ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – บทที่892 คุณชายสามเย่โมโหแล้ว ผลที่ตามมาร้ายแรงมาก (1)

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่892 คุณชายสามเย่โมโหแล้ว ผลที่ตามมาร้ายแรงมาก (1)

ท่านปู่ถังรู้ ครั้งนี้เกรงว่า……

เวินลั่วฉิงลงจากเครื่องบินแล้ว เปิดโทรศัพท์มือถือเพื่อโทรหาเยว่หงหลิง เธอโทรเบอร์ปกติที่ใช้ติดต่อกับเยว่หงหลิงโดยเฉพาะ เบอร์นี้นับว่าเป็นเบอร์ที่ใช้ภายในของพวกเขาโดยเฉพาะ คนนอกไม่มีใครรู้

ก่อนหน้านี้เยว่หงหลิงก็ใช้เบอร์นี้ติดต่อเธอ และนี่ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่เวินลั่วฉิงต้องรีบมาเช่นกัน

โทรศัพท์ดังขึ้น ทางนั้นกดรับสาย : “ฉิงฉิง เธอถึงแล้วหรือ?”

เสียงของเยว่หงหลิงดูทุ้มต่ำ แต่กลับไม่ได้ยินถึงความรีบเร่งมากเกินไปเหมือนก่อนหน้านี้ แต่เวินลั่วฉิงสามารถรับรู้ได้ว่าเวลานี้น้ำเสียงของเยว่หงหลิงนั้นกำลังสะกดความรู้สึกตัวเองเอาไว้อยู่

“อืม ฉันถึงแล้ว พี่อยู่ไหน?” เวินลั่วฉิงตอบกลับเบาๆ ใบหน้าไม่มีความผิดปกติใดๆปรากฏออกมา ตอนนี้เธอลงจากเครื่องบินมาแล้ว ไม่ว่าจะมีคนแอบมองเธออยู่หรือเปล่านั้น เธอก็จำเป็นที่จะต้องระมัดระวังอย่างรอบคอบ

เดิมทีเธอก็รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ธรรมดา

“ฐานปฏิบัติการห้องใต้ดินของเราสองคน” เยว่หงหลิงทางปลายสายนั้นชะงักไปเล็กน้อย : “ฉิงฉิง อย่าบอกคนอื่นนะ….เธอมาแล้วฉันจะอธิบายให้เธอฟัง”

“โอเค” ถึงแม้เวินลั่วฉิงจะรู้สึกแปลกอยู่บ้างแต่กลับไม่ได้เอ่ยถามอะไรมาก ส่วนทำไมเยว่หงหลิงถึงไม่บอกคนอื่นนั้น เวินลั่วฉิงเองก็เดาไม่ออกเช่นกัน

ส่วนสถานที่ที่เยว่หงหลิงพูดถึงนั้น เวินลั่วฉิงเองก็รู้สึกแปลกๆอยู่บ้าง สถานที่นั้นนับว่าเป็นฐานปฏิบัติการของพวกเขาจริงๆ เพราะสถานที่นั้นเป็นที่ที่พวกเขาสองคนเลือกในการทำภารกิจหนึ่งให้สำเร็จ เพื่อภารกิจในครั้งนั้นพวกเขาสองคนอยู่ที่นั่นเป็นครึ่งเดือน

ต่อมาเยว่หงหลิงก็ได้ซื้อสถานที่นั้นเอาไว้ เพียงแต่หลังจากนั้นก็ไม่เคยได้ใช้อีกเลย เวินลั่วฉิงเองก็ไม่ได้ไปอีกด้วยเช่นกัน

ทำไมเยว่หงหลิงถึงได้ไปอยู่ในห้องใต้ดินนั้นกัน? แล้วทำไมเยว่หงหลิงถึงไม่บอกคนอื่น?

