ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – บทที่ 1023 คุณชายสามเย่ตกตะลึง นั่นคือลูกชายแท้ๆของคุณนะ (5)

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1023 คุณชายสามเย่ตกตะลึง นั่นคือลูกชายแท้ๆของคุณนะ (5)

ณ ตอนนี้เย่ซือเฉินไม่ได้ไตร่ตรองคำพูดของเวินลั่วฉิงอย่างละเอียดเลยสักนิด!

“ท่านประธานไปหาคุณนายได้อยู่แล้วครับ เพียงแต่ผมรู้สึกว่าอารมณ์ตอนนี้ของท่านประธานไม่เหมาะสมครับ ผมรู้สึกว่าท่านประธานควรทำความเข้าใจเรื่องราวให้กระจ่างเสียก่อน จากนั้นก็ค่อยไปหาคุณนายครับ”เลขาหลิวได้ยินเสียงตวาดของท่านประธาน ร่างกายพลันสั่นเทาอย่างฉายชัด ไม่เขาก็ยังคงรวบรวมความกล้าเพื่อโน้มน้าวประธานของตน

“ตอนนี้ผมก็จะทำเรื่องราวให้กระจ่าง ถังจื่อโม่คนนั้นไปหาถึงที่แล้ว ผมไม่ไปได้หรือ?”หากเป็นปกติ คุณชายสามเย่คงไม่แยแสเลขาหลิว ทว่าตอนนี้คุณชายสามเย่ไม่อาจเทียบกับตัวเขาในเวลาปกติได้

“ถังจื่อโม่ไปหาถึงที่หรือ?ความหมายของลูกพี่ก็คือถังจื่อโม่ไปบ้านตระกูลถัง?”ครั้งนี้กู้หวูก็ไม่หลลหลีกแล้ว กล่าวด้วยความตะลึงงันออกมา

“อืม”เย่ซือเฉินกล่าวด้วยเสียงเคร่งขรึมหนึ่งคำ เมื่อสักครู่เวินลั่วเฉินพูดชัดเจนมาก ถังจื่อโม่ไปที่นั่นแล้ว

หูเขาไม่ได้มีปัญหา ดังนั้นฟังไม่ผิดเด็ดขาด

อันที่จริงเวินลั่วฉิงบอกว่าจื่อโม่สุดที่รักกลับมา ซึ่งกลับมากับคำว่า ไป นั้นต่างกันมากพอสมควร

ประโยคก่อนหน้านี้ของเวินลั่วฉิงก็เพื่อย้ำเตือนเย่ซือเฉินว่า กลับไปหมายถึงถังจื่อโม่อยู่ในบ้านตระกูลถังเสมอมา

ทว่าเห็นได้ชัดว่าเวลานี้คุณชายสามเย่ไม่มีปัญญาหลงเหลืออยู่ ถูกความหึงบังหน้า ดังนั้นเขาไม่ได้คิดถึงจุดนี้

“ถังจื่อโม่ไปตระกูลถังได้ง่ายๆอย่างนี้เลยหรือ?เขากับคุณนายมีความสัมพันธ์แบบไหนกันนะ?”เลขาหลิวชะงัก จากนั้นก็อดถามหนึ่งประโยคไม่ได้

“ถังจื่อโม่น่าจะเป็นเพื่อนร่วมงานในประเทศM บ้านตระกูลถังไม่ใช่สถานที่ต้องห้าม เพื่อนของเธอหรือเพื่อนร่วมงานของเธอต้องไปได้อยู่แล้ว”คุณชายสามเย่ไม่ได้ใคร่ครวญคำพูดของเลขาหลิวอย่างลึกซึ้ง แน่นอน คำพูดของคุณชายสามเย่ก็ไม่ได้ผิดอะไร

“ก็ใช่อยู่ครับ”เลขาหลิวพยักหน้าหงึกๆด้วยจิตใต้สำนึก ท่านประธานพูดมีเหตุผล

“ลูกพี่ ถังจื่อโม่คนนั้นเป็นใครกันแน่?”นัยน์ตากู้หวูเป็นประกาย เขารู้สึกว่าทะแม่งยังไงชอบกล แต่ก็บอกไม่ถูก พูดไม่ออกในเวลาอันสั้นๆนี้

เพียงแต่สถานะของถังจื่อโม่ กู้หวูรู้สึกอยากรู้มากขึ้นกว่าเดิม

“ไม่รู้”เวลานี้คุณชายสามเย่กำลังโกรธอยู่ ได้ยินกู้หวูเอ่ยถึงถังจื่อโม่ ยิ่งรู้สึกคับข้องใจมากขึ้น “ก็เป็นแมงดาคนหนึ่ง”

ระหว่างที่คุณชายสามเย่พูดประโยคนี้ เห็นได้ชัดว่าให้ความรู้สึกขบฟันหลายส่วน

ถังจื่อโม่เป็นแมงดา แต่เมื่อกี้ตอนอยู่ในสายสนทนา เวินลั่วฉิงบอกว่าเธอชอบไอ้หน้าขาว(แมงดา)

เธอชอบแมงดาสักอย่าง?

