เขาเห็นส่งเอกสารบางอย่างเกี่ยวกับถังจื่อโม่ที่กู้หวูส่งมาให้เขา นัยน์ตาคู่นั้นค่อยๆหรี่ลง……
ในเอกสารที่กู้หวูส่งมาไม่มีข่าวอะไรที่มีประโยชน์มาก แม้แต่อายุและฐานะของถังจื่อโม่ยังไม่มีเลย แน่นอนว่ายิ่งไม่ต้องพูดถึงรูปถ่ายหน้าตาอะไร
สามารถบอกได้ว่า เอกสารพวกนี้ที่กู้หวูส่งมาให้เขา ไม่ได้แตกต่างไปจากกระดาษแผ่นเปล่าเลย
ความสามารถของกู้หวู เขาก็รู้ดี เรื่องที่กู้หวูอยากจะสืบ น้อยมากที่จะสืบไม่เจอ แต่ว่าตอนนี้กู้หวูสืบหามาสองวัน กลับให้แค่เอกสารพวกนี้ ซ้ำยังเป็นข้อมูลที่ไม่มีประโยชน์อะไรเลย?
แล้วถังจื่อโม่เป็นคนอะไรกันแน่? กลับซุกซ่อนได้ลึกขนาดนี้เลยเหรอ?
แม้กระทั่งกู้หวูยังสืบหาไม่เจอ?
นัยน์ตาที่หรี่ตาเล็กน้อยของเย่ซือเฉินเป็นประกายแสงอันเลือดเย็นออกมาเล็กน้อย เขาหยิลมือถือขึ้น แล้วโทรหากู้หวูโดยตรง
“คุณชาย……” ทีแรกเป็นเพราะกู้หวูสืบหาอะไรที่มีประโยชน์ไม่เจอ จึงรู้สึกผิดเล็กน้อย ดังนั้นจึงแค่ส่งข้อมูลให้เย่ซือเฉิน ไม่ได้โทรหา กู้หวูนึกไม่ถึงว่าเย่ซือเฉินจะโทรมาโดยตรงแบบนี้
“เกิดอะไรขึ้น?” เย่ซือเฉินโทรมาไม่ได้ที่จะต่อว่ากู้หวู แค่อยากจะทำความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ตามความสามารถของกู้หวู ทำไมสืบมาสองวัน กลับไม่ได้ข้อมูลที่มีประโยชน์เลย
เรื่องนี้ไม่ปกติอย่างเห็นชัดเจน!!
“คุณชาย เรื่องนี้มาค่อนข้างน่าแปลกจริงๆ ผมสืบหามาสองวัน กลับไม่ได้อะไรที่มีประโยชน์เลย สองวันมานี้ผมไม่ได้แอบขี้เกียจเลยแม้แต่น้อย อีกอย่างเส้นสายที่สามารถใช้ได้ วิธีที่สามารถใช้ได้ ผมใช้มาหมดแล้ว” กู้หวูแสดงท่าทีออกมาอย่างชัดเจน “คุณชาย ผมทำสุดสามารถจริงๆ ไม่สิ ผมทำสุดความสามารถทั้งหมดที่มีแล้วจริงๆครับ”
กู้หวูก็ทำอะไรไม่ได้ อีกอย่างเขาก็รู้สึกหดหู่ใจ นี่ยังเป็นวันแรกเลยที่เขาพ่ายแพ้ขนาดนี้
เย่ซือเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย ทีแรกเย่ซือเฉินรู้สึกสงสัยในใจ วันนี้พอได้ยินคำพูดของกู้หวู ก็ยิ่งทำให้สงสัยมากขึ้น “มีปัญหาอะไรหรือ”
สืบหาไม่เจอแสดงว่าต้องมีเหตุผลแน่นอน คนเป็นๆคนหนึ่งไม่มีทางไม่มีข่าวคราวแม้แต่นิดแน่นอน ต้องถูกคนตั้งใจปิดซ่อนไว้แน่ๆ
“สืบมาได้หรือยังว่าใครเป็นคนสร้างกลอุบาย?” ตอนนี้เย่ซือเฉินอยากรู้ว่าใครกันแน่ที่ตั้งใจปิดบังข้อมูลและข่าวคราวเกี่ยวกับถังจื่อโม่