ในใจของเวินลั่วฉิงนั้นรู้สึกสงสัย แต่เธอก็ยอมเชื่อเยว่หงหลิง ดังนั้นในเวลานี้เวินลั่วฉิงจึงไม่ได้รู้สึกลังเลเลยแม้แต่นิดเดียว แล้วก็ไม่ได้สงสัยด้วยเช่นกัน

เพียงแต่เวินลั่วฉิงที่เพิ่งจะวางสายจากเยว่หงหลิงไปแล้วนั้น โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง

เวินลั่วฉิงมองดู แล้วรีบกดรับอย่างรวดเร็ว

“ฉิงฉิง ในที่สุดเธอก็เปิดเครื่องแล้ว? ตอนนี้เธออยู่ไหน? ถึงประเทศMแล้วหรือยัง?” เวินลั่วฉิงยังไม่ทันได้เอ่ยปาก เสียงของเฟิ่งเหมียวเหมียวก็ดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เอ่ยถามคำถามติดๆกันมาเป็นชุด

เวลานี้น้ำเสียงของเฟิ่งเหมียวเหมียวนั้นมีความร้อนรนอย่างปกปิดไว้ไม่มิด ยิ่งไปกว่านั้นเฟิ่งเหมียวเหมียวเองก็ไม่ได้คิดที่จะปกปิดกับเวินลั่วฉิงด้วยเช่นกัน

“ฉันเพิ่งถึงสนามบินค่ะ เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่าคะ?” ดวงตาของเวินลั่วฉิงสั่นไหวขึ้นมาโดยจิตใต้สำนึก ได้ยินน้ำเสียงของเฟิ่งเหมียวเหมียวแล้วก็เดาได้เลยว่าอาจจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้ว

เฟิ่งเหมียวเหมียวรีบร้อนโทรหาเธอแบบนี้ หรือว่าลูกทั้งสองคนจะเกิดเรื่องขึ้นกัน?

นึกถึงความเป็นไปได้นี้แล้วหัวใจของเวินลั่วฉิงนั้นก็รู้สึกเป็นห่วงขึ้นมา

“ฉิงฉิง อาของเธอไปที่เมืองไห่คนเดียว อาเธอบอกว่าที่เมืองไห่นั้นมีแต่อิทธิพลอำนาจของตระกูลกู้ เขากลัวว่าไปครั้งนี้คนของตระกูลกู้จะก่อเรื่องอีก ดังนั้นอาของเธอก็เลยอยากจะให้เธอไปด้วยกันกับเขา แต่เธอไปประเทศMพอดี” เฟิ่งเหมียวเหมียวไม่ได้พูดอ้อมค้อม แต่เอ่ยพูดออกมาตรงๆแทน

“คุณอาไปเมืองไห่จะต้องพาคนที่เชื่อใจไปด้วยอย่างแน่นอนค่ะ คุณน้าไม่ต้องเป็นกังวลไปนะคะ” เวินลั่วฉิงรู้ดีในความสามารถของถังหยุนเฉิง ดังนั้นจึงไม่ได้รู้สึกเป็นกังวล

“อาของเธอถูกแจ้งกะทันหันว่าให้ไปที่เมืองไห่เขาไม่ได้เตรียมตัวอะไรก่อนเลย มีเพียงแค่บอร์ดี้การ์ดคนนึงที่สามารถพึ่งพาได้ที่สุดไปด้วยแค่นั้น อีกทั้งคุณอาของเธอก็ไปกับหัวหน้ากงด้วย มีหัวหน้ากงอยู่ด้วยหลายๆเรื่องที่อาของเธอไม่สามารถตัดสินใจเองได้ หัวหน้ากงเอนเอียงไปทางตระกูลกู้อยู่แล้ว ครั้งที่แล้วเป็นเพราะเรื่องตรวจสอบคดี ในใจของหัวหน้ากงนั้นก็ยิ่งรู้สึกไม่พอใจตระกูลถังมากขึ้นไปอีก อีกทั้งครั้งนี้ไปเมืองไห่แผนเดิมทีแล้วเป็นหัวหน้ากงกับกูเเจิ้งลุ่นไปด้วยกัน แต่ดันมาเปลี่ยนเป็นอาของเธอกะทันหัน น้ากลัวว่าพวกเขาจะทำอะไรอาของเธอ” เฟิ่งเหมียวเหมียวพูดออกมาอย่างรวดเร็วด้วยความร้อนใจ นี่เป็นเรื่องงานของถังหยุนเฉิง เดิมทีแล้วไม่ควรจะบอกกับเฟิ่งเหมียวเหมียว แต่ถังหยุนเฉิงเป็นกังวลว่าการเดินทางครั้งนี้จะเกิดเรื่องขึ้นนั่นเอง

