อะเฉียงได้แต่แอบถอนหายใจ ในที่สุดหัวหน้าน้อยก็ไม่เสแสร้งแล้ว ในที่สุดก็เผยตัวตนที่แท้จริงออกมาสักที!! เขาเองก็ไม่ต้องถูกบังคับให้เล่นละครอีกต่อไปแล้ว!!
“ทำไมคุณถึงทำแบบนี้? ทำไม?” ไป๋หยิงไม่เข้าใจ เธอไม่เข้าใจว่าทำไมหัวหน้าน้อยถึงต้องทำแบบนี้?
แน่นอนว่าเธอรู้สึกเจ็บใจมาก เจ็บใจที่แผนการของตัวเองที่วางไว้อย่างดีกลับมีจุดบกพร่อง
“เธอน่ะ มีสิทธิ์มาซักถามหัวหน้าน้อยอย่างฉันเหรอ?” หัวหน้าน้อยมองเธอด้วยสายตาที่ขยะแขยงเหมือนกำลังมองกองขยะไม่มีผิด
“ฉันก็แค่ว่างมากจนรู้สึกเบื่อเลยหาอะไรสนุก ๆ ทำ แต่เธอดันโง่เกินไป เลยทำให้ฉันหมดสนุกแล้ว”
อะเฉียงได้ยินที่หัวหน้าน้อยของตัวเองพูด ก็เลิกคิ้วขึ้น เอาเถอะ ถ้าไม่เสแสร้งก็คงไม่ใช่หัวหน้าน้อยหรอก
หัวหน้าน้อยก็แค่อยากรู้ไพ่ตายของไป๋หยิง เลยจงใจให้ไป๋หยิงติดกับ
แน่นอนว่าเรื่องที่หัวหน้าน้อยทำหลังจากนั้นคือทำเพื่อหาเรื่องตื่นเต้นสนุก ๆ นั่นแหละ
ที่จริงเมื่อเฉิงโหรวโหรวปรากฏตัว ด้วยความสามารถของหัวหน้าน้อย เรื่องของไป๋หยิงก็คงจบไปแล้ว แต่หัวหน้าน้อยต้องการปลอมผลตรวจดีเอ็นเอ
หัวหน้าน้อยเลยสั่งให้เขาส่งคนไปที่ปราสาทเพื่อเอาเส้นผมของท่านย่ามา แน่นอนว่าปริมาณเส้นผมที่เอามามีจำนวนค่อนข้างเยอะ เพราะต้องเอาเส้นผมพวกนั้นไปใส่ไว้บนหัวของเฉิงโหรวโหรว เพื่อไม่ให้เจ้าเก้าผิดสังเกต เพียงแค่เส้นสองเส้นไม่พออยู่แล้ว
โชคดีที่เหมยหลันหวีผมให้ท่านย่าทุกวัน จึงทำให้เอาเส้นผมพวกนั้นของท่านย่ามาได้ไม่ยาก
ตอนนี้เส้นผมของท่านย่าเป็นสีขาวทั้งหัว เขาจึงให้คนย้อมเส้นผมให้เป็นสีดำ เขาไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ว่าหัวหน้าน้อยลงทุนลงแรงขนาดนี้ไปเพื่ออะไร?
อีกอย่างตอนที่หัวหน้าน้อยให้เขาทำเรื่องพวกนี้ ก็ไม่ได้ให้แอบทำด้วย
พรุ่งนี้ผลตรวจดีเอ็นเอออกมา ถ้าหากผลไม่เหมือนกับครั้งก่อน หัวหน้าไม่ต้องสืบก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นฝีมือของหัวหน้าน้อย
บางครั้งอะเฉียงก็รู้สึกว่าสมองของหัวหน้าน้อยไม่ค่อยปกติ!!
อะเฉียงคิดว่าควรต้องให้หัวหน้ากับเจ้าหญิงสั่งสอนหัวหน้าน้อยสักหน่อยแล้ว
เมื่อครู่ไป๋หยิงพูดว่าหัวหน้าน้อยต้องการหลอกใช้เธอ อะเฉียงคิดว่าคำพูดนี้เป็นการกล่าวหาหัวหน้าน้อยของเขา หัวหน้าน้อยต้องการจะให้ไป๋หยิงออกหน้าตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
ถ้าพูดให้น่าฟังหน่อยก็คือหัวหน้าน้อยกำจัดศัตรูแทนคุณหนูใหญ่ตระกูลถังไปได้หนึ่งคน
แต่ด้วยนิสัยของหัวหน้าน้อย ถึงจะทำความดี ก็ไม่มีทางที่คนอื่นจะซาบซึ้งใจหรอก เพราะไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีแค่ไหนแต่ถ้าหัวหน้าน้อยเป็นคนทำออกมา ก็กลายเป็นเรื่องที่น่าอับอายมาก
“หัวหน้าน้อย คุณไม่กลัวว่าลูกสาวของหัวหน้าจะเป็นถังฉิ้นเอ๋อจริง ๆ เหรอ หัวหน้าน้อยไม่กลัวว่าถึงตอนนั้นถังฉิ้นเอ๋อจะแย่งทุกอย่างไปจากคุณหรือไง?” ไป๋หยิงไม่เชื่อ ไม่มีทางเชื่อ เธอไม่เชื่อว่าหัวหน้าน้อยคนนี้จะไม่สนใจเรื่องพวกนี้
“สมองหล่อนมีปัญหาหรือเปล่าเนี่ย?” คราวนี้หัวหน้าน้อยไม่ได้มองไปที่ไป๋หยิง แต่กลับหันไปถามอะเฉียงแทน
อะเฉียงเบ้ปากเล็กน้อย สมองของหัวหน้าน้อยก็ไม่ปกตินะ ยังจะกล้าไปว่าคนอื่นสมองมีปัญหาอีกเหรอ?
“เข้ามา ส่งแขก” ไม่เสียแรงที่อะเฉียงเป็นบอดี้การ์ดของหัวหน้าน้อย เขาเข้าใจความคิดของหัวหน้าน้อยเป็นอย่างดี อะเฉียงรู้ว่าหัวหน้าน้อยต้องการไล่เธอออกไป
ปล่อยให้ผู้หญิงที่น่ารังเกียจที่คิดว่าตัวเองสำคัญอยู่ที่นี่ ตัวเขาเองเห็นแล้วยังรู้สึกอึดอัดเลย
เมื่อประตูเปิดออก ก็มีคนเข้ามาทันที คนนั้นเดินไปข้างหน้า แล้วจับตัวไป๋หยิงไว้ จากนั้นก็กระชากลากเธอออกไปอย่างไม่ใยดี
ต่างก็เป็นคนใกล้ชิดของหัวหน้าน้อยทั้งนั้น ทุกคนจึงรู้จักนิสัยใจคอของหัวหน้าน้อยเป็นอย่างดี ถึงแม้ปกติหัวหน้าน้อยจะนิสัยแปลก ๆ เข้าหาได้ยาก แต่การไล่คนตรง ๆ แบบนี้ก็มีไม่บ่อยนัก
นอกเสียจากน่ารังเกียจจนเกินบรรยาย ในเมื่อเป็นแบบนี้ แล้วทำไมต้องเกรงใจด้วยล่ะ?
ไป๋หยิงไม่ทันขัดขืนก็ถูกลากออกไปแล้ว จากนั้นก็ถูกโยนออกไปนอกประตูใหญ่
สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความคาดไม่ถึง รู้สึกตะลึงงันไปเลย แต่ตอนนี้เธอกลัวขึ้นมาจริง ๆ แล้วล่ะ
หัวหน้าน้อยไม่สนใจเธออีกแล้ว และเห็นได้ชัดว่าหัวหน้าน้อยต้องการขับไสไล่ส่งเธอ ถ้าหากถึงตอนนี้หัวหน้ารู้ว่าเธอเป็นคนทำเรื่องทั้งหมดขึ้นมา?
ไป๋หยิงไม่กล้าคิดเลยว่าหลังจากนั้นจะเป็นยังไง
ไม่ เธอจะนั่งรอความตายแบบนี้ไม่ได้ เธอต้องคิดหาวิธี
ตอนนี้ เธอนึกถึงเจิ้งฉง ต่อให้ต้องตาย เธอก็ต้องลากเจิ้งฉงให้ตายไปด้วยกัน อย่างน้อยมีเจิ้งฉงอยู่ ถึงตอนนั้นก็น่าจะต่อกรกับหัวหน้าได้บ้าง ไม่แน่หัวหน้าอาจจะไว้หน้าบ้างก็ได้
ขณะเดียวกันเธอก็นึกถึงผู้ชายคนที่เธอรักแต่กลับไม่สามารถครอบครองได้ และในท้ายที่สุดเธอก็ไม่อาจดึงเขาลงเหวได้
หลังจากไป๋หยิงกลับไปแล้ว หัวหน้าน้อยก็ยิ้มออกมา ไม่มีผู้หญิงน่าขยะแขยงคนนั้นขวางหูขวางตา แม้แต่อากาศก็สดชื่นขึ้นมาทันที
“อะเฉียง ในเมื่อพรุ่งนี้หัวหน้าต้องการตรวจดีเอ็นเอด้วยตัวเอง งั้นพวกเราก็ไปร่วมสนุกกันสักหน่อย” เรื่องสนุกแบบนี้ถ้าเขาไม่ไป ก็คงรู้สึกผิดกับตัวเขาเอง
และเขาก็อยากไปทำความรู้จักกับน้องสาวคนนั้นของเขาด้วย
“หัวหน้าน้อย จะไม่เป็นการหาเรื่องใส่ตัวเหรอครับ?” อะเฉียงตะลึงงัน สถานการณ์แบบนี้หัวหน้าน้อยควรจะหลบไปให้ไกล ๆ ไม่ใช่เหรอ? แต่นี่หัวหน้าน้อยกลับจะไปร่วมสนุก?
