ณ ตอนนี้เย่ซือเฉินไม่ได้ไตร่ตรองคำพูดของเวินลั่วฉิงอย่างละเอียดเลยสักนิด!
“ท่านประธานไปหาคุณนายได้อยู่แล้วครับ เพียงแต่ผมรู้สึกว่าอารมณ์ตอนนี้ของท่านประธานไม่เหมาะสมครับ ผมรู้สึกว่าท่านประธานควรทำความเข้าใจเรื่องราวให้กระจ่างเสียก่อน จากนั้นก็ค่อยไปหาคุณนายครับ”เลขาหลิวได้ยินเสียงตวาดของท่านประธาน ร่างกายพลันสั่นเทาอย่างฉายชัด ไม่เขาก็ยังคงรวบรวมความกล้าเพื่อโน้มน้าวประธานของตน
“ตอนนี้ผมก็จะทำเรื่องราวให้กระจ่าง ถังจื่อโม่คนนั้นไปหาถึงที่แล้ว ผมไม่ไปได้หรือ?”หากเป็นปกติ คุณชายสามเย่คงไม่แยแสเลขาหลิว ทว่าตอนนี้คุณชายสามเย่ไม่อาจเทียบกับตัวเขาในเวลาปกติได้
“ถังจื่อโม่ไปหาถึงที่หรือ?ความหมายของลูกพี่ก็คือถังจื่อโม่ไปบ้านตระกูลถัง?”ครั้งนี้กู้หวูก็ไม่หลลหลีกแล้ว กล่าวด้วยความตะลึงงันออกมา
“อืม”เย่ซือเฉินกล่าวด้วยเสียงเคร่งขรึมหนึ่งคำ เมื่อสักครู่เวินลั่วเฉินพูดชัดเจนมาก ถังจื่อโม่ไปที่นั่นแล้ว
หูเขาไม่ได้มีปัญหา ดังนั้นฟังไม่ผิดเด็ดขาด
อันที่จริงเวินลั่วฉิงบอกว่าจื่อโม่สุดที่รักกลับมา ซึ่งกลับมากับคำว่า ไป นั้นต่างกันมากพอสมควร
ประโยคก่อนหน้านี้ของเวินลั่วฉิงก็เพื่อย้ำเตือนเย่ซือเฉินว่า กลับไปหมายถึงถังจื่อโม่อยู่ในบ้านตระกูลถังเสมอมา
ทว่าเห็นได้ชัดว่าเวลานี้คุณชายสามเย่ไม่มีปัญญาหลงเหลืออยู่ ถูกความหึงบังหน้า ดังนั้นเขาไม่ได้คิดถึงจุดนี้
“ถังจื่อโม่ไปตระกูลถังได้ง่ายๆอย่างนี้เลยหรือ?เขากับคุณนายมีความสัมพันธ์แบบไหนกันนะ?”เลขาหลิวชะงัก จากนั้นก็อดถามหนึ่งประโยคไม่ได้
“ถังจื่อโม่น่าจะเป็นเพื่อนร่วมงานในประเทศM บ้านตระกูลถังไม่ใช่สถานที่ต้องห้าม เพื่อนของเธอหรือเพื่อนร่วมงานของเธอต้องไปได้อยู่แล้ว”คุณชายสามเย่ไม่ได้ใคร่ครวญคำพูดของเลขาหลิวอย่างลึกซึ้ง แน่นอน คำพูดของคุณชายสามเย่ก็ไม่ได้ผิดอะไร
“ก็ใช่อยู่ครับ”เลขาหลิวพยักหน้าหงึกๆด้วยจิตใต้สำนึก ท่านประธานพูดมีเหตุผล
“ลูกพี่ ถังจื่อโม่คนนั้นเป็นใครกันแน่?”นัยน์ตากู้หวูเป็นประกาย เขารู้สึกว่าทะแม่งยังไงชอบกล แต่ก็บอกไม่ถูก พูดไม่ออกในเวลาอันสั้นๆนี้
เพียงแต่สถานะของถังจื่อโม่ กู้หวูรู้สึกอยากรู้มากขึ้นกว่าเดิม
“ไม่รู้”เวลานี้คุณชายสามเย่กำลังโกรธอยู่ ได้ยินกู้หวูเอ่ยถึงถังจื่อโม่ ยิ่งรู้สึกคับข้องใจมากขึ้น “ก็เป็นแมงดาคนหนึ่ง”
ระหว่างที่คุณชายสามเย่พูดประโยคนี้ เห็นได้ชัดว่าให้ความรู้สึกขบฟันหลายส่วน
ถังจื่อโม่เป็นแมงดา แต่เมื่อกี้ตอนอยู่ในสายสนทนา เวินลั่วฉิงบอกว่าเธอชอบไอ้หน้าขาว(แมงดา)
เธอชอบแมงดาสักอย่าง?
เธอเริ่มชอบแมงดาตั้งแต่เมื่อไหร่?
เธอชอบถังจื่อโม่มั้ง?
คุณชายสามเย่ยิ่งคิดก็ยิ่งอัดอั้นตันใจ
“คุณนายชอบถังจื่อโม่คนนี้มากเหรอครับ?”กู้หวูครุ่นคิดดูแล้ว จากนั้นก็ถามเสริมอีกหนึ่ประโยค กู้หวูรู้สึกว่าเรื่องนี้แปลกๆ อยากสืบให้กระจ่าง
ถึงแม้เขากับคุณนายไม่เคยพบหน้ากันมาก่อน แต่เขาได้ยินเรื่องคุณนายมานัดต่อนัดแล้ว เขาก็เคยสืบประวัติคุณนายมาก่อน เขาจึงรู้จักคุณนายอยู่บ้าง
เขารู้สึกว่าในเมื่อคุณนายรับปากว่าจะอยู่กับลูกพี่แล้ว งั้นคุณนายคงไม่ชอบผู้ชายอื่นอีก
คุณนายไม่ใช่คนแบบนั้น!
ดังนั้นเขารู้สึกว่าลูกพี่เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า?
มีข้อมูลสำคัญที่พวกเขาพลาดพลั้งไปหรือเปล่า?
คุณชายสามเย่ได้ยินคำพูดของกู้หวู รีบหันหน้ามองกู้หวูด้วยดวงตาที่ฉายแววดาบพิฆาต ประหนึ่งจะเฉือนร่างกู้หวูให้รู้แล้วรู้รอดเสียอย่างนั้น
กู้หวูจงใจหรือเปล่า?จงใจซ้ำเตือนบาดแผลเขาหรือเปล่า!
“ลูกพี่ ผมรู้สึกว่าเรื่องนี้แปลกๆ”กู้หวูตัวสั่นสะท้าน แววตาลูกพี่ใหญ่ช่างน่าหวาดผวาเหลือเกิน
“ลูกพี่เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า?”กู้หวูครุ่นคิดดูแล้ว ตัดสินใจเสี่ยงตายถามขึ้นมาหนึ่งประโยค
“เข้าใจผิด?ผมก็หวังว่าจะเป็นเพียงการเข้าใจผิด”คุณชายสามเย่ชะงัก จากนั้นก็แอบถอนหายใจหนึ่งเฮือก เขาก็หวังว่าทุกอย่างจะเป็นแค่ความเข้าใจผิด
ทว่าเป็นไปได้หรือที่จะเป็นแค่ความเข้าใจผิด?
เมื่อสักครู่เวินลั่วฉิงพูดชัดเจนเสียขนาดนั้น เธอบอกว่า ในหัวใจของเธอถังจื่อโม่สำคัญที่สุด
มีอะไรให้ทุกข์ตรมกว่านี้อีกไหม?
บัดนี้ คุณชายสามเย่ไม่ได้คิดไปในทิศทางอื่นเลย คุณชายสามเย่ไม่เคยนึกว่าถังจื่อโม่เป็นลูกชายของเขา
คุณชายสามเย่ไม่ได้คิดไปในทิศทางนี้อย่างสิ้นเชิง
ตอนนี้เขารู้ว่ามีจื่อซีสุดที่รักอยู่ เขารู้ว่าเขามีลูกสาวหนึ่งคน เขารู้สึกว่าสวรรค์ช่างเมตตาเขาเหลือเกิน เขาไม่กล้าคิดว่าเขาจะมีลูกชายอีกหนึ่งคนเลยสักนิด
เพราะแฝดคู่ชายหนึ่งหญิงหนึ่งมีความเป็นไปได้น้อย น้อยมากๆ มันมีความเป็นไปได้เพียงแต่หนึ่งในสิบล้านหรือหนึ่งในร้อยล้าน
คุณชายสามเย่แทบไม่เคยคิดว่าความโชคดีนี้จะตกอยู่บนตัวของเขา
มันเป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าเพ้อฝันเลยสักนิด
ดังนั้น อันนี้ก็โทษคุณชายสามเย่ไม่ได้
กู้หวูได้ยินคำพูดของลูกพี่ใหญ่ พูดอะไรไม่ได้ไปชั่วขณะ เพราะตอนนี้เขาเองก็ไม่เข้าใจความเป็นมาของเรื่อง เขารู้สึกว่าควรสืบให้ดีก่อนแล้วค่อยพูดจะดีกว่า
เวลาเดียวกันในบ้านตระกูลถัง!
“คุณแม่ครับ ผมประมูลของล้ำค่ามาหคุณแม่หลายชิ้นเลยครับ”ถังจื่อโม่ถือของที่ประมูลมาได้ทั้งหมดวางตรงหน้าเวินลั่วฉิง
“ลูกเป็นคนประมูล แต่เย่ซือเฉินเป็นคนจ่ายเงิน”เวินลั่วฉิงมองเขาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม สีหน้าซับซ้อนอย่างเด่นชัด
ถังจื่อโม่ชะงัก จากนั้นก็แค่นเสียงพูดหนึ่งประโยค“เย่ซือเฉินฟ้องคุณแม่เร็วขนาดนี้เลยหรือ”
ถังจื่อโม่เป็นเด็กฉลาด แป๊บเดียวก็คาดได้แล้ว“เขาเร็วมากจริงๆ”
“ดังนั้น ลูกอธิบายให้แม่ฟังว่าเป็นมายังไงได้หรือยัง?”ถึงแม้เมื่อสักครู่เวินลั่วฉิงคุยกับคุณชายสามเย่ พยายามปกป้องลูกชายของตนอย่างสุดความสามารถ ทว่าเรื่องในวันนี้ ถังจื่อโม่จำเป็นต้องอธิบายให้เธอฟัง
เขายังเป็นเด็กอยู่ ถึงกลับกล้าไปก่อกวนที่สมาคมประมูลหงเยว่?
สมาคมประมูลหงเยว่เป็นสถานที่ที่ให้เขาก่อกวนได้หรือ?!
หากเย่ซือเฉินไม่ช่วยเขาจ่าย มีความเป็นไปได้สูงที่สมาคมประมูลหงเยว่จะจับตัวเขาไว้ ถึงแม้ถึงเวลาจะรวบรวมเงินไปไถ่ตัว แต่ก็คงได้รับความทรมานทางกายเล็กน้อย
“ผมไปกับคุณน้าหลิงเอ๋อครับ ผมแค่ประมูลของหลายชิ้นแล้วไม่ได้พกเงินไป เลยให้เขาช่วยผมจ่ายเงินเองครับ”ถังจื่อโม่เบ้ปากเขาตอบคำถามในเชิงเลี่ยงความผิดให้เบาลงอย่างฉายชัด
เวินลั่วฉิงได้ยินว่าเขาไปกับฉู่หลิงเอ๋อก็รู้สึกโล่งอกเล็กน้อย เธอคิดว่าถังจื่อโม่ไปก่อกวนที่สมาคมประมูลหงเยว่คนเดียวเสียอีก
“ประมูลของได้หลายชิ้น?ไม่ได้พกเงินไป?เรื่องไม่ได้ง่ายอย่างนั้นหรอกมั้ง?ลูกไปเพราะเย่ซือเฉินใช่ไหม?”เวินลั่วฉิงเป็นคนฉลาดเฉลียว เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นทันทีทันใด
เธอคลอดลูกชายออกมาเอง และเลี้ยงดูมาจนเติบโตเอง เธอจะไม่เข้าใจได้ยังไง?เธอจะไม่รู้ได้ยังไง?