ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – บทที่ 1080 คนที่ควรมาก็ย่อมต้องมา ทิ้งคุณชายสามเย่ซะ (1)

บทที่ 1080 คนที่ควรมาก็ย่อมต้องมา ทิ้งคุณชายสามเย่ซะ (1)

“ฉันอวยพรให้คุณสมหวังนะ”ไป๋หยิงกระตุกปากแรงๆ บัดนี้เธอไม่อยากสนใจเฉิงโหรวโหรวแล้วจริงๆ ไป๋หยิงยังอยากพูดจาแดกดันเฉิงโหรวโหรวสักยก ทว่าไป๋หยิงนึกขึ้นได้ว่าเธอยังมีข้อดีให้พึ่งพิงอยู่ ได้แต่กล้ำกลืนคำพูดแดกดันนี้ เปลี่ยนเป็นคำอวยพรที่0จริงใจที่สุดแทน

“ขอบคุณ”เพียงแต่เฉิงโหรวโหรวฟังคำกลบเกลื่อนไม่ออก ยังหัวเราะตอบรับหนึ่งคำ

“ตอนตรวจดีเอ็นเอ หัวหน้าน้อยบอกว่าจะแต่งงานกับฉัน ตอนคุณมาบอกว่าคนที่หัวหน้าน้อยจะแต่งงานด้วยไม่ใช่ฉัน แต่เป็นเวินลั่วฉิง แต่คนที่เป็นองค์หญิงคือฉัน ไม่ใช่เธอ ขอเพียงพวกเขากำจัดเวินลั่วฉิงให้พ้นทาง ไม่ให้หัวหน้ามีโอกาสพิสูจน์สถานะของเวินลั่วฉิง วันหลังองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ก็จะเป็นของฉันตลอดไป ถึงเวลานั้นหัวหน้าน้อยก็ต้องแต่งงานกับฉันอยู่แล้ว”ต้องบอกว่าเฉิงโหรวโหรวสร้างฝันไว้อย่างเลิศหรูมาก อีกทั้งเวลานี้เฉิงโหรวโหรวยังลำพองอีกด้วย

ไป๋หยิงกะพริบตารัวๆ ถึงแม้เฉิงโหรวโหรวจะเพ้อฝันไปไกล แต่ประโยคสุดท้ายของเฉิงโหรวโหรวถูกใจเธอยิ่งนัก นั่นก็คือกำจัดเวินลั่วฉิงทิ้ง

ประเด็นสำคัญคือตอนนี้จะกำจัดเวินลั่วฉิงอย่างไร!

ถึงแม้เฉิงโหรวโหรวจะเป็นองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ แต่ตัวตนการมีอยู่ของเฉิงโหรวโหรวอึดอัดมาก ดังนั้นเธอจึงไม่ค่อยมีอำนาจใช้กำลังคนขององค์กรโกสต์ซิตี้มากนัก

ส่วนเบื้องหลังเวินลั่วฉิงมีเย่ซือเฉิน ตระกูลถัง ตอนนี้ยังมีตระกูลเหว้ยเพิ่มเข้ามา เดิมทีเวินลั่วฉิงก็เก่งกาจอยู่แล้ว บวกกับตัวช่วยมากมาย จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะโจมตี

หากเวินลั่วฉิงเป็นลูกสาวหัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้จริง ถ้าเกิดหัวหน้ารับตัวกลับไปเป็นองค์หญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้จริงๆ ถึงเวลานั้นความแค้นของเธอก็ไม่อาจชำระได้ตลอดกาล

ไม่ เธอปล่อยให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นไม่ได้เด็ดขาด ไม่ได้เด็ดขาด

ไป๋หยิงก็รู้ว่าวิธีขัดขวางไม่ให้เกิดเรื่องเช่นนั้นมีเพียงวิธีเดียว นั่นก็คือกำจัดเวินลั่วฉิงทิ้ง

ดังนั้นไม่ว่าจะยากเย็นเพียงใด เธอก็จำเป็นต้องทำให้ได้

และตอนนี้เธอสามารถใช้เฉิงโหรวโหรวเป็นเครื่องมือได้เท่านั้น โชคดีที่เฉิงโหรวโหรวก็แค้นเวินลั่วฉิงตามเธอด้วย

“คุณพูดถูก พวกเราจำเป็นต้องหาหนทางกำจัดเวินลั่วฉิงและต้องเร็วที่สุด”ไป๋หยิงพยายามเบาเสียงให้มากที่สุด“ดังนั้นตอนนี้พวกเราต้องสามัคคีกัน คุณต้องให้ความร่วมมือกับฉัน ต้องฟังฉันอย่างเดียว”