“คุณชาย เรื่องนี้มันค่อนข้างซับซ้อน อีกอย่างผมรู้สึกว่ามันซับซ้อนเกินไป ตอนนี้ผมยังคงสืบอยู่ และยังไม่แน่ใจ ดังนั้นเลยไม่ได้รายงานกับคุณชาย” พอพูดถึงเรื่องนี้ ในน้ำเสียงของกู้หวูเหมือนจะค่อนข้างแปลกไปเล็กน้อย
“พูดประเด็นสำคัญ” แววตาของเย่ซือเฉินหรี่ลงอีกครั้ง ดูๆแล้วแค่กลัวว่าเรื่องนี้จะยากยิ่งกว่าที่เขาคิดไว้
“ในนี้ต้องมีลายมือถังไป๋เชียนแน่นอน” กู้หวูเห็นว่าเย่ซือเฉินยังคงถามไถ่ต่อ ก็ไม่อยากปิดบังอะไรอีก เพียงแต่ว่าตอนที่กู้หวูพูดถึงถังไป๋เชียน น้ำเสียงของเขาฟังเหมือนจะระมัดระวังขึ้นมา ถังไป๋เชียนเคยเป็นศัตรูทางหัวใจที่หนึ่งของคุณชาย ตอนนั้นคุณชายทำเพื่อคุณหญิงถึงกับขังถังไป๋เชียนไว้ในเมือง A เป็นเวลานาน
“ถังไป๋เชียนช่วยถังจื่อโม่ปิดบังฐานะไว้หรือเปล่า” เย่ซือเฉินเลิกหางคิ้วขึ้นเล็กน้อย ทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่าสถานการณ์นี้ค่อนข้างคาดคิดไม่ถึง
ตอนนั้นเวินลั่วฉิงเรียกถังจื่อโม่ตอนกึ่งฝันกึ่งตื่น ตอนนั้นเขาหาเบอร์โทรของถังจื่อโม่ในมือถือของเวินลั่วฉิง จากนั้นก็โทรไป ตอนนั้นถังไป๋เชียนรับสาย ดังนั้นถังไป๋เชียนต้องรู้จักคนที่ชื่อถังจื่อโม่คนนี้แน่นอน
ทีแรกเขายังสงสัยว่าถังจื่อโม่กับถังไป๋เชียนน่าจะเป็นคนเดียวกัน ทว่าภายหลังท่าทีของเวินลั่วฉิงที่มีต่อถังไป๋เชียนกลับชัดเจนโจ่งแจ้งมากแล้ว เวินลั่วฉิงเห็นถังไป๋เชียนเป็นเพียงรุ่นพี่เท่านั้น ไม่ได้มีความรู้สึกอื่น
อีกอย่างหลังจากที่ที่เวินลั่วฉิงรู้ว่าถังไป๋เชียนทำเรื่องพวกนั้นกับเธอ เวินลั่วฉิงเป็นฝ่ายเลือกที่จะรักษาระยะห่างกับถังไป๋เชียนก่อน
ทว่าเวินลั่วฉิงกลับ ‘ไม่เคยลืม’ ถังจื่อโม่มาโดยตลอด
ดังนั้น ถังไป๋เชียนกับถังจื่อโม่ต้องไม่ใช่คนเดียวกันแน่นอน
ถังไป๋เชียนและถังจื่อโม่ไม่ใช่คนเดียวกัน ทว่าต้องรู้จักกันแน่นอน ถังไป๋เชียนยังช่วยถังจื่อโม่ปิดบังฐานะ?
ถังไป๋เชียนก็ชอบเวินลั่วฉิง ตามหลักแล้วถังไป๋เชียนกับถังจื่อโม่ควรเป็นศัตรูหัวใจกันหรือเปล่า?
ถังไป๋เชียนต้องการควบคุมเวินลั่วฉิงขนาดนั้น แทบอยากจะจับกุมตัวของเวินลั่วฉิงคอยอยู่ข้างกายของเขาเอง ถังไป๋เชียนเพื่อที่จะเก็บเวินลั่วฉิงไว้ข้างกาย ถึงขั้นขัดขวางเวินลั่วฉิงกลับบ้านถัง
ถังไป๋เชียนในแบบนี้ แล้วจะช่วยศัตรูหัวใจของตัวเองได้อย่างไร?
จุดๆนี้ทำให้เย่ซือเฉินค่อนข้างคาดคิดไม่ถึงจริงๆ
“ใช่ เรื่องนี้ถังไป๋เชียนน่าจะลงแรงไปมาก สืบหาประวัติถังจื่อโม่ไม่เจอ ความดีความชอบครึ่งหนึ่งถือว่ายกให้ถังไป๋เชียน” กู้หวูที่อยู่ในสายหายใจอย่างลับๆไปหนึ่งที พอฟังแล้วก็ทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่าค่อนข้างลังเล และความรู้สึกเหมือนอยากพูดอะไรออกมา ทว่ากลับพูดไม่ออก
“แล้วยังมีอะไรอีก?” เย่ซือเฉินทำสีหน้าสงสัยเล็กน้อย เย่ซือเฉินเป็นคนที่ชาญฉลาด แน่นอนว่าต้องฟังความหมายนอกเหนือจากคำพูดของกู้หวู ความดีความชอบครึ่งหนึ่งถือว่ายกให้ถังไป๋เชียน งั้นยังมีอีกครึ่งล่ะ?”
ยังมีอีกครึ่งเป็นของใคร?
ยังมีใครที่ช่วยปิดบังฐานะของถังจื่อโม่อีก?
“ยังมี……” แม้จะคุยทางมือถือ ตอนนี้กู้หวูยังรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย กลัวว่าวินาทีต่อไปคุณชายจะโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ เขาไม่ค่อยกล้าพูดจริงๆ
“พูด” ได้ยินกู้หวูพูดไปครึ่งหนึ่งก็หยุดไป แววตาของเย่ซือเฉินมีความรู้สึกซับซ้อนแอบแฝง เย่ซือเฉินรู้สึกว่าเรื่องนี้มีความเป็นไปได้ว่าจะซับซ้อนยิ่งกว่าที่เขาคิดไว้เยอะ
“ยังมีคุณหญิงครับ” กู้หวูแอบถอนหายใจ สุดท้ายก็พูดออก ในเมื่อคุณชายถามแล้ว เขาก็ไม่สามารถปิดบังอยู่แล้ว อีกอย่างก็เห็นได้ชัดว่าปิดบังไม่อยู่แล้ว
เรื่องนี้ยังไงคุณชายก็ต้องรู้ไม่ช้าก็เร็ว
เย่ซือเฉินตะลึงงัน สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย มุมปากของเขาเม้มขึ้น และไม่พูดไม่จาไปชั่วขณะ
“คุณชาย นี่ผมก็เพิ่งจะสืบเจอ คุณหญิงทำแบบนี้อาจจะมีเหตุผลจำเป็นอะไรหรือเปล่า” กู้หวูไม่ได้ยินเสียงของเย่ซือเฉิน จึงค่อนข้างรู้สึกใจร้อน และค่อนข้างเป็นห่วง เลยคิดจะทำให้บรรยากาศดีมากขึ้น
“เหตุจำเป็นงั้นเหรอ เหตุใดอะไร?” คุณชายสามเย่พูดแบบนี้ออกมานั้นแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่ากำลังกัดฟันกรอด เหตุที่จำเป็นงั้นเหรอ?
เธอจะมีเหตุผลอะไรที่จำเป็นงั้นเหรอ
มีเหตุผลอะไรที่สามารถทำให้เธอปิดบังฐานะของถังจื่อโม่?
เธอปิดบังฐานะเพื่อผู้ชายคนหนึ่งงั้นเหรอ?
“อันนี้ ผมยังไม่ได้สืบเจอครับ” กู้หวูที่อยู่ในสายยกมือปาดเหงื่อเย็นบนหน้าผาก ยังดีเขารู้ล่วงหน้าก่อน ไม่ได้รายงานคุณชายด้วยตัวเอง หากตอนนี้เขายืนอยู่ตรงหน้าคุณชาย ไม่แน่คุณชายอาจจะระบายอารมณ์ใส่เขาโดยตรงก็ได้
คุยผ่านมือถือก็ยังรู้สึกว่าคุณชายเหมือนจะกินคนเลย
“คุณชาย คุณควรเชื่อคุณหญิง ภายในใจของคุณหญิงมีคุณอยู่” กู้หวูครุ่นคิด สุดท้ายก็ตัดสินใจที่จะเกลี้ยกล่อมคุณชายตนเอง ไม่ว่ายังไงแล้วตอนนี้เป็นการคุยผ่านมือถือ คุณชายก็ไม่มีทางทำอะไรเขาอยู่แล้ว
เย่ซือเฉินไม่พูดไม่จา เหมือนทำเสียงฮึดฮัดอย่างเย็นชาขึ้นเล็กน้อย เขาไม่ได้ต้องการให้ในใจของเธอมีเขา เขาต้องการให้ในใจของเธอมีแต่เขา
ทว่าตอนนี้ ตำแหน่งของถังจื่อโม่ที่อยู่ในใจของเธอนั้นเหนือกว่าเขาอย่างชัดเจน
เรื่องนี้เขาไม่สามารถทนได้ ไม่สามารถทนได้แน่นอน!!
“ไปสืบต่อ” เย่ซือเฉินกัดฟันกรอดอย่างแรง น้ำเสียงทำให้คนฟังแล้วรู้สึกขนลุก
“คุณชาย ผมจะไปสืบ ผมไปสืบอีก” กู้หวูที่ถือสายฟังเสียงนั้นก็ยังรู้สึกหนาวเย็นไปทั้งตัว ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ กู้หวูก็ไม่กล้าพูดอะไรเรื่อยเปื่อยอีก
กู้หวูพูดจบก็อยากวางสาย ทว่าในเวลานี้ กู้หวูได้รับลูกน้องส่งเอกสารมาหนึ่งชุด กู้หวูทำสีหน้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด เขาลังเลไปสักพัก สุดท้ายก็พูดขึ้นอย่างหน้าด้านๆ “คุณชาย ยังมีสถานการณ์หนึ่ง ผมคงต้องรายงานคุณชายหน่อยครับ”
“ยังมีสถานการณ์อะไรอีก?” เย่ซือเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย ฟังจากน้ำเสียงของกู้หวู เขารู้ว่าต้องไม่ใช่ข่าวดีอะไร
แต่ว่าวันนี้เขาได้ยินข่าวไม่ดีมามากพอแล้ว เย่ซือเฉินรู้สึกว่าข่าวนี้จะแย่มากแค่ไหน ก็น่าจะไม่เท่าเรื่องที่เวินลั่วฉิงช่วยถังจื่อโม่ปิดบังฐานะ
“คุณชาย สำหรับเรื่องนี้ที่ช่วยถังจื่อโม่ปิดบังฐานะไว้ ตระกูลถังก็มีส่วนเกี่ยวข้อง” กู้หวูดูเอกสารในมืออีกครั้ง เขามองไม่ผิดจริงๆ จากนั้นถึงได้รายงานให้เย่ซือเฉินด้วยความจริงจัง
“ตระกูลถัง?” เย่ซือเฉินตกตะลึงอย่างเห็นชัด นึกไม่ถึงว่าผลสรุปจะเป็นแบบนี้ “ความหมายของนายคือถังหลินก็คอยช่วยถังจื่อโม่ปิดบังฐานะไว้งั้นเหรอ?”
“ไม่ ไม่เพียงแต่ถังหลิน แล้วยังมีถังหยุนเฉิง ถึงขั้นบอกได้ว่ารวมถึงทั้งตระกูลถังครับ” กู้หวูรู้ว่าข่าวคราวแบบนี้ คุณชายต้องไม่อยากฟังแน่นอน ทว่าความจริงเป็นแบบนี้ ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ เขาไม่กล้าปิดบังอะไรอีกแน่นอน
“เหอะ” เย่ซือเฉินหัวเราะทันที เสียงหัวเราะค่อนข้างเลือดเย็น เหมือนมีความผิดแปลกอยู่ด้วย “เรื่องนี้ว่าไปแล้ว ทุกคนกำลังช่วยถังจื่อโม่ปิดบังฐานะไว้!!”
ถังไป๋เชียน เวินลั่วฉิง ตอนนี้ยังรวมไปถึงทั้งตระกูลถัง?
ตระกูลถังก็ช่วยปิดบังฐานะของถังจื่อโม่ด้วย งั้นแสดงว่าตระกูลถังรู้ว่าถังจื่อโม่ดำรงอยู่!