“ใช่ ไม่เกี่ยวกับพวกเรา”เฉิงโหรวโหรวได้ยินไป๋หยิงพูดก็รีบเสริมอีกหนึ่งประโยค หากเธอไม่เสริมก็ยังพอว่า แต่นี่เธอจงใจเสริมเช่นนี้ ยิ่งเน้นให้เห็นถึงความรู้สึกผิดในใจ และฉายความเพลี่ยงพล้ำหนักกว่าเดิม
นาทีนี้ทุกคนมองเฉิงโหรวโหรวด้วยแววตาที่เปลี่ยนไป องค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้กระจอกเกินไปหรือเปล่า?!
ไป๋หยิงปวดเศียรเวียนเกล้าจนเกือบกระอักเลือด เดินเข้าไปดึงเฉิงโหรวโหรว ถึงแม้ไป๋หยิงจะอารมณ์เสีย ทว่าจำเป็นต้องกู้สถานการณ์เอาไว้ “องค์หญิงพวกเราพูดถูฏ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพวกเราจริงๆ คุณนายเหว้ยไปตรวจสอบได้เลย”
ไป๋หยิงเก็บอาการได้ดีกว่า สามารถแสดงท่าทีไร้ความเกี่ยวพันกับตนได้อย่างสิ้นเชิง
“คุณไป๋วางใจเถอะ ฉันสืบกระจ่างแน่”คุณนายเหว้ยกวาดสายตามองไป๋หยิงแวบหนึ่ง“ไม่ว่าใครเป็นคนทำเรื่องนี้ ฉันก็จะสืบให้ถึงต้นตอ กระจ่างทุกอย่างและไม่มีทางปล่อยคนพวกนั้นไปแน่”
ไป๋หยิงเสแสร้งเก่งอย่างไร บัดนี้เมื่อเห็นท่าทางของคุณนายเหว้ยก เธอได้ยินเรื่องคุณนายเหว้ยระหว่างงานไม่น้อย ดังนั้นเธอรู้สึกกลัวเล็กน้อยจริงๆ
ทว่าเมื่อไป๋หยิงนึกถึงเรื่องที่เธอวางแผนอย่างดิบดี ในใจก็เกิดความกล้าหลายส่วน เธอวางแผนรัดกุมเช่นนี้ ไม่มีทางผิดพลาดเด็ดขาด ดังนั้น เธอไม่จำเป็นต้องกังวลสิ่งใด
ไป๋หยิงระงับความไม่พอใจไว้ ยิ้มกับคุณนายเหว้ย“ฉันเชื่อว่าคุณนายเหว้ยต้องสืบได้แน่”
ต้องบอกว่าเมื่อไป๋หยิงเทียบกับเฉิงโหรวโหรวแล้ว เธอฉลาดแกมโกงกว่าเยอะ
คุณนายเหว้ยไม่ได้แยแสไป๋หยิงกับเฉิงโหรวโหรวอีก ท่านหันไปมองผู้ชายปลิ้นปล้อนอีกครั้ง “เปิดมือถือนายเลย ฉันจะดูว่ามีอะไรกันแน่”
“ได้”ผู้ชายผงกศีรษะรับ จากนั้นก็เปิดมือถือ กดปุ่มเปิดวิดีโอ“อันนี้เป็นวิดีโอที่ผมกับเวินลั่วฉิงอยู่ด้วยกันเมื่อห้าปีก่อนคุณนายเหว้ยดูเองเลย”
คุณนายเหว้ยได้ยินพลันหรี่ตาขึ้น ทว่าคุณนายเหว้ยไม่ได้พูดสิ่งใด สถานการณ์อย่างนี้พูดมากก็เปล่าประโยชน์ จับต้นชนปลายให้ถูกถึงจะเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด
สายตาคุณนายเหว้ยหยุดอยู่ที่มือถือของผู้ชายดังกล่าว กำลังดูวิดีโอที่เปิดอยู่ ณ ขณะนี้
“หมายความว่ายังไง?ผู้ชายน่าเกียดคนนี้พูดอะไรนะ?ฉิงฉิงอยู่กับเขา?เขาบ้าไปแล้วหรือเปล่า?”ฉู่หลิงเอ๋อได้ยินคำพูดของผู้ชายคนนี้ก็มึนงงไปหมด พร้อมกันนั้นก็เดินเข้าไปใกล้“ฉันจะดูว่าเป็นอะไรกันแน่”
เวินลั่วฉิงกับไป๋หยูหนิงก็ร่วมแจมด้วย
เด็กผู้หญิงที่กอดขาเวินลั่วฉิงคลายมือ ทว่ายังคงจับปลายเสื้อเวินลั่วฉิงไว้แน่น
ภาพในวิดีโอคือ เวินลั่วฉิงที่สวมใส่เสื้อสีแดงฉานกำลังนอนอยู่บนเตียงใหญ่ ซึ่งดูจากวิดีโอแล้วเดาไม่ยากเลยว่าต้องอยู่ในโรงแรมอย่างแน่นอน ภาพในวิดีโอคมชัดมาก แวบแรกก็ดูออกว่าเป็นเวินลั่วฉิง
ดวงตาเวินลั่วฉิงหรี่ขึ้น น่าจะถ่ายตอนที่เธอสลบไสลเมื่อห้าปีก่อน
เวินลั่วฉิงทายออกแต่แรกแล้วว่าไป๋หยิงต้องทำอะไรระหว่างที่เธอสลบเป็นแน่
ทว่าเมื่อห้าปีก่อนตอนที่เธอตื่นมา ร่างกายไม่ได้มีความผิดปกติใดๆ ดังนั้นระหว่างที่เธอสลบ คนนั้นไม่น่าจะทำอะไรเกินเลยกับเธอ
และหลังเธอฟื้น เธอก็รีบหนีออกไปทันที พวกเขาไม่มีโอกาสทำอะไรเธอทิ้งสิ้น
ดังนั้นถึงแม้ไป๋หยิงถ่ายวิดีโอตอนที่นอนก็เหมือนจะไม่มีประโยชน์อะไร
อีกอย่างในวิดีโอมีเธอนอนอยู่บนเตียงคนเดียว ไม่มีคนอื่นเลย
เวินลั่วฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย วิดีโออย่างนี้เหมือนไม่มีผลกระทบต่อมั้ง?
วิดีโอยังเล่นต่อไป เวินลั่วฉิงเห็นตัวเองที่อยู่บนเตียงลืมตาขึ้นมา อันนี้น่าจะเป็นเหตุการณ์เมื่อตอนที่เธอตื่นห้าปีก่อน
ดูมาถึงตอนนี้เวินลั่วฉิงก็รู้สึกสงสัยเล็กน้อย เธอได้สติก็รีบหนีทันที แล้วไป๋หยิงให้คนเปิดวิดีโออย่างนี้เพื่ออะไร?
ทว่าต่อมา เวินลั่วฉิงเห็นเหตุการณ์อื่นในวิดีโอก็ต้องตะลึงงัน
วิดีโอไม่ได้เหมือนห้าปีก่อน ความจริงในห้าปีก่อนเธอหนีออกไปทันที แต่ในวิดีโอนี้กลับมีผู้ชายเดินมายังเตียง จากนั้นก็กดทับร่างของเธอ
ต่อมาก็เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม วิดีโอหลังจากนั้นผู้หญิงหันหลังให้กล้องตลอด ไม่ได้เห็นใบหน้าของผู้หญิงอีกเลย
ทว่าตอนที่เวินลั่วฉิงนอนอยู่บนเตียงทุกคนเห็นอย่างชัดเจนว่าเป็นเวินลั่วฉิง และวิดีโอก็ติดกัน ดังนั้นถึงแม้ต่อมาจะไม่เห็นใบหน้าของผู้หญิง ทุกคนก็คิดว่าเป็นเวินลั่วฉิงอยู่ดี
วิดีโอถ่ายได้ละเอียดคมชัดมาก สามารถจับภาพระหว่างชายหญิงเผด็จศึกหมด ยกเว้นใบหน้าของผู้หญิง ส่วนอื่นก็ถ่ายได้คมชัดมาก
“อันนี้คือหลักฐานที่เวินลั่วฉิงอยู่กับผมเมื่อห้าปีก่อน”ผู้ชายคนนี้เห็นทุกคนกำลังดูวิดีโออยู่ ถึงแม้ตัวเขารู้สึกละอายใจอยู่บ้าง แต่อันนี้เป็นงานที่ได้รับมอบหมายจากองค์กรโกสต์ซิตี้ ดังนั้นเขาต้องทำให้ผลงานออกมาดีอยู่
มุมปากเวินลั่วฉิงเผยรอยยิ้มเย็น ที่แท้ก็อย่างนี้นี่เอง
วิดีโอตอนแรกเป็นภาพของเธอจริง แต่ตอนหลังนั้นไม่ใช่
ไป๋หยิงนำสองวิดีโอมารวมกันเป็นหนึ่งเดียว อีกทั้งภาพด้านหลังในวิดีโอทั้งสองอย่างเหมือนกันหมดทุกอย่าง
ไป๋หยิงช่างลงทุนจริงๆ เวินลั่วฉิงรู้ว่าวิดีโอส่วนหลังไม่ได้ถ่ายเสร็จเมื่อห้าปีก่อนอย่างแน่นอน หากถ่ายเสร็จเมื่อห้าปีก่อนจริง ตอนนั้นไป๋หยิงก็ปล่อยวิดีโอนี้ออกมาแล้ว ดังนั้นต้องถ่ายกะทันหันในช่วงนี้แน่ๆ จากนั้นไป๋หยิงก็ตัดต่อวิดีโอที่ถ่ายตอนนี้กับวิดีโอห้าปีก่อนจนกลายเป็นวิดีโอเดียวกัน
ต้องชมว่าฝีมือการตัดต่อนั้นเยี่ยมยอดมาก รอยต่อระหว่างวิดีโอทั้งสองแทบจะจับพิรุธไม่ออกเลย อย่างน้อยก็ไม่อาจจับได้ด้วยตาเปล่า
แน่นอน หากให้ผู้ชำนาญเฉพาะด้านนี้มาตรวจสอบคงต้องพบเจอรอยรั่วแน่ ด้วยความสามารถของมู่หรงดัวหยางก็ทำได้อย่างสบายๆเลย
ทว่าเห็นได้ชัดว่าถึงตอนนี้มู่หรงดัวหยางจะบอกทุกคนว่าวิดีโอเป็นของปลอม ทุกคนก็จะไม่เชื่อ
ไป๋หยิงคงเดาจุดนี้ได้แล้ว
ต้องบอกว่าไป๋หยิงวางแผนได้ครอบคลุมมาก แต่เสียดาย……
มุมปากเวินลั่วฉิงยกขึ้นกลายเป็นรูปเรเดียนที่คล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม
“นี่มันอะไร?ต้องเป็นวิดีโอปลอมแน่ๆ ไม่ใช่ฉิงฉิงแน่นอน”ฉู่หลิงเอ๋อเบิกตากว้าง ฉู่หลิงเอ๋อรู้ดีว่าวิดีโอนี้เป็นของปลอม เพราะเธอรู้เรื่องห้าปีก่อนเป็นอย่างดี
“นี่เป็นวิดีโอปลอม ให้คนมาตรวจสอบเลย รีบให้คนมาตรวจสอบเดี๋ยวนี้”บัดนี้ฉู่หลิงเอ๋อหงุดหงิดจนอยากฆ่าคน คนพวกนี้โหดเหี้ยมมาก ถึงกลับกล้าทำวิดีโอปลอมมาใส่ร้ายฉิงฉิง
“คุณฉู่หมายความว่ายังไง?คุณฉู่บอกว่าเป็นวิดีโอปลอม?ให้คนมาตรวจสอบ?แล้วคุณฉู่คิดจะให้ใครมาตรวจสอบหรือ?คุณฉู่ไม่ใช่เชิญคนของตระกูลเหว้ยมาตรวจสอบหรอกมั้ง?”ไป๋หยิงหัวเราะเบาๆ เธอนึกจุดนี้ได้ตั้งนานแล้ว และเธอก็มีแผนการรับมือแล้วด้วย
ก่อนหน้านี้คุณนายเหว้ยปกป้องเวินลั่วฉิงต่อหน้าสาธารณชน ตอนนี้ไป๋หยิงจะใช้จุดนี้ให้เป็นประโยชน์
“คุณ……”ฉู่หลิงเอ๋อเดือดดาล กำหมัดขึ้นมา หากเวลานี้ไป๋หยิงอยู่ใกล้ๆเธอ เธอต้องชกให้หัวไป๋หยิงแตกแน่
“หลิงเอ๋อ”ไป๋หยูหนิงรีบดึงแขนฉู่หลิงเอ๋อไว้ พลางส่ายหัวให้เธอ“อย่าวู่วาม วิธีที่คุณบอกไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดในขณะนี้”
ไป๋หยูหนิงพอจะเดาเจตนารมณ์ของไป๋หยิงออก ดังนั้นหากเวลานี้ให้มู่หรงดัวหยางออกมาตรวจสอบ จะให้ไป๋หยิงใช้เป็นข้อครหาได้
“แล้วทำยังไง?หรือจะปล่อยให้เธอปรักปรำฉิงฉิงเหรอ?”ฉู่หลิงเอ๋อคับแค้นใจ ปกตินิสัยของเธอมักจะเป็นคนตรงไปตรงมา เห็นพวกเจ้าเล่ห์เพทุบายไม่ได้
“พวกเราต้องเชื่อมั่นในตัวฉิงฉิง ฉิงฉิงน่าจะมีวิธีสะสาง”ไป๋หยูหนิงรู้ว่าสถานการณ์เช่นนี้ทำอะไรผลีผลามไม่ได้ เพราะการกระทำที่ผิดพลาดครั้งเดียว อาจเป็นข้ออ้างให้อีกฝ่ายโจมตีฉิงฉิงได้
“หากไม่ยืนยันไม่ได้ว่าเป็นวิดีโอปลอม ฉิงฉิงก็พูดอะไรมากไม่ได้ และยิ่งไม่มีใครเชื่อคำอธิบายของฉิงฉิงเลย”เวลานี้ฉู่หลิงเอ๋อเป็นเดือดเป็นร้อนแทนจนปอดจะเบิดเป็นเสี่ยนๆอยู่แล้ว แน่นอนเธอยิ่งรู้สึกกังวลและเป็นห่วงมากด้วย
“ฉิงฉิงมีวิธีแน่นอน พวกเราต้องเชื่อมั่นฉิงฉิง”เมื่อไป๋หยูหนิงเทียบกับฉู่หลิงเอ๋อแล้วก็ใจเย็นกว่าเยอะเลย เธอหันไปมองเวินลั่วฉิง เห็นเวินลั่วฉิงใจเย็ฯ เธอจึงหัวเราะกะทันหัน “ฉิงฉิงเคยทำให้พวกเราผิดหวังตอนไหน?”
“คุณพูดถูก”ฉู่หลิงเอ๋อก็มองไปยังเวินลั่วฉิง เห็นเวินลั่วฉิงไม่ตึงเครียด ไม่กระวนกระวาย ฉู่หลิงเอ๋อก็อดหัวเราะไม่ได้ “ฉันเกือบลืมความสามารถของฉิงฉิงซะแล้ว”
ฉิงฉิงของเธอจะรังแกง่ายๆอย่างไร?
รังแกฉิงฉิงของเธอต้องชดใช้อย่างแสนสาหัส
“พวกเราดูความคึกคักก็พอ”บัดนี้ฉู่หลิงเอ๋อไม่ได้ลุกลี้ลุกลนสักนิดแล้ว และไม่ได้หงุดหงิดแล้วด้วย เพราะเธอเชื่อมั่นในความสามารถของเวินลั่วฉิงนั่นเอง