“คุณมีวิธีจริงเหรอ?”ดวงตาเฉิงโหรวโหรวสว่างจ้า เพียงแต่ตอนที่เฉิงโหรวโหรวมองไป๋หยิงยังคงมีความสงสัยเล็กน้อย“คุณทำได้จริงๆหรือ?ครั้งนี้ฉันก็ฟังคุณ แต่ผลก็คือพ่ายแพ้”

“ครั้งนี้ฉันไม่คิดว่าตระกูลเหว้ยจะออกหน้าปกป้องเวินลั่วฉิง”ไป๋หยิงขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน บัดนี้เธอหงุดหงิดพอแล้ว เฉิงโหรวโหรวยังมาซ้ำเติมเอาน้ำมันมาราดกองเพลิงอีก

“ครั้งหน้าจะเกิดเหตุสุดวิสัยอีกไหม?”เฉิงโหรวโหรวเบะปากด้วยความไม่พอใจ

“วางใจเถอะ ครั้งหน้าไม่มีทางเกิดเหตุสุดวิสัยเด็ดขาด”ไป๋หยิงได้ยินน้ำเสียงของเฉิงโหรวโหรวไม่สบอารมณ์จนเกือบบดฟันอย่างละเอียดแล้ว เธอเสียอารมณ์ใส่เฉิงโหรวโหรวไม่ได้

เฉิงโหรวโหรวจะโง่เง่าเต่าตุ่นเพียงใด ถึงอย่างไรตอนนี้เฉิงโหรวโหรวก็ครองตำแหน่งองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้อยู่

“ได้ งั้นฉันจะเชื่อคุณอีกครั้ง หวังว่าครั้งต่อไปคุณจะไม่ทำให้ฉันผิดหวังนะ”เฉิงโหรวโหรวเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ไม่รู้เพราะสาเหตุอะไรถึงทำให้เฉิงโหรวโหรวมีความมั่นอกมั่นใจ กล้าหาญเพียงนี้ ช่างทะนงตัวเสียจริง

คงเป็นเพราะความคิดเพ้อฝันก่อนหน้านี้ทำให้เฉิงโหรวโหรวจมปลักอยู่กับความรู้สึกนั้น ดังนั้นบัดนี้เหมือนเฉิงโหรวโหรวกำลังล่องลอยด้วยความได้ใจอย่างเด่นชัด

ไป๋หยิงกัดฟัน อดกลั้น ไม่ได้พูดอะไรอีก

และเวลานี้ตำรวจก็เดินทางมาถึง สถานีตำรวจท้องที่อยู่ไม่ห่างจากโรงแรมนี้มากนัก และตำรวจได้ยินว่าตระกูลเหว้ยเป็นฝ่ายแจ้งความ การปฏิบัติหน้าที่จึงยิ่งรวดเร็วเป็นพิเศษ

“ตำรวจมาแล้วพวกเรากลับก่อนไหม”เฉิงโหรวโหรวที่ลุ่มหลงอยู่กับภวังค์แห่งความเพ้อฝัน เมื่อเห็นตำรวจก็ราวกับถูกปลุกให้ตื่นจากภวังค์กลายเป็นคนขี้ขลาดตาขาวทันที ใบหน้าเผยความตึงเครียดหลายส่วน

“ไม่ต้องแตกตื่น คุณคือองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ เรื่องนี้ไม่สาวมาถึงตัวพวกเราหรอก”ไป๋หยิงกวาดสายตามองเฉิงโหรวโหรวแวบหนึ่ง มุมปากพลันยกโค้งขึ้น“วิดีโอนี้ฉันหายอดฝีมือมาตัดต่อ ไม่เจอพิรุธง่ายๆหรอก สำหรับเรื่องดีเอ็นเอ ทางตำรวจคิดอยากตรวจอีกครั้งก็ต้องรออีกหนึ่งวัน ตระกูลเหว้ยคงไม่กักขังทุกคนไว้หนึ่งวันหรอก”

เห็นได้ชัดว่าเวลานี้ไป๋หยิงคิดเตรียมการได้แล้ว ดังนั้นเธอไม่ได้กระวนกระวายเลยสักนิด

“อืม คุณพูดมีเหตุผล”เฉิงโหรวโหรวได้ยินคำพูดของไป๋หยิงก็เบาใจลง

“แต่เสียดายแผนการครั้งนี้ของพวกเราแล้ว”ตอนนี้เฉิงโหรวโหรวยังคงรู้สึกเสียดายที่จัดการเวินลั่วฉิงไม่สำเร็จ

ไป๋หยิงแอบสูดลมหายใจ ไม่ได้พูดอะไรมากอีก

“คุณนายเหว้ยครับ คุณชายมู่หรงครับ พวกคุณแจ้งความใช่ไหมครับ?”ตำรวจเดินไปยังตรงหน้าคุณนายเหว้ยกับมู่หรงดัวหยางโดยตรง ท่าทางสุภาพเกรงใจ ตำรวจยังกังวลว่าเข้าใจผิดหรือเปล่าที่เข้าใจว่าทั้งสองคนแจ้งความ เพราะเป็นงานเลี้ยงของตระกูลเหว้ย คนตระกูลเหว้ยจะแจ้งความในงานเลี้ยงของตัวเองได้อย่างไร?

