“ผลตรวจวิเคราะห์คราบเลือดบนเครื่องมือทำร้ายออกมาแล้วครับ”บังเอิญกับเวลานี้ ตำรวจนายหนึ่งเอาเอกสารเดินเข้ามา
“ของคุณหลิวหรือครับ?”ทนายฉินเอ่ยปากถามก่อนหนึ่งประโยค
“ไม่ใช่ครับ”นายตำรวจส่ายหัว
ได้ยินตำรวจนายนี้พูด หลี่หมิงไม่เพียงแต่ไม่โล่งอก สีหน้ากลับแย่กว่าเดิม เวลานี้เขาตัวสั่นไปทั้งตัวแล้ว
สองขาหลี่เสี่ยวยวี่อ่อนจนคุกเข่าลงพื้น
“เลือดบนเครื่องมือทำร้ายร่างกายเป็นของหลี่เสี่ยวยวี่ ลูกสาวของคุณหลี่ครับ”ตำรวจมองไปยังหลี่เสี่ยวยวี่แวบหนึ่ง เขาก็สงสารเด็กผู้หญิงคนนี้เหมือนกัน แต่ความจริงก็คือความจริง เขาเป็นตำรวจจะพูดเท็จไม่ได้
คำพูดของตำรวจเปล่งออกมา ทุกคนในเหตการณ์ต่างเงียบสงัด ล้วนตกตะลึงกันทุกคน
เลือดบนเครื่องมือทำร้ายร่างกายเป็นของหลี่เสี่ยวยวี่?
ทำไมถึงเป็นหลี่เสี่ยวยวี่?
ช่วงเวลานั้นอยู่ในถ้ำ?
เกิดอะไรขึ้นกันแน่?ตกลงเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ลายนิ้วมือบนเครื่องมือทำร้ายร่างกายที่เปื้อนเลือดเป็นของหลี่หมิง และเจ้าของเลือดคือหลี่เสี่ยวยวี่?
ทุกคนพอจะคาดเดาได้คร่าวๆแล้ว ทว่ากลับไม่กล้าเชื่อ
“ผมไม่ได้ทำ พวกคุณโกหก วันนั้นผมพาลูกสาวกลับถึงบ้าน เห็นลูกสาวบาดเจ็บ ผมก็พาลูกสาวไปที่โรงพยาบาล ไม่ได้ไปถ้ำที่พวกคุณว่าเลย พวกคุณโกหก พวกคุณใส่ร้ายผม”หลี่หมิงได้สติก็โต้แย้งเสียงดัง
“หน้าทางเข้าหมู่บ้านยู่สุ่ยติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ ซึ่งสองปีก่อนนักศึกษาจำนวนหลายคนมาทัศนศึกษา ตอนนั้นพวกเขาจะทำการวิจัยข้อมูลเลยติดตั้งกล้องไว้ ซึ่งต่อมาก็ไม่ได้รื้อทิ้ง แต่มีคนรู้เรื่องกล้องวงจรปิดนี้น้อยมาก และกล้องนี้จับภาพคุณหลี่ขับรถนิสสัน ปิ๊กอัพ หมายเลขทะเบียนรถ 541 โดยพาหลี่เสี่ยวอยี่ผ่านไปในตอนเช้า 04:20น.”
ไป๋หยูหนิงหยุดพูดชั่วครู่ มองหลี่หมิงที่อึ้งทึ่งแวบหนึ่ง จากนั้นก็พูดต่อว่า “ตีสี่ยี่สิบนาทีคุณหลี่ขับรถออกจากหมู่บ้านยู่สุ่ย แต่คุณหลี่กลับนั่งรถแท็กซี่ไปโรงพยาบาล คุณหลี่เอารถนิสสัน ปิ๊กอัพไปจอดในโรงขยะแถวชานเมือง ซึ่งทางตำรวจหารถนิสสัน ปิ๊กอัพเจอแล้วค่ะ และได้ตรวจสอบแล้วพบว่าสภาพรถปกติ น้ำมันรถก็มี ขอเรียนถามหน่อยค่ะ สภาพรถเช่นนี้ทำไมคุณหลี่ถึงทิ้งรถนิสสัน ปิ๊กอัพแล้วไปนั่งรถแท็กซี่คะ?”
