คุณฟู่หรี่ตาขึ้น ความเย็นยะเยือกกับเพลิงไฟหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว
หากเธอตอบตกลงกับพี่รุ่นของเธอ เขา………เขาจะ……
ณ ตอนนี้คุณฟู่เกิดความคิดฆ่าบุคคลที่อยู่ตรงหน้าแล้ว
มือที่จับแก้วไวน์ของเขาบีบแน่นขึ้นเรื่อยๆ เมื่อแก้วใกล้จะแตกกระจายในมือของเขาอยู่รอมร่อ
ถึงแม้ฉู่หลิงเอ๋อจะถอยห่างออกมาเล็กน้อย จึงเว้นระยะกับคุณฟู่อยู่บ้าง ทว่าเธอยังคงรับรู้ได้ถึงรังสีพิฆาตที่แผ่ซ่านออกจากเรือนร่างของเขาจนมาปกคลุมร่างกายของเธอ ทำให้มีไอเย็นซึมเข้าสู่ชั้นผิวหนังของเธอทีละนิด และเย็นจนอยากตัวสั่นเทิ้มอย่างควบคุมไม่ได้
ผู้ชายคนนี้ช่างน่ากลัวเหลือเกิน น่ากลัวมากๆ ฉู่หลิงเอ๋อจากที่ไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน หลายปีมานี้เธอได้พบเห็นภยันตรายจากการงาน ทั้งยังผ่านประสบการณ์กับตัวเองมามากมาย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเธอที่วิจัยด้านวัตถุระเบิดที่เป็นสิ่งของอันตรายสูง
ทว่าบัดนี้พวกนั้นไม่ถือว่าสาหัสสำหรับฉู่หลิงเอ๋อเลย มันเทียบไม่ได้กับอันตรายจากตัวคุณฟู่เลย
หางคิ้วเวินลั่วฉิงยกขึ้นเล็กน้อย ไม่ได้แสดงปฏิกิริยาออกมามากนัก เห็นได้ชัดว่าเวินลั่วฉิงไม่ได้ประหลาดใจกับท่าทีคุณฟู่มากนัก เพราะเธอเห็นสิ่งที่คุณฟู่ทำในช่วงที่ผ่านมาแล้ว
ความรู้สึกที่คุณฟู่มีต่อไป๋หยูหนิงนั้นเด่นชัดมาก
ถึงแม้เธอไม่รู้จักคุณฟู่ท่านนี้ โดยเรียกได้ว่าเธอไม่รู้ประวัติคุณฟู่เลยสักนิด ทว่าคุณฟู่คือคนที่เย่ซือเฉินเชิญมาก
เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าคนที่เย่ซือเฉินเชิญมาเป็นกรณีเฉพาะคงไม่ได้แย่หรอก ยิ่งไปกว่านั้นเวินลั่วฉิงยังรู้สึกว่าคุณฟู่ท่านนี้ไม่ได้ทำเพื่อให้เกียรติเย่ซือเฉินเท่านั้น เธอคาดเดาว่าหากไม่ใช่ไป๋หยูหนิง คุณฟู่ก็อาจจะไม่มา
ดังนั้น อันที่จริงเวินลั่วฉิงมีทัศนคติที่ดีต่อคุณฟู่มาก
เวินลั่วฉิงมั่นใจมากว่าคุณฟู่ไม่ปล่อยให้ไป๋หยูหนิงกลับไปกับเหมียวเหยียน
เพียงแต่ไม่รู้ว่าต่อจากนี้คุณฟู่ท่านนี้จะทำยังไง?
