แน่นอน บัดนี้เวินจีหยันกึ่งเมากึ่งตื่น จึงไม่มีทางปิดบังอารมณ์
อาการตอนนี้กำลังดีเลย!
เวินจีหยันได้ยินคำพูดของเย่ซือเฉินก็ชะงัก ราวกับคิดอะไรออก จากนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนอย่างเร็ว แววตาฉายความกลัวออกมาอย่างเด่นชัด เพราะความกลัวจึงทำให้ร่างกายสั่นรุนแรงขึ้นกว่าเดิม:“ไม่เกี่ยวกับผม ไม่เกี่ยวกับผม เธอเป็นคนตกลงมาชนที่บันไดเอง”
ใบหน้าเวินจีหยันกระวนกระวายและความกลัว ร่างกายที่สั่นสะท้านอยากถอยหลัง ทว่าเพราะถูกคนจับตัวไว้ เขาจึงไม่อาจหนีไปได้
เวินจีหยันสบตาอันน่าขนลุกของเย่ซือเฉินที่กำลังทอแสงเจตนาฆ่า กลัวจนจะฉี่แตกอยู่แล้ว:“ไม่เกี่ยวกับผมจริงๆ จื้อหลง จื้อหลงเป็นคนผลักเธอ จื้อหลงเป็นคนคิดจะทำร้ายเธอ”
เวินจีหยันเป็นคนเห็นแก่ตัวเสมอมา สถานการณ์แบบนี้ เพื่อเป็นการป้องกันตัว เขาก็หักหลังลูกชายตัวเองอย่างไม่ลังเล
เย่ซือเฉินหรี่ตาขึ้น ไอสังหารแผ่กระจายออกมา เขาดูออกว่าเวินจีหยันไม่ได้พูดโกหก สถานการณ์อย่างนี้เวินจีหยันก็ไม่กล้าพูดโกหกต่อหน้าเขา
เวินจีหยันไม่มีความกล้าเช่นนั้น งั้นแสดงว่าเรื่องเวินลั่วฉิงบาดเจ็บเมื่อหกปีก่อนก็เป็นเรื่องจริง……
และหกปีก่อนเวินจื้อหลงถูกคุณปู่เวินส่งไปต่างประเทศ ซึ่งคนนอกไม่ทราบสาเหตุ ตอนนี้เห็นจะชัดแจ้งแล้ว
อันนี้น่าจะเป็นสาเหตุที่คุณปู่เวินให้หมอลู่ช่วยปิดบัง เพราะเวินจื้อหลงเป็นหลานชายเพียงหนึ่งเดียวของตระกูลเวิน
ทว่าคุณปู่เวินยังคงรักเวินลั่วฉิงมากเป็นพิเศษ เพื่อเวินลั่วฉิงแล้ว ท่านจึงส่งเวินจื้อหลงไปต่างประเทศ แถมยังออกคำสั่งให้เวินจื้อหลงห้ามกลับมาอีกด้วย
หกปีมานี้เวินจื้อหลงอยู่แต่ต่างประเทศ ไม่กล้ากลับมาเลย
ครั้งนี้เป็นเพราะคุณปู่เวินล้มป่วย เวินจื้อหลงจึงมีเหตุผลกลับมาได้
“ไปเอาตัวเวินจื้อหลงมา”ถึงแม้เย่ซือเฉินมั่นใจว่าเวินจีหยันไม่ได้โกหก แต่เขาก็ยังคงอยากเจอหน้าเวินจื้อหลง เพื่อทำการยืนยันครั้งสุดท้าย
แน่นอนบัญชีที่เวินจื้อหลงทำร้ายเธอก็ต้องคิดดีๆด้วย
“แล้วเขาล่ะครับ?”คนที่จับตัวเวินจีหยันอยู่ ไม่รู้ว่าควรจัดการอย่างไร จึงขอคำสั่งจากเย่ซือเฉิน
เย่ซือเฉินหันไปมองเวินจีหยันแวบหนึ่ง:“โยนกลับไปที่ผับเหมือนเดิม”
ฆ่าเวินจีหยันนั้นง่าย แต่หากตอนนี้ฆ่าเวินจีหยันก็เท่ากับช่วยเขาหลุดพ้น มันดีต่อเวินจีหยันเกินไป
“บอกให้คนในผับต้อนรับเขาดีๆ”เสียงเย่ซือเฉินค่อยๆส่งออกมา เย็นมาก เย็นสุดๆ เย็นจนอดสั่นไม่ได้
ลูกน้องคนนี้ติดตามเย่ซือเฉินมาตลอด จึงเข้าใจความหมายที่เย่ซือเฉินบอกว่า ต้อนรับดีๆ
หลังจากนำตัวเวินจีหยันออกไป เย่ซือเฉินก็ไม่ได้ไปไหน เขายืนอยู่กับที่ตรงๆ ดวงตาหรี่ขึ้นนิดๆที่เย็นเยียบ ไม่รู้กำลังคิดอะไรอยู่
เลขาหลิวยืนอยู่ด้านข้างเขา ไม่กล้าพูด ไม่กล้ารบกวน
เลขาหลิวรู้ดีคำพูดของเวินจีหยันเมื่อสักครู่นี้เท่ากับเป็นการยืนยันคำพูดของหมอลู่ งั้นเรื่องคุณนายบาดเจ็บก็ไม่ต้องสงสัยแล้ว……
คุณนายบาดเจ็บเมื่อหกปีก่อน จนทำให้มีลูกไม่ได้ งั้นเจ้าหญิงน้อยก็ไม่ใช่ลูกสาวท่านประธานกับคุณนายแล้ว
เพราะเจ้าหญิงยังไม่ถึงห้าขวบเลย
เย่ซือเฉินยืนได้สักพักก็หันหลังเดินออกไป โดยไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ ทางเลขาหลิวได้สติก็รีบตามไปทันที
เย่ซือเฉินกลับวิลล่า ไม่ใช่หลังที่เวินลั่วฉิงไม่เคยมาพัก แต่เป็นวิลล่าอีกหลังที่ส่วนตัวกว่า เลขาหลิวเป็นห่วงประธานของตน จึงติดตามมาด้วย
เย่ซือเฉินมาถึงวิลล่าก็เดินเข้าไปโดยที่ไม่ถอดรองเท้าเลย เขาไม่ได้เข้าห้อง แต่เดินไปที่รินหน้าต่าง จากนั้นก็ยืนอยู่ด้านหน้าหน้าต่าง
สายตามองออกไปด้านนอกแบบไม่พูดคุยอะไรเลย
เลขาหลิวยืนอยู่ข้างหลังเขา รู้สึกเป็นห่วงแต่ไม่กล้าพูดมาก
ผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง มือถือเย่ซือเฉินก็ดังขึ้น
ผ่านไปสักพักเย่ซือเฉินจึงดึงสติกลับมา จากนั้นก็รีบรับสาย
“คุณชายเย่ครับ เวินจื้อหลงตายแล้วครับ ตายบนเตียงของผู้หญิงคนหนึ่งเมื่อสองวันก่อนครับ กินยาแล้วไปหาผู้หญิงหลายคนเลยครับ คงกระตุ้นแรงเกินเหตุจนตายคาเตียงเลยครับ”คนที่ไปสืบเรื่องเวินจื้อหลงส่งมาข่าว
เป็นข่าวที่ทำให้คนคาดไม่ถึง เวินจื้อหลงตายเมื่อสองวันก่อน!!
“เวินจื้อหลงประสบเหตุที่เมืองชิงโจวครับ ตำรวจทางนี้ปิดคดีแล้วครับ ซึ่งทางตำรวจก็เคยแจ้งบอกเวินจีหยันแล้ว แต่เวินจีหยันก็ไม่ไปเสียที คาดว่าเวินจีหยันคงเมาจนไม่ค่อยเข้าใจเหตุการณ์เท่าไหร่ครับ ต่อมาตำรวจโทรหาเวินจีหยันอีกครั้ง แต่ไม่มีคนรับสายครับ และต่อมาตำรวจทราบว่าแม่ของเวินจื้อหลงอยู่ในเรือนจำ จึงหาวิธีติดต่อกับหลี่หยุนครับ แต่ตอนนี้หลี่หยุนเป็นนักโทษ ออกมาจัดงานศพไม่ได้ ตอนนี้ตำรวจติดต่อไปยังบริษัทเวินซื่อกรุ๊ปแล้วครับ คาดว่าพนักงานน่าจะติดต่อหาคุณนายครับ”
เย่ซือเฉินไม่พูด ไม่รู้กำลังคิดอะไรอยู่
“เมื่อกี้ผมไปตรวจสอบดูแล้วครับ ไม่พบความผิดปกติเลยครับ”อีกฝั่งหนึ่งของสายเสริมอีกหนึ่งประโยคในแนวหยั่งเชิง
สายตาเย็นเยียบของเย่ซือเฉินหรี่ขึ้น:“สืบต่อ สืบให้กระจ่าง”
ถึงแม้เวินจื้อหลงจะตายเมื่อสองวันก่อน?สองวันก่อนเขายังไม่ได้ไปหาหมอลู่ และไม่ได้หาตัวเวินจีหยัน ดูผิวเผินอาจไม่เกี่ยวข้องกัน
แต่ไม่เกี่ยวพันกันจริงๆหรือ?
เย่ซือเฉินรู้สึกว่าคงไม่บังเอิญขนาดนี้หรอก
ยังมีสาเหตุการตายของเวินจื้อหลงอีก……
ดูเหมือนไม่มีจุดรั่วไหล แต่กลับส่องพิรุธหลายจุด
หากคุณปู่เวินไม่ได้สลบ ถามเรื่องนี้กับท่านก็กระจ่างแจ้งแล้ว แต่คุณปู่เวินดันสลบไม่ตื่น
ทว่าคำพูดของหมอลู่กับเวินจีหยันกระทบกระเทือนจิตใจเย่ซือเฉินอย่างหนัก เขารู้ว่ามีความเป็นไปได้สูงที่เขาเข้าข่ายเพ้อฝันเกินจริงต่อเรื่องนี้
เขารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเธอมีลูกไม่ได้ ซึ่งตอนนั้นเขาก็ตัดสินใจไม่เอาลูก เอาแต่เธอ
สิ่งที่ตัดสินใจมาเนิ่นนาน ดังนั้นจิตใจเขาจึงสงบต่อเรื่องนี้เสมอมา ท่าทางของเขาหนักแน่นเสมอมา
แต่สวรรค์กลับให้ความหวังเขา หลังให้ความหวัง เขาก็ไม่อาจสงบได้อีก เพราะความหวังอันริบหรี่ ทำให้หัวใจเขาเติบโตอย่างบ้าคลั่ง
จนตัวเขาเองก็ไม่สามารถควบคุมได้
ทว่าตอนนี้ สวรรค์กลับทำลายความหวังของเขา ความรู้สึกเช่นนี้ไม่มีใครเข้าใจได้เลย
เมื่อความหวังพังทลาย มันสิ้นหวังจนทำให้เปล่าเปลี่ยว ว้าเหว่ ซึ่งสามารถคร่าชีวิตได้ เขารู้ว่าอันที่จริงหัวใจเขาอยากได้ลูกของเขากับเธอสักคน
ไม่ ไม่เพียงแค่อยาก แต่ปรารถนาสุดแรงเลยต่างหาก ดังนั้นเมื่อความหวังพังทลาย ความรู้สึกนี้จึงยิ่งทรมานมากขึ้น
เย่ซือเฉินยืนอยู่ด้านหน้าหน้าต่าง รับรู้ได้ว่าหัวใจของตนเหมือนถูกทำร้ายอย่างหนัก ทำให้ปวดจนเกือบหายใจไม่ออก
ความเจ็บปวดที่ชัดเจนเช่นนี้ ทำให้เขาเข้าใจว่า ที่แท้เขาอยากได้ลูกของเขากับเธอมาแค่ไหน
ปรารถนาสุดๆ!!