แต่ว่า ขณะที่เวินลั่วฉิงถือโทรศัพท์แล้วลุกขึ้นนั้น ถังจื่อซีเห็นโบรชัวร์ของโรงแรมวางอยู่บนโต๊ะ
ถังจื่อซีสายตาเฉียบคมมองเห็นตัวอักษรบนนั้น
จากนั้นถังจื่อซีจึงรีบโทรศัพท์ไปหาคุณชายสามเย่
ตอนนี้สี่ทุ่มกว่าแล้ว
คุณชายสามเย่เห็นถังจื่อซีโทรศัพท์มาหา ก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย เวลานี้ เวินลั่วฉิงน่าจะกลับถึงบ้านแล้ว
ดังนั้น ถังจื่อซีโทรมาหาคราวนี้คงน่าจะบอกข่าวดีกับเขา?
“ลูกรัก แม่กลับมาแล้วใช่ไหม” เมื่อรับสาย คุณชายสามเย่ก็เอ่ยปากพูดทันที น้ำเสียงของเขาตอนนี้ไม่ได้มีความสงสัยปนอยู่ แต่เป็นน้ำเสียงที่มั่นใจ เขาคิดว่าเวลานี้เวินลั่วฉิงต้องกลับไปแล้วแน่นอน
ถังจื่อซีได้ยินที่พ่อพูด ก็รีบส่ายหน้าทันที แต่หลังจากนั้นเธอก็คิดได้ว่าส่ายหน้าไปพ่อก็ไม่เห็นอยู่ดี เธอจึงพูดไปว่า : “เปล่าค่ะ แม่ไม่ได้กลับมา”
“ไม่กลับเหรอ? แม่ยังไม่กลับบ้านอีกเหรอ?” คุณชายสามเย่ขมวดคิ้ว แล้วดูเวลาอีกครั้ง ยืนยันว่าสี่ทุ่มกว่าแล้ว เวลานี้ทำไมเวินลั่วฉิงยังไม่กลับบ้านอีกล่ะ?
เธอมีเรื่องอะไรจำเป็นต้องคุยกับถังไป๋เชียนนานขนาดนั้น? คุยกันมาห้าหกชั่วโมงแล้ว
ดึกขนาดนี้ เธอยังไม่กลับไปอีก?
“ค่ะ ยังไม่กลับมา แม่บอกว่า คืนนี้แม่ไม่กลับมาแล้ว” ถังจื่อซีเอาคำพูดของเวินลั่วฉิงที่พูดเมื่อครู่นี้บอกคุณชายสามเย่อย่างละเอียด
“ลูกว่าอะไรนะ? แม่บอกว่าคืนนี้ไม่กลับบ้านแล้ว?” คุณชายสามเย่ได้ยินคำพูดของถังจื่อซี สีหน้าก็ถมึงทึงทันที
คืนนี้เวินลั่วฉิงไม่กลับบ้าน? แล้วเธอไปนอนที่ไหน?
คืนนี้เธอจะทิ้งให้ลูกสาวอยู่บ้านคนเดียวงั้นเหรอ?
“ใช่ค่ะ แม่บอกว่าคืนนี้ไม่กลับมาแล้ว คืนนี้แม่นอนที่โรงแรม” ถังจื่อซีไม่เห็นสีหน้าของคุณชายสามเย่ในตอนนี้ เธอยังคงรายงานเรื่องของแม่ต่อไป
“นอนที่โรงแรม?” คุณชายสามเย่หรี่ตาลง คืนนี้เวินลั่วฉิงนอนที่โรงแรม? ทำไมกัน?
“ลูกรู้ได้ยังไงว่าแม่อยู่ที่โรงแรม? แม่บอกเหรอ?” คุณชายสามเย่คิดครู่หนึ่ง ก็รีบถามต่อ
“พ่อคะ เมื่อกี้หนูวิดีโอคอลกับแม่ หนูเห็นแล้วค่ะ แม่อยู่ที่โรงแรม และแม่ก็บอกว่าคืนนี้จะพักที่โรงแรม ไม่กลับบ้านแล้ว ให้หนูนอนกับคุณย่า”
ถังจื่อซีหยุดพูดครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดต่อว่า : “พ่อคะ หนูจะบอกพ่อไว้นะคะ แม่พักห้องเดียวกับลุงถังด้วยล่ะ”
“ลูกรู้ได้ยังไง?” คุณชายสามเย่ตาโตทันที แต่ว่า สิ่งที่ถังจื่อซื่อพูดนั้น เขาไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไหร่
เวินลั่วฉิงนอนห้องเดียวกับถังไป๋เชียน เขาไม่เชื่อหรอก
เขายังคงเชื่อใจเวินลั่วฉิง
“หนูได้ยินไงคะ เมื่อกี้ตอนที่หนูคุยกับแม่ได้ยินเสียงลุงถังเรียกแม่”
ถังจื่อซีเป็นสายลับที่ได้มาตรฐานมากจริง ๆ เอาเรื่องที่ตัวเองรู้ตัวเองเห็นบอกกล่าวกับคุณชายสามเย่ทุกอย่าง
ถึงแม้ตอนที่วิดีโอคอล ถังจื่อซีจะไม่ได้แน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเสียงนั้นคือเสียงของถังไป๋เชียน แต่เธอรู้สึกว่าไม่ผิดคนแน่นอน
คุณชายสามเย่ : “……”
ชั่ววินาทีนั้น คุณชายสามเย่ถึงกับพูดอะไรไม่ออก
ตอนนี้ ในใจเขายากที่จะบรรยายได้
เขารู้ดีว่าถังจื่อซีไม่มีทางพูดโกหกแน่นอน ถังจื่อซีบอกว่าตอนที่วิดีโอคอลกับเวินลั่วฉิงได้ยินเสียงของถังไป๋เชียน
อยู่ในห้องพักที่โรงแรม? !
“พ่อคะ ทำไมถึงไม่พูดแล้วล่ะคะ” ถังจื่อซีไม่ได้ยินเสียงของคุณชายสามเย่ เลยอดไม่ได้ที่จะถาม
“พ่อคะ ตอนที่หนูวิดีโอคอลกับแม่เมื่อกี้นี้ เห็นโบรชัวร์โรงแรมบนโต๊ะด้วย หนูเห็นชื่อโรงแรมด้วยค่ะ” ถังจื่อซีนึกเรื่องสำคัญเรื่องนี้ขึ้นมาได้
“ลูกรู้เหรอว่าแม่พักอยู่ที่โรงแรมไหน?” คุณชายสามเย่อึ้งเล็กน้อย เจ้าหญิงน้อยของเขาช่างสังเกตมาก แม้แต่เรื่องนี้ก็ยังรู้!
ถ้าหากรู้ว่าเวินลั่วฉิงพักอยู่ที่โรงแรมไหน เรื่องนี้ก็จัดการง่ายแล้ว
“ค่ะ หนูเห็นแล้ว แม่อยู่ที่Hill Hotelค่ะ” ถังจื่อซีพยักหน้า เมื่อคิดได้ว่าพ่อไม่เห็น เธอจึงหยุดพยักหน้า
“ครับ พ่อรู้แล้ว ดึกมากแล้ว ลูกควรไปนอนได้แล้วนะ” คุณชายสามเย่พยายามพูดเสียงอ่อนโยน เวลานี้ ถังจื่อซีที่ยังเป็นเด็กควรเข้านอนได้แล้ว
“ก็ได้ค่ะ แม่บอกแล้วว่าคืนนี้ให้หนูไปนอนกับคุณย่า งั้นหนูไปหาคุณย่าแล้วนะคะ” ถังจื่อซีเป็นเด็กว่านอนสอนง่ายมาตลอด เวลานี้ เธอก็ควรจะไปนอนได้แล้ว
คุณชายสามเย่วางสายไป สีหน้าบึ้งตึงถึงขีดสุด
คืนนี้เวินลั่วฉิงนอนที่โรงแรม?
