“กลัวฉันเข้าไปขนาดนี้เลยเหรอ? ทำไม? ในห้องซ่อนใครไว้เหรอ?” คุณชายสามเย่เห็นเธอยังไม่ยอมเปิดประตูให้เขา ก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย
คำพูดของเขาพูดด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง ถึงแม้สิ่งที่ถังจื่อซีพูดดูมีเหตุผล แต่เขาก็ไม่เชื่อว่าระหว่างเธอกับถังไป๋เชียนจะมีอะไรกันจริง ๆ
เขาเชื่อใจเธอ
เขาก็แค่อยากมาดูว่ามันเรื่องอะไรกันแน่
เจ้าหญิงน้อยพูดอย่างหนักแน่น ถ้าเขาไม่มาดูให้แน่ชัด คงรู้สึกไม่สบายใจ
เวินลั่วฉิงมองเขา ดูเหมือนจะยิ้มมุมปากเล็กน้อย ขณะที่เธอกำลังจะปริปากตอบคำถามของเขา
“ฉิงฉิง เธอกำลังพูดกับใครน่ะ? เกิดอะไรขึ้น?” ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงดังออกมาจากในห้องน้ำ
เสียงนั้นค่อนข้างทุ้มต่ำ น่าดึงดูดมาก เป็นเสียงทุ้มต่ำที่ฟังดูมีพลัง
สีหน้าของคุณชายสามเย่เปลี่ยนไปทันที เหมือนไฟและน้ำแข็งหลอมรวมกันอยู่ในดวงตาของเขา มือของเขาที่จับประตูอยู่นั้นบีบจับประตูจนแน่น
ดวงตาคู่นั้นของเขาจ้องเขม็งเวินลั่วฉิง เขาถอนหายใจออกมา เพื่อให้ตัวเองใจเย็นลงหน่อย แต่กลับรู้สึกเหมือนไฟในใจถูกจุดขึ้น จนใกล้จะลุกโชนออกมา
“เวินลั่วฉิง เธอควรจะอธิบายหน่อยไหม?” เขาไม่อยากสงสัยเธอ ไม่อยากเลยสักนิด แต่เสียงที่ดังออกมาจากในห้องน้ำนั้นกลับทำให้เขา……
“อ๋อ นายมาจับชู้สินะ?” เวินลั่วฉิงไม่ได้ตอบคำถามของเขา แต่ย้อนถามเขากลับไป
เธอเดาไม่ผิดจริงด้วย เขามาจับชู้?
แต่ เขารู้ได้ยังไงว่าเธอพักอยู่ที่โรงแรมนี้?
เขาไปเอาข่าวมาจากไหน?
เวินลั่วฉิงถอนหายใจออกมา เขานี่เหลือเชื่อเลย
คุณชายสามเย่มองเธอ แต่ไม่ได้พูดอะไร
เวินลั่วฉิงมองเขา แล้วก็หัวเราะออกมา ดูท่าคงเป็นเพราะโมโหเขาจนหัวเราะ
“เย่ซือเฉิน นายรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่โรงแรมแห่งนี้? ใครเป็นคนบอกนาย?” เวินลั่วฉิงจู่ ๆ ก็อยากรู้เรื่องนี้ขึ้นมา ตามหลักแล้ว การเดินทางของเธอในวันนี้ไม่ได้บอกใครเลยสักคน จึงไม่มีใครรู้เรื่องนี้
แล้วเย่ซือเฉินรู้ได้ยังไงกัน?
เวินลั่วฉิงคิดว่าคงไม่ใช่เพราะเย่ซือเฉินสั่งให้คนสะกดรอยตามเธอหรอก ถ้าหากเย่ซือเฉินให้คนตามเธอล่ะก็ คงไม่รอจนถึงตอนนี้แล้วเพิ่งมาหรอก เพราะพวกเขาถึงที่โรงแรมกันหลายชั่วโมงแล้ว
ถ้าเย่ซือเฉินจะหึงคงหึงไปนานแล้ว คงไม่รอให้ผ่านไปหลายชั่วโมงก่อนหรอกมั้ง?
“เรื่องนี้เธอไม่ต้องรู้หรอก” เย่ซือเฉินได้ยินที่เวินลั่วฉิงพูด ก็กะพริบตาอย่างเร็ว นี่เป็นข้อมูลที่เจ้าหญิงน้อยของเขาเป็นคนให้มา เขาจะแฉเจ้าหญิงน้อยของเขาได้ยังไงล่ะ
“หมายความว่ายังไง? นายคิดจะปกป้องคนที่คอยยุแยงตะแคงรั่วอยู่ลับหลังคนนั้นเหรอ? เวินลั่วฉิงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
คำตอบของเย่ซือเฉินในตอนนี้ถือว่ายืนยันความคิดที่อยู่ในใจเธอได้แล้ว
เพียงแต่ เธอคิดไม่ถึงว่าเย่ซือเฉินจะปกป้องคนที่บอกความลับคนนั้นขนาดนี้?
“อืม” คุณชายสามเย่ตอบกลับเสียงต่ำ เจ้าหญิงน้อยของเขา เขาจะไม่ปกป้องได้ยังไงล่ะ?
ส่วนเรื่องยุแยงตะแคงรั่วอะไรนั่น เจ้าหญิงน้อยของเขาไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้นเด็ดขาด
เวินลั่วฉิงยิ้มออกมาอีกครั้ง เธอรู้สึกว่าเรื่องนี้ชักน่าสนใจแล้วสิ
“ฉิงฉิง เธอทำอะไรน่ะ? รีบมาได้แล้ว บอกว่าจะอาบน้ำด้วยกันไม่ใช่เหรอ ฉันรอเธอนานแล้วนะ” เสียงคนบางคนดังมาจากในห้องน้ำอีกครั้ง ยังคงเป็นเสียงที่ค่อนข้างทุ้มต่ำและเซ็กซี่ เพียงแต่ครั้งนี้แฝงไปด้วยความคลุมเครือที่ทำให้คนเข้าใจผิดได้ง่าย
อืม คลุมเครือมาก และตรงไปตรงมามากด้วย!!
อาบน้ำด้วยกัน!!
เวินลั่วฉิงเบะปากแรง ๆ นี่ก็หาเรื่องอีกคนแล้ว
คนคนนั้นที่อยู่ในห้องเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการสอดแนมและการป้องกันการสอดแนม อีกทั้งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ร่องรอยด้วย จึงสามารถเดาสถานการณ์ด้านนอกได้ดี เลยจงใจพูดแบบนี้ออกมา
แต่ละคน ช่างทำให้หนักใจจริง ๆ เลย
“เวิน ลั่ว ฉิง” คุณชายสามเย่ได้ยินเสียงจากในห้องน้ำ ดวงตาคู่นั้นก็หรี่ลงและแฝงไปด้วยอันตราย เดิมทีเขาก็โกรธจนแทบจะถึงขีดสุดแล้ว ตอนนี้มาได้ยินคำพูดอย่างนี้อีก ทำให้เขาใกล้จะระเบิดแล้ว
“ฉิงฉิง ฉันเปิดน้ำใส่อ่างแล้วนะ เธอรีบมาสิ อย่ามัวเสียเวลากับคนที่ไม่เกี่ยวข้องพวกนั้นเลย”
คนบางคนในห้องน้ำนึกสนุกขึ้นมาแล้ว ทางฝ่ายเวินลั่วฉิงยังไม่ปริปากพูดอะไร ส่วนคนทางนั้นก็รีบร้อนพูดไม่หยุด จงใจหาเรื่องชัด ๆ กลัวไม่เกิดเรื่องขึ้นสินะ
“ฉันคือคนที่ไม่เกี่ยวข้องงั้นเหรอ?” เย่ซือเฉินหรี่ตาลง นัยน์ตาของเขาตอนนี้เต็มไปด้วยความอาฆาต เขาในตอนนี้ขบกรามกัดฟันกรอด ๆ ท่าทางเหมือนอยากจะเข้าไปกัดเธอให้รู้แล้วรู้รอด
เวินลั่วฉิงแอบถอนหายใจออกมา เดิมที เธอคิดจะถามคุณชายสามเย่ดูว่าตกลงมาที่โรงแรมนี้ได้ยังไง
แต่ตอนนี้ถูกคนที่อยู่ในห้องน้ำเล่นมุกอย่างนี้ คงถามอะไรต่อไปไม่ได้แล้ว
“เปิดประตู” คุณชายสามเย่มองเธอ เสียงขบกรามในตอนนี้ดังจนทำให้คนตกใจ
เวินลั่วฉิงมองไปที่ประตูแวบหนึ่ง เธอเดาว่า ถ้าหากเธอยังไม่เปิดประตู เย่ซือเฉินคงจะพังประตูแน่นอน
“ฉิงฉิง เธอรีบหน่อยสิ ฉันใส่น้ำเสร็จแล้วนะ น้ำอุ่นกำลังดีเลย เธอรีบมาสิ พวกเราแช่น้ำด้วยกัน” คนบางคนในห้องน้ำยังคงยุแยงตะแคงรั่วไม่หยุด คำพูดนั้นยิ่งคลุมเครือมากขึ้นไปอีก
“เปิดประตู ให้ฉันเข้าไป” คุณชายสามเย่หันสายตาเล็กน้อย มองไปทางประตูห้องน้ำแวบหนึ่ง เสียงในตอนนี้ฟังได้ชัดว่าแฝงไปด้วยความอาฆาต เหมือนเขาต้องการไปฆ่าผู้ชายที่อยู่ในห้องน้ำคนนั้น
เวินลั่วฉิงเบ้ปากเล็กน้อย เธอรู้ว่าเรื่องไปกันใหญ่แล้ว เกินความสามารถที่เธอจะควบคุมได้แล้ว
คนที่อยู่ด้านนอกนั่น กั้นเขาไว้ด้วยประตูไม่ได้หรอก
ส่วนคนที่อยู่ในห้องน้ำ เธอก็ไปปิดปากไว้ไม่ได้ ดังนั้น……
เวินลั่วฉิงจึงเอาโซ่ล็อกประตูออก
จากนั้น คุณชายสามเย่ก็ผลักประตูเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว
คุณชายสามเย่เข้ามาในห้องแล้ว ก็กวาดตามองรอบ ๆ ห้องด้วยความเร็ว ในห้องไม่มีอะไรผิดปกติ ทุกอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยดี ไม่รกเกะกะเลยสักนิด
บนเตียงยิ่งเรียบร้อยจนไม่พบสิ่งผิดปกติใด ๆ เลย แม้กระทั่งรอยนั่งบนเตียงก็ไม่มี
สายตาของคุณชายสามเย่มองไปที่กระเป๋าเดินทางที่อยู่ในห้อง เป็นกระเป๋าเดินทางสีดำล้วนใบหนึ