ไม่ว่าหัวหน้าน้อยจะทำไปเพื่ออะไร แต่การที่หัวหน้าน้อยสร้างเรื่องตบตาในการตรวจดีเอ็นเอเป็นเรื่องจริง
หัวหน้าน้อยกลัวว่าหัวหน้าจะจับเขาไม่ได้หรือไง ถึงได้เสนอตัวไปให้เขาจับถึงที่อย่างนั้น?
“พรุ่งนี้ต้องคึกคักมากแน่นอน มีเรื่องสนุกอย่างนี้จะขาดฉันไปได้ยังไงล่ะ?” หัวหน้าน้อยไม่ได้ฟังที่อะเฉียงพูดเลยสักนิด หรืออาจพูดได้ว่าเขากับอะเฉียงคิดไม่เหมือนกัน
“หัวหน้าน้อย บางเรื่องไปร่วมสนุกได้ แต่บางเรื่องก็ไม่ควรไปยุ่งจะดีที่สุดนะครับ ถ้าหากหัวหน้าน้อยไม่ได้สร้างเรื่องตบตา หัวหน้าน้อยจะทำอะไรก็ได้ แต่นี่……” อะเฉียงเห็นว่าหัวหน้าน้อยไม่สนใจคำพูดเขาเลยสักนิด เขาเลยพูดให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
“ทำไม แกกลัวตาแก่จะจัดการฉันเหรอ?” หัวหน้าน้อยดูเหมือนจะเข้าใจถึงปัญหานี้แล้ว
“ไม่ใช่เป็นห่วงครับ แต่มันต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว” อะเฉียงกลัวว่าหัวหน้าน้อยจะเกิดเรื่องขึ้นจริง ๆ เลยพูดออกมาตรง ๆ
สถานการณ์แบบนั้น อะเฉียงคิดว่าต่อให้หัวหน้าใจกว้างแค่ไหน ก็ไม่มีทางปล่อยหัวหน้าน้อยไว้แน่
เขารู้ว่าหัวหน้าน้อยเล่นสนุกด้วย แต่ก็ต้องการช่วยคุณหนูใหญ่ตระกูลถังด้วย แต่หัวหน้าไม่รู้เรื่องนี้ คนที่ไม่รู้จะคิดว่าหัวหน้าน้อยมีอะไรแอบแฝง
“งั้นก็ยิ่งสนุกมากขึ้นน่ะสิ ฉันต้องไปให้ได้แน่นอน” หัวหน้าน้อยแววตาเป็นประกายขึ้นมาทันที ไม่รู้ว่าคิดอะไรขึ้นมา ถึงได้ดูตื่นเต้นดีใจขนาดนั้น
อะเฉียง : “……”
หรือว่าหัวหน้าน้อยอยากถูกทรมานร่างกาย? ถ้าไม่ถูกทรมานจะไม่สบายใจแบบนั้นหรือเปล่า?
หรือหัวหน้าน้อยคิดว่าหัวหน้ารักเขามาตลอด เลยไม่มีทางทำอะไรเขา?
หรือหัวหน้าอยากลองเชิงดูว่าในใจของหัวหน้านั้น ระหว่างเขากับเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ใครจะสำคัญกว่ากัน?
หัวหน้าน้อยหาเรื่องใส่ตัวจริง ๆ
“หัวหน้าน้อย ไว้รอให้หัวหน้าได้ตัวเจ้าหญิงกลับมา คุณเตรียมตัวเป็นคนนอกได้เลย” อะเฉียงคิดว่าในฐานะที่เขาเป็นบอดี้การ์ด ก็ควรจะต้องตักเตือนหัวหน้าน้อยสักหน่อย