“ขอโทษค่ะรุ่นพี่ ตอนนี้ฉันยังกลับไปกับรุ่นพี่ไม่ได้ค่ะ”มือของไป๋หยูหนิงใกล้จะถึงฝ่ามือของเหมียวเหยียน เธอกลับหยุดกะทันหัน เธอนึกขึ้นได้ว่ายังมีเรื่องที่ไม่ได้สะสางค้างคาอยู่หนึ่งเรื่อง
เธอรับปากผู้ชายคนนี้ไว้แล้ว ซึ่งสิ่งที่เธอรับปากผู้ชายคนนี้ตอนนี้ยังไม่ได้บรรลุผล ดังนั้นตอนนี้เธอยังกลับไปกับรุ่นพี่ไม่ได้
ได้ยินคำพูดของไป๋หยูหนิงต่างพากันชะงัก
ทุกคนต่างมองไป๋หยูหนิงพร้อมกัน เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครคาดการณ์ได้ว่าไป๋หยูหนิงจะปฏิเสธเหมียวเหยียนในช่วงเวลานี้
กระทั่งเวินลั่วฉิงยังรู้สึกประหลาดใจ เวินลั่วฉิงรู้ดีว่าไป๋หยูหนิงรักรุ่นพี่ของเธอขนาดไหน ไป๋หยูหนิงรักพี่รุ่นคนนี้มาก ชนิดที่ทุ่มเทเต็มกำลังเพื่อรุ่นพี่คนนี้เลย ซึ่งหลายปีมานี้เธอทุ่มเทให้กับรุ่นพี่มากมาย
เมื่อก่อนรุ่นพี่ไม่เคยตอบรับอะไรกับไป๋หยูหนิง ไป๋หยิหนิงก็ยินดีติดตามเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตอนนี้รุ่นพี่คนนี้ยอมรับว่าชอบไป๋หยูหนิงแล้ว ไม่ว่าเหมียวเหยียนจะยอมรับด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม อย่างนี้เหมียวเหยียนก็ยอมรับจริงๆแล้ว
เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าสถานการณ์อย่างนี้ เกรงว่าไม่มีใครขัดขวางไป๋หยูหนิงกลับไปกับเหมียวเหยียนได้ ซึ่งเป็นสาเหตุที่เวินลั่วฉิงไม่ขัดขวางต่อ
เวินลั่วฉิงตั้งความหวังไว้กับคุณฟู่ โดยที่คาดไม่ถึงว่าไป๋หยูหนิงจะเป็นคนปฏิเสธเหมียวเหยียนเอง
เวินลั่วฉิงชะงัก จากนั้นก็ยกมุมปากโค้งขึ้นมายิ้ม
ชั่วพริบตานั้นแววตาที่เย็นยะเยือกและเปลิวไฟลุกโชนในขณะเดียวกันกำลังจะทำลายล้างโลกจนหมดสิ้นก็หยุดไว้ตรงนั้น ถึงแม้ความเย็นยะเยือกกับเปลิวไฟจะยังไม่ดับสูญ ทว่าอย่างนั้นอันตรายดั่งมรสุมก็ไม่ได้แผ่กระจายไปทั่วแล้ว
คุณฟู่ที่จ้องมองไป๋หยูหนิงแววตาเปล่งประกายอย่างรวดเร็ว อาจเป็นเพราะเหนือความคาดหมาย ประหลาดใจเกินไปและอาจเป็นเพราะไม่ได้ปลดปล่อยความหงุดหงิดของเมื่อครู่ออกมา
ชั่วขณะนั้นคุณฟู่ตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ ไม่กระดุกกระดิกเลยสักนิด
ฉู่หลิงเอ๋อหัวเราะร่าเริง“ดีๆ ดีมากเลยที่ไม่กลับไป”
“หนิงเอ๋อร์……”สีหน้าเหมียวเหยียนแย่ในชั่วพริบตา น้ำเสียงก็เคร่งขรึมหลายส่วน ใบหน้าอ่อนโยนเมื่อสักครู่ของเขาเลือนหาย เขามองไป๋หยูหนิงอย่างเหลือเชื่อ
เขาคาดไม่ถึงว่าไป๋หยูหนิงจะปฏิเสธเขา เมื่อสักครู่เขาบอกชอบไป๋หยูหนิงไปแล้ว แต่ไป๋หยูหนิงกลับปฏิเสธเขา?
ไป๋หยูหนิงหมายความว่าอย่างไรกันแน่?!
“ขอโทษค่ะรุ่นพี่ ฉันยังมีธุระต้องจัดการค่ะ รอให้ฉันเสร็จธุระแล้วจะกลับไปนะคะ”ไป๋หยูหนิงสบตากับเหมียวเหยียนด้วยความรู้สึกผิดในใจ เรื่องอย่างนั้นเธอก็อธิบายกับรุ่นพี่ไม่ค่อยสะดวกเท่าใดนัก
ถึงแม้เธออยากกลับกับรุ่นพี่สักเต็มประดา เธอแอบรักรุ่นพี่มานานปี ในที่สุดรุ่นพี่ก็ตอบตกลงแล้ว บอกชอบเธอแล้ว ซึ่งเป็นผลที่เธอโหยหามาโดยตลอด ดังนั้นเธออยากกลับกับรุ่นพี่มากจริงๆ
ทว่าเธอรับปากผู้ชายคนนั้นแล้วยังทำตามไม่ได้ เธอเป็นคนรักษาสัจจะ สิ่งที่เธอรับปากไว้แล้วจะต้องทำตามอย่างแน่นอน
ในที่สุดคุณฟู่ก็ดึงสติกลับมา ได้ยินไป๋หยูหนิงเน้นย้ำอีกครั้ง เขาก็เชื่อว่าเป็นความจริงแล้ว รู้ว่าเขาไม่ได้ฟังผิดและไม่ได้รู้สึกไปเอง
เธอปฏิเสธเหมียวเหยียนเพราะเขาจริงๆ
ถึงแม้คุณฟู่จะรู้ว่าที่ไป๋หยูหนิงปฏิเสธเหมียวเหยียนไม่ใช่เพราะชอบเขา แต่เป็นสัญญาระหว่างพวกเขา
ทว่าผลลัพธ์เช่นนี้ทำให้เขาพึงพอใจมากแล้ว
อย่างน้อยหลังเหมียวเหยียนสารภาพรัก เธอก็ยังจดจำเขาได้ ยังจำสัญญาของเขากับเธอได้
ซึ่งแสดงว่าในหัวใจเธอก็ยังมีเขาอยู่เล็กน้อย?
ขอเพียงหัวใจเธอมีเขาอยู่ ขอเพียงเธออยู่ข้างกายเขา ต้องมีสักวันที่เขาจะทำให้ในสายตาและหัวใจเธอมีเพียงเขาคนเดียว
แน่นอน เขาก็ไม่มีทางปล่อยให้เธอไปจากเขาได้เด็ดขาด
ในเมื่อเธอเลือกจะอยู่ต่อ งั้นเขาก็ยิ่งปล่อยวางไม่ได้
คุณฟู่หลุบตาลง ทอแสงสว่างอันแปลกประหลาดในแววตาหลายส่วน และมีรอยยิ้มอย่างพอใจหลายส่วน ทว่าเพราะเขาหลุบตาลงจึงปกปิดอารมณ์ทั้งหมด ทำให้ไม่มีใครรู้ใครเห็น
คุณฟู่ยกแก้วไวน์ขึ้นที่ริมฝีปากแล้วจิบหนึ่งคำ ทันใดนั้นเขารู้สึกว่าไวน์ไม่ได้ขมเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว คล้ายกับว่าหอมหวานเป็นพิเศษ ความรู้สึกเช่นนี้ช่างดีงามเหลือเกิน
“หนิงเอ๋อร์ คุณไม่กลับกับผมจริงๆเหรอ?”บัดนี้อารมณ์เหมียวเหยียนย่ำแย่มาก เขามองไป๋หยูหนิง น้ำเสียงมีความเข้มขรึมหลายส่วน ฟังแล้วสื่อไปในทางขู่เข็ญเล็กน้อย
เขานึกไม่ถึงว่าไป๋หยูหนิงจะปฏิเสธเขาจริงๆ เมื่อก่อนขอเพียงเขาเอ่ยปาก ไป๋หยูหนิงก็จะทำตามทุกอย่าง ขอเพียงเป็นเรื่องที่เขาพูด ไป๋หยูหนิงจะทุ่มเทสุดความสามารถในการทำผลงานให้ลุล่วง ขอเพียงเขาเรียกร้อง ไป๋หยูหนิงจะทำตามอย่างไร้เงื่อนไขใดๆ