ถังจื่อโม่รู้ดีว่าคนของเย่ซือเฉินไม่ทำร้ายเขาแน่นอน แม้ถังจื่อโม่จะไม่ได้กลัวอะไร แต่เขาคิดว่าเขาก็น่าจะต้องแกล้งแสดงละครนิดหน่อย!!!เพราะยังไงก็ถูกจับตัวไว้ แล้วถูกดึงลากตัวไป สำหรับเด็กคนหนึ่งแล้วมันเป็นเรื่องที่น่าตกใจกลัว
“อ๊ากกก ช่วย……”ถังจื่อโม่ตะโกนออกมาเหมือนตกใจ แต่เสียงที่ถังจื่อโม่ตะโกนนั้นไม่ได้เสียงดังอะไร
เห็นได้ชัดว่าต้าชุนเองก็ไม่คิดว่าเด็กน้อยถังจื่อโม่จะร้องออกมา เมื่อถังจื่อโม่ส่งเสียงร้อง ก็ทำเอาเขาตกใจขึ้นมา
“ปิดปากเขาไว้ อย่าปล่อยให้เขาส่งเสียงร้อง” ยังดีที่คนที่เหลือไม่ได้อยู่ไกลกันนัก ทุกคนต่างก็พูดเตือนเด็กหนุ่มหน้าละอ่อน
ต้าชุนได้สติทันที จากนั้นก็เอามือปิดปากของถังจื่อโม่เอาไว้ จากนั้นอีกมือหนึ่งของต้าชุนก็โอบไปที่ถังจื่อโม่ แล้วใช้แขนหนีบถังจื่อโม่แล้วเดินออกมาด้วยท่านี้
เด็กน้อยถังจื่อโม่ตะลึงจนตาค้าง นี่มันอะไรกัน ? นี่เอาจริงเหรอ ?
นี่จะลักพาตัวเขาเหรอ ?
เย่ซือเฉินให้คนมาลักพาตัวเขาเหรอ ?
เด็กน้อยถังจื่อโม่ยังมึนงง แต่ก็ถูกต้าชุนพาตัวมาอยู่ตรงหน้าของทุกคนแล้ว
เมื่อมองไปที่คนเหล่านี้ เด็กน้อยถังจื่อโม่ก็รู้ตัว ว่าเขาถูกลักพาตัวแล้วจริงๆ
“พาขึ้นไปบนรถก่อน อย่าปล่อยเขาส่งเสียงร้องก็พอ ”หัวหน้าทีมกำชับขึ้นอีกครั้ง
ต้าชุนก็หนีบเอาเด็กน้อยถังจื่อโม่ขึ้นรถไป คนที่เหลือคนอื่นๆก็เดินตามขึ้นรถไปด้วย
หลังจากที่ขึ้นรถมาแล้ว ต้าชุนก็ปล่อยตัวถังจื่อโม่
ถังจื่อโม่ไม่ได้ส่งเสียงร้อง และไม่ได้ขัดขืน เพียงแค่จ้องมองมาที่พวกเขา“พูดมา พวกนายจับตัวนายน้อยอย่างฉันทำไม ?” “เด็กน้อย ไม่ต้องกลัวนะ เราไม่ทำอะไรหนู เราแค่จะพาหนูไปเที่ยว” หัวหน้าทีมมองไปที่ถังจื่อโม่เด็กน้อยวัยห้าขวบ ในใจรู้สึกผิดมาก แต่เพราะเป็นคนสั่งของลูกพี่ คำสั่งของท่านกู้ พวกเขาไม่กล้าขัด
“เชอะ นี่นายกำลังหลอกเด็กสามขวบอยู่หรือไง ? ”ถังจื่อโม่ยิ้มเยาะออกมา“พวกนายกล้าลักพาตัวนายน้อยอย่างฉัน ต้องรู้ผลที่จะตามมานะ”
ทุกคนที่เห็นท่าทีไม่ทุกข์ร้อนของถังจื่อโม่ และได้ยินคำพูดของถังจื่อโม่ ต่างก็ตกใจ แล้วอึ้งไป เด็กคนนี้ช่างร้ายกาจจริงๆ ในสถานการณ์แบบนี้ไม่เพียงไม่กลัว แต่ยังกล้าข่มขู่พวกเขาด้วย
และทุกคนต่างก็กลัวกับคำขู่นี้ เพราะลักพาตัวมาจากบ้านตระกูลถัง ผลที่ตามมานั้นร้ายแรงแน่นอน
“วางใจเถอะ พวกเราไม่ทำอะไรหนูแน่นอน พวกเรา……” คนในทีมแสดงเจตนารมณ์ของตัวเอง นี่เป็นแค่เด็ก และเป็นคนของตระกูลถัง ต่อให้จะกล้าบ้าบิ่นแค่ไหน พวกเขาก็ไม่กล้าทำร้ายเด็กคนนี้แน่นอน