“ผม ผมไม่ชำนาญเส้นทาง……”เวลานี้หลี่หมิงร้อนรนเป็นอย่างมาก ทว่าเขายังคงโกหกต่อ
“จากการตรวจสอบของตำรวจ เมื่อก่อนคุณหลี่เคยทำงานส่งสินค้ามายังเมืองไห่ให้กับบริษัทขนส่งสินค้าเป็นระยะเวลาหนึ่งปี จึงชำนาญเส้นทางเมืองไห่มากค่ะ”ไป๋หยูหนิงเปิดโปงคำโกหกของหลี่หมิงทันที
หลี่หมิงถูกสวนกลับจนไร้คำต่อกร
“รอยล้อนอกถ้ำตรงกับรถนิสสัน ปิ๊กอัพของคุณหลี่ค่ะ”ไป๋หยูหนิงโยนระเบิดใส่หลี่หมิงต่อหน้าผู้คนอีกครั้ง “รถนิสสัน ปิ๊กอัพถูกขโมยออกจากโรงซ่อมรถในวันที่ 22 ซึ่งรถดังกล่าวจอดอยู่ในโรงซ่อมรถมาครึ่งปีแล้ว วันที่ 22 หมู่บ้านยู่สุ่ยมีฝนตกหนักจนถึงพลบค่ำ หลังจากตีห้าของวันที่ 23รถนิสสัน ปิ๊กอัพก็จอดอยู่ในโรงขยะตลอด ดังนั้นรอยล้อที่หน้าถ้ำจึงเกิดขึ้นตอนย่ำรุ่งของวันที่ 23 และรถคันนี้ก็มีคุณหลี่ขับเพียงคนเดียว จึงเพียงพอที่จะยืนยันว่า ย่ำรุ่งของวันที่ 23 คุณหลี่เคยไปที่ถ้ำมาก่อน”
“คุณหลี่ยังมีอะไรจะเสริมอีกไหมคะ?” ขณะที่ไป๋หยูหนิงถามหลี่หมิงก็อดชำเลืองหลี่เสี่ยวยวี่ที่นั่งอึ้งอยู่บนพื้นโดยไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ไม่ได้
หลี่หมิงนั่งบนเก้าอี้แบบไม่ขยับเขยื้อน ไม่พูดไม่จาสักคำ ไม่ใช่เขาไม่อยากพูด แต่เขาไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไรต่อ
“ความจริงพิสูจน์ว่า หลังจากคุณหลี่รับตัวหลี่เสี่ยวอยี่มาจากโรงแรม แล้วแยกตัวกับชาวบ้านก็ไม่ได้กลับบ้านของตัวเอง แต่ไปที่ถ้ำตอนี้คุณหลี่พอจะบอกได้ไหมคะว่าคุณไปทำอะไรที่ถ้ำ?ทำไมในถ้ำถึงมีเครื่องมือทำร้ายที่เปื้อนเลือดของหลี่เสี่ยวอยี่โดยมีลายนิ้วมือของคุณหลี่อยู่ด้วย คุณหลี่ทำอะไรหลี่เสี่ยวอยี่ตอนอยู่ในถ้ำคะ?”ไป๋หยูหนิงไม่ใช่ไม่เห็นอกเห็นใจหลี่เสี่ยวอยี่ เพียงแต่ความจริงก็คือความจริง ไม่ใช่เพราะเธออายุน้อยแล้วจะปิดบังความจริงได้
คนที่ร่วมฟังคดีไต่สวนก็เข้าใจแล้ว แน่นอนรวมถึงคนที่ดูถ่ายทอดสดก็เกือบเข้าใจหมดแล้วเช่นกัน
“คุณหลี่ค่ะ ขอถามหน่อยค่ะตอนนั้นคุณทำอะไรกับลูกสาวกันแน่คะ?”มีนักข่าวเริ่มถามอย่างอดใจไม่ได้
“คุณหลี่ครับ บาดแผลบนตัวลูกสาวคุณ ตกลงเป็นฝีมือถังหยุนเฉิงหรือเป็นฝีมือคุณครับ?”นักข่าวอีกคนก็ถามขึ้นมา
และเมื่อประโยคของนักข่าวเปล่งออกมา สถานที่พลันเกิดเสียงเซ็งแซ่ขึ้น
ร่างกายหลี่หมิงแข็งทื่ออย่างเห็นได้ชัด เขารีบเงยหน้ามองนักข่าวแวบหนึ่ง แววตาเผยความหวาดกลัวอย่างควบคุมไม่ได้ การตอบสนองของเขาให้คำตอบของนักข่าวแล้ว
