“เพราะเป็นความลับของหนูกับแดดดี้ไงค่ะ”เจ้าหญิงน้อยถังจื่อซีมีไหวพริบดี เหตุผลนี้เข้าท่ายิ่งนัก
คุณแม่เคยบอกว่าพูดโกหกไม่ได้ เมื่อเธอไม่อยากพูดปด จึงเลือกไม่พูดในเรื่องที่พูดไม่ได้
“ได้ครับ”ใบหน้าคุณชายสามเย่ปกคลุมไปด้วยรอยยิ้ม หลังได้ยินเจ้าหญิงน้อยถังจื่อซีพูด จากนั้นก็รับปากทันที เขาต้องรับปากข้อเรียนร้องของลูกสาวอยู่แล้ว
ลูกสาวของเขาพูดอะไรก็ต้องเป็นอย่างนั้น!!
เขามองทิศทางของตึกบริษัทเวินซื่อกรุ้ปอีกครั้ง บัดนี้เวินลั่วฉิงได้เข้าไปด้านในแล้ว จึงไม่เห็นเงาของเธอ
คุณชายสามเย่หรี่ตาขึ้นเล็กน้อย เวินลั่วฉิงปิดบังเขามาโดยตลอด ทั้งที่ลูกสาวของเขาโตขนาดนี้แล้ว?ไม่เคยบอกเรื่องลูกสาวกับเขาเลย?
ถูกใจเขาเหมือนกันที่ไม่บอกเรื่องนี้ให้เวินลั่วฉิงทราบชั่วคราว เขาจะคอยดูว่าเวินลั่วฉิงจะบอกเขาเมื่อไหร่?
อืม ตอนนี้คุณชายสามเย่ค่อยๆฟื้นฟูสติปัญญากลับมาได้แล้ว ในที่สุดก็โยงใยไปถึงเรื่องอื่นได้บ้างแล้ว ซึ่งรวมทั้งเวินลั่วฉิงด้วย
“แดดดี้ดีที่สุดเลยค่ะ หนูรักแดดดี้ที่สุดเลย”ถังจื่อซีหอมแก้มเย่ซือเฉินอย่างดีอกดีใจ
“ลูกรัก หนูก็รับปากพ่อสักเรื่องหนึ่งดีไหมครับ?”
คุณชายสามเย่ถูกลูกสาวหอมแก้มจนเกิดความรู้สึกพอเพียงและเกิดรอยยิ้มเต็มใบหน้า ทว่าเขาคิดปัญหาใหญ่ขึ้นมาได้ เขานึกถึงเรื่องหยวนจุนหลินนัดเวินลั่วฉิงเจอกัน และยังนึกไปถึงบรรดาผู้ชายที่หลงใหลในตัวเวินลั่วฉิงด้วย
ตอนนี้เขายังไม่ได้แต่งงานกับเวินลั่วฉิง แถมข้างกายเวินลั่วฉิงยังเต็มไปด้วยผู้ชายมากหน้าหลายตาอีกต่างหาก หากครั้งที่แล้วไม่มีคนส่งข่าวบอกเขา เขาก็ไม่มีทางรู้เรื่องเวินลั่วฉิงกับหยวนจุนหลิงนัดเจอกันได้เลย
คุณชายสามเย่ยังคิดถึงเรื่องตระกูลถังไม่ยอมให้เขากับเวินลั่วฉิงแต่งงานกัน เหตุเนื่องมาจากโกรธการกระทำของผู้เฒ่าตระกูลเย่ทั้งสองท่าน เลยพาลใส่เขาไปด้วย
วันนี้ทั้งสองท่านยังมาก่อกวนเช่นนี้อีก จึงทำให้เขาหวาดหวั่นว่าโอกาสได้แต่งงานกับเวินลั่วฉิงจะยิ่งยาก ยิ่งห่างไกลอย่างไร้กำหนดมากขึ้น
เส้นทางแต่งเมียของเขาช่างยากเย็นเหลือหลาย ภรรยาของเขาก็ยิ่งโดดเด่นอยู่ด้วย เขาระแวงว่าหากเขาเผลอเมื่อไหร่ พวกคิดไม่ซื่อจะเข้ามาฉกฉวยโอกาสไปได้
ดังนั้น เขาจำเป็นต้องเตรียมการรับศึกอย่างเพียบพร้อม คนตระกูลถังคอยระวังเขา ทำให้เขาเข้าออกบ้านตระกูลส่งเดชไม่ได้ ดังนั้นเหตุการณ์เมื่อเวินลั่วฉิงอยู่บ้านตระกูลถัง เขาไม่อาจล่วงรู้ได้ทันท่วงที ไม่รู้ความเคลื่อนไหวของศัตรูหัวใจ ส่งผลให้เขารับมือไม่ได้
ฉะนั้น เขาจำเป็นต้องมีสายลับอยู่ข้างกายเวินลั่วฉิงหนึ่งคน
ลูกสาวของเขาเหมาะที่จะเป็นสายลับตัวน้อยๆที่สุด
อืม คุณชายสามเย่ที่เรียกสติปัญญากลับคืนมาได้ บัดนี้จึงกลับมาเป็นคุณชายสามเย่ที่หัวแหลมเต็มไปด้วยเล่ห์กล
“แดดดี้ต้องการอะไรคะ?”ถังจื่อซีเอียงหน้ามองเขาด้วยใบหน้าสงสัยหลายส่วน ซึ่งอารมณ์ของเด็กเขียนเด่นชัดอยู่บนใบหน้า
“ช่วยแดดดี้ดูหม่ามี๊ครับ หากมีผู้ชายคนอื่นนัดหม่ามี๊เจอกันนอกบ้าน หนูต้องบอกแดดดี้ทันทีเลยนะครับ”เพราะตระกูลถังเข้มงวดมาก เขาจึงไม่ได้อยู่กับเวินลั่วฉิงทุกเวลา หากมีสายลับตัวน้อยๆจะเป็นการดีมากๆเลย
คาดว่าเจ้าหญิงน้อยของเขาคงเต็มใจให้ความร่วมมือกับเขาเป็นอย่างดี
“แต่มันเป็นอิสระของหม่ามี๊นะคะ อย่าอื่นไม่ควรก้าวก่าย แดดดี้ก็ไม่ได้ค่ะ”แต่คุณชายสามเย่ประมาณการผิดพลาด เจ้าหญิงน้อยของเขาไม่เต็มใจให้ความร่วมมือกับเขา
หรือสำหรับเจ้าหญิงน้อยคุณพ่ออาจไม่สำคัญเท่าคุณแม่
แน่นอนความคิดนี้ของเจ้าหญิงน้อยถือว่าถูกต้องที่สุด ภายใต้การอบรมบ่มเพาะของเวินลั่วฉิง เจ้าหญิงน้อยถังจื่อซีสามารถแยกแยะผิดชอบชั่วดีได้อย่างถูกต้องแม่นยำ
คุณชายสามเย่รู้สึกเหนือความคาดหมายกับคำปฏิเสธของเจ้าหญิงน้อย แต่เขาไม่คิดจะท้อถอย
หากละทิ้งความตั้งใจง่ายๆอย่างนี้ คงไม่ใช่คุณชายสามเย่แล้วละ
“ลูกรัก นอกจากหม่ามี๊แล้ว แดดดี้หน้าตาดีที่สุดใช่ไหมครับ?”คุณชายสามเย่หันตัวถังจื่อซีมาหาเขา แล้วสบตากับถังจื่อซี ก่อนจะเริ่มชักจูงอย่างค่อยเป็นค่อยไป
และเริ่มกลอุบายตระกูลเย่ของเขา!!
“อืม”เจ้าหญิงน้อยถังจื่อซีไม่ได้ลังเลในจุดนี้ รีบพยักหน้าโดยพลัน
คุณพ่อของเธอหน้าตาดีมาก แต่เห็นได้ชัดว่าในสายตาเธอคุณพ่อหน้าตาดีสู้พี่ชายไม่ได้ แต่บอกเรื่องพี่ชายให้คุณพ่อทราบไม่ได้ ดังนั้นเธอยอมรับว่าคุณพ่อหล่อที่สุดไปชั่วคราวก่อนก็ได้!
