“แม่อย่ามายุ่งเรื่องหนู หนูทำไมเหรอ?หนูผิดอะไร?หนูแค่อยากมีชีวิตที่สุขสบาย พวกเขามีทุกอย่าง แต่หนูไม่มีอะไรเลย หนูอยากมีชีวิตดีๆมันผิดด้วยเหรอ?”หลี่เสี่ยวอยี่ไม่ฟังคำห้ามปรามของคุณหลิว
“เสี่ยวอยี่หนูทำแบบนี้ไม่เพียงทำร้ายตัวเอง ยังทำร้ายคนอื่นด้วย……”คุณหลิวได้ยินคำพูดของลูกสาวก็ปวดใจยิ่งนัก ทำไมลูกสาวของเธอจึงเป็นแบบนี้ไปได้?ทำไมกลายเป็นแบบนี้?
“คนนั้นเก่งจะตาย คนนั้นเป็นผู้นำที่ตำแหน่งสูงมาก แถมเขายังมีทุกอย่าง ส่วนหนูไม่มีอะไรเลย เขาช่วยหนูได้เงิน มันผิดตรงไหน”หลี่เสี่ยวอยี่แทรกบทคุณหลิวอีกครั้ง
การกระทำของหลี่เสี่ยวหยูทำให้ผู้คนตกตะลึงงัน และคำพูดของหลี่เสี่ยวอยี่ยิ่งทำให้ผู้คนอ้าปากค้าง ความคิดของเด็กผู้หญิงน่ากลัวมาก มิน่าล่ะเวลาเธอพูดปดขึ้นมาไม่เปลี่ยนสีหน้าเลย
มาถึงตอนนี้ทุกคนก็เข้าใจทุกอย่างอย่างถ่องแท้แล้ว ตอนแรกทุกคนสงสารเด็กผู้หญิงคนนี้มาก ส่วนตอนนี้……
“ในที่สุดความจริงก็กระจ่างเสียที”ในโรงแรม เย่ซือเฉินโอบเวินลั่วฉิงมาจูบที่หูเบาๆหนึ่งครั้ง “ประเด็นคือไม่มีใครสงสัยกับผลลัพธ์เช่นนี้ จุดนี้สำคัญที่สุด”
“อืม”เวินลั่วฉิงตอบเสียงเบาหนึ่งคำ จัดการปัญหาได้อย่างราบรื่นแล้ว
ทันใดนั้นโทรศัพท์ของเวินลั่วฉิงดังขึ้น เวินลั่วฉิงมองสายเรียกเข้ามุมปากพลันยกโค้งขึ้นมายิ้ม
“ฉิงฉิง ขอบใจน้องมากนะ”เมื่อรับสาย เสียงของถังหลินก็ส่งมา ปกติถังหลินที่เป็นคนใจเย็นตอนนี้น้ำเสียงมีความตื่นเต้นอย่างเด่นชัด:“ฉิงฉิง ถ้าหากไม่มีน้อง……”
“พี่อย่าขอบคุณแค่ปากสิ ต้องมีการกระทำด้วย”เวินลั่วฉิงตัดบทถังหลินทิ้ง ครอบครัวเดียวกันไม่จำเป็นต้องพูดเกรงใจกันขนาดนั้น
“ได้ น้องอยากได้อะไรพี่ให้หมดเลย”ถังหลินเข้าใจเจตนาของเธอดี จึงหัวเราะออกมาเสียงเบา
“ไม่จำเป็น พวกเราไม่ขาดแคลนอะไร”เวินลั่วฉิงยังไม่ทันตอบ เย่ซือเฉินก็ชิงตอบหนึ่งประโยคเสียแล้ว
“เย่ซือเฉิน ผมให้น้องสาวของผม ให้ได้อย่างเหมาะสม แล้วนายล่ะ นายเป็นอะไรกับฉิงฉิง?แล้วก็ของที่นายมีฉิงฉิงก็ไม่อยากได้”เวลานี้ถังหลินรู้สึกเบาใจ จึงถกเถียงกับเย่ซือเฉินอย่างหาชมได้ยากขึ้นมา
สีหน้าคุณชายสามเย่พลันเปลี่ยนไป จากนั้นก็วางสายของเวินลั่วฉิงทิ้ง
เวินลั่วฉิงมองเขาแวบหนึ่ง อดกระตุกมุมปากไม่ได้ คนนี้นับวันยิ่งทำตัวเป็นเด็กเข้าไปทุกที
ทว่าถังหลินก็ไม่ได้มีธุระสำคัญอะไร เวินลั่วฉิงจึงไม่ได้พูดอะไรมาก
ไม่นานไป๋หยูหนิงก็กลับมาถึงโรงแรม แน่นอนคุุุณฟู่ก็ติดตามไม่ห่าง
“คุณจะกลับเลยไหม?”เวินลั่วฉิงรู้ว่าไป๋หยูหนิงงานยุ่ง เมื่อสะสางปัญหาได้แล้ว ไป๋หยูหนิงต้องกลับไปแน่นอน
“ฉิงฉิง ฉันไปเมืองAกับคุณ”ทว่าไป๋หยูหนิงกลับดึงมือเวินลั่วฉิงไว้ ซึ่งระหว่างที่พูดยังจ้องเขม็งไปยังคุุุณฟู่แวบหนึ่งอีกด้วย
“กลับเมืองAกับฉัน?คุณแน่ใจนะ?”เวินลั่วฉิงกะพริบตาปริบๆ สองคนนี้ยังไงกันนะ ถึงแม้ทั้งสองมีปัญหากัน แต่ไป๋หยูหนิงก็ไม่จำเป็นต้องอยู่กับเธอมั้ง?
“แน่ใจ”ไป๋หยูหนิงตอบด้วยความขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน เธอจะกลับไปได้อย่างไร ผู้ชายคนนี้ตามเธอไม่ห่างแม้แต่ก้าวเดียว หรือเธอยังต้องพาเขากลับไปด้วย?
ดังนั้นเธอตัดสินใจตามเวินลั่วฉิงกลับไป รอให้มีโอกาสเมื่อไหร่ค่อยสะบัดผู้ชายคนนี้ทิ้ง จากนั้นเธอค่อยกลับไป
“โอเค”เวินลั่วฉิงไม่ได้ถามอะไรมาก เพียงแค่มองคุุุณฟู่แวบหนึ่ง รู้สึกว่าคุุุณฟู่เก่งใช้ได้เลย สามารถบีบไป๋หยูหนิงถึงขั้นนี้
ทุกครั้งที่ไป๋หยูหนิงทำภารกิจสำเร็จ เธอก็จะรีบกลับไปให้เร็วที่สุด เพราะที่นั่นมีรักครั้งแรกของไป๋หยูหนิง
ตอนนี้เป็นเพราะคุุุณฟู่ท่านนี้ ไป๋หยูหนิงกระทั่งรักแรกก็ไม่รีบร้อนจะไปหาแล้ว?
เก่งมากเลย!!
คดีของถังหยุนเฉิงจัดการเรียบร้อยแล้ว ทุกคนจึงกลับเมืองAพร้อมกัน
ส่วนถังหยุนเฉิงยังมีเรื่องต้องจัดการ ดังนั้นจึงไม่ได้กลับพร้อมกับพวกเขา
เมื่อกลับมาถึงเมืองA ครั้งนี้เย่ซือเฉินตามเวินลั่วฉิงไปที่บ้านตระกูลถังโดยตรง
เหตุผลของคุณชายสามเย่เข้าท่ามาก เขาจะไปหาลูกสาวของเขา
เวินลั่วฉิงหันไปมองเขา เหตุผลนี้เธอขัดขวางเขาไม่ได้จริงๆ แต่ตอนนี้เขายังไม่รู้เรื่องจื่อโม่ หากเขาไม่เจอหน้าจื่อซีที่บ้านตระกูลถังก็ต้องเห็นจื่อโม่ด้วย
ถึงเวลานั้นจื่อโม่จะโทษเธอไหม?
แต่เวินลั่วฉิงคิดได้ว่าจื่อโม่เป็นคนให้จื่อซีไปหาเย่ซือเฉิน เช่นนั้นจื่อโม่ก็น่าจะคิดถึงเหตุการณ์เช่นนี้อยู่แล้ว
ดังนั้นจึงโทษเธอไม่ได้
ดังนั้นเวินลั่วฉิงไม่ได้ขัดขวางเย่ซือเฉิน
แต่ตอนที่พวกเขากลับถึงบ้านตระกูลถัง จื่อซีกลับไม่อยู่บ้าน ท่านย่าถังบอกเพียงหนึ่งประโยคว่า “ออกไปเล่นแล้ว”
ตอนที่ท่านย่าถังมองเย่ซือเฉินก็ส่งเสียง ฮึ หนึ่งคำ
ช่วงนี้ตระกูลถังเกิดเรื่อง เดิมที่คิดจะปิดผู้ใหญ่ทั้งสองท่าน แต่ต่อมาเรื่องบานปลายใหญ่โตจนปิดไม่มิด ผู้ใหญ่ทั้งสองท่านจึงรู้เรื่องด้วย
แต่เวินลั่วฉิงบอกพวกท่านว่าไม่ต้องเป็นกังวล เธอจะแก้ปัญหาเอง ซึ่งพวกท่านก็รู้ความสามารถของเวินลั่วฉิงเป็นอย่างดี มั่นใจในตัวเวินลั่วฉิงมาก ดังนั้นพวกท่านจึงไม่ได้กังวลมากนัก
เมื่อวานซืนท่านทั้งสองไปร่วมงานแต่งของหลานชายเพื่อน ซึ่งได้รับการ์ดเชิญที่กำหนดไว้ตั้งนานแล้ว ดังนั้นพวกท่านจะปฏิเสธไม่ไปกะทันหันไม่ได้
พวกท่านเจอคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ในงานแต่งงานด้วย
ซึ่งคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่หลบหน้าพวกท่านอย่างกับอะไรดี แม้แต่คำทักทายก็ไม่มี คงอยากบอกทุกคนแทบตายว่าพวกท่านกับตระกูลเย่ไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไร
แน่นอนคนอื่นในงานหลายคนก็รักษาระยะห่างจากพวกท่านด้วย ทว่าไม่ได้เด่นชัดเท่าคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ คนอื่นยังทักทายอยู่ เพียงแต่ไม่ได้กระตือรือร้นเหมือนปกติ
ทำไมท่านปู่ถังกับท่านย่าถังจะไม่เข้าใจความคิดของคนชราตระกูลเย่ พวกเขาคิดว่าถังหยุนเฉิงเกิดเรื่อง ตระกูลถังต้องพังพินาศ เกรงจะพลอยทำให้พวกเขาเดือดร้อนไปด้วย
ก่อนหน้านี้คนชราบ้านตระกูลเย่ยังมาพูดถึงเรื่องสู่ขอ บอกว่าจะเกี่ยวดองกัน ผลสุดท้ายก็คือตระกูลถังเกิดเรื่อง ตระกูลเย่ก็หลบไปไกลเชียว ท่านไม่เคยเห็นใครที่มองอำนาจเป็นหลักเท่านี้มาก่อน
ยังดีที่เย่ซือเฉินไม่ได้บอกว่าจะมาหาจื่อซี ไม่งั้นท่านย่าถังคงต้องพาลใส่คุณชายสามเย่เป็นแน่
ทว่าเด็กน้อยถังจื่อซีออกไปเที่ยวแล้วจริง เพราะฉู่หลิงเอ๋อมาเมืองA จึงพาเด็กๆออกไปเที่ยวเล่น
เวลานี้ฉู่หลิงเอ๋อกับเด็กๆทั้งสองคนอยู่ในภัตตาคารแห่งหนึ่ง กำลังวางแผนการใหญ่ของพวกเขาอยู่
“คืนพรุ่งนี้มีงานประมูล คุณชายสามเย่ก็จะไปร่วมงานด้วย ผมไปกับน้า ผมมีแผนการอะไรก็เริ่มในงานประมูลได้เลยจ้ะ”ฉู่หลิงเอ๋อได้ยินว่าจื่อซีกับเย่ซือเฉินนับพ่อนับลูกกันแล้ว ทว่าจื่อโม่กลับอยากทดสอบคุณชายสามเย่ก่อน จึงเริ่มออกความคิดเห็นด้วยความตื่นเต้นขึ้นมา เรื่องอย่างนี้จะขาดเธอไปได้อย่างไร
เธอมาเพื่อร่วมงานประมูลครั้งนี้อยู่แล้ว ดังนั้นเธอจึงรู้รายชื่อผู้ร่วมงานว่ามีชื่อของคุณชายสามเย่ด้วย
“จริงเหรอครับ?ดีจังเลย”ดวงตาเด็กน้อยถังจื่อโม่สว่างไสว เขาวางแผนมาตั้งนาน แต่หาโอกาสไม่ได้เสียที คืนพรุ่งนี้เป็นโอกาสที่ไม่เลวเลย
“งั้นตกลงตามนี้เลยจ้ะ งั้นพรุ่งนี้น้าพาผมไปงานประมูลด้วยกันนะจ๊ะ”ฉู่หลิงเอ๋อยิ้มจนไม่เห็นตาแล้ว เธอเป็นคนไม่กลัวโลกวุ่นวายอยู่แล้ว
ฉู่หลิงเอ๋อร่วมมือกับถังจื่อโม่ เกรงว่าคงจะวุ่นวายใหญ่โตจริงๆแล้ว