“ผมจะรอให้เขาเป็นฝ่ายมาหาผมเอง!!” ถังจื่อโม่เบะปากเล็กน้อย เขาไม่สามารถไปเจอกับเย่ซือเฉินตรง ๆ ได้ เขาต้องการให้เย่ซือเฉินเป็นฝ่ายค้นพบเขา ต้องการให้เย่ซือเฉินเป็นฝ่ายมาหาเขา
“แต่ว่าถ้าน้าไปให้คุณชายสามเย่ช่วยจ่ายเงินให้ คุณชายสามเย่จะสนใจน้าเหรอ?” ฉู่หลิงเอ๋อตอนนี้รู้สึกเหมือนจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา
ตอนนี้ถ้าเธอไปหาคุณชายสามเย่ แล้วให้คุณชายสามเย่จ่ายเงินแทนเธอ ถ้าคุณชายสามเย่สนใจเธอ
ก็แปลกแล้วล่ะ!!
คุณชายสามเย่ไม่ให้คนเตะเธอลอยออกไปก็บุญแล้ว
“น้าก็บอกชื่อคุณชายน้อยอย่างผมไปสิครับ” ถังจื่อโม่อึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็เชิดหน้าขึ้น แล้วตอบกลับด้วยท่าทางหยิ่งผยอง
ฉู่หลิงเอ๋ออดไม่ได้ที่จะเบ้ปาก บอกชื่อเขา? แถมยังเป็นคุณชายน้อยอีก?
ต่อหน้าคุณชายสามเย่เธอจะกล้าเอ่ยว่าคุณชายน้อยเหรอ?
ทว่า ฉู่หลิงเอ๋อคิดขึ้นมาได้ว่ายังไงถังจื่อโม่ก็เป็นลูกชายแท้ ๆ ของคุณชายสามเย่ ฉะนั้นถ้าหากเธอไปบอกคุณชายสามเย่ตรง ๆ คุณชายสามเย่อาจจะยอมจ่ายเงินให้ก็ได้
“แต่ว่า น้าห้ามบอกเขาว่าผมเป็นลูกชายของเขา” แต่ถังจื่อโม่กลับพูดขึ้นมาอีกประโยค
“จื่อโม่จ๊ะ ไม่บอกคุณชายสามเย่ว่าหนูเป็นลูกชายของเขา แล้วหนูคิดว่าคุณชายสามเย่จะยอมจ่ายเงินนี้เหรอ?” ฉู่หลิงเอ๋อตะลึงงันอีกครั้ง เธอรู้สึกว่าถังจื่อโม่กำลังจะส่งเธอไปตาย
“เขาจะจ่ายให้แน่นอน” ถังจื่อโม่ตาวาวขึ้นเล็กน้อย ขณะที่พูด เขาก็มีทีท่าที่ค่อนข้างมั่นใจ
เมื่อถังจื่อโม่พูดจบ ก็ไม่สนใจฉู่หลิงเอ๋ออีก จากนั้นก็หมุนตัวเดินออกไปด้านนอกทันที
ตอนนี้การประมูลยังไม่สิ้นสุดลง ดังนั้นคนอื่น ๆ ยังไม่ออกมา ถังจื่อโม่รีบออกจากห้องอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็รีบลงลิฟต์ไปที่ลานจอดรถชั้นใต้ดิน รถของพวกเราจอดอยู่ที่นั่น
ถังจื่อโม่หารถของตัวเองเจอแล้ว เมื่อขึ้นรถ เขาก็นั่งรออยู่บนรถ ไม่รู้ว่าต่อไปเย่ซือเฉินจะทำยังไง?