“แดดดี้ยอดเยี่ยมที่สุดใช่ไหมครับ?”คุณชายสามเย่ได้ยินคำตอบจากเจ้าหญิงน้อยพลันพอใจยิ่งนัก และเริ่มการโน้มน้าวใจต่อ
“อืม แดดดี้ยอดเยี่ยมที่สุดค่ะ”ถังจื่อซีรู้สึกว่าจุดนี้ก็ไม่ต้องสงสัย คุณพ่อของเธอยอดเยี่ยมที่สุดอยู่แล้ว
เพราะพี่ชายยังเด็กอยู่สู้คุณพ่อไม่ได้
“แดดดี้เก่งที่สุดใช่ไหมครับ?”ใบหน้าคุณชายสามเย่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม พลางวางกลอุบายกับเจ้าหญิงน้อยต่อ
“อืม แดดดี้เก่งที่สุดค่ะ”ถังจื่อซีพยักหน้าต่อ ใบหน้ามีความเห็นด้วยหลายส่วน ถึงแม้คุณพ่อจะทำให้เธอรู้สึกว่าคุณพ่อทั้งโง่ทั้งทึ่ม แต่เธอคงจะเผยความในใจต่อหน้าคุณพ่อไม่ได้ มันจะทำให้คุณพ่อเสียใจได้
และมีคุณอามู่หรงกับคุณลุงบอกว่าคุณพ่อเก่งกาจมากๆ
ดังนั้น เธอจะยอมเห็นด้วยเป็นการชั่วคราวก่อน!
“แดดดี้มีเงินมากที่สุดใช่ไหมครับ?”คุณชายสามเย่เห็นลูกสาวเห็นด้วยก็รู้สึกดีใจยิ่งนัก แต่อุบายก็ต้องวางต่อไป
“……อืม แดดดี้น่าจะมีเงินมากที่สุดค่ะ”เด็กน้อยถังจื่อซีใช้เวลาคิดคำถามนี้สักพัก เพราะเธอไม่รู้ว่าคุณพ่อมีเงินเท่าไหร่กันแน่
แต่คุณพ่อมีเงินมากๆหนะถูกแล้ว
คุณอามู่หรงเคยบอกว่าคุณพ่อมีเงินมากมายมหาศาล!!
“งั้นมีเพียงแดดดี้ที่คู่ควรกับหม่ามี๊ใช่ไหมครับ?”คุณชายสามเย่รู้สึกว่าโน้มน้าวได้พอสมควรแล้ว จึงพูดใจความสำคัญในที่สุด
ถังจื่อซีมองหน้าเขา ดวงตาทั้งคู่พลันกะพริบอย่างรวดเร็ว หลังตั้งใจคิดดูแล้วก็พยักหน้า:“อืม”
คุณพ่อชอบคุณแม่ คุณแม่ก็ชอบคุณพ่อด้วย ดังนั้นสิ่งที่คุณพ่อกล่าวมานั้นน่าจะถูกต้อง
“ลูกรักก็อยากให้ครอบครัวพวกเราอยู่กันพร้อมหน้าใช่ไหมครับ?”คุณชายสามเย่เห็นถังจื่อซีตั้งใจคิด จึงอดยิ้มไม่ได้ เด็กคนนี้ช่างน่ารัก ช่างฉลาดเหลือเกิน
เจ้าหญิงน้อยผู้ชาญฉลาดไม่ใช่จะหลอกกันได้ง่ายๆ ดังนั้นคุณชายสามเย่รู้ว่าจำเป็นต้องวางอุบายให้ครบชุดสมบูรณ์
“อืม อืม หนูชอบให้อยู่กันพร้อมหน้าค่ะ”ดังคาด เมื่อถังจื่อซีได้ยินประโยคนี้ก็รีบโห่ร้องยินดีทันที
เมื่อก่อนเธอไม่มีพ่อ เธอเห็นเด็กบ้านอื่นมีพ่อมีแม่ เธอก็รู้สึกอิจฉาจริงๆ อิจฉามากๆ
เธออยากมีพ่อกับแม่ แน่นอนยังอยากมีพี่ชาย เธออยากให้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา
“ดังนั้น ลูกรักต้องช่วยแดดดี้นะ ช่วยแดดดี้ขับไล่ผู้ชายอื่นที่มาจีบหม่ามี๊นะครับ มีเพียงไล่ไปให้หมดแล้ว พวกเราถึงจะได้อยู่กันพร้อมหน้านะครับ แน่นอนถ้าลูกไล่ไม่ได้ก็บอกแดดดี้นะครับ พวกเรามาไล่ด้วยกัน”คุณชายสามเย่ย้อนกลับมาถึงปัญหาเดิมเมื่อสักครู่นี้
เห็นได้ชัดว่าประโยคสุดท้ายของคุณชายสามเย่ถึงจะเป็นใจความหลัก!ใจความสำคัญ!!