“พวกเราดูความคึกคักก็พอ”บัดนี้ฉู่หลิงเอ๋อไม่ได้ลุกลี้ลุกลนสักนิดแล้ว และไม่ได้หงุดหงิดแล้วด้วย เพราะเธอเชื่อมั่นในความสามารถของเวินลั่วฉิงนั่นเอง
“ดี พวกเราดูความคึกคักด้วยกัน”ไป๋หยูหนิงคล้อยตามความชื่นชอบของฉู่หลิงเอ๋ออย่างหายาก ตกลงจะดูความคึกคักด้วยกัน
“ห้าปีก่อน ผมก็อยู่กินกับเวินลั่วฉิงแล้ว และพวกเรายังมีลูกชื่อนิวนิวด้วยกันหนึ่งคน”ผู้ชายปลิ้นปล้อนคนนี้เห็ฯไป๋หยิงช่วยเขาก็ยิ่งมีความกล้าเพิ่มขึ้น ระหว่างที่เขาพูดพลันชี้ไปยังเด็กที่จับปลายเสื้อเวินลั่วฉิงไว้แน่น
ทันทีที่เด็กคนนี้ปรากฏตัวก็ทั้งกอดทั้งเรียกเวินลั่วฉิงว่าแม่ แบบไม่อาจลืมเลือนได้ ตอนนี้ได้ยินคำพูดของผู้ชายคนนี้ สายตาทุกคนก็มองที่ตัวเด็กผู้หญิงอีกครั้ง
“เอ๋ หน้าตาเหมือนกันอยู่นะ โดยเฉพาะตาหยีที่หางตาตกห้อย”มีคนเปรียบเทียบระหว่างเวินลัวฉิงกับเด็กผู้หญิง อดส่งเสียงวิจารณ์เบาๆไม่ได้
“จริงด้วย หรือเด็กคนนี้เป็นลูกของเวินลั่วฉิงจริงๆ?”
ดวงตาของเวินลั่วฉิงผ่านการปลอมแปลงมาแล้ว ดวงตาของเด็กผู้หญิงกับดวงตาที่ผ่านการปรุงแต่งของเวินลั่วฉิงละม้ายคล้ายคลึงกันจริงๆ
เวลานี้สีหน้าคุณนายเหว้ยมืดครึ้มยิ่งนัก แลดูน่ากลัวที่สุด กลุ่มคนที่กำลังซุบซิบอยู่ก็หยุด ไม่กล้าพูดอะไรต่อ
เวินลั่วฉิงไม่ได้พูดอะไรมาโดยตลอด เธอไม่แม้แต่จะชำเลืองมองผู้ชายคนนี้เลยสักนิด เพียงแต่หลุบตามองเด็กผู้หญิงที่จับปลายเสื้อของตน
เด็กผู้หญิงคนนี้ไม่ประสีประสาจริงๆ เธอไม่รู้สถานการณ์ตอนนี้เลยสักนิด เธอไม่เข้าใจว่าผู้ใหญ่กำลังคุยอะไรอยู่ เพราะเด็กคนนี้ไม่ใช่เด็กน้อยจื่อซีของเวินลั่วฉิง
“ตอนนั้นเวินลั่วฉิงกับผมคบกันแล้วคลอดนิวนิวออกมา จากนั้นเวินลั่วฉิงก็ทอดทิ้งผมกับลูก ผมเคยไปหาเธอ แต่เธอปฏิเสธที่จะพบหน้าผมกับลูก ผมจนปัญญาจริงๆ จึงต้องมาหาเธอที่งานเลี้ยงครั้งนี้”ผู้ชายมองเวินลั่วฉิงด้วยสีหน้าแค้นเคือง การแสดงสมจริงมากขอบอก
ต้องบอกก่อนว่าสิ่งที่ผู้ชายกล่าวมาทั้งหมดง่ายต่อการเปิดโปงที่สุด ขอเพียงสืบให้กระจ่างก็จัดการได้แล้ว แต่อยู่ในสถานที่แบบนี้ ไม่มีใครสืบอะไรมากแน่ ถึงแม้จะแสดงหลักฐานภายหลังก็ทำให้เกิดข้อกังขาได้
วันนี้เป้าหมายของผู้ชายคือทำลายชื่อเสียงเวินลั่วฉิงให้มากที่สุด ใช้ประโยชน์ที่งานเลี้ยงมีคนชอบสาระแนดูสีสันแบบมีความสุขบนความทุกข์คนอื่นเยอะ ใช้จุดเด่นที่บรรดาคุณหนูน้อยใหญ่กับคุณนายทั้งหลายชอบซุบซิบนินทาในงานเลี้ยง เพื่อให้‘ความผิด’ของเวินลั่วฉิงเป็นจริง
ก็เหมือนวิดีโอที่ปล่อยออกไปก่อนหน้านี้
เวินลั่วฉิงรู้หลักการนี้ดี ดังนั้นเวลานี้เธอก็ไม่ได้รีบพูดอะไร เธอรอให้ผู้ชายคนนี้งัดทีเด็ดออกมาทั้งหมดก่อน จากนั้นเธอค่อยจู่โจมทีเดียวรวด
ดังนั้น บัดนี้เวินลั่วฉิงไม่ได้ร้อนรนแม้แต่น้อยจริงๆ
“นายบอกว่าคุณกับฉิงฉิงเคยอยู่ด้วยกัน?นายบอกว่าเด็กคนนี้คือลูกของฉิงฉิง?นายมีหลักฐานอะไร?”คุณนายเหว้ยมองผู้ชายคนนี้ด้วยแววตาเย็นเยียบ ทุกถ้อยคำนั้นเจือความเย็นยะเยือกที่ชวนให้ขนลุกพองมาก
“วิดีโอที่ผมให้คุณนายเหว้ยดูเมื่อกี้ก็ยืนยันได้ว่าผมกับเวินลั่วฉิงเคยอยู่กินด้วยกันมาก่อน”ผู้ชายรู้สึกหวาดหวั่นต่อสายตาคุณนายเหว้ยไม่น้อย ทว่าเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เขาจะถดถอยไม่ได้เด็ดขาด และเขาก็ถอยไม่ได้ด้วย ดังนั้นมีเพียงรวบรวมความกล้าในการประชันหน้าเท่านั้น
ยังดีเบื้องหลังของเขาเป็นองค์กรโกสต์ซิตี้
“ผมมีหลักฐานของเด็กด้วย”เห็นได้ชัดว่าผู้ชายตระเตรียมได้ครอบคลุมมาก ไม่ พูดให้ถูกก็คือไป๋หยิงเตรียมการทุกอย่างได้รัดกุมมากต่างหาก
ระหว่างที่ผู้ชายพูดก็ล้วงกระดาษออกมาหนึ่งแผ่น จากนั้นก็ยื่นให้คุณนายเหว้ย“อันนี้เป็นหลักฐานที่ผมตรวจดีเอ็นเอของเวินลั่วฉิงกับนิวนิว”
ณ ตอนนี้มู่หรงดัวหยางก็ทราบเรื่อง เขาเห็นผู้ชายคนนี้ยื่นกระดาษออกมาพลันหัวเราะเสียงเย็นหนึ่งครั้ง ก่อนจะรับกระดาษมา ทว่ามู่หรงดัวหยางไม่ได้อ่านเนื้อหาในกระดาษ แต่เปิดวิดีโอในมือถือผู้ชาย หลังจากที่ดูแวบหนึ่งแล้ว มุมปากมู่หรงดัวหยางก็เผยความเย้ยหยันหลายส่วน
เล่นลูกไม้นี้ต่อหน้าเขา ตลกชะมัด
“คุณชายมู่หรงหมายความว่ายังไง?อยากใช้อำนาจของบริษัทเว้ยคังกรุ้ปสยบข่าวหรือ?”ผู้ชายปลิ้นปล้อนเห็นมู่หรงดัวหยางรับผลตรวจดีเอ็นเอไป แต่ไม่มีทีท่าจะอ่าน ดูจากรูปการณ์แล้วมู่หรงดัวหยางคิดจะทำลาย ‘หลักฐาน’?
“สยบข่าว?ทำไมผมต้องสยบข่าวด้วย?”มู่หรงดัวหยางเงยหน้ามองผู้ชายคนนี้แวบหนึ่ง จากนั้นก็กวาดสายตามองไป๋หยิงที่ยืนอยู่ด้านข้างแวบหนึ่งต่อ“ในเมื่อมีคนกล้าก่อกวนงานเลี้ยงของบริษัทเว้ยคังกรุ้ป เช่นนั้นก็ต้องเตรียมตัวรับผลของการกระทำด้วย เมื่อเป็นแบบนี้ ผมก็ไม่ทำให้คนนั้นผิดหวังอยู่แล้ว”
ความคิดของมู่หรงดัวหยางกับคุณนายเหว้ยตรงกัน หากกลบเกลื่อนข่าวในสถานการณ์เช่นนี้ มีแต่จะทำให้คนอื่นสงสัยยิ่งขึ้น ทำให้ยิ่งสงสัยในตัวฉิงฉิงหนักกว่าเดิม
วิธีที่ดีที่สุดคือสืบทุกอย่างให้กระจ่าง
“เมื่อกี้ผมบอกแล้ว ผมจนปัญญาจริงๆ ถึงต้องมาหาเวินลั่วฉิงในงาน และผมก็ไม่คิดจะก่อกวนด้วย ผมมีหลักฐานอยู่ในมือ”ผู้ชายรู้ว่าเวลานี้เขาจะขี้ขลาดไม่ได้เด็ดขาด ดังนั้นเขาจำเป็นต้องรุกต่อไปให้ถึงที่สุด
“คุณชายมู่หรง ผลตรวจดีเอ็นเอในมือของคุณคือหลักฐานที่ดีที่สุด คุณให้ทุกคนลองดูได้ ยังมีอีกวิดีโอนี้ก็ล้วนเป็นหลักฐานด้วยกันทั้งสิ้น”ผลตรวจดีเอ็นเอคือ‘หลักฐาน’ที่หนักแน่นที่สุด ผู้ชายคนนี้กลัวมู่หรงดัวหยางจะทำลายมากเหลือเกิน
“หลักฐาน?คุณนำวิดีโอตัดต่อรวมกัน มันปลอมไม่รู้จะปลอมยังไงแล้ว ยังคิดจะตบตาทุกคนเหรอ?”มู่หรงดัวหยางหรี่ตาขึ้น พลางมองผู้ชายปลิ้นปล้อนอย่างเย็นเยียบ
“คุณชายมู่หรงบอกว่าเป็นของปลอม?คุณชายมู่หรงอยากปกป้องเวินลั่วฉิงแต่ก็ไม่ควรบิดเบือนความจริงอย่างนี้?เพื่อคุณชายมู่เปลี่ยนขาวเป็นดำ ดำเป็นขาวไม่ได้เพราะต้องการปกป้องเวินลั่วฉิงนะ”ผู้ชายได้ยินคำพูดของมู่หรงดัวหยางก็อึ้งชั่วครู่ ทว่าเขาก็ยังคงโต้กลับแรงๆหนึ่งประโยค
“นายวางใจได้ ฉันไม่บิดเบือนข้อเท็จจริงหรอก เรื่องนี้ต้องสืบให้กระจ่างอยู่แล้ว”มู่หรงดัวหยางเหล่ตาใส่ผู้ชายคนนั้น จากนั้นก็หันไปกล่าวกับคนข้างๆ สั่งการด้วยเสียงเคร่งขรึม“แจ้งความ ให้ตำรวจมาสืบให้แน่ชัดเลยไป”
มู่หรงดัวหยางรู้ดีว่าคำพูดของเขาในตอนนี้ทุกคนคงไม่เชื่อ ถึงแม้ทุกคนจะเชื่อ แต่ก็มีความเป็นไปได้สูงที่คู่กรณีจะหยิบยกมาเป็นข้อครหา ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็แจ้งความเสียเลย เมื่อตำรวจสืบเสาะหาความจริงจนกระจ่าง คุณคนก็ไม่มีข้อสงสัยใดๆแล้ว
ทุกคนได้ยินคำพูดของมู่หรงดัวหยางก็อึ้งไปตามๆกัน นี่มันงานเลี้ยงของบริษัทเว้ยคังกรุ้ปนะ ทั้งยังเป็นงานเลี้ยงที่เฉลิมฉลองมู่หรงดัวหยางเข้าบริหารในบริษัทอีกด้วย ตอนนี้มู่หรงดัวหยางถึงกลับแจ้งความในงานเลี้ยงเชียวหรือ?
หากแจ้งความ งานเลี้ยงก็จบสิ้นแล้ว
เพื่อเวินลั่วฉิงแล้ว มู่หรงดัวหยางไม่คำนึกถึงสิ่งอื่นเลยหรือ?
ทุกคนอดมองไปยังคุณนายเหว้ยไม่ได้ อยากดูว่าคุณนายเหว้ยจะพูดอะไรในสถานการณ์เช่นนี้
ทว่าทุกคนกลับเห็นใบหน้าที่เงียบสงบของคุณนายเหว้ยที่ไม่ได้พูดอะไรสักคำ เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ประหลาดใจกับการตัดสินใจของมู่หรงหัวหยางเลย และไม่มีข้อคัดค้านใดๆด้วย
ผู้คนมองด้วยความตะลึงงันอีกครั้ง เวินลั่วฉิงกับตระกูลเหว้ยมีปฏิสัมพันธ์เช่นไรกันแน่?ตระกูลเหว้ยถึงทำเพื่อเวินลั่วฉิงขนาดนี้?
ผู้ชายปลิ้นปล้อนคนนี้ยิ่งอึ้งกว่าคนอื่น เขาคาดไม่ถึงว่ามู่หรงดัวหยางจะแจ้งความ เขารู้ว่าสิ่งที่เขาเรียกว่า‘หลักฐาน’นั้นเป็นของปลอม รับการตรวจสอบไม่ได้ เขาแค่อยากใช้เสียงวิพากษ์วิจารณ์ในงานเลี้ยงเพื่อทำลายชื่อเสียงของเวินลั่วฉิง
อันที่จริงเหล่าคุณหนูกับคุณนายทั้งนายชอบเรื่องซุบซิบนินทามาก ถึงเวลาข่าวนี้ก็จะแพร่ไปไกลโพ้นอย่างรวดเร็วแน่นอน
ขอเพียงข่าวแพร่ออกไปแล้ว ไม่ถึงเวินลั่วฉิงจะหาหลักฐานเจอในภายหลัง ถึงเวลานั้นทุกคนก็จะคิดว่าเวินลั่วฉิงอยากกลบเกลื่อนความจริงเท่านั้น
และนี่ก็คือสิ่งที่ไป๋หยิงวางแผนล่วงหน้า ทว่าไป๋หยิงคิดเช่นไรก็คิดไม่ถึงว่ามู่หรงดัวหยางจะเลือกแจ้งความ
แจ้งความเมื่อไหร่ เมื่อทางตำรวจเข้าแทรก หลังจากผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว ‘หลักฐาน’ที่ว่าก็ไม่อาจแบกรับการตรวจสอบได้
ไป๋หยิงแค่อยากกระพือข่าวในเวลาอันสั้น แต่ทางตำรวจเข้าแทรกแล้ว คงไม่มีใครกล้ากระจายข่าวเป็นแน่
และเมื่อทางตำรวจสืบทุกอย่างจนกระจ่าง ถึงเวลานั้นแผนการของเธอก็พังทลายหมดสิ้นแล้ว
เวลานี้ไป๋หยิงเคียดแค้นจนขบฟัน ก่อนหน้านี้เธอรู้ว่าตระกูลเหว้ยคอยปกป้องเวินลั่วฉิง แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะปกป้องถึงขั้นนี้ กระทั่งงานเลี้ยงของตระกูลเหว้ยก็ไม่สนใจแล้ว
“ครับ ผมจะแจ้งความเดี๋ยวนี้เลยครับ”ลูกน้องที่อยู่ข้างกายมู่หรงดัวหยางเห็นคุณนายเหว้ยไม่ขัดแย้งจึงรีบตอบรับ จากนั้นก็ไปแจ้งความจริงๆ
เวินลั่วฉิงรู้ว่าที่มู่หรงดัวหยางทำเช่นนี้ก็เพื่อเธอ หัวใจของเธอพลันตื้นตันยิ่งนัก แต่กลับรู้สึกเกรงอกเกรงใจ เธอไม่อยากให้งานเลี้ยงล้มเพราะเธอจริงๆ