ซือถูมู่หรงถอนหายใจเบาๆ คำพูดแบบนี้ เขาฟังแล้วไม่สบอารมณ์จริงๆ แต่เขารู้ดี ทั้งหมดนี้เขาเป็นคนทำเอง คำพูดนี้ เขาแค่ฟังแล้วรู้สึกไม่สบอารมณ์ แต่เธอล่ะ?!
ตลอดห้าปีที่ผ่านมาเธอต้องทนอยู่กับชีวิตแบบนั้น!
เวลานี้ ซือถูมู่หรงแทบอยากจะฆ่าตนเองเมื่อห้าปีก่อน
ห้าปีที่ผ่านมานี้ เขาทำเรื่องเลวร้ายมากมาย ไม่แปลกที่เธออยากจะรีบไปจากเขาอย่างไร้เยื่อใย
“หลังจากนี้ สิ่งที่คู่รักปกติมีอะไรพวกเราก็จะมีแบบนั้นครับ” ซือถูมู่หรงสาบานในใจ หลังจากนั้นเขาจะทำทุกอย่างเพื่อชดใช้ให้เธอ เขาหวังว่าเธอจะสามารถลืมเรื่องเลวร้ายในอดีตที่เขาเคยทำได้
เขาหวังว่าเธอจะสามารถเปิดใจให้เขาได้
“ซือถูมู่หรง วันนี้คุณเป็นอะไรกันแน่?” หลิวหยิงมองไปที่เขา คิ้วขมวดเป็นปม ซือถูมู่หรงที่เป็นแบบนี้ทำให้เธอรู้สึกไม่คุ้นเคย รู้สึกว่าวันนี้เขาเปลี่ยนเป็นคนละคน
“ผมแค่อยากจะอยู่กับคุณ อยากจะคบกับคนเหมือนคู่รักทั่วไป” คำพูดนี้ซือถูมู่หรงพูดด้วยความจริงจัง และจริงใจอย่างมาก ตอนนี้ภายในใจของเขาคิดแบบนี้จริงๆ
“ซือถูมู่หรงก เคยมีคนบอกคุณรึเปล่า ความเป็นจริงแล้วคุณไม่เหมาะกับการคบกับใครเลยสักนิด” หลิวหยิงส่ายหน้าช้าๆ คบกับซือถูมู่หรง เรื่องแบบนั้นแค่คิดก็ทำให้เะอรู้สึกกลัวแล้ว กลัวมากๆ
ซือถูมู่หรงคบใครสักคนเป็นด้วยเหรอ? ไม่ ซือถูมู่หรงทำไม่ได้ เขาไม่มีเซลล์ในการคบใครเลยสักนิด
“แล้วผมเหมาะกับอะไร?” ซือถูมู่หรงได้ยินเธอพูดแบบนี้ หยุดชะงักไปอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่เหมาะกับการคบใคร? พูดแบบนี้หมายความว่าอะไร?
“คุณเหมาะที่จะเป็นประธานจอมเผด็จการ คุณเหมาะที่จะใช้อำนาจบีบบังคับคนอื่น” หลิวหยิงครุ่นคิด หลังจากนั้นก็สรุปจากประสบการณ์ตลอดห้าปีที่ผ่านมาของเธอ ด้วยความจริงใจ
อื้ม นี่เป็นความจริงจากใจ ไม่มีการเสแสร้งแกล้งทำแม้แต่น้อย
“นอกจากคุณแล้ว ผมไม่เคยบีบบังคับใครมาก่อน” ซือถูมู่หรงไม่ได้โต้เถียงสิ่งที่เธอพูด กับเธอ เขาใช้วิธีการบีบบังคับจริงๆ แต่นั่นก็กับเธอแค่คนเดียวเท่านั้น
สำหรับคนอื่น เขาไม่เคยบีบบังคับอะไรทั้งนั้น
“ฟังดูแล้ว ฉันโชคดีจังเลยนะคะ?” มุมปากของหลิวหยิงกระตุกขึ้น เธอไม่ขอรับการปฏิบัติพิเศษนี้ได้ไหม?
เธอไม่ชอบการปฏิบัติพิเศษนี้ของเขาเลยสักนิด!!
“อืม แค่กับคุณเท่านั้น ดังนั้น อย่าคิดจะไป” คำพูดนี้ของซือถูมู่หรงมีสองความหมาย และแสดงถึงท่าทีของเขา
“พูดมาสิคะ คุณต้องการอะไรกันแน่?” ครั้งนี้ หลิวหยิงไม่โมโหแล้ว เพราะเธอรู้ดีว่าโมโหไปก็ไร้ประโยชน์ ไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้
เมื่อกี้ที่เธอโมโหอย่างมากเป็นเพราะเกิดเรื่องขึ้นกะทันหัน เธอดึงสติกลับมาไม่ทัน ตอนนี้ เธอบอกให้ตนเองสงบสติอารมณ์
มีแค่การสงบสติอารมณ์เท่านั้น จึงจะสามารถเจรจากับเขาได้!!
หลิวหยิงมองว่านี่คือการเจรจา ถูกต้อง คือการเจรจา!
และเธอก็รู้ดี การเจรจากับซือถูมู่หรง ถ้าไม่ทันระวังก็จะถูกซือถูมู่หรงเขมือบจนไม่เหลือแม้แต่กระดูก!
“ให้ฉันอยู่ต่อ มีเจตนาอะไร? มีเป้าหมายอะไร?” ภายในใจของหลิวหยิงรู้ดี ถ้าซือถูมู่หรงคิดอยากจะบีบบังคับให้เธออยู่ต่อ เธอไม่สามารถไปจากที่นี่ได้ แน่นอน เธอไม่มีวันปล่อยให้ตนเองเป็นเหมือนเมื่อห้าปีก่อน
ห้าปีก่อน ซือถูมู่หรงจ่ายเงิน ช่วยเธอจัดการปัญหาในครอบครัว เธอจึงยอมตกลงกับเขา
ตอนนี้ซือถูมู่หรงกำลังหาเรื่อง กำลังไร้เหตุผล ต่อให้ตอนนี้เธอไม่สามารถออกไปได้สำเร็จ แต่เธอก็ไม่มีวันปล่อยให้ตนเองกลายเป็นผู้ถูกกระทำ
“ผมไม่มีเป้าหมายอะไรทั้งนั้น แค่อยากให้คุณอยู่กับผม” ถ้าเป็นไปได้ ซือถูมู่หรงอยากจะให้ความสัมพันธ์ของพวกเขายิ่งเรียบง่ายยิ่งดี
ตอนนี้เขาอยากจะให้เธออยู่เคียงข้างเขาเท่านั้น
“ในฐานะอะไรคะ? หรือว่าเป็นเหมือนเมื่อก่อน……” ครั้งนี้หลิวหยิงไม่ได้เถียงเขา และไม่ได้พูดปฏิเสธเหมือนก่อนหน้านี้ อยู่กับซือถูมู่หรงมาห้าปี เธอรู้จักซือถูมู่หรงเป็นอย่างดี เรื่องที่ซือถูมู่หรงตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงได้
ซือถูมู่หรงบอกว่าจะให้เธออยู่ต่อ ถ้าอย่างนั้นเขาก็ต้องคิดหาทุกวิถีทางเพื่อให้เธออยู่ต่อ ไม่ว่าเธอจะดิ้นรนแค่ไหน ปฏิเสธแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์
ตอนนี้หลิวหยิงพูดประโยคนี้ออกไปไม่ใช่เพราะต้องการสถานะอะไร เธอแค่อยากเข้าใจความคิดของซือถูมู่หรง
“แฟน……หรือไม่ก็คู่หมั้น” ซือถูมู่หรงที่ทำทุกอย่างโดยไม่แคร์อะไรตอนนี้กลับพูดลองเชิงด้วยความระมัดระวังอย่างเห็นได้ชัด เขากลัวเธอปฏิเสธ เขากลัวเธอจะปฏิเสธสถานะนี้
ดังนั้น เขาไม่กล้าเรียกร้องมากมาย ตอนที่พูดคำว่าคู่หมั้น เขาพูดด้วยความระมัดระวังจริงๆ
ดังนั้น ตอนนี้เขาไม่กล้าพูดเรื่องแต่งงานกับเธอ เขากลัวว่าถ้าเขาพูดเรื่องแต่งงานออกไป จะทำให้เธอยิ่งปฏิเสธ ทำให้เธอยิ่งอยากจะหนี
เพราะถึงอย่างไรก็อยู่ด้วยกันมาห้าปีแล้ว เขารู้จักเธอดี
“ถ้าอย่างนั้นก็คู่หมั้นแล้วกันค่ะ สถานะนี้ไม่เลว” ตอนที่หลิวหยิงได้ยินเขาพูดทั้งสองสถานะออกมา เธอไม่ได้เผยความแปลกใจมากมาย อีกทั้งหลิวหยิงยังเลือกที่จะเป็นคู่หมั้น
ซือถูมู่หรงตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้เมื่อกี้เขาจะพูดสถานะคู่หมั้น แต่เขาไม่กล้าคาดหวังว่าเธอจะเลือกสถานะนี้จริงๆ ตอนแรกเขาคิดว่า แค่เธอยอมเป็นแฟนเขาก็ไม่เลวแล้ว
เขาคิดไม่ถึงจริงๆว่าเธอจะเลือกคู่หมั้น
ทั้งที่เมื่อกี้เธอปฏิเสธอย่างชัดเจน แล้วทำไมถึง?
ซือถูมู่หรงมองไปที่เธอ เคล้าไปด้วยความสงสัย ตอนนี้เธอร่วมมือกันเกินไป ร่วมมือจนทำให้เขาสังหรณ์ใจไม่ดี
“ทำไมคะ? ไม่ได้เหรอ?” หลิวหยิงเห็นซือถูมู่หรงชะงักและเงียบไป มุมปากยกขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าของเธอฉายรอยยิ้มออกมาอย่างชัดเจน
รอยยิ้มนั้นสวยมาก สวยมาก!!
ซือถูมู่หรงมองดูรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ ถึงขั้นเหม่อลอยไปพักหนึ่ง เขารู้มาโดยตลอดว่าเธอสวยมาก แต่ตอนนี้เธอสวยจนทำให้เขาไม่สามารถละสายตาไปจากเธอได้
“ถ้าไม่ได้ ก็……” หลิวหยิงเห็นเขายังคงไม่ตอบ ดวงตาที่หลบลงฉายแสงแวววับ
“ได้ ได้!” มุ่หรงซือถูรีบพยักหน้า ถึงแม้เธอจะให้ความร่วมมือจนเกินไป เขารู้สึกสังหรณ์ใจไม่ได้ แต่เขาไม่อยากให้เธอมีโอกาสเปลี่ยนใจ
“ถ้าอย่างนั้น ก็ตกลงตามนี้” ใบหน้าของหลิวหยิงยังคงมีรอยยิ้ม อีกทั้งดูเหมือนว่ารอยยิ้มนั้นจะสดใสยิ่งขึ้น น้ำเสียงของเธอในตอนนี้ฟังดูแล้วมีความสุขมาก คล้ายว่าเธอพอใจกับสถานะใหม่ในตอนนี้อย่างมาก
ตอนที่เธอก้มหน้าลง ในที่ที่ซือถูมู่หรงมองไม่เห็นมุมปากของเธอยกขึ้น ในเมื่อซือถูมู่หรงจะบีบให้เธออยู่ต่อ ถ้าอย่างนั้นเธอก็จะอยู่ต่อ เธอรับประกันว่าจะทำให้ซือถูมู่หรงเสียใจที่เก็บเธอเอาไว้ ต้องทำให้ได้แน่นอน เธอเป็นคนที่พูดจริงทำจริงมาโดยตลอด!!