เธอเริ่มชอบแมงดาตั้งแต่เมื่อไหร่?

เธอชอบถังจื่อโม่มั้ง?

คุณชายสามเย่ยิ่งคิดก็ยิ่งอัดอั้นตันใจ

“คุณนายชอบถังจื่อโม่คนนี้มากเหรอครับ?”กู้หวูครุ่นคิดดูแล้ว จากนั้นก็ถามเสริมอีกหนึ่ประโยค กู้หวูรู้สึกว่าเรื่องนี้แปลกๆ อยากสืบให้กระจ่าง

ถึงแม้เขากับคุณนายไม่เคยพบหน้ากันมาก่อน แต่เขาได้ยินเรื่องคุณนายมานัดต่อนัดแล้ว เขาก็เคยสืบประวัติคุณนายมาก่อน เขาจึงรู้จักคุณนายอยู่บ้าง

เขารู้สึกว่าในเมื่อคุณนายรับปากว่าจะอยู่กับลูกพี่แล้ว งั้นคุณนายคงไม่ชอบผู้ชายอื่นอีก

คุณนายไม่ใช่คนแบบนั้น!

ดังนั้นเขารู้สึกว่าลูกพี่เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า?

มีข้อมูลสำคัญที่พวกเขาพลาดพลั้งไปหรือเปล่า?

คุณชายสามเย่ได้ยินคำพูดของกู้หวู รีบหันหน้ามองกู้หวูด้วยดวงตาที่ฉายแววดาบพิฆาต ประหนึ่งจะเฉือนร่างกู้หวูให้รู้แล้วรู้รอดเสียอย่างนั้น

กู้หวูจงใจหรือเปล่า?จงใจซ้ำเตือนบาดแผลเขาหรือเปล่า!

“ลูกพี่ ผมรู้สึกว่าเรื่องนี้แปลกๆ”กู้หวูตัวสั่นสะท้าน แววตาลูกพี่ใหญ่ช่างน่าหวาดผวาเหลือเกิน

“ลูกพี่เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า?”กู้หวูครุ่นคิดดูแล้ว ตัดสินใจเสี่ยงตายถามขึ้นมาหนึ่งประโยค

“เข้าใจผิด?ผมก็หวังว่าจะเป็นเพียงการเข้าใจผิด”คุณชายสามเย่ชะงัก จากนั้นก็แอบถอนหายใจหนึ่งเฮือก เขาก็หวังว่าทุกอย่างจะเป็นแค่ความเข้าใจผิด

ทว่าเป็นไปได้หรือที่จะเป็นแค่ความเข้าใจผิด?

เมื่อสักครู่เวินลั่วฉิงพูดชัดเจนเสียขนาดนั้น เธอบอกว่า ในหัวใจของเธอถังจื่อโม่สำคัญที่สุด

มีอะไรให้ทุกข์ตรมกว่านี้อีกไหม?

บัดนี้ คุณชายสามเย่ไม่ได้คิดไปในทิศทางอื่นเลย คุณชายสามเย่ไม่เคยนึกว่าถังจื่อโม่เป็นลูกชายของเขา

คุณชายสามเย่ไม่ได้คิดไปในทิศทางนี้อย่างสิ้นเชิง

ตอนนี้เขารู้ว่ามีจื่อซีสุดที่รักอยู่ เขารู้ว่าเขามีลูกสาวหนึ่งคน เขารู้สึกว่าสวรรค์ช่างเมตตาเขาเหลือเกิน เขาไม่กล้าคิดว่าเขาจะมีลูกชายอีกหนึ่งคนเลยสักนิด

เพราะแฝดคู่ชายหนึ่งหญิงหนึ่งมีความเป็นไปได้น้อย น้อยมากๆ มันมีความเป็นไปได้เพียงแต่หนึ่งในสิบล้านหรือหนึ่งในร้อยล้าน

คุณชายสามเย่แทบไม่เคยคิดว่าความโชคดีนี้จะตกอยู่บนตัวของเขา

มันเป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าเพ้อฝันเลยสักนิด

ดังนั้น อันนี้ก็โทษคุณชายสามเย่ไม่ได้

กู้หวูได้ยินคำพูดของลูกพี่ใหญ่ พูดอะไรไม่ได้ไปชั่วขณะ เพราะตอนนี้เขาเองก็ไม่เข้าใจความเป็นมาของเรื่อง เขารู้สึกว่าควรสืบให้ดีก่อนแล้วค่อยพูดจะดีกว่า

เวลาเดียวกันในบ้านตระกูลถัง!

“คุณแม่ครับ ผมประมูลของล้ำค่ามาหคุณแม่หลายชิ้นเลยครับ”ถังจื่อโม่ถือของที่ประมูลมาได้ทั้งหมดวางตรงหน้าเวินลั่วฉิง

“ลูกเป็นคนประมูล แต่เย่ซือเฉินเป็นคนจ่ายเงิน”เวินลั่วฉิงมองเขาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม สีหน้าซับซ้อนอย่างเด่นชัด

ถังจื่อโม่ชะงัก จากนั้นก็แค่นเสียงพูดหนึ่งประโยค“เย่ซือเฉินฟ้องคุณแม่เร็วขนาดนี้เลยหรือ”

ถังจื่อโม่เป็นเด็กฉลาด แป๊บเดียวก็คาดได้แล้ว“เขาเร็วมากจริงๆ”

“ดังนั้น ลูกอธิบายให้แม่ฟังว่าเป็นมายังไงได้หรือยัง?”ถึงแม้เมื่อสักครู่เวินลั่วฉิงคุยกับคุณชายสามเย่ พยายามปกป้องลูกชายของตนอย่างสุดความสามารถ ทว่าเรื่องในวันนี้ ถังจื่อโม่จำเป็นต้องอธิบายให้เธอฟัง

เขายังเป็นเด็กอยู่ ถึงกลับกล้าไปก่อกวนที่สมาคมประมูลหงเยว่?

สมาคมประมูลหงเยว่เป็นสถานที่ที่ให้เขาก่อกวนได้หรือ?!

หากเย่ซือเฉินไม่ช่วยเขาจ่าย มีความเป็นไปได้สูงที่สมาคมประมูลหงเยว่จะจับตัวเขาไว้ ถึงแม้ถึงเวลาจะรวบรวมเงินไปไถ่ตัว แต่ก็คงได้รับความทรมานทางกายเล็กน้อย

“ผมไปกับคุณน้าหลิงเอ๋อครับ ผมแค่ประมูลของหลายชิ้นแล้วไม่ได้พกเงินไป เลยให้เขาช่วยผมจ่ายเงินเองครับ”ถังจื่อโม่เบ้ปากเขาตอบคำถามในเชิงเลี่ยงความผิดให้เบาลงอย่างฉายชัด

เวินลั่วฉิงได้ยินว่าเขาไปกับฉู่หลิงเอ๋อก็รู้สึกโล่งอกเล็กน้อย เธอคิดว่าถังจื่อโม่ไปก่อกวนที่สมาคมประมูลหงเยว่คนเดียวเสียอีก

“ประมูลของได้หลายชิ้น?ไม่ได้พกเงินไป?เรื่องไม่ได้ง่ายอย่างนั้นหรอกมั้ง?ลูกไปเพราะเย่ซือเฉินใช่ไหม?”เวินลั่วฉิงเป็นคนฉลาดเฉลียว เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นทันทีทันใด

เธอคลอดลูกชายออกมาเอง และเลี้ยงดูมาจนเติบโตเอง เธอจะไม่เข้าใจได้ยังไง?เธอจะไม่รู้ได้ยังไง?

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Status: Ongoing

มองที่เด็กๆ ที่มีหน้าตาเหมือนกับตัวเอง สมองเขาว่างเปล่า ชั่วคราว”แม่เราก็คือภรรยาของคุณนะคะ ทำไม ภรรยาของ คุณมีลูกสองคน คุณไม่รู้หรอ”เด็กๆ จ้องมองเขา เตือนเขา อย่าง”มีน้ำใจ” เขาชะงักไปสองวินาที สีหน้าเปลี่ยนหลาย แบบ”ที่รัก อยู่ไหน” วินาทีต่อไป เขาโทรหาเวินลั่วฉิง “ได้ รอ ฉันสักครู่ ฉันจะไปที่ที่อยู่ทันที จะมีSurpriseให้นะ”ดี ดีจัง เขาอยากจะดูว่าเธอยังมีเรื่องอะไรที่ปิดบังเขาไว้ จะคิดบัญชี อย่างจริงจังแล้วนะ”นี่มันร้ายใจเกินไปมั่ง”เด็กสองคนนี้ตะลึง Surpriseนี่มันใหญ่จัง ดูเหมือนว่า คนนั้นจะซวยค่ะ! ! !

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท