ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – บทที่ 1141 ปมในใจสองพ่อลูก (2)

บทที่ 1141 ปมในใจสองพ่อลูก (2)

“ลำบากแล้ว” แต่ว่า คุณชายสามเย่ไม่คิดจะจบ เสียงทุ้มต่ำของคุณชายสามเย่ดังขึ้นอีกครั้ง!!

ครั้งนี้ อาจจะเป็นเพราะเสียงของคุณชายสามเย่ทุ้มต่ำอย่างมาก จึงทำให้คนรู้สึกกดดัน

อีกทั้งเวลานี้แววตาของคุณชายสามเย่ก็ซับซ้อนอย่างมาก มีอารมณ์มากมาย มีทั้งความซาบซึ้ง ความดีใจ ความยินดี และมีทั้งความรู้สึกผิด

เวลานี้แววตาของเขาจึงมีอารมณ์มากมาย ดังนั้นจึงซับซ้อน

ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ เธอเลี้ยงลูกสองคนตามลำพัง และเธอก็ยังเลี้ยงดูลูกได้เป็นอย่างดี สอนลูกทั้งสองคนจนกลายเป็นคนมีความสามารถ แต่เขากลับไม่รับรู้แม้แต่น้อย ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ เธอเลี้ยงลูกคนเดียวด้วยความยากลำบาก

หลังจากนั้น เขาจะอยู่กับเธอตลอดเวลา อยู่เคียงข้างพวกเขา คอยปกป้องพวกเขาจากเรื่องเลวร้ายทุกอย่าง เขาจะทำให้ชีวิตของพวกเขาหลังจากนี้สงบสุข

ถังจื่อโม่ได้ฟังคำพูดนี้ของเย่ซือเฉิน ใบหน้าเคร่งขรึมในตอนแรกเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด

ความเป็นจริงเขาไม่ได้รังเกียจเย่ซือเฉินเท่าไหร่ ในทางกลับกันอันที่จริงแล้วส่วนลึกในใจของเขาปรารถนาที่จะได้ความรักของเย่ซือเฉิน——ความรักของพ่อแบบนั้น

เขารู้ตั้งแต่เด็กแล้วว่าตนไม่มีพ่อ แต่เขามีความเป็นผู้ใหญ่ตั้งแต่เด็ก ไม่เคยเอาเรื่องนี้ไปกวนแม่ และเขาเองก็ไม่เคยถามถึงเรื่องของพ่อเวลาอยู่แม่ เขากลัวว่าแม่จะเสียใจ

เขาแสร้งทำเป็นไม่ใส่ใจมาโดยตลอด แกล้งทำเป็นไม่แคร์ เขาบอกว่าเขาไม่เป็นไรที่ไม่มีพ่อ เขาสามารถมีชีวิตที่ดีได้เหมือนกัน มีชีวิตที่ดีมาก ถึงขั้นที่ว่าดีกว่าคนอื่น

ไม่มีพ่อ เขาก็สามารถดูแลน้องสาวได้ดีมากเหมือนกัน และสามารถปกป้องแม่ได้เหมือนกัน

แต่ว่า ถึงแม้ภาพลักษณ์ภายนอกของเขาจะแสร้งทำเป็นเข้มแข็งมากเท่าไหร่ แต่ตอนที่เห็นเด็กคนอื่นจับมือพ่อของตน หรือว่ากอดพ่อ ตอนที่เห็นเด็กคนอื่นมีพ่อคอยรักและห่วงใย ภายในใจของเขายังคงรู้สึกปรารถนา เขาปรารถนาความรักของพ่อแบบนั้น

แค่ว่า เขารู้ดีว่าเขาไม่มี และไม่มีทางมี ดังนั้นถึงแม้เขาจะอิจฉามากแค่ไหน ปรารถนามากแค่ไหน เขายังคงแสร้งทำเป็นไม่สนใจ

ตอนที่เขารู้ว่าคนที่แม่แต่งงานด้วยคือพ่อแท้ๆของพวกเขา ภายในใจของเขารู้สึกดีใจ และรู้สึกตื้นตัน เขาเองก็มีพ่อแล้ว ทั้งยังเป็นพ่อแท้ๆของเขา ดังนั้นเขาไม่ต้องกังวลว่าพ่อจะไม่ยอมรับเขาแล้ว

แต่ว่าในตอนหลัง ตอนที่เขาเห็นเย่ซือเฉินพูดผ่านหน้าจอโทรทัศน์ว่าเขาไม่ชอบเด็ก อีกทั้งเย่ซือเฉินถึงขั้นบอกว่าเขาเกลียดเด็ก บอกว่าตระกูลเย่ไม่ควรมีเด็ก

ตอนนั้น อารมณ์ของเด็กน้อยถังจื่อโม่ซับซ้อนอย่างมาก ทั้งผิดหวัง ทั้งโมโห แต่สิ่งที่มากไปกว่านั้นคือความกังวล และรู้สึกหวาดกลัว เขากลัวพ่อไม่ชอบเขา เขากลัวพ่อทิ้งพวกเขาไป

ดังนั้น เขาจึงจงใจทดสอบเย่ซือเฉิน ตอนนี้เย่ซือเฉินผ่านการทดสอบทั้งหมดของเขาแล้ว

เย่ซือเฉินรักแม่จริงๆ และเย่ซือเฉินก็ทะนุถนอมแม่จริงๆ

ขอแค่เย่ซือเฉินดีกับแม่ก็พอแล้ว เย่ซือเฉินไม่ยอมรับเขาก็ไม่เป็นไร เขาสามารถเลี้ยงดูตัวเองได้!!

ถังจื่อโม่เบนสายตาไปทางอื่นช้าๆ จากนั้นค่อยๆก้มหน้าลง

หลังจากเย่ซือเฉินเห็นปฏิกิริยา นัยน์ตาของเขาสั่นเทาเล็กน้อย สำหรับลูกชายคนนี้ เขาไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดีจริงๆ

“พอได้แล้ว คุณคิดหาวิธีแก้ปัญหาที่มีกับลูกก่อน ลูกฟ้องฉันหมดแล้ว เรื่องนี้รุนแรงมาก” เวินลั่วฉิงฟังสิ่งที่เขาพูด ภายในใจรู้สึกหวั่นไหว เป็นเรื่องยากที่เย่ซือเฉินจะพูดสิ่งที่น่าประทับใจแบบนี้ แต่ว่า ตอนนี้เรื่องของลูกยังไม่คลี่คลาย

ตอนนี้ถังจื่อโม่ยังอยู่กับเย่ซือเฉิน เย่ซือเฉินเอาแต่พูดกับเธอแบบนี้ก็ไม่เหมาะเท่าไหร่ ต้องจัดการปัญหาของลูกก่อน

“อืม ผมเข้าใจแล้ว” เย่ซือเฉินถอนหายใจเบาๆ คุณชายสามเย่ที่มีอำนาจโลดแล่นอยู่ในโลกธุรกิจพบว่าตอนที่เขาเผชิญหน้ากับลูกชายตนเองกลับทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร

แต่ว่าเป็นลูกชายของเขา ลูกชายแท้ และก่อนหน้านี้เขายังลักพาตัวลูกชายของตนเองโดยไม่รู้เรื่องอะไร ดังนั้น เขาต้องคิดหาวิธีแก้ปัญหาด้วยตนเอง

หลังจากเย่ซือเฉินวางสายดวงตาทั้งคู่ก็มองไปที่ถังจื่อโม่ เห็นถังจื่อโม่ในเวลานี้กำลังก้มหน้าลง นั่งอยู่ตรงนั้นเงียบๆ สภาพของเขาทำให้เย่ซือเฉินปวดใจ และทำให้เย่ซือเฉินทำอะไรไม่ถูก

ถังจื่อโม่ยังเจตนาบิดตัวเล็กน้อย จากเดิมที่เผชิญหน้ากับเย่ซ์อเฉินแปรเปลี่ยนเป็นหันข้างให้เย่ซือเฉิน จากกิริยาของเด็กน้อยถังจื่อโม่ในตอนนี้ เคล้าไปด้วยความรังเกียจและปฏิเสธอย่างชัดเจน

เย่ซือเฉินลอบถอนหายใจในใจ ดูเหมือนว่าลูกชายของเขาจะรังเกียจเขามาก

สถานการณ์แบบนี้ ท่าทีรังเกียจของเด็กน้อยถังจื่อโม่ เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่โอกาสที่ดีในการแก้ปัญหา และเห็นได้ชัดว่าไม่เหมาะแก่การพูดคุย

