รอบต่อไป เขาต้องชนะเย่ซือเฉินแน่นอน!
ต้องชนะแน่ ๆ!!
“แน่นอนครับ แน่นอน จะประมูลกันต่อเดี๋ยวนี้เลยครับ” ผู้จัดการฝ่ายการเงินโน้มตัวแล้วพยักหน้าหงึก ๆ การที่หยุดประมูลชั่วคราวเดิมทีก็เพราะกังวลว่าคุณมู่คนนี้จะไม่มีเงิน ตอนนี้เขาโอนเงินสามพันล้านเข้าบัญชีแล้ว พวกเขาจะยังมีอะไรที่ต้องกังวลอีกล่ะ
แน่นอนว่าจะเริ่มการประมูลต่อไปทันที
ผู้จัดการฝ่ายการเงินรีบส่งข้อความไปหาพิธีกร
พิธีกรเห็นข้อความของผู้จัดการฝ่ายการเงินก็อึ้งไปเลย แต่ในเมื่อผู้จัดการฝ่ายการเงินบอกว่าไม่มีปัญหา ก็แสดงว่าไม่มีปัญหาแน่นอน เขารับผิดชอบแค่หน้าที่พิธีกรในการประมูล ส่วนเรื่องอื่น ๆ ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา
“เริ่มทำการประมูลกันต่อเลยนะครับ สิ่งของชิ้นถัดไปคือเครื่องหยก เป็นเครื่องหยกที่ใช้ตามประเพณีในสมัยราชวงศ์โจวและราชวงศ์ฮั่น เครื่องหยกในสมัยราชวงศ์โจวและราชวงศ์ฮั่นนั้นเป็นของที่หายากมาก เป็นของล้ำค่ามาก ๆ เครื่องหยกแบบนี้พบเห็นได้ยาก มีมูลค่ามหาศาลแน่นอน” พิธีกรอธิบายเครื่องหยกชิ้นนี้อย่างละเอียดมาก
เมื่อได้ฟังที่พิธีกรอธิบาย ผู้คนมากมายในงานต่างก็ตาลุกวาวทันที!!
ทุกคนต่างรู้ดีว่าสมาคมประมูลหงเยว่มีแต่ของดี ๆ ทั้งนั้น และรู้ด้วยว่าของจากสมาคมประมูลหงเยว่ไม่มีทางเป็นของปลอม เครื่องหยกสมัยราชวงศ์โจวและราชวงศ์ฮั่นชิ้นนี้เป็นของหายากจริง ๆ
บนเวทีประมูล ภายใต้แสงไฟสาดส่อง เครื่องหยกชิ้นนั้นถูกส่องสว่างขึ้นมา ดูใสสว่างพร่างพราว มองไม่เห็นรอยตำหนิใด ๆ เลยสักนิด แค่มองก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นหยกเนื้อดีคุณภาพสูง
หากไม่พูดว่าเป็นเครื่องหยกสมัยราชวงศ์โจวและราชวงศ์ฮั่น ต่อให้เป็นหยกชิ้นหนึ่งในยุคปัจจุบัน แต่คุณภาพดีขนาดนี้ เป็นหยกเนื้อดีชิ้นใหญ่เช่นนี้ ก็ถือว่ามีมูลค่ามากมายแล้ว
อย่างที่พูดกันว่าทองคำมีราคาแต่หยกประเมินค่าไม่ได้ แม้ว่าพิธีกรยังไม่ประกาศราคาประมูลเริ่มต้น แต่ทุกคนในงานต่างรู้ดีอยู่แก่ใจว่าเครื่องหยกชิ้นนี้ราคาสูงมากแน่นอน
เครื่องหยกแบบนี้ไม่ใช่คนทั่วไปจะสามารถซื้อกันได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้เป็นการประมูล ในงานประมูลสามารถเสนอราคาเท่าไหร่ก็ได้
เหมือนอย่างหยกแขวนเมื่อครู่นี้!!
ในงานวันนี้อาจจะมีเพียงคุณชายสามเย่เท่านั้นที่สามารถประมูลไปได้ แน่นอนว่ายังมีคุณมู่ด้วยอีกคน
แต่ถ้าหากว่าคุณชายสามเย่ประมูล แล้วคุณมู่ประมูลตามต่อไปเรื่อย ๆ เหมือนสองครั้งก่อนหน้านี้ ไม่ว่าสุดท้ายใครจะประมูลเครื่องหยกชิ้นนี้ไปได้ ก็คงเป็นราคาที่สูงเสียดฟ้าเลยทีเดียว
มันต้องเป็นราคาที่สูงเสียดฟ้าแน่นอน!!
เย่ซือเฉินไม่ได้สนใจเครื่องหยกพวกนี้หรอก ดังนั้นเขาจึงไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ ทั้งนั้น
หัวหน้าน้อยก็ไม่ได้สนใจในของโบราณพวกนี้เลย ตอนนี้เขาสนแค่ว่าจะชนะเย่ซือเฉินได้ยังไง
“เครื่องหยกสมัยราชวงศ์โจวและราชวงศ์ฮั่นชิ้นนี้ราคาประมูลเริ่มต้นที่เจ็ดร้อยล้าน ประมูลแต่ละครั้งเพิ่มราคาครั้งละห้าสิบล้าน” ในที่สุดพิธีกรก็ประกาศราคาประมูลเริ่มต้นออกมา
เมื่อได้ยินราคาประมูลเริ่มต้นที่พิธีกรประกาศออกมา หลายคนที่ตาลุกวาวในตอนแรกเหมือนถูกดับฝันไปทันที ราคาประมูลเริ่มต้นที่เจ็ดร้อยล้าน เพิ่มเงินครั้งละห้าสิบล้าน ยังไงราคาก็เกินพันล้านได้อย่างง่ายดาย
หยกคุณภาพดีชิ้นใหญ่ขนาดนี้ อีกทั้งเป็นเครื่องหยกที่ใช้ตามประเพณีในสมัยราชวงศ์โจวและราชวงศ์ฮั่น ราคาแบบนี้ถือว่าไม่ได้เหนือความคาดหมายสักเท่าไหร่
เพียงแต่ว่า เครื่องหยกชิ้นนี้ดีก็จริง แต่ถ้าประมูลได้ในราคาที่เกินพันล้านก็ทำให้ปวดใจมากจริง ๆ และคนทั่วไปก็คงไม่มีทางควักเงินเป็นพันล้านออกมาจ่ายได้ทันทีหรอก
แม้ว่าคนในงานจะมีฐานะร่ำรวยกันทั้งนั้น แต่คนที่สามารถควักเงินจ่ายเป็นพันล้านได้ในทันทีกลับมีไม่มากนัก
ดังนั้นคนที่คิดอยากจะประมูลก่อนหน้านี้ เมื่อได้ยินพิธีกรประกาศราคาประมูลเริ่มต้นออกมา ก็ไม่คิดจะประมูลกันอีกแล้ว
ทุกคนที่อยู่ในงานต่างหันไปมองทางห้องหมายเลข 9 และห้องหมายเลข 10 ตอนนี้คนที่สามารถประมูลเครื่องหยกชิ้นนี้ได้ก็น่าจะมีแค่สองคนนั้นแล้วล่ะ
ทุกคนรู้ถึงความสามารถของคุณชายสามเย่ดีอยู่แล้ว
ส่วนผู้คนก่อนหน้านี้หรือคนที่สงสัยในความสามารถของคุณมู่อยู่บ้าง ตอนนี้ก็ไม่สงสัยอะไรอีกแล้ว
เมื่อครู่ที่พิธีกรบอกว่าหยุดพักชั่วครู่ จากนั้นก็มีคนเห็นว่าผู้จัดการฝ่ายการเงินของสมาคมประมูลหงเยว่ได้ขึ้นไปยังชั้นสอง คนที่อยู่ในงานล้วนเป็นคนฉลาดกันทั้งนั้น จึงเข้าใจดีว่าสมาคมประมูลหงเยว่คงกลัวว่าเมื่อถึงเวลาแล้วคุณมู่จะไม่มีเงินจ่าย จึงให้ผู้จัดการฝ่ายการเงินไปทวงเงินด้วยตัวเอง
และเมื่อผู้จัดการฝ่ายการเงินขึ้นไปยังชั้นสอง จากนั้นไม่ถึงสองนาที ก็เริ่มการประมูลต่อทันที ส่วนคุณมู่ก็ยังคงนั่งอยู่ในห้องหมายเลข 10 เช่นเดิม ไม่ได้เกิดเรื่องอะไรขึ้นสักนิด แสดงว่าคุณมู่มีเงินจ่ายค่าของที่ประมูลไป
ดังนั้น คุณมู่คนนี้ก็น่าจะมีความสามารถแข่งกับคุณชายสามเย่ได้จริง ๆ
เพียงแต่ ไม่รู้ว่ารอบนี้จะยังแย่งชิงกันอีกหรือเปล่า
ราคาประมูลเริ่มต้นในตอนนี้ อีกทั้งต้องเพิ่มเงินครั้งละห้าสิบล้าน ถ้าหากเป็นเหมือนสองครั้งก่อนอีก ทุกคนไม่กล้าคิดถึงผลที่ตามมาเลยทีเดียว
“แพงขนาดนี้เลยเหรอ?” ฉู่หลิงเอ๋อตาค้างไปเลย นี่มันแพงเกินไปแล้ว ใครจะยอมจ่ายเงินมากมายขนาดนั้นเพื่อซื้อของที่จริง ๆ แล้วไม่มีประโยชน์อะไรเลยกลับไป?
ยังไงซะเธอก็ไม่มีทางซื้อแน่นอน อาจเป็นเพราะความยากจนจำกัดความสามารถในการชื่นชมของเธอไปแล้ว
“เถ้าแก่ของสมาคมประมูลหงเยว่นี่ไม่ธรรมดาจริง ๆ ถึงขนาดหาของมีค่าอย่างนี้มาไว้ในมือได้?” หลังจากที่ฉู่หลิงเอ๋อตั้งสติได้ ก็รวบรวมสมาธิแล้วใคร่ครวญดู : “หนูว่าเขาไปเอาของแบบนี้มาจากที่ไหน? คงไม่ใช่ของปลอมหรอกนะ?”
“ว่ากันว่าสมาคมประมูลหงเยว่ไม่เคยเอาของปลอมมาประมูลขายนะครับ” ถังจื่อโม่หันไปมองฉู่หลิงเอ๋อ ของชิ้นนี้หายากจริง ๆ นั่นแหละ ไม่แปลกที่ฉู่หลิงเอ๋อจะสงสัย แต่หลายปีที่ผ่านมาสมาคมประมูลหงเยว่ไม่เคยมีเรื่องผิดพลาดใด ๆ เลย คงควบคุมดูแลอย่างเข้มงวดกวดขันมาก แน่นอนว่าการพิสูจน์ตรวจสอบของที่นำมาประมูลก็คงเคร่งครัดเป็นอย่างมากเช่นกัน
อีกอย่างคนที่มาแข่งประมูลของที่สมาคมประมูลหงเยว่ต่างก็เป็นคนมีฐานะใหญ่โตกันทั้งนั้น ถ้าหากมีคนประมูลไปแล้วตรวจสอบได้ว่าเป็นของปลอม สมาคมประมูลหงเยว่คงได้ไม่คุ้มเสียแน่นอน เถ้าแก่ของสมาคมประมูลหงเยว่ไม่น่าจะทำเรื่องโง่ ๆ แบบนั้นหรอก
“แล้วหนูว่าของดีมากมายขนาดนี้ เถ้าแก่ของสมาคมประมูลหงเยว่ไปเอาจากที่ไหน?” ฉู่หลิงเอ๋อขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่พูดถึงเครื่องหยกสมัยราชวงศ์โจวและราชวงศ์ฮั่นก่อน แต่ภาพวาดมีชื่อเสียงและหยกแขวนก่อนหน้านี้ก็ล้วนเป็นของหายากทั้งนั้น แล้วสมาคมประมูลหงเยว่ไปเอามาจากที่ไหน
“สิ่งของพวกนี้หากมีอยู่ ก็สามารถนำออกสู่ตลาดได้ พูดได้แค่ว่าเถ้าแก่ของสมาคมประมูลหงเยว่คนนี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ” ถังจื่อโม่รู้ดีว่า เรื่องบางเรื่องดูแล้วเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ แต่สำหรับคนที่มีช่องทางในการทำเรื่องพวกนี้แล้วนั้นไม่ถือว่าเป็นเรื่องยากเท่าไหร่เลย
“หนูว่าครั้งนี้คุณชายสามเย่จะประมูลอีกไหม?” ฉู่หลิงเอ๋อไม่ได้ซักไซ้เรื่องที่มาของสิ่งของเหล่านี้อีกแล้ว เธอนึกขึ้นได้ว่าราคาประมูลเริ่มต้นสูงขนาดนี้ ไม่รู้ว่าครั้งนี้คุณชายสามเย่จะประมูลอีกหรือเปล่า?
“จากที่ผมสืบมา เขาไม่สนใจพวกเครื่องหยกแบบนี้เท่าไหร่ ตามปกติแล้วเขาน่าจะไม่ประมูล แต่เห็นได้ชัดว่าคนจากห้องหมายเลข 10 ต้องการแข่งกับเขา ดังนั้นผมก็ไม่แน่ใจว่าคราวนี้เขาจะประมูลอีกหรือเปล่า” ถังจื่อโม่ชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มออกมา : “แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผมมั่นใจ คือถ้าหากเย่ซือเฉินประมูล ก็คงเป็นเพราะต้องการแกล้งคุณมู่จากห้องหมายเลข 10”
“คุณมู่จากห้องหมายเลข 10 คนนั้นตกหลุมพรางมาสองครั้งแล้ว ยังจะตกหลุมพรางอีกครั้งเหรอ?” ฉู่หลิงเอ๋อตาลุกวาวอย่างรวดเร็ว เธอคิดว่าขอแค่คุณมู่จากห้องหมายเลข 10 มีสมองสักเล็กน้อยก็ไม่น่าจะตกหลุมพรางอีกแล้ว
เมื่อครู่คุณมู่คนนั้นจ่ายเงินไปสามร้อยล้านแล้ว และยังมีอีกหนึ่งล้านด้วยที่ต้องจ่าย
ถ้าหากเป็นเธอ เธอไม่มีทางตกหลุมพรางอีกเด็ดขาด
“ผมคิดว่าถ้าหากเย่ซือเฉินขุดหลุมพราง คนคนนั้นก็ยังจะกระโดดลงไปอีกอยู่ดี” ถังจื่อโม่มีความคิดต่างกับฉู่หลิงเอ๋อโดยสิ้นเชิง : “ตอนนี้เขาน่าจะอยากเอาชนะเย่ซือเฉินสักครั้ง”
“ที่สำคัญคือเขาสามารถเอาชนะคุณชายสามเย่ได้หรือเปล่า?” ฉู่หลิงเอ๋อตาวาวเล็กน้อย ถ้าหากสองคนนั้นแข่งกันอีก คนคนนั้นจะชนะได้หรือเปล่านะ?
อยากเอาชนะก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ใครก็ดูออกว่าคุณมู่จากห้องหมายเลข 10 คนนั้นอยากชนะคุณชายสามเย่ และอยากเอาชนะมาก ๆ ด้วย แต่มันสำคัญตรงที่คุณมู่คนนั้นจะสามารถเอาชนะได้หรือเปล่า?