ในขณะที่หัวหน้าทีมกำลังพูด ก็เพื่ออยากแสดงความเป็นมิตร เขายื่นมือข้างหนึ่งของตัวเองออกมา อยากที่จะสัมผัสไปที่ศีรษะของเด็กน้อยถังจื่อโม่
แต่ว่า ในตอนที่มือของเขากำลังยื่นออกไปนั้น ถังจื่อโม่ก็เหยียดตัวลุกขึ้น แล้วศีรษะของถังจื่อโม่ก็ไปโดนมือของหัวหน้า ในขณะเดียวกันนั้น มือของถังจื่อโม่ก็ตีไปที่เบาะหลังรถ เกิดเสียงดังป้าบขึ้นมา
หัวหน้ารู้สึกมึนงงเล็กน้อย อึ้งไปทันที ทันใดนั้นคำพูดที่กำลังจะพูดก็ต้องหยุดลง
“นายกล้าตีนายน้อยอย่างฉันเหรอ นายรอได้เลย รอเลย ความแค้นนี้หากนายน้อยอย่างฉันไม่คิดบัญชี ฉันจะไม่แซ่ถัง” ถังจื่อโม่ก็รีบนั่งลงกับที่อย่างรวดเร็ว ดวงตาของเขาจ้องมองไปที่หัวหน้า น้ำเสียงเต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธ
รถที่พวกเขากำลังนั่งอยู่ในตอนนี้เป็นรถตู้ ถังจื่อโม่กับหัวหน้านั่งอยู่ตรงกลาง แยกออกจากคนอื่นๆ เพราะฉะนั้นคนอื่นๆจึงไม่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่
พวกเขาได้ยินแค่เสียงดังป้าบ จากนั้นก็ได้ยินเสียงที่โกรธเคืองของเด็กน้อยถังจื่อโม่
เมื่อได้ยินสิ่งที่เด็กน้อยถังจื่อโม่พูด คนที่นั่งอยู่ข้างหน้าก็รีบหันศีรษะกลับมา คนที่นั่งอยู่ข้างหลังก็รีบยันกายลุกขึ้นมาด้านหน้า
จากนั้นทุกคนก็เห็นถังจื่อโม่ที่นั่งอยู่มีสีหน้ากรุ่นโกรธ และหัวหน้าที่หน้าเหวออยู่ กับมือที่ยกค้างอยู่กลางอากาศ
“หัวหน้า คุณตีเขาทำไม ? เขายังเด็กอยู่เลยนะ”ต้าชุนหนุ่มโรคเด็กม.2ผู้เที่ยงตรงเปิดปากพูดก่อน
“หัวหน้า ท่านกู้ให้เราพาตัวเขากลับไป แต่เด็กคนนี้ก็ยังเด็กมาก คุณลงไม้ลงมือไปได้ยังไง ?”
“หัวหน้า ด้วยแรงของคุณ คุณไม่คิดว่ามันรุนแรงเกินไปเหรอ ยังไงเด็กคนนี้ก็อาศัยอยู่ในบ้านตระกูลถัง ความสัมพันธ์กับตระกูลถังย่อมไม่ธรรมดาแน่ หากหัวหน้าทำอะไรเด็กคนนี้จนเป็นอะไรไป ถึงตอนนั้นจะอธิบายกับตระกูลถังยังไง ?”
“ฉัน ฉันเปล่า……”หัวหน้าโดนใส่ร้าย อีกทั้งก็ยังแก้ต่างไม่ได้
“หัวหน้า อย่าปฏิเสธเลย พวกเราต่างก็ได้ยิน เด็กคนนี้อย่างมากก็แค่เด็กห้าขวบ หรือเด็กคนนี้จะใส่ร้ายคุณงั้นเหรอ”
“เมื่อกี้พวกเราทุกคนต่างก็ได้ยินเสียงดังป้าบ เสียงนั้นดังมากไม่ได้เบาเลย ”
“ฉันไม่ได้ตีเขา ไม่ได้ตีจริงๆ” เมื่อหัวหน้าเห็นว่าทุกคนต่างไม่เชื่อเขา ก็กระวนกระวายใจขึ้นมา“พวกนายก็ดูเขาเองสิว่าเขาไม่ได้ ……”
“นายตีหัวฉัน หากนายตีฉันจนสมองเสื่อม ผลที่ตามมานายรับผิดชอบไหวเหรอ?” เมื่อถังจื่อโม่ได้ยินหัวหน้ากำลังพูดอธิบาย ก็พูดเสริมขึ้นมาอีกคำ
ตีไปที่ศีรษะยังไงก็ไม่ทิ้งร่องรอยเอาไว้อยู่แล้ว
“หัวหน้า คุณทำไม่ถูก คุณตีศีรษะเด็กได้ยังไง หากตีจนสมองกระทบกระเทือนไปจะทำยังไง ?”
“ใช่ หัวของเด็กนั้นบอบบางมาก ตีไม่ได้เด็ดขาด แล้วด้วยพละกำลังของหัวหน้า สามารถตีจนเด็กสมองเสื่อมได้เลยนะ”
“นี่เจ้าหนู อย่าโกรธเลยนะ หัวหน้าคงไม่ได้ตั้งใจหรอก อีกอย่าง เราชื่อถังจื่อโม่ใช่ไหม ?” ในที่สุดก็มีคนที่มีเหตุผลคนหนึ่งโผล่ออกมา ถามคำถามที่สำคัญที่สุดออกไป
คนอื่นๆที่ได้ยินคำถามนี้ ต่างก็จ้องมองไปที่ถังจื่อโม่ รอคำตอบของถังจื่อโม่ เมื่อกี้พวกเขาก็แค่ได้ยินคุณนายถังเรียกเด็กคนนี้ว่าจื่อโม่ผ่านหน้าจอกล้องตรวจจับเท่านั้น ยังไม่แน่ใจว่าใช่หรือไม่ใช่ ?
“ฉันเป็นนายน้อยไม่ผิดแน่ พวกนายลักพาตัวฉัน แล้วยังตีฉัน แล้วก็นาย……”ถังจื่อโม่ยื่นมือออกไป แล้วชี้ไปที่ต้าชุนหนุ่มโรคเด็กม.2“เมื่อกี้นายก็เกือบจะทำให้ฉันหายใจไม่ออก”
“ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำให้คุณหายใจไม่ออก ผมแค่ไม่ให้คุณส่งเสียงร้องออกมาเท่านั้น” ต้าชุนตกใจ รีบอธิบายออกไปทันที เขาจะทำร้ายเด็กคนหนึ่งให้ต้องขาดอากาศหายใจตายได้ยังไงกัน
“พวกนายลักพาตัวฉันมันคือความจริง นายทำให้ฉันต้องขาดอากาศหายใจก็เป็นความจริง นายตีฉันก็เป็นความจริง พวกนายรอได้เลย บัญชีนี้ฉันจะคิดเรียงตัวเลย”ถังจื่อโม่กวาดสายตาจ้องมองไปยังทุกๆคน มือเล็กๆของเขาก็กวาดชี้ไปที่ทุกคน ไม่ตกหล่นแม้แต่คนเดียว
ทุกคนต่างก็ตะลึงกันจนตาค้าง เมื่อกี้ที่พวกเขาแสดงน้ำใจพูดแทนเด็กน้อยไป เพื่อเด็กน้อยแล้วพวกเขาต่างก็กล่าวโทษหัวหน้ากันยกใหญ่ แต่เด็กคนนี้กลับเหวี่ยงไม่ยอมรับความหวังดีที่หยิบยื่นให้
จะว่าไป ที่เด็กคนนี้พูดมาก็ถูก พวกเขาก็ลักพาตัวเด็กคนนี้มาจริงๆ
เห็นชัดว่าเด็กคนนี้อายุยังไม่ถึงห้าขวบ แต่ทำไมถึงได้ร้ายกาจขนาดนี้ อีกทั้งความน่าเกรงขามทำไมถึงได้แกร่ง และน่ากลัวอย่างนี้ ?
ทันใดนั้น ทุกคนบนรถต่างก็เงียบไป ไม่มีใครกล้าพูดอะไร
ต่างก็กลัวว่าหากพูดอะไรไม่ระวังไป ก็จะถูกเด็กน้อยคนนี้จับผิดเอาได้
แน่นอนว่า คนที่แย่ที่สุดในตอนนี้ก็คือสองคนหัวหน้ากับต้าชุนที่ถูกเด็กน้อยถังจื่อโม่คาดโทษเอาไว้
“พวกนายรู้ไหมว่าพ่อกับแม่ของฉันเป็นใคร ? ”เด็กน้อยถังจื่อโม่กวาดตามองทุกคนบนรถอีกครั้ง เขาค่อยๆเงยหน้าขึ้น คำพูดเต็มไปด้วยความทะนงตน
เดิมทีก็ใจหายใจคว่ำกันอยู่แล้ว ไม่ใช่สิ ต่างก็อกสั่นขวัญแขวนกันอยู่แล้วพอมาได้ยินประโยคนี้ของถังจื่อโม่อีก ต่างก็ตะลึงไปตามๆกัน และภายในใจของทุกคนต่างก็รู้สึกสลดขึ้นมาทันที