หลังจากที่ฉู่หลิงเอ๋อเห็นถังจื่อโม่ออกไปแล้ว ก็ถอนหายใจออกมาอย่างจนใจ จื่อโม่ฝากฝังให้เธอจัดการ เธอจะไม่ทำก็ไม่ได้
ที่จริงเธออยากให้มู่หรงดัวหยางโอนเงินมาให้เลยมากกว่า จากนั้นเธอก็รีบจ่ายเงินแล้วกลับไป แต่เธอรู้ดีว่าถ้าหากเธอทำอย่างนั้นจริง ๆ จื่อโม่ต้องโกรธเธอแน่นอน
อีกอย่าง เธอเป็นคนชอบดูอะไรสนุก ๆ อยู่แล้ว และเธอก็มีนิสัยชอบเห็นความวุ่นวายเพื่อความสะใจของตัวเอง สุดท้ายเธอก็ไม่สามารถห้ามความกระเหี้ยนกระหือรือของตัวเองได้
เมื่อสิ่งของชิ้นสุดท้ายถูกประมูลไป การประมูลก็สิ้นสุดลง
เพราะก่อนหน้านี้ฉู่หลิงเอ๋อไม่ได้จ่ายเงินประกันไว้ก่อน และเธอก็ประมูลของไปหลายชิ้น ก่อนหน้านี้เถ้าแก่ของสมาคมประมูลหงเยว่เห็นแก่หน้าของมู่หรงดัวหยางจึงไม่ได้มาเร่งเอาเงิน แต่ตอนนี้การประมูลสิ้นสุดลงแล้ว ถึงเวลาต้องจ่ายเงินแล้วล่ะ
พนักงานมาให้บริการถึงที่ ตรงมายังห้องหมายเลข 11
นี่เป็นบริการพิเศษของแขกที่อยู่ในห้องชั้นสอง ไม่จำเป็นต้องลงไปจ่ายเงินด้วยตัวเอง แต่จะมีพนักงานมาให้บริการถึงที่
“คุณฉู่ครับ ก่อนหน้านี้คุณประมูลของจากที่นี่ไป จึงรบกวนให้คุณช่วยจ่ายเงินด้วยครับ” พนักงานมีท่าทีเกรงใจมาก เพราะคนที่อยู่ในห้องชั้นสองล้วนแต่เป็นคนมีฐานะทางสังคมทั้งนั้น พวกเขาจึงหาเรื่องไม่ได้
และคนที่สามารถอยู่ในห้องชั้นสองได้ล้วนแต่มีเงินกันทั้งนั้น
“ขอโทษด้วยนะ วันนี้ฉันไม่ได้พกเงินมา” ฉู่หลิงเอ๋อมองไปที่พนักงาน เห็นท่าทางเขาดูเกรงใจขนาดนี้ ก็ไม่ค่อยอยากทำให้เขาลำบากใจ แต่เธอจำเป็นต้องจัดการเรื่องที่จื่อโม่ฝากฝังเอาไว้ให้สำเร็จ
“อะไรนะครับ?” พนักงานตกตะลึง เขาทำงานอยู่ที่สมาคมประมูลหงเยว่มาหลายปีแล้ว เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เพิ่งเคยทำเป็นครั้งแรก
ลูกค้าที่อยู่ในห้องชั้นสองที่ประมูลของไปได้ กลับบอกว่าไม่มีเงิน?
เหตุการณ์อย่างนี้เขาเพิ่งเคยเจอเป็นครั้งแรก
“คุณฉู่ครับ คุณสามารถให้คนอื่นโอนเงินมาได้นะครับ ตอนนี้โอนเงินสะดวกมาก และรวดเร็วมากด้วย” พนักงานฉลาดและว่องไวมาก เขาสัมผัสได้ถึงบางอย่างที่แฝงอยู่ในคำพูดของฉู่หลิงเอ๋อ
คุณฉู่คนนี้บอกว่าไม่ได้พกเงินมา แต่ไม่ได้บอกว่าไม่มีเงิน ถ้าไม่ได้พกเงินมา ก็ง่ายมาก แค่ให้คนโอนมาให้ก็จบแล้ว
“ขอโทษด้วยนะ ตอนนี้ฉันไม่มีเงินมากมายขนาดนั้นที่จะโอนมาได้” ฉู่หลิงเอ๋อรีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว
“คุณฉู่ครับ คุณหมายความว่ายังไงครับ?” พนักงานจู่ ๆ ก็รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี เขารู้สึกว่าวันนี้ได้พบกับพวกเบี้ยวเงินแล้วล่ะ พวกเขาทำงานแบบนี้ สิ่งที่กลัวที่สุดก็คือการได้เจอกับคนประเภทนี้แหละ
“นายอย่ารีบร้อนเกินไปสิ ฉันมีเพื่อนคนหนึ่งอยู่ที่นี่พอดี ฉันจะให้เพื่อนของฉันช่วยจ่ายเงินให้แล้วกัน” ในที่สุดฉู่หลิงเอ๋อก็พูดจุดประสงค์ของตัวเองออกมา
“เพื่อน? ไม่ทราบว่าเพื่อนของคุณฉู่คือท่านไหนครับ?” พนักงานตาวาวขึ้นมา ในใจเขารู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก ถ้าหากเป็นเพื่อนที่สนิทกันจริง ๆ ตอนแรกก็น่าจะนั่งด้วยกันไม่ใช่เหรอ?