เวลานี้ ไม่ว่าจะอยู่ในเหตุการณ์ก็ดีหรือดูถ่ายทอดสดก็ดี ต่างรู้ความจริงกันหมดแล้ว
“ผมสามารถยืนยันได้ว่าหลักฐานที่ไป๋หยูหนิงเป็นความจริงทุกประการครับ”ผู้บัญชาการหลิวพูดหนึ่งประโยคอย่างเป็นเวลา
มุมปากหลี่หมิงขยับ แต่ไม่อาจสรรหาคำใดมาโต้แย้งแล้ว เขาคิดว่าเขาทำได้แยบยลแล้ว ทว่ากลับถูกคนอื่นตรวจสอบเจอ
“คุณหลี่ครับ เชิญคุณอธิบายว่าย่ำรุ่งของวันที่ 23 คุณทำอะไรอยู่ที่ถ้ำครับ?ทำไมเครื่องมือในถ้ำถึงมีลายนิ้วมือของคุณหลี่และทำไมถึงมีเลือดของหลี่เสี่ยวอวี่ครับ?”ตำรวจที่ทำคดีนี้ถามหลี่หมิงโดยตรง ซึ่งคำพูดของเขากับนักข่าวไม่เหมือนกัน เวลานักข่าวถามหลี่หมิงปฏิเสธที่จะตอบได้ แต่เวลาตำรวจถามหลี่หมิงจำเป็นต้องตอบ
“ผม ผม ผม……”ร่างกายหลี่หมิงสั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้ เอ่ยคำว่า ผม ครึ่งค่อนวันแล้วก็พูดอย่างอื่นไม่ได้สักคำ
เมื่อเห็นการตอบสนองของหลี่หมิง ทุกคนก็รู้ว่าเรื่องเป็นอย่างไรแล้ว
“โอ้โห ที่แท้ความจริงก็เป็นอย่างนี้นี่เอง?ที่แท้เขาทำร้ายลูกสาวของตัวเองแล้วใส่ร้ายคุณถังหยุนเฉิง?”คนอยู่ในเหตุการณ์เสียมารยาทขึ้นมา แน่นอนยังเป็นการพูดความจริงอีกด้วย
“เลวยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉานอีก”
“งั้นเด็กผู้หญิงก็โกหกมาตลอดใช่ไหม?เมื่อสักครู่เด็กผู้หญิงยังเป็นพยานเท็จให้กับหลี่หมิง เด็กผู้หญิงบอกว่าเธอรู้สึกตัวตลอดดังนั้นเด็กผู้หญิงรู้เรื่องทุกอย่าง……เมื่อคิดเรื่องนี้ดีๆแล้วช่างน่าสยดสยองจริงๆ”
“เด็กผู้หญิงอายุสิบเอ็ดปีทำเรื่องอย่างนี้ได้ ผมไม่กล้าเชื่อจริงๆ แต่ความจริงทำให้ผมไม่เชื่อไม่ได้”
“เธอเป็นเด็กอายุแค่สิบเอ็ดปี?เหลือเชื่อจริงๆ”
เพราะไต่สวนอย่างเปิดเผย ดังนั้นมีความอยู่ในเหตุการณ์ไม่น้อย ทุกคนเริ่มวิพากษ์วิจารณ์ไม่หยุดหย่อน
ความจริงชัดเจนมากแล้ว
“เป็นเพราะแม่ เป็นความผิดแม่ทั้งนั้น ทำไมแม่ถึงทำอย่างนี้”หลี่เสี่ยวอวี่ที่นั่งอยู่กับพื้นลุกขึ้นไปดึงเส้นผมคุณหลิวกะทันหัน“ใครให้แม่มายุ่ง เพราะแม่แหละที่ทำให้เป็นแบบนี้”
“เสี่ยวอยี่ หนูอย่าทำอย่างนี้ แม่หวังดีกับหนู แม่ปล่อยให้หนูเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้……”คุณหลิวถูกลูกสาวดึงเส้นผมพลันรู้สึกปวดจนต้องสูดลมหายใจ แต่ก็ยังคงเกลี้ยกล่อมลูกสาวของตนอยู่