคนหนึ่งจะแต่งกลับมายังไง?
“เฮ้อ สร้างความลำบากใจให้เจ้าชายน้อยแล้วจริงๆ เขาชอบผู้หญิงแท้ๆ แต่กลับถูกถังหลินทำร้ายไปแล้ว เจ้าชายน้อยคนนี้คงจะเสียใจมากๆ เจ็บปวดมากๆ แต่ว่าเจ้าชายน้อยกลับออกมายืนยันความบริสุทธิ์ให้ถังหลิน ยากจริงๆ เลย” ท่านย่าถังถอนหายใจออกไปเบาๆ หนึ่งที
“ใช่แล้ว สร้างความลำบากใจให้เจ้าชายน้อยแล้วจริงๆ” สีหน้าของเฟิ่งเหมียวเหมียวเปลี่ยนไปเลย เรื่องนี้คงจะเจ็บปวดมากสำหรับเข้าชายน้อย
“น่าเสียดายที่เจ้าชายน้อยคนนี้ไม่ใช่ผู้หญิง ถ้าเป็นผู้หญิงจะดีแค่ไหนเนี่ย” สิ่งที่ท่านย่าถังเสียดายและเสียใจที่สุดก็คือจุดนี้
“ใช่แล้ว หากเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง พวกเราต้องชดใช้ให้ดีเลย แต่ว่าเป็นผู้ชายคนหนึ่ง พวกเราจะชดใช้ยังไงล่ะ” เฟิ่งเหมียวเหมียวถอนหายใจอีกครั้ง ตอนนี้เธอถึงรู้สึกผิดต่อเจ้าชายน้อยมากๆ
“ชดใช้อะไร?” เวินลั่วฉิงลงจากตึกมาพอดี ได้ยินคำพูดของเฟิ่งเหมียวเหมียว ก็ขมวดคิ้วขึ้น
ทุกคนต่างก็ก้มหน้าถอนหายใจ นี่เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?
“เรื่องของพี่ชายเธอ” เฟิ่งเหมียวเหมียวมองไปทางเวินลั่วฉิงหนึ่งที ถอนหายใจอีกครั้ง “ฉิงฉิง เรื่องนี้เธอคงจะรู้ตั้งนานแล้วใช่ไหม”
เมื่อวานฉิงฉิงกลับมาสาย เธอก็ไม่ทันที่จะถามเรื่องนั้น คิดไม่ถึงว่าเช้านี้จะเห็นข่าวแบบนี้
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” แววตาของเวินลั่วฉิงเปล่งประกายขึ้น? เกิดอะไรขึ้น? อะไรรู้ตั้งนานแล้ว?
เฟิ่งเหมียวเหมียวเงยหน้าขึ้น มองไปทางเวินลั่วฉิง จู่ๆ ก็นึกขึ้นว่าก่อนหน้านี้เวินลั่วฉิงน่าจะแค่คาดเดา ยังไม่แน่ใจ ข่าวในวันนี้เวินลั่วฉิงยังมองไม่เห็น ดังนั้นยังไม่รู้
“ฉิงฉิง คืนนั้น คนที่อยู่ในห้องของพี่ชายเธอคือเจ้าชายน้อย เมื่อวานเข้าชายน้อยนัดกับนักข่าว ยืนยันความบริสุทธิ์ให้พี่ชายเธอ” เฟิ่งเหมียวเหมียวอธิบายไปหนึ่งประโยค
“คือเจ้าชายน้อย?!” ถึงแม้ว่าเวินลั่วฉิงจะเดาออกว่าอาจจะเป็นเจ้าชายทั้งสองตั้งนานแล้ว แต่ว่าตอนแรกเธอคิดว่าจะเป็นเจ้าชายใหญ่ ไม่ว่ายังไงแล้วมู่หรงดัวหยางก็เคยพูดว่า เจ้าชายใหญ่ชอบผู้ชาย
เธอคิดไม่ถึงว่าจะเป็นเจ้าชายน้อย หากเป็นเจ้าชายน้อย ก็ยิ่งซับซ้อนไปใหญ่แล้ว
เจ้าชายน้อยไม่ได้ชอบผู้ชายเลย! ถูกพี่ชายใหญ่แตะต้องตัวไป งั้นก็……
“ใช่แล้ว เจ้าชายน้อยเองก็ยอมรับแล้ว” เฟิ่งเหมียวเหมียวพูดเสริมอีกหนึ่งประโยค