และยังอยู่ห้องเดียวกับถังไป๋เชียนด้วย?
อย่างน้อยตอนนี้พวกเขาก็ยังอยู่ในห้องเดียวกัน!!
ตอนนี้คุณชายสามเย่นั่งไม่ติดแล้ว ทันใดนั้น เขาก็รีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วออกไปจากห้อง
Hill Hotelมีบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปถือหุ้นอยู่ด้วย ดังนั้นการที่คุณชายสามเย่จะหาข้อมูลจึงทำได้รวดเร็วและสะดวกมาก
บนรถ คุณชายสามเย่โทรศัพท์ไปหาผู้จัดการโรงแรม
“ตรวจสอบให้ผมหน่อยว่าเวินลั่วฉิงพักอยู่ที่ห้องไหน?” เมื่อโทรติด ก็ไม่รอให้ผู้จัดการโรงแรมเอ่ยพูดอะไร คุณชายสามเย่ได้พูดไปก่อนทันที
“ครับ ได้ครับ” ผู้จัดการฟังน้ำเสียงของคุณชายสามเย่ออก จึงตอบตกลงด้วยความเคารพ เดิมทีผู้จัดการคิดจะไปตรวจดูที่ล็อบบี้
“คุณหาข้อมูลเป็นการภายในนะ” คุณชายสามเย่สั่งขึ้นมากะทันหัน
ผู้จัดการนิ่งอึ้งไป และนึกถึงความสัมพันธ์ของเวินลั่วฉิงกับคุณชายสามเย่ขึ้นมาได้ ผู้จัดการจึงแอบถอนหายใจออกมา จากนั้นก็ตอบรับ : “ครับ ผมเข้าใจแล้วครับ”
สถานการณ์อย่างนี้ แค่ฟังก็เข้าใจได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น!
ฟังน้ำเสียงของท่านประธานเหมือนมาแอบจับชู้เลย ถ้าหากไปที่ล็อบบี้ คงจะรู้อะไรมากกว่านี้ แต่เรื่องนี้จะเอะอะไปไม่ได้
“ประธานเย่ครับ หาได้แล้วครับ วันนี้ตอนห้าโมงสี่สิบแปดนาทีคุณเวินได้จองห้องพักห้องหนึ่ง เบอร์ห้องคือ 2809 ครับ” ผู้จัดการโรงแรมช่วยคุณชายสามเย่หาข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว
ห้อง 2809 เป็นห้องเพรสซิเดนท์สวีท จะพักคนเดียว หรือพักสองคนก็ได้……
คุณชายสามเย่ค่อย ๆ หรี่ตาลงทีละนิด และเงียบไปครู่หนึ่ง
“ท่านประธานครับ จะให้ผมตรวจสอบดูอีกไหมครับ ว่าคนที่เข้าพัก……” ผู้จัดการโรงแรมไม่ได้ยินเขา จึงลองถามเขาดูสักหน่อย
สถานการณ์อย่างนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคนที่เข้าพัก ถ้าหากเวินลั่วฉิงพักคนเดียว ก็คงไม่เป็นไร แต่ถ้าหากมีคนอื่นด้วย เรื่องนี้ก็คงวุ่นวาย
ฉะนั้น ผู้จัดการจึงคิดว่าจำเป็นต้องตรวจสอบให้แน่ชัดสักหน่อย
“ไม่ต้องแล้ว” คุณชายสามเย่หลุบตาลง แล้ววางสายไป น้ำเสียงของเขาในตอนนี้เย็นชาจนทำให้คนตัวสั่นเลยทีเดียว
ผู้จัดการโรงแรมตัวสั่นเล็กน้อย ไม่กล้าพูดอะไรมากอีกแล้ว เขาฟังดูแล้วรู้สึกว่าเรื่องนี้เหมือนจะร้ายแรงมาก
เมื่อคุณชายสามเย่วางสายไป ก็ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง มาถึงHill Hotel