เมื่อถังหยุนเฉิงออกเดินทางไปเมืองไห่แล้ว ก็จะไม่สามารถติดต่อเวินลั่วฉิงได้อีก ดังนั้น เขาทำได้เพียงแค่ต้องบอกเรื่องราวกับเฟิ่งเหมียวเหมียวเอาไว้

เวินลั่วฉิงขมวดคิ้วเข้าหากันเล็กน้อย ถ้าหากเป็นแบบนี้จริงๆ เรื่องราวก็ดูจะยุ่งยากอยู่บ้าง คุณอาถูกส่งตัวไปที่เมืองไห่กะทันหัน เป็นไปได้ที่ตระกูลกู้จะทำอะไรคุณอาได้จริงๆ

แต่เรื่องราวนั้นกะทันหันมากเกินไป คุณอาก็ไม่ได้เตรียมตัวอะไรมากอีกเช่นกัน?

“ถ้ามาอย่างเปิดเผยซึ่งๆหน้า พวกเราไม่กลัวเลย กลัวก็แต่ว่าจะหลบอยู่ในเงามืดนี่สิ เหมือนกับเรื่องของถังหลินครั้งที่แล้ว”เฟิ่งเหมียวเหมียวพูดเสริมขึ้นอีกประโยคหนึ่งอย่างรวดเร็ว และนี่ก็คือความหมายของถังหยุนเฉิงด้วยเช่นกัน

ดวงตาของเวินลั่วฉิงนั้นจมดิ่งลงมาเล็กน้อย ความหน้าเนื้อใจเสือของตระกูลกู้นั้นเธอเองก็เคยสัมผัสมาแล้ว ดังนั้นเรื่องที่เฟิ่งเหมียวเหมียวพูดมานั้นมีความเป็นไปได้มาก

ส่วนเรื่องของถังหลินนั้นไม่ใช่แค่จะพัวพันกับตระกูลกู้ธรรมดาๆเท่านั้น แต่ยังพัวพันไปถึงองค์กรโกสต์ซิตี้อีกด้วย อิทธิพลอำนาจขององค์กรโกสต์ซิตี้นั้นแข็งแกร่งกว่าตระกูลกู้เป็นร้อยเป็นพันเท่า เธอกลัวว่าครั้งนี้คนขององค์กรโกสต์ซิตี้เข้ามาด้วย

เรื่องราวครั้งที่แล้วเห็นได้ชัดว่าคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ได้วางแผนเอาไว้เป็นอย่างดีแล้ว ว่าจะมุ่งเป้าหมายไปยังเย่ซือเฉิน? ถังหลิน? หรือตระกูลถังทั้งตระกูล? เธอให้มู่หรงดัวหยางช่วยเธอติดต่อคนของทางองค์กรโกสต์ซิตี้ แต่ทางนั้นไม่มีการตอบรับเลย ดังนั้นเกี่ยวกับเรื่องของถังหลิน ตอนนี้เวินลั่วฉิงยังสืบหาเบาะแสมาได้ไม่มากนัก

และยิ่งเป็นเช่นนี้ ในใจของเวินลั่วฉิงก็ยิ่งเป็นกังวล!!

“ฉิงฉิง เธอจะรีบตามไปที่เมืองไห่หน่อยได้ไหม? น้ากลัวว่าอาของเธอจะเกิดเรื่องจริงๆ เรื่องถังหลินครั้งที่แล้วทำให้น้าตกใจมากแล้ว” เฟิ่งเหมียวเหมียวไม่ได้ยินเสียงของเวินลั่วฉิง และลองหยั่งเชิงเสริมขึ้นมาอีกประโยคหนึ่ง เธอเองก็รู้ว่าที่จู่ๆฉิงฉิงไปยังประเทศMนั้นจะต้องมีเรื่องด่วนอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้เธอไม่มีวิธีอื่นแล้วจริงๆ จึงทำได้เพียงแค่ต้องขอให้ฉิงฉิงช่วยเพียงเท่านั้น

หยุนเฉิงเองก็บอกแล้ว ว่าเรื่องนี้ถังหลินช่วยเขาไม่ได้ ต้องพึ่งฉิงฉิงเท่านั้น

“ฉันหาดูเมื่อกี้ ไฟท์บินจากประเทศMไปเมืองไห่เร็วๆนี้หลังจากนี้อีกห้าชั่วโมง ฉันจองตั๋วเครื่องบินไปเมืองไห่แล้วค่ะ ฉันจะพยายามรีบจัดการเรื่องทางนี้ให้เสร็จแล้วจะรีบไปนะคะ…” เวินลั่วฉิงเองก็รับรู้ได้ถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้ เธอเป็นคนทำอะไรรวดเร็ว ตอนที่คุยกับเฟิ่งเหมียวเหมียวนั้นก็ได้วางแผนเอาไว้เรียบร้อยแล้วก็จองตั๋วเครื่องบินเรียบร้อยแล้วด้วยเช่นกัน

“ได้ ได้ ฉิงฉิง ขอบใจเธอมากนะ” เฟิ่งเหมียวเหมียวโล่งใจขึ้นมาเล็กน้อย ความจริงแล้วในใจของเฟิ่งเหมียวเหมียวนั้นยังคงร้อนรนอยู่ เธอแทบอยากจะให้ฉิงฉิงสามารถไปอยู่ข้างๆหยุนเฉิงได้เสียตั้งแต่เดี๋ยวนี้เลยเสียด้วยซ้ำ

แต่ตอนนี้ฉิงฉิงอยู่ไกลถึงประเทศM เธอจะร้อนใจไปกว่านี้ก็คงจะไม่มีประโยชน์ ยิ่งไปกว่านั้นฉิงฉิงก็จัดการได้อย่างดีที่สุดแล้ว

และนี่ก็คือฉิงฉิง ถ้าหากเปลี่ยนเป็นเธอ เธอก็คงจะดูสับสนวุ่นวายไปตั้งแต่แรกแล้ว ไม่สามารถที่จะจัดการทั้งหมดได้ในเวลาสั้นๆขนาดนี้ได้เลย

ตอนนี้เฟิ่งเหมียวเหมียวเพียงแค่หวังให้ฉิงฉิงสามารถรีบไปให้เร็วที่สุด หวังเพียงแค่ไม่อยากจะให้เกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้น

หลังจากที่เวินลั่วฉิงวางสายไปแล้ว สีหน้าท่าทางก็มีความหนักแน่นและจริงจังขึ้นมามาก เธออยากจะโทรหาถังหลิน แต่นึกถึงสถานะของถังหลิน นึกถึงที่ถังหยุนเฉิงไปที่เมืองไห่ครั้งนี้เป็นงานหลวงของแปดสุดยอดวงศ์ตระกูล ถ้าหากถังหลินไม่ได้รับคำสั่งก็จะไม่สามารถแทรกมือเข้าไปในเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอน!!

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Status: Ongoing

มองที่เด็กๆ ที่มีหน้าตาเหมือนกับตัวเอง สมองเขาว่างเปล่า ชั่วคราว”แม่เราก็คือภรรยาของคุณนะคะ ทำไม ภรรยาของ คุณมีลูกสองคน คุณไม่รู้หรอ”เด็กๆ จ้องมองเขา เตือนเขา อย่าง”มีน้ำใจ” เขาชะงักไปสองวินาที สีหน้าเปลี่ยนหลาย แบบ”ที่รัก อยู่ไหน” วินาทีต่อไป เขาโทรหาเวินลั่วฉิง “ได้ รอ ฉันสักครู่ ฉันจะไปที่ที่อยู่ทันที จะมีSurpriseให้นะ”ดี ดีจัง เขาอยากจะดูว่าเธอยังมีเรื่องอะไรที่ปิดบังเขาไว้ จะคิดบัญชี อย่างจริงจังแล้วนะ”นี่มันร้ายใจเกินไปมั่ง”เด็กสองคนนี้ตะลึง Surpriseนี่มันใหญ่จัง ดูเหมือนว่า คนนั้นจะซวยค่ะ! ! !

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท