เมื่อไป๋หยิงได้ยินที่อะเฉียงพูด ความมั่นใจและได้ใจบนใบหน้าเมื่อครู่นี้ก็สลายหายไป เธอรู้สึกสับสนขึ้นมาทันที คิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องจะกลับตาลปัตรอย่างนี้……
หัวหน้าจะมาดูการตรวจดีเอ็นเอด้วยตัวเอง และจะตรวจด้วยเลือด นั่นหมายความว่าไม่สามารถทำผลตรวจปลอมได้เลย
ถ้าหากผลที่ออกมาครั้งนี้ไม่เหมือนกับผลครั้งก่อน หัวหน้าต้องสืบหาความจริงแน่นอน ถึงตอนนั้นถ้าสืบจนพบว่าเกี่ยวข้องกับเธอล่ะ?
ไม่ ต่อให้ต้องสืบหาความจริง ก็ต้องสืบโดนหัวหน้าน้อยก่อน ยังไงเรื่องการปลอมผลตรวจดีเอ็นเอก็เป็นหัวหน้าน้อยที่สั่งให้คนไปทำ
ถึงแม้เธอจะเป็นฝ่ายหาเด็กสาวคนนั้นมา แต่เธอไม่เคยไปบอกคนอื่นเลยว่าเฉิงโหรวโหรวเป็นลูกสาวของหัวหน้า หัวหน้าน้อยเองต่างหากที่สั่งให้คนไปปลอมผลตรวจดีเอ็นเอ ถึงได้มีผลลัพธ์แบบนี้
ฉะนั้นต่อให้สืบสาวราวเรื่อง ก็ไม่มีทางสืบมาถึงตัวเธอ และต่อให้สืบมาจนถึงตัวเธอ เธอก็สามารถปฏิเสธเอาตัวรอดได้
ก่อนอื่น เธอไม่ได้อธิบายเรื่องนี้ให้เฉิงโหรวโหรวฟัง เธอกลัวว่าถ้าหากบอกเฉิงโหรวโหรวไปตรง ๆ เฉิงโหรวโหรวจะร้อนตัวกลัวความผิดขึ้นมา
เธอกลัวว่าถึงตอนนี้หัวหน้าจะพบสิ่งผิดปกติ เธอจึงได้แต่บอกเฉิงโหรวโหรวว่าเฉิงโหรวโหรวหน้าตาคล้ายกับเพื่อนเธอคนหนึ่ง บอกว่าเฉิงโหรวโหรวอาจจะเป็นญาติของเพื่อนเธอคนนี้ จากนั้นก็พาเฉิงโหรวโหรวมาที่เมือง A
เดิมทีไปหยิงตั้งใจว่าจะรอให้เรื่องทุกอย่างเรียบร้อยก่อน รอให้เฉิงโหรวโหรวได้รับความไว้วางใจจากหัวหน้า หลังจากนั้นเธอค่อยเปิดเผยความจริงทุกอย่างให้เฉิงโหรวโหรวฟัง ถึงตอนนั้นเธอก็จะสามารถควบคุมเฉิงโหรวโหรวได้ และได้ในสิ่งที่เธอต้องการ
ที่จริงแผนการของไป๋หยิงถึงว่าไม่เลวเลยทีเดียว แต่เห็นได้ชัดว่าเธอประเมินหัวหน้าแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ต่ำเกินไป
ตอนนี้ไป๋หยิงแอบรู้สึกดีใจที่ยังไม่ได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้เฉิงโหรวโหรวฟัง
“เป็นอะไร? กลัวแล้วเหรอ? ไม่ใช่บอกว่าจะช่วยฉันหรือไง?” หัวหน้าน้อยถึงแม้อายุยังน้อย แต่เขาดูแลควบคุมองค์กรโกสต์ซิตี้มานานหลายปี พบเห็นอะไรมามากมาย ตอนนี้ไป๋หยิงคิดอะไรอยู่ในใจ ทำไมเขาจะดูไม่ออกล่ะ
“ฉัน ฉัน……” ไป๋หยิงตอนนี้กลัวขึ้นมาจริง ๆ แล้ว นั่นเป็นถึงหัวหน้าแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้เลยนะ ถ้าหากสืบสาวราวเรื่องมาจนถึงตัวเธอ ถึงตอนนั้นกลัวว่าแม้แต่เศษกระดูกของเธอก็คงจะไม่เหลือ
“หัวหน้าน้อยคงมีแผนอยู่แล้วใช่ไหมคะ?” จู่ ๆ ไป๋หยิงก็นึกถึงความเป็นไปได้ขึ้นมา หัวหน้าน้อยเป็นคนใกล้ชิดของหัวหน้า ต้องรู้จักหัวหน้าเป็นอย่างดี ตอนที่หัวหน้าน้อยแอบปลอมผลตรวจดีเอ็นเอก็ต้องนึกถึงเรื่องที่น่าจะเกิดแบบนี้ได้อยู่แล้ว
และเมื่อหัวหน้าน้อยรู้ว่าหัวหน้าต้องการตรวจดีเอ็นเอใหม่อีกครั้งก็ไม่เห็นหัวหน้าน้อยจะตื่นตระหนกเลย แสดงว่าหัวหน้าน้อยต้องมีแผนสำรองไว้แล้วแน่นอน
“หัวหน้าน้อยคะ ถ้าหากผลตรวจดีเอ็นเอครั้งนี้ไม่เหมือนกับครั้งก่อน หัวหน้าคงจะสงสัยหัวหน้าน้อย หัวหน้าน้อยไม่มีทางที่จะไม่คิดถึงเรื่องนี้หรอกใช่ไหมคะ?” ไป๋หยิงคิดว่าคนฉลาดอย่างหัวหน้าน้อยไม่มีทางที่จะไม่คิดหาทางหนีทีไล่เอาไว้ เพียงแต่หัวหน้าคนนี้เย็นชาและเลือดเย็นเกินไปจริง ๆ
เดิมทีไป๋หยิงคิดว่า ขอแค่มีผลตรวจดีเอ็นเอยืนยันว่าเฉิงโหรวโหรวเป็นลูกสาวของหัวหน้า หัวหน้าก็คงอยากจะพบกับเฉิงโหรวโหรวแน่นอน
เธอมั่นใจมากว่าถ้าหัวหน้าได้พบกับเฉิงโหรวโหรว จะต้องเชื่อว่าเฉิงโหรวโหรวเป็นลูกสาวของเขาแน่นอน
ไป๋หยิงคิดเอาไว้ซะสวยงาม แต่เธอกลับคิดไม่ถึงว่า หัวหน้าจะไม่อยากเจอกับเฉิงโหรวโหรว และยังต้องการตรวจดีเอ็นเออีกครั้งด้วย
ไป๋หยิงรู้ว่าหัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป ต่อให้หัวหน้าน้อยจะเก่งกาจแค่ไหน แต่จะให้ปลอมผลตรวจดีเอ็นเอต่อหน้าหัวหน้าอีกครั้งคงเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด
ดังนั้น ตอนนี้ไป๋หยิงจึงไม่ค่อยมีความหวังมากนัก เธอได้แต่ภาวนาให้หัวหน้าน้อยมีวิธีอื่นจัดการ
“อ้อ” หัวหน้าน้อยเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แล้วเหลือบตามองไป๋หยิงแวบหนึ่ง ดูเหมือนเขาเพิ่งจะนึกถึงปัญหานี้ได้เมื่อครู่นี้ จากนั้นเขาก็หันไปหาอะเฉียง : “พวกเรามีแผนอื่นอีกไหม?”
อะเฉียง : “……”
เขาก็แค่บอดี้การ์ดคนหนึ่ง หัวหน้าน้อยจะมีหรือไม่มีแผนอื่นแล้วเกี่ยวอะไรกับเขาด้วย?
ใช่ เขาเป็นคนไปจัดการเรื่องนี้เอง
แต่หัวหน้าน้อยสั่งไว้ยังไง ตัวหัวหน้าน้อยเองไม่รู้งั้นเหรอ?
ตอนนี้หัวหน้าน้อยมาถามเขาแบบนี้ เขาควรจะพูดว่ามี? หรือควรจะพูดว่าไม่มีล่ะ?
“หัวหน้าน้อยครับ ตอนนี้พวกเราต้องไปจัดการอะไรหรือเปล่าครับ?” อะเฉียงรีบคิดอย่างรวดเร็ว ในที่สุดเขาก็คิดออกว่าควรจะตอบกลับยังไง
“ตอนนี้ยังทันเหรอ?” หัวหน้าน้อยดูเหมือนครุ่นคิดอย่างจริงจัง : “ตาแก่ไม่ใช่จะหลอกได้ง่าย ๆ”
อะเฉียงไม่พูดอะไรอีก ขอแค่คุณสบายใจ คุณอยากพูดอะไร ก็พูดไปเถอะ
ขอแค่อย่ามาโยนบทให้เขากะทันหันก็พอ เขาเป็นแค่บอดี้การ์ดคนหนึ่ง รับผิดชอบเรื่องอำนวยความสะดวกสบายให้กับหัวหน้าน้อยเท่านั้น ไม่รับผิดชอบเรื่องอื่น ๆ
“หัวหน้าน้อยไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเหรอคะ? หัวหน้าน้อยไม่มีแผนอื่นแล้วจริง ๆ เหรอ?” ไป๋หยิงตะลึงไปเลย หัวหน้าน้อยหมายความว่าไม่มีแผนอื่นสำรองไว้จริง ๆ เหรอ?
ถ้าหากตอนนี้จะจัดการอะไรขึ้นมาคงไม่ทันการแล้ว หัวหน้าแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้หลอกง่ายซะที่ไหนกัน?
ในเมื่อตอนนี้หัวหน้าแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ต้องการตรวจดีเอ็นเอใหม่อีกครั้ง แสดงว่าต้องสงสัยอะไรแน่นอน สถานการณ์อย่างนี้ ใครจะไปทำอะไรได้อีก?
“แล้วเธอมีแผนอื่นสำรองเหรอ?” หัวหน้าน้อยไม่มีทางตอบคำถามของไป๋หยิงอยู่แล้ว แถมยังถามไป๋หยิงกลับอีกด้วย
ไป๋หยิงพูดไม่ออก เธอมีแผนสำรองที่ไหนกันล่ะ เธอคิดไม่ถึงเลยด้วยซ้ำว่าหัวหน้าจะรอบคอบขนาดนี้ จะระแวงขนาดนี้ เธอคิดว่าหัวหน้าได้ข้อมูลเรื่องลูกสาวของตัวเองแล้วจะตื่นเต้นดีใจมาก แล้วรีบร้อนที่จะพบหน้ากับเฉิงโหรวโหรว
แต่เรื่องนี้กลับไม่เป็นไปตามที่เธอคิดไว้
“เธอเป็นคนคิดแผนการ เธอกลับไม่มีแผนสำรอง แล้วฉันจะไปมีได้ยังไง” หัวหน้าน้อยยักไหล่ด้วยท่าทีไม่รู้อิโหน่อิเหน่
“หัวหน้าน้อยคะ คุณไม่กลัวว่าหัวหน้าจะสืบได้ว่าคุณแอบปลอมผลตรวจดีเอ็นเอเหรอคะ?” ไป๋หยิงเห็นท่าทางของเขา ก็รู้สึกสงสัยในใจ เขาดูเหมือนไม่กังวลใจเลยสักนิด ไม่ร้อนใจเลยแม้แต่น้อย
“อ้อ ถ้าหากตาแก่สืบรู้ว่าฉันเป็นคนทำ ฉันก็จะบอกว่าเธอสั่งให้ฉันทำ ตาแก่ไม่ทำอะไรฉันหรอก เพราะยังไงฉันก็เป็นหัวหน้าน้อยแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้” หัวหน้าน้อยตอบกลับอย่างมีเหตุผล ประโยคนี้ทำให้ไป๋หยิงแทบกระอักเลือดออกมา
“หัวหน้าน้อยหลอกใช้ฉันมาตั้งแต่แรก?” ไป๋หยิงตอนนี้รู้สึกอึ้งจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว พอเกิดเรื่องขึ้นมาหัวหน้าน้อยก็จะให้เธอเป็นแพะรับบาปเนี่ยนะ?
“หลอกใช้?” หัวหน้าน้อยยิ้มออกมาทันที แต่เป็นการยิ้มที่ไม่ได้ออกมาจากใจ และไร้ความรู้สึก :
“เธอมีค่าให้หัวหน้าน้อยอย่างฉันใช้หลอกใช้เหรอ? ฉันก็แค่รู้สึกเบื่อเกินไป เลยหาอะไรสนุก ๆ ทำก็เท่านั้น เธอมันสำคัญตัวเองมากเกินไปแล้ว”
จู่ ๆ หัวหน้าน้อยก็รู้สึกเบื่อขึ้นมา ยัยผู้หญิงหน้าโง่คนนี้น่าเบื่อจริง ๆ ไม่สนุกเลยสักนิด
เขาคิดว่า ถ้าหากมีโอกาสได้ประชันฝีมือกับคุณหนูใหญ่ตระกูลถังคนนั้นที่น่าจะเป็นน้องสาวของเขาดูสักครั้ง ไม่รู้ว่าจะสนุกมากแค่ไหน?
อืม อีกไม่นานก็น่าจะได้รู้ผลแล้วล่ะ!!
อะเฉียงได้แต่แอบถอนหายใจ ในที่สุดหัวหน้าน้อยก็ไม่เสแสร้งแล้ว ในที่สุดก็เผยตัวตนที่แท้จริงออกมาสักที!!