ถ้าหากเป็นเพื่อนทั่วไป จะช่วยเธอจ่ายเงินก้อนนี้ได้เหรอ?
เมื่อครู่เธอประมูลของไปไม่น้อยเลย จำนวนเงินก็ไม่น้อย มูลค่าสองร้อยกว่าล้านเชียวนะ เพื่อนแบบไหนกันที่จะช่วยเธอจ่ายเงินจำนวนมากขนาดนี้?
“เพื่อนของฉันก็คือคุณชายสามเย่ พวกนายไปหาคุณชายสามเย่เถอะ ให้คุณชายสามเย่ช่วยจ่ายเงินให้ฉันแล้วกัน” ตอนที่ฉู่หลิงเอ๋อพูดประโยคนี้ออกมาที่จริงเธอรู้สึกหวั่นใจแทบแย่ แต่นี่เป็นแผนการของจื่อโม่ของเธอ ฉะนั้นต่อให้รู้สึกหวาดหวั่นใจ แต่เพื่อแผนการของจื่อโม่ก็จำเป็นต้องไปต่อ
พนักงานตกตะลึงทันที เขามองไปที่ฉู่หลิงเอ๋อ เหมือนมองสัตว์ประหลาดไม่มีผิด เมื่อครู่แย่งประมูลของกับคุณชายสามเย่อย่างดุเดือดขนาดนั้น แต่พวกเขากลับรู้จักกันเนี่ยนะ
ก่อนหน้านี้คุณฉู่คนนี้แย่งของกับคุณชายสามเย่ ตอนนี้กลับจะให้คุณชายสามเย่จ่ายเงินแทน?
คุณฉู่คนนี้บ้าไปแล้วหรือเปล่า?
ถ้าเขาไม่ได้จำผิดล่ะก็ ของที่คุณฉู่คนนี้ประมูลได้ล้วนแย่งประมูลมาจากคุณชายสามเย่ทั้งนั้น ไม่รู้หรอกว่าเป็นแผนการของคุณชายสามเย่หรือเปล่า แต่ที่คุณฉู่คนนี้แย่งประมูลของกับคุณชายสามเย่คือเรื่องจริง
พนักงานมองฉู่หลิงเอ๋อ แล้วแอบถอนหายใจ จากนั้นก็เอ่ยพูดอีกครั้ง : “คุณฉู่ครับ ที่คุณพูดเล่นมันไม่ตลกเลยสักนิดนะครับ พวกเราก็แค่คนทำงานหาเงิน รบกวนคุณฉู่อย่าทำให้พวกเราลำบากใจเลยนะครับ”
“ฉันไม่ได้พูดเล่น ฉันพูดจริง นายไปหาคุณชายสามเย่ นายบอกไปว่าเป็นของที่ถังจื่อโม่ประมูล ให้เขาช่วยจ่ายเงินให้หน่อย เขาจะจ่ายแน่” ฉู่หลิงเอ๋อพูดค่อนข้างเสียงดัง แต่ในใจเธอกลับไม่แน่ใจเลยสักนิด
ในใจเธอกลับคิดว่าการที่คุณชายสามเย่จะจ่ายเงินให้นั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลย
“คุณฉู่ครับ ถ้าหากคุณยืนยันที่จะให้คุณชายสามเย่ช่วยคุณจ่ายเงิน งั้นรบกวนคุณไปที่ห้องคุณชายสามเย่กับผมด้วยครับ รบกวนคุณอธิบายให้คุณชายสามเย่ฟังด้วยตัวเอง” พนักงานไม่ได้โง่ คนที่ทำงานอยู่ในสมาคมประมูลหงเยว่ได้ล้วนเป็นพวกมีไหวพริบทั้งนั้น
พนักงานไม่มีทางเชื่อคำพูดของฉู่หลิงเอ๋อ แล้วบุ่มบ่ามไปเก็บเงินจากคุณชายสามเย่หรอก
ถ้าหากคุณฉู่คนนี้ยืนยันที่จะให้คุณชายสามเย่จ่ายเงินให้ อย่างน้อยก็ต้องให้คุณฉู่ไปพูดกับคุณชายสามเย่ให้ชัดเจน
ถ้าหากคุณชายสามเย่ตอบตกลง เรื่องนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าหากคุณชายสามเย่ไม่ตอบตกลง…