“ฉันส่งนายกลับตระกูลถัง?” เย่ซือเฉินครุ่นคิด จากนั้นพูดหยั่งเชิง เขาสั่งให้คนลักพาตัวถังจื่อโม่มาจากตระกูลถัง ทางตระกูลถังยังไม่รับรู้ แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือคุณชายสามเย่รู้สึกว่ามีความเป็นไปได้ที่ถังจื่อโม่จะอยากกลับตระกูลถังมากกว่า

เผชิญหน้ากับลูกชายที่มีกะทันหัน คุณชายสามเย่รู้สึกว่าเขาต้องดำเนินการเป็นขั้นเป็นตอน ใจร้อนเกินไปไม่ได้ เพราะถึงอย่างไรลูกชายคนนี้ของเขาไม่ได้เกลี้ยกล่อมง่ายเหมือนเด็กทั่วไป ลูกชายคนนี้ของเขาฉลาดมาก มีความคิดเป็นของตนเอง และอ่อนไหวมาก

เย่ซือเฉินดูออก จนถึงตอนนี้ ลูกชายของเขายังไม่ยอมรับเขา

เรื่องนี้จะใจร้อนไม่ได้ เขาเองก็ไม่ได้รีบร้อน เป็นลูกชายของเขา ลูกชายแท้ๆ เขาจะทำให้เด็กน้อยถังจื่อโม่ยอมรับเขาด้วยความสมัครใจ

ถังจื่อโม่เงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว มองไปที่เย่ซือเฉิน มุมปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไร

เย่ซือเฉินจึงคิดว่าเขาตกลงแล้ว:“ไปกันเถอะ ฉันส่งนายกลับไป”

ครั้งนี้ถังจื่อโม่ไม่ได้มองเย่ซือเฉินอีก ก้าวเท้าเดินออกไป เย่ซือเฉินไม่ชอบเขาจริงๆด้วย

ในเมื่อเย่ซือเฉินรังเกียจเขาขนาดนี้ รีบร้อนอยากจะส่งเขากลับไป แน่นอนว่าเขาไม่มีวันอยู่ที่นี่ต่อและสร้างความน่ารำคาญใจ

“ไปแบบนี้เลย? ไม่เล่นอีกสักพักเหรอ?” กู้หวูตกตะลึงเล็กน้อย ก่อนหน้านี้ เขาคิดหาวิธี ขอร้องคุณปู่ฟ้องคุณย่าอยากจะส่งเจ้าเด็กนี่กลับไป แต่เจ้าเด็กนี่กลับไม่ไว้หน้าเขาแม้แต่น้อย

ตอนนี้กลับไปแบบนี้? อีกทั้งคุณชายน้อยยังเชื่อฟังขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย?

พี่ใหญ่เก่งจริงๆ

ถังจื่อโม่ที่เดินไปจนถึงประตูได้ยินคำพูดของกู้หวู หันขวับกลับมาอย่างรวดเร็ว ถลึงตามองกู้หวูด้วยความโมโห ต่อให้ถังจื่อโม่จะฉลาดแค่ไหนก็เป็นแค่เด็กคนหนึ่ง และมีความเป็นเด็ก

“ทำไม? ผมพูดอะไรผิด?” กู้หวูถูกมองค้อนกะทันหัน ยิ่งตกตะลึง เมื่อกี้เขาพูดอะไรผิดไปอย่างนั้นเหรอ?

ทำไมคุณชายน้อยต้องถลึงตามองเขาแบบนั้นด้วย? พูดตามตรงว่าถูกคุณชายน้อยมองค้อนแบบนั้น ภายในใจของเขารู้สึกไม่ดี

“ฉันยังไม่ให้อภัยนาย เรื่องลักพาตัวฉันยังไม่จบ” ตอนนี้ภายในใจของเด็กน้อยถังจื่อโม่โกรธเคืองอย่างมาก อยากจะหาที่ระบาย กู้หวูเสนอตัวเอง

“ไม่ใช่ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผม ว่ากันว่ากรรมเกิดจากเหตุ หนี้ทุกอย่างมีเจ้าหนี้ไม่ใช่เหรอ?” ดวงตาทั้งสองของกู้หวูเบกิกว้าง ตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อกี้เรื่องทุกอย่างเคลียร์ชัดแล้วไม่ใช่เหรอ เรื่องนี้พี่ใหญ่เป็นคนสั่ง เขาเป็นผู้บริสุทธิ์

คุณชายน้อยโทษเขาทุกอย่างได้ยังไง?

คุณชายน้อยไม่กล้าคิดบัญชีกับพี่ใหญ่ ดังนั้นจึงทำได้เพียงเอาเขามาระบายอารมณ์?

ทำไมคนที่ซวยถึงเป็นเขาตลอด?

นี่มันไม่ยุติธรรม!

กู้หวูอยากจะโต้กลับ ทว่าเขาเห็นสายตาของพี่ใหญ่มองมา ถึงแม้พี่ใหญ่ไม่ได้ถลึงตามองเขา แต่แววตาของพี่ใหญ่น่ากลัวกว่าคุณชายน้อยสิบเท่า กู้หวูทำได้เพียงกลืนคำพูดลงคอ

เขาทำผิดต่อคุณชายน้อยไม่ได้ และเขาก็ทำผิดต่อพี่ใหญ่ไม่ได้ ดังนั้นปิดปากเงียบเถอะ ซวยก็ซวยไปเถอะ ถึงยังไงก็ดีกว่าตายน!!

เย่ซือเฉินพาถังจื่อโม่ไปที่รถของตน เย่ซือเฉินปลดล็อก ถังจื่อโม่ยืนอยู่หน้ารถ ไม่ยอมขึ้น และไม่พูดไม่จา

เด็กน้อยถังจื่อโม่นึกถึงเหตุการณ์หลังจากที่น้องสาวกับเย่ซือเฉินรู้ว่าเป็นพ่อลูกกัน ตอนนั้นเย่ซือเฉินกอดน้องสาวตลอดเวลา ตอนนั้นเย่ซือเฉินพาน้องสาวขึ้นรถ

ตอนนั้น เย่ซือเฉินอบอุ่นอย่างมาก และดีใจอย่างมาก ไม่เหมือนตอนนี้แม้แต่น้อย

ดังนั้น เย่ซือเฉินไม่ได้ไม่ชอบเด็ก เย่ซือเฉินชอบน้องสาว แค่ไม่ชอบเขาเท่านั้น

เด็กน้อยถึงจื่อโม่คิดถึงเรื่องพวกนี้ ยิ่งอารมณ์ไม่ดี

“เป็นอะไรไป? จะกลับบ้านไม่ใช่เหรอ? ขึ้นรถ” เย่ซือเฉินยืนอยู่ข้างเขาแล้วมองไปที่เขา เห็นได้ชัดว่าคุณชายสามเย่ปฏิต่อลูกชายไม่อ่อนโยนและละเอียดอ่อนเท่ากับเจ้าหญิงน้อยถังจื่อซี

สำหรับคุณชายสามเย่ ลูกชายกับลูกสาวย่อไม่เหมือนกัน ลูกสาวสามารถตามใจทุกอย่าง แต่ลูกชายห้ามตามใจจนเกินไป

ดังนั้น คุณชายสามเย่ในตอนนี้ไม่เพียงแต่ไม่อ่อนโยนเหมือนกับที่ปฏิบัติต่อเจ้าหญิงน้อยถังจื่อซี เสียงของเขาในตอนนี้เข้มงวด มีความน่าเกรงขามของคนเป็นพ่อ

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Status: Ongoing

มองที่เด็กๆ ที่มีหน้าตาเหมือนกับตัวเอง สมองเขาว่างเปล่า ชั่วคราว”แม่เราก็คือภรรยาของคุณนะคะ ทำไม ภรรยาของ คุณมีลูกสองคน คุณไม่รู้หรอ”เด็กๆ จ้องมองเขา เตือนเขา อย่าง”มีน้ำใจ” เขาชะงักไปสองวินาที สีหน้าเปลี่ยนหลาย แบบ”ที่รัก อยู่ไหน” วินาทีต่อไป เขาโทรหาเวินลั่วฉิง “ได้ รอ ฉันสักครู่ ฉันจะไปที่ที่อยู่ทันที จะมีSurpriseให้นะ”ดี ดีจัง เขาอยากจะดูว่าเธอยังมีเรื่องอะไรที่ปิดบังเขาไว้ จะคิดบัญชี อย่างจริงจังแล้วนะ”นี่มันร้ายใจเกินไปมั่ง”เด็กสองคนนี้ตะลึง Surpriseนี่มันใหญ่จัง ดูเหมือนว่า คนนั้นจะซวยค่ะ! ! !

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท