สีหน้าของอะเหลียงดูคาดไม่ถึงมาก เขาได้ยินเจ้าเก้าบอกว่าเด็กสาวคนนั้นคล้ายกับคนในภาพเหมือนของหัวหน้ามาก แต่เขาคิดไม่ถึงว่าจะคล้ายกันขนาดนี้?
คุณชายหานแทบจะผิวปากออกมา นี่มันลูกสาวของหัวหน้าชัด ๆ
แทบไม่ต้องตรวจสอบอะไรอีกแล้ว
แน่นอนว่าคนที่อยู่ในภาพเหมือนของหัวหน้าเห็นหน้าตาไม่ชัดเจน ดังนั้นที่ดูเหมือนกันก็คือลักษณะท่าทางที่สวยงามนั่น
พูดให้เข้าใจก็คือมันเป็นความรู้สึกอย่างหนึ่ง เพราะภาพเหมือนของหัวหน้าเห็นหน้าตาไม่ชัดเจน แต่ความรู้สึกที่จินตนาการไว้นั้นชัดเจนมาก
“หัวหน้าคะ ผู้ดูแลจ้ง ลุงเหลียง ฉันพาเธอมาแล้วค่ะ เธอชื่อเฉิงโหรวโหรว” เจ้าเก้าเห็นปฏิกิริยาของทุกคน ก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจ เพราะครั้งแรกที่เธอเห็นเฉิงโหรวโหรวเธอรู้สึกช็อกมากกว่าพวกเขาเสียอีก
เฉิงโหรวโหรวคิดไม่ถึงว่าจะมีคนเยอะแยะขนาดนี้ และคิดไม่ถึงว่าจะเป็นเรื่องใหญ่แบบนี้ เมื่อครู่ที่เธอได้ยินเจ้าเก้าเอ่ยเรียกคนอื่น ๆ การเอ่ยเรียกแบบนั้นทำให้เธอรู้สึกถึงความสูงส่งและน่าเกรงขาม
ถึงแม้การเรียกขานแบบนี้จะไม่มีการใช้กันในประเทศ Z แล้ว แต่สถานการณ์แบบนี้ ท่าทางแบบนี้ อีกทั้งยังมีหัวหน้าที่ดูทรงอำนาจ ทำให้เฉิงโหรวโหรวรู้ได้ทันทีว่าตัวตนของคนคนนี้ไม่ธรรมดาแน่นอน
ถูกเรียกว่าหัวหน้า ตัวตนที่แท้จริงของคนคนนี้เป็นใครกันนะ?
ตอนนี้เฉิงโหรวโหรวรู้สึกสับสนมาก ใจเต้นตึกตัก รู้สึกประหม่า รู้สึกหวั่นเกรงและหวาดกลัว
ฉะนั้นในตอนนี้เธอค่อนข้างระมัดระวังตัวเอง เธอไปยืนอยู่ด้านหลังเจ้าเก้า ตัวสั่นเล็กน้อย แต่ไม่ได้ขยับตัว และไม่ได้พูดอะไร เพราะตื่นเต้นมากเกินไป เลยไม่รู้จะพูดอะไรออกมา และไม่รู้จะเอ่ยปากพูดยังไงด้วย
ผู้ดูแลจ้งเห็นท่าทางที่ดูระมัดระวังของเฉิงโหรวโหรวในตอนนี้ ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย อาการตกตะลึงตอนที่เห็นเฉิงโหรวโหรวเมื่อครู่นี้หายไปหมดแล้ว ตอนนี้แววตาของผู้ดูแลจ้งดูสลดเล็กน้อย ดูเหมือนจะผิดหวังขึ้นมา
ลูกสาวของหัวหน้าไม่น่าจะเป็นแบบนี้นะ!!
ลุงเหลียงอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็มีท่าทีเปลี่ยนไป เด็กสาวคนนี้อยู่คล้ายกับคนในภาพเหมือนของหัวหน้าก็จริง แต่ทำไมถึงได้ดูขี้ขลาดขนาดนี้ล่ะ?
เทียบกับคุณหนูใหญ่ตระกูลถังแล้ว ต่างกันมากเลยทีเดียว
อารมณ์ของซ่างกวนหงดูแล้วไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่ ตอนที่เขาเห็นเฉิงโหรวโหรว นอกจากแววตาที่เปลี่ยนไปเพียงเล็กน้อย สีหน้าท่าทางก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนเลย
“เจ้าเก้า ไปเจอคนนี้ที่ไหน?”คุณชายหานเป็นคนที่ไม่คิดอะไรมาก เขาไม่ได้ปักใจเชื่อว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังเป็นเจ้าหญิง ดังนั้นเขาจึงเชื่อว่าเฉิงโหรวโหรวก็คือลูกสาวของหัวหน้า
“ฉันเล่าให้ลุงเหลียงฟังหมดแล้ว ถึงจะบังเอิญไปหน่อย แต่ผลตรวจดีเอ็นเอก็ชัดเจนทุกอย่างแล้ว ไม่มีทางผิดพลาดได้หรอก” เจ้าเก้ามองไปที่คุณชายหาน และได้อธิบายให้ทุกคนฟัง
“หัวหน้าคะ เธอน่าจะเป็นลูกสาวที่หัวหน้าตามหานะคะ” เจ้าเก้าดึงเฉิงโหรวโหรวที่ยืนตัวทื่ออยู่ด้านหลังเธอออกมาด้านหน้า แล้วลากเธอไปตรงหน้าซ่างกวนหง
ความจริงก็เห็นชัดกันอยู่แล้ว เจ้าเก้าเชื่อในผลตรวจดีเอ็นเอ
ซ่างกวนหงมองไปทางเฉิงโหรวโหรวด้วยสายตาที่เรียบเฉย เรียบเฉยเหมือนกับที่เมื่อวานลุงเหลียงเอาผลตรวจดีเอ็นเอมาให้เขาดู
เขาได้แต่มองเฉิงโหรวโหรวอยู่อย่างนั้นโดยไม่พูดอะไร
“คุณ คุณ คุณเป็นพ่อของฉันจริง ๆ เหรอคะ?” เฉิงโหรวโหรวถูกเขามองแบบนั้น ก็ยิ่งระมัดระวังมากขึ้นไปอีก รู้สึกทำตัวไม่ถูก แต่เธอก็ได้พูดออกมาแล้ว
“อะเหลียง นายไปจัดการสิ ตรวจดีเอ็นเออีกครั้ง” ซ่างกวนหงไม่ได้ตอบคำถามของเฉิงโหรวโหรว แต่กลับหันไปสั่งลุงเหลียงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ
“ครับ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้” ลุงเหลียงตอบรับ
“ยังต้องตรวจดีเอ็นเอใหม่อีกครั้งเหรอ?” เจ้าเก้ารู้สึกคาดไม่ถึง เธอคิดว่าพาเฉิงโหรวโหรวกลับมาเพื่อให้ทำความรู้จักกับหัวหน้า คิดไม่ถึงเลยว่าหัวหน้าจะตรวจดีเอ็นเอใหม่อีกครั้ง
หัวหน้าไม่เชื่อว่าเฉิงโหรวโหรวเป็นลูกสาวของเขาเหรอ?
หรือว่าหัวหน้าไม่เชื่อเธอ?
เจ้าเก้ารู้สึกไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ แต่เธอก็ไม่สามารถพูดมันออกมาได้
เฉิงโหรวโหรวตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด เธอคิดไม่ถึงว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้ สีหน้าของเฉิงโหรวโหรวเปลี่ยนไปเล็กน้อย ดูเหมือนจะเสียใจและไม่พอใจเล็กน้อย
“คุณเฉิง รบกวนตามผมมาทางนี้หน่อยครับ พวกเราจำเป็นต้องเจาะเลือดคุณ” ลุงเหลียงเดินไปตรงหน้าเฉิงโหรวโหรว แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างอ่อนโยน และท่าทางดูสุภาพมาก
เฉิงโหรวโหรวเม้มปากจนแน่น แล้วเงยหน้าไปมองซ่างกวนหง เหมือนเธอต้องการจะพูดอะไร แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ
ดูออกว่าเธอไม่ค่อยเต็มใจที่จะไปตรวจดีเอ็นเออีกครั้ง
แต่เฉิงโหรวโหรวก็ไม่ได้พูดอะไร ไม่ได้ปฏิเสธหรือตอบโต้เลยสักนิด
ตอนนี้เฉิงโหรวโหรวไม่กล้าแม้แต่จะต่อต้านเลยสักนิด
ปฏิกิริยาแบบนี้อาจเป็นเพราะมีแผนอะไรในใจ หรืออาจเป็นเพราะขี้ขลาดเกินไป
คนที่อยู่ในนี้ต่างก็เป็นคนที่พบเห็นอะไรมามากมาย จึงมองออกว่าเด็กสาวอย่างเฉิงโหรวโหรวไม่ได้ร้อนตัว ในแววตาก็ไม่ได้มีแผนการอะไร ดังนั้นเฉิงโหรวโหรวคนนี้จึงไม่น่าจะมีปัญหาอะไรหรอก
คงเป็นเพราะนิสัยขี้ขลาดมากกว่า
ลุงเหลียงได้แต่แอบถอนหายใจออกมา หวังว่าผลตรวจดีเอ็นเอจะต่างกับเมื่อวาน ลูกสาวของหัวหน้าไม่น่าจะเป็นแบบนี้
หัวหน้าของพวกเขาเป็นคนที่ฉลาดและมีวิสัยทัศน์ น่าเกรงขาม และกล้าหาญมาก!
ต่อให้ลูกสาวของหัวหน้าไปอยู่ในครอบครัวคนธรรมดาทั่วไป บุคลิกลักษณะนิสัยก็ไม่น่าจะถูกขัดเกลาไปจนหมดแบบนี้
เหมือนอย่างคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง คุณหนูใหญ่ตระกูลถังคนนั้นก็ไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านถังมาตั้งแต่เด็ก เพิ่งถูกรับกลับมาอยู่ในบ้านถังได้ไม่นานนี้เอง
เมื่อก่อนคุณหนูใหญ่ตระกูลถังก็ใช้ชีวิตอยู่ในครอบครัวคนธรรมดาทั่วไป แต่คุณหนูใหญ่ตระกูลถังกลับยอดเยี่ยมขนาดนั้น จนไม่มีใครเทียบได้
ถึงแม้ตอนนี้ในใจลุงเหลียงจะคิดอะไรมากมาย แต่สีหน้าก็ยังเป็นปกติ และไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาได้แต่พาเฉิงโหรวโหรวไปที่อีกด้าน ตรงนั้นมีคนเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว เมื่อเห็นเฉิงโหรวโหรวมาถึง ก็เจาะเลือดให้เฉิงโหรวโหรวทันที
ตั้งแต่ตอนที่เจ้าเก้าไปหาเฉิงโหรวโหรวแล้วพาเฉิงโหรวโหรวกลับมาจนถึงตอนนี้ ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที
ขั้นตอนที่เจ้าหน้าที่เจาะเลือดให้เฉิงโหรวโหรวอยู่ในสายตาทุกคนโดยตลอด
ซ่างกวนหงกับผู้ดูแลจ้งคอยดูอยู่ด้านหลังซึ่งห่างออกไปไม่กี่เมตร ส่วนลุงเหลียงก็คอยยืนดูอยู่ข้าง ๆ เฉิงโหรวโหรว
ทุกขั้นตอน หากมีอะไรผิดปกติสักนิดก็คงไม่มีทางเล็ดลอดสายตาของคนเหล่านี้ไปได้
เจ้าหน้าที่ที่เจาะเลือดให้เฉิงโหรวโหรวถูกคนใหญ่คนโตมากมายจ้องอย่างนี้ ก็รู้สึกประหม่า เข็มแรกเลยเจาะเบี้ยวไป ต้องเจาะใหม่อีกครั้งถึงจะเจาะตรงจุด
เมื่อเข็มแทงเข้าไป ก็เห็นเลือดค่อย ๆ ไหลออกมา ในห้องโถงเงียบสงบทันที ไม่มีใครส่งเสียงเลยแม้แต่น้อย ทำให้บรรยากาศดูเคร่งขรึมมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ตอนนี้ในใจของเฉิงโหรวโหรวรู้สึกกระสับกระส่ายมากยิ่งขึ้น เมื่อเห็นเลือดไหลออกมามากขึ้นเรื่อย ๆ เธอก็ยิ่งรู้สึกแย่ ไม่ใช่บอกเธอว่าผลตรวจดีเอ็นเอออกมาแล้วหรอกเหรอ?