“ใช่ หัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้ไม่ได้แต่งภรรยาเข้าบ้าน แต่ก็ไม่ทำให้เขามีลูกชายลูกสาวไม่ได้นี่”ระหว่างที่ฉู่หลิงเอ๋อพูด พลางเบะปากอย่างเด่นชัด“ผู้ชายไม่มีอะไรดีเลย”
“หมายความว่ายังไง?”เวินลั่วฉิงฟังคำพูดของฉู่หลิงเอ๋อมีเลศนัย แถมฟังจากความหมายของฉู่หลิงเอ๋อที่มีต่อหัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้แล้วรู้สึกไม่ชอบหัวหน้าคนนี้?
ตอนที่มู่หรงดัวหยางเล่าถึงหัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้นั่นเป็นคำชื่นชม พูดถึงแต่เรื่องดีๆของหัวหน้านี้?
คนที่ทำให้มู่หรงดัวหยางเลื่อมใสได้นั่นไม่น่าจะแย่อะไรขนาดนั้น?
“คุณยังไม่ได้ข่าวเหรอ?ช่วงนี้หัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้ตามหาลูกสาวเจอ องค์กรโกสต์ซิตี้ตามตัวองค์หญิงเจอ เรื่องนี้โด่งดังมากเพื่อองค์หญิงคนนี้ ครั้งนี้องค์กรโกสต์ซิตี้ประกาศออกมาเสียงใหญ่โต ตรงกันข้ามกับวิธีการขององค์กรโกสต์ซิตี้ในอดีต แต่หัวหน้าเอ็นดูลูกสาวคนนี้มาก แต่ได้ยินแค่เรื่องตามหาลูกสาวเจอ ไม่ได้พูดถึงแม่ของลูกสาว พูดตรงๆก็คือเป็นลูกสาวนอกสมรส ดังนั้นผู้ชายก็เหมือนกันหมดทุกคน”
“หัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้มีลูกสาวนอกสมรส?”เวินลั่วฉิงได้ยินคำพูดของฉู่หลิงเอ๋อพลันยกหางคิ้วเล็กน้อย “ฉันจำมู่หรงดัวหยางเล่าได้ บอกว่าหัวหน้ามีคนที่รักมากคนหนึ่ง ไม่แน่ว่าลูกสาวคนนี้อาจจะเกิดจากผู้หญิงที่หัวหน้ารักมากก็ได้?”
“ใครจะไปรู้ ไม่ว่าจะยังไงการที่องค์กรโกสต์ซิตี้ตามหาองค์หญิงเจอกลายเป็นเรื่องเอิกเกริก คล้ายกับอยากให้คนทั้งโลกรู้กันหมดแถมช่วงนี้องค์กรโกสต์ซิตี้ส่งองค์หญิงไปปรากฏกายทุกที่ทุกงาน ไม่รู้ว่ามีวัตถุประสงค์อะไรกันแน่?”
คำพูดของฉู่หลิงเอ๋อหยุดชั่วครู่ ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ“ฉันก็เคยเจอองค์หญิงคนนี้หนึ่งครั้ง บอกตรงๆ ฉันไม่ชอบสักเท่าไหร่ ชอบทำตัวเป็นคุณหนู หยิ่งผยอง จอมมารยาท รู้สึกว่าเป็นคนหน้าซื่อใจคด”
“แต่ถึงอย่างไรคนเขาเป็นถึงองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ ครั้งองค์กรรับตัวองค์หญิงกลับมาอย่างตระการตาสมฐานะ ซึ่งคงอาจให้คนทั่วโลกรู้ เห็นได้ว่าหัวหน้าชื่นชอบองค์หญิงคนนี้มากขนาดไหน ดังนั้น จึงไม่มีใครกล้าสร้างความเคืองใจให้กับองค์หญิงผู้นี้”
“หล่อนทำให้คุณเคืองใจเหรอ?”เวินลั่วฉิงหันหน้าไปมองฉู่หลิงเอ๋อ เธอรู้จักฉู่หลิงเอ๋อดี หากองค์หญิงผู้นั้นไม่ได้สร้างความเคืองใจให้กับฉู่หลิงเอ๋อ ฉู่หลิงเอ๋อคงไม่อคติกับองค์หญิงคนนี้หรอก
“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ก็แค่จอมมารยาททนดูไม่ได้เท่านั้นเอง มาชนฉันจนไวน์กระเซ็น เดิมทีก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แค่กล่าวคำขอโทษก็สิ้นเรื่อง แต่หล่อนไม่เพียงแต่ไม่ขอโทษ ยังแสร้งทำเป็นบริสุทธิ์ น่าสงสารอีก”ฉู่หลิงเอ๋อเบะปาก“ฉันขี้เกียจถือสาหล่อน”
“ฉันก็เคยได้ยินมู่หรงดัวหยางเล่าถึงหัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้ว่าเก่งกาจเพียงใด ทุกครั้งที่มู่หรงดังหยางพูดถึงก็มักจะทำหน้าเลื่อมใสคาดไม่ถึงว่าลูกสาวหัวหน้ากลับเป็นอย่างนี้ ต่างบอกว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น ฉันว่าก็ไม่เสมอไป”ฉู่หลิงเอ๋อบอกว่าขี้เกียจถือสาหล่อน แต่ก็ยังคงรู้สึกขุ่นเคือง เดิมทีเธอไม่ใช่คนที่จะยอมให้ใครรังแกง่ายๆ ตอนนั้นองค์หญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้มาชนเธอแท้ๆ ยังแกล้งทำเป็นบริสุทธิ์น่าสงสาร ทำให้เธอเอือมระอาเต็มทน
ซึ่งตอนนั้นเธอไปร่วมงานพร้อมกับถังไป๋เชียน ถังไป๋เชียนบอกให้เธอทน บอกว่าอีกฝ่ายเป็นองค์หญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้ จะเป็นไปอริไม่ได้ และไม่อาจเป็นได้ด้วย
ตอนนั้นเธอก็ไว้หน้าถังไป๋เชียน สุดท้ายจึงไม่ได้ถือสา
“นั่นก็เป็นเรื่องคนอื่น ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเรา อีกอย่างเกรงว่าอีกหน่อยคุณก็ไม่ได้เจอหน้าองค์หญิงคนนั้นแล้ว อย่าคิดมากเลย คุณคงไประเบิดใส่องค์หญิงคนนี้ที่องค์กรโกสต์ซิตี้ไม่ได้หรอกมั้ง?”เวินลั่วฉิงพูดปลอบใจแนวติดตลกกับฉู่หลิงเอ๋อ
“ใครบอกไม่เจอหน้ากันอีก?มู่หรงดัวหยางจะสานงานในตระกูลต่อแล้ว บริษัทเว้ยคังกรุ้ปไม่ใช่จะจัดงานเลี้ยงขนาดใหญ่หรอกเหรอ?ถึงเวลาองค์หญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ก็จะไปร่วมด้วย”ฉู่หลิงเอ๋อนึกถึงเรื่องนี้แล้วอดห่อเหี่ยวใจไม่ได้
“คุณมั่นใจได้ไงว่าองค์หญิงคนนี้จะไป?มู่หรงดัวหยางเชิญองค์กรโกสต์ซิตี้เหรอ?”
เวินลั่วฉิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ถึงแม้มู่หรงดัวหยางจะเลื่อมใสต่อหัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้ ทว่าบริษัทเว้ยคังกรุ้ปกับองค์กรโกสต์ซิตี้ไม่ได้มีธุรกิจต่อกัน และมู่หรงดัวหยางกับองค์กรโกสต์ซิตี้ก็ไม่ได้รู้จักกันด้วย ตามหลักแล้วไม่มีทางเชิญคนขององค์กรโกสต์ซิตี้มั้ง?
“อันนี้ก็ไม่รู้ซะแล้ว?ครั้งนี้ทางองค์กรโกสต์ซิตี้เสนอจะเข้าร่วมเอง ก็เพื่อให้องค์หญิงของพวกเขาปรากฏตัวนั่นแหละ น่าจะเป็นความคิดขององค์หญิงคนนี้ เพราะเดิมทีองค์กรโกสต์ซิตี้ไม่ใช่แบบนี้ องค์หญิงคนนี้กลัวคนอื่นไม่รู้จักหล่อนไง”ฉู่หลิงเอ๋ออดใจยิ้มเย็นไม่ได้
“หล่อนทำอย่างนี้มีวัตถุประสงค์อะไรเหรอ?”บัดนี้เวินลั่วฉิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย องค์กรโกสต์ซิตี้ที่ไม่ค่อยโอ้อวด เพราะองค์กรนี้แข็งแกร่งอยู่แล้ว เมื่อก่อนองค์กรโกสต์ซิตี้ไม่อยากคบค้าสมาคมกับคนนอกสักเท่าไหร่
องค์หญิงคนนี้กลับตรงกันข้าม มีวัตถุประสงค์อย่างอื่นหรือเปล่า?
“มีวัตถุประสงค์อะไรอีก หล่อนก็แค่อยากสร้างภาพ อยากโอ้อวด อยากให้คนอื่นยกยอปอปั้น ประจบประแจงหล่อนยังไงละ”ฉู่หลิงเอ๋อทำหน้าดูแคลน“คนที่ฉันดูถูกที่สุดก็ผู้หญิงแบบนี้แหละ”
“ขนาดนั้นเชียว?หล่อนเป็นองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ยังจำเป็นต้องให้ใครมาประจบประแจงอีกเหรอ?”ดวงตาเวินลั่วฉิงกะพริบตารัวๆ รู้สึกว่าคำพูดของฉู่หลิงเอ๋อเกินความจริงไปหน่อย
องค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้สูงส่งปานนั้น ยังจำเป็นต้องคำนึกถึงจุดนี้อีกเหรอ?
สถานะองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ก็สูงเกินเอื้อมแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นเลยสักนิด!
“จริง ฉันไม่ได้พูดเว่อร์ ครั้งก่อนฉันเห็นมากับตาแล้ว ตอนนั้นหล่อนอยู่ในกลุ่มผู้หญิง หางของหล่อนเกือบตั้งไปบนฟากฟ้าแล้ว”ฉู่หลิงเอ๋อเห็นเวินลั่วฉิงไม่เชื่อ จึงเสริมอีกหนึ่งประโยคด้วยความรวดเร็ว“คุณต้องไปร่วมงานเลี้ยงบริษัทเว้ยคังกรุ๊ปด้วยนะ ถึงเวลาคุณก็จะได้เจอองค์หญิงคนนี้แล้ว ถึงเวลาคุณก็จะรู้เอง”
เวินลั่วฉิงหัวเราะคิกคัก ไม่ได้พูดอะไรอีก เธอรู้สึกว่าองค์หญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ไม่เกี่ยวข้องกับเธอ ดังนั้นเธอไม่มีความสนใจองค์หญิงคนนี้
ทว่า งานเลี้ยงของบริษัทเว้ยคังกรุ้ปครั้งนี้เธอต้องไปร่วมอยู่แล้ว เพราะมู่หรงดัวหยางสานงานในบริษัทต่อถือเป็นเรื่องใหญ่
“ใช่แล้ว ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ก่อนหน้านี้คุณชายสามเย่อยากดูหน้าถังจื่อซีในกล้องวงจรปิดของสมาคมประมูลหงเยว่ แต่ก็ไม่พบเห็นจื่อโม่สุดที่รัก จื่อโม่สุดที่รักบอกว่าเขาไม่ได้จงใจหลบมุมกล้องในสมาคมประมูลหงเยว่ คุณว่ามีคนชักใยอยู่เบื้องหลังหรือเปล่า?”ฉู่หลิงเอ๋อนึกถึงเรื่องกล้องวงจรปิด จึงถือโอกาสเล่าให้เวินลั่วฉิงฟัง“ฉันเคยบอกเรื่องนี้ให้มู่หรงดัวหยางด้วย เขาบอกว่าเขาจะสืบ แต่ช่วงนี้เขายุ่งอยู่ในบริษัท เกรงว่ายังคงไม่ว่างสืบตอนนี้ ฉันคิดว่าให้คุณชายสามเย่ไปสืบดูจะดีไหม”