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในงานเลี้ยง ตระกูลเหว้ยก็ควรสยบข่าวก่อนเป็นอันดับแรกไม่ใช่หรือ รอให้งานเลี้ยงจบแล้วค่อยหาวิธีแก้ไขไม่ใช่หรือ?

ตำรวจที่มาเกรงว่าตัวเองจะเข้าใจผิด

“ใช่ครับ”มู่หรงดัวหยางตอบอย่างเป็นธรรมชาติหนึ่งประโยค

“คุณชายมู่หรงครับ เกิดอะไรขึ้นครับ?”ตำรวจก็เบาใจลง ดูจากท่าทางของคุณชายมู่หรงแล้ว เห็นทีตระกูลเหว้ยจะแจ้งความจริงๆ ตัวเขาไม่เข้าใจผิดก็ดีแล้ว

“ให้คนตรวจสอบว่าวิดีโอนี้มีปัญหาหรือเปล่าครับ”มู่หรงดัวหยางไม่ได้พูดไร้สาระ ยื่นมือถือของผู้ชายคนนี้ให้ตำรวจทันที

และมู่หรงดัวหยางก็ไม่ได้พูดกับตำรวจโดยตรงว่าวิดีโอเป็นของปลอม แต่ให้ตำรวจสืบหาความจริงเอง

มู่หรงดัวหยางทำแบบนี้ก็เพื่อให้ผลที่ตำรวจตรวจสอบออกมาจะยิ่งน่าเชื่อถือกว่า

“อ่อ ครับ ครับ ผมจะไปผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบครับ”ตำรวจอึ้ง แต่ก็รีบรับมือถือมา จากนั้นก็โทรเรียกผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมา“คุณชายมู่หรงครับ ผมโทรเรียกผู้เชี่ยวชาญมาแล้วนะครับ แต่ต้องใช้เวลาสักหน่อยนะครับ รบกวนคุณชายมู่หรงรอสักครู่ครับ”ตำรวจนายนั้นโทรศัพท์เสร็จก็รีบอธิบายให้มู่หรงดัวหยางทราบ

“อืม ผมรู้แล้วครับ”ดวงตามู่หรงดัวหยางเปล่งประกาย จากนั้นก็พยักหน้า วิดีโออันนี้มองแวบเดียวก็รู้ว่าเป็นของปลอม ซึ่งเขาถนัดกว่าใครอื่น ไม่มีใครตรวจสอบความจริงปลอมได้แม่นยำกว่าเขาแล้ว

ทว่ามู่หรงดัวหยางรู้ดีว่า สถานการณ์เช่นนี้ ผลตรวจที่เขาให้อาจเป็นเครื่องมือในการโจมตีของอีกฝ่ายได้ นี่จึงเป็นสาเหตุที่เขาแจ้งความกับตำรวจนั่นเอง

มู่หรงดัวหยางรู้ว่าแจ้งความแล้ว เรื่องนี้ต้องเป็นหน้าที่สืบความจริงจึงเป็นของตำรวจ ซึ่งต้องเสียเวลามาก แต่เขาก็ยังคงเลือกที่จะปฏิบัติเช่นนี้ เพราะเขาไม่ใช่ให้ใครใช้เป็นข้อครหาฉิงฉิงได้

“คุณชายมู่หรงครับ ก่อนที่ผู้เชี่ยวชาญด้านดีเอ็นเอจะมาถึง คุณยังต้องการให้พวกเราทำอะไรอีกครับ?”ตำรวจรู้สึกว่ารออย่างเดียวก็ไม่เหมาะสม เพียงแต่เป็นงานเลี้ยงของตระกูลเหว้ย ไม่ได้รับอนุญาตจากตระกูลเหว้ยเขาก็ไม่กล้าทำอะไรพลการ

“คงต้องการให้พวกคุณตรวจดีเอ็นเอด้วยครับ”ในมือมู่หรงดัวหยางยังถือผลตรวจดีเอ็นเอที่ผู้ชายคนนั้นยื่นให้เมื่อสักครู่นี้ เพียงแต่เขาไม่ได้เปิดดูเลย เขารู้ว่าเป็นเนื้อหาเท็จ

และหากจะยืนยันว่าผลตรวจดีเอ็นเอของผู้ชายคนนี้เป็นของปลอม วิธีเดียวก็คือ ให้ตำรวจตรวจดีเอ็นเอของเวินลั่วฉิงกับเด็กผู้หญิงคนนี้ต่อหน้าฝูงชน

“ตรวจดีเอ็นเอเหรอครับ?”ตำรวจมึนงงเล็กน้อย“คุณชายมู่หรงครับ ตรวจดีเอ็นเอนั้นไม่ได้เร็วนะครับ อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาหนึ่งวันครับ และยังต้องให้ผู้ชำนาญการเฉพาะด้านเป็นผู้ตรวจสอบด้วยครับ พวกผมต้องนำกลับไปตรวจสอบครับ

วิดีโอเป็นเรื่องจริงหรือมั่วนิ่ม สามารถตรวจสอบได้ทันทีในงานเลี้ยง แต่การตรวจดีเอ็นเอจะตรวจตรงนี้ไม่ได้

“อืม ผมรู้แล้วครับ”มู่หรงดัวหยางแอบถอนหายใจ อันที่จริงเขามีเครื่องตรวจดีเอ็นเอที่มีนวัตกรรมที่ล้ำเลิศ แต่สถานการณ์เช่นนี้ เขากลับใช้เครื่องมือตัวเองไม่ได้

ถึงแม้การดำเนินการของตำรวจจะล่าช้าบ้าง แต่เขาก็จำเป็นต้องเลือกให้ตำรวจเป็นผู้ทำหน้าที่นี้

“ดีครับ งั้นก็ดีครับ”เห็นได้ชัดว่าตำรวจโล่งอก“ไม่ทราบว่าคุณชายมู่หรงจะให้ตรวจดีเอ็นเอของใครกับใครครับ?”

มู่หรงดัวหยางชี้ไปยังเวินลั่วฉิงกับเด็กผู้หญิงที่ยังคงจับชายเสื้อเวินลั่วฉิงไว้แน่น

“ครับ ผมจะให้คนมาเอาตัวอย่างเดี๋ยวนี้ครับ จากนั้นก็จะนำไปตรวจดีเอ็นเอครับ”เห็นได้ชัดว่าตำรวจคาดไม่ถึงว่าเรื่องจะยุ่งยากเช่นนี้ ยังไม่ได้เตรียมการเรื่องพวกนี้เลย ต้องแจ้งข่าวผู้รับผิดชอบหน้าที่นี้ให้มากะทันหัน

ไป๋หยิงเห็นสถานการณ์ตรงหน้า มุมปากเลยรอยยิ้มลำพองใจหลายส่วน เป็นดังที่เธอคาดการณ์ไม่มีผิดเพี้ยน ถึงแม้ตำรวจจะมา แต่เวลาสั้นๆก็สืบอะไรไม่ได้

ต้องใช้เวลาหนึ่งวันในการตรวจดีเอ็นเอ สำหรับวิดีโอ เธอหวังว่าตำรวจจะไม่ตรวจสอบเสร็จในเวลาอันรวดเร็ว เพราะเธออุตส่าห์จ้างวางยอดฝีมือมาทำโดยเฉพาะ

ไป๋หยิงมองไปยังเวินลั่วฉิงอย่างได้ใจ

ไม่รู้ว่าเวินลั่วฉิงรับรู้การมองของไป๋หยิงหรือไม่ เวินลั่วฉิงเงยหน้ายิ้มให้กับไป๋หยิง จากนั้นก็หันไปพูดกับตำรวจช้าๆว่า“ไม่ต้องยุ่งยากขนาดนั้นหรอก”

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Status: Ongoing

มองที่เด็กๆ ที่มีหน้าตาเหมือนกับตัวเอง สมองเขาว่างเปล่า ชั่วคราว”แม่เราก็คือภรรยาของคุณนะคะ ทำไม ภรรยาของ คุณมีลูกสองคน คุณไม่รู้หรอ”เด็กๆ จ้องมองเขา เตือนเขา อย่าง”มีน้ำใจ” เขาชะงักไปสองวินาที สีหน้าเปลี่ยนหลาย แบบ”ที่รัก อยู่ไหน” วินาทีต่อไป เขาโทรหาเวินลั่วฉิง “ได้ รอ ฉันสักครู่ ฉันจะไปที่ที่อยู่ทันที จะมีSurpriseให้นะ”ดี ดีจัง เขาอยากจะดูว่าเธอยังมีเรื่องอะไรที่ปิดบังเขาไว้ จะคิดบัญชี อย่างจริงจังแล้วนะ”นี่มันร้ายใจเกินไปมั่ง”เด็กสองคนนี้ตะลึง Surpriseนี่มันใหญ่จัง ดูเหมือนว่า คนนั้นจะซวยค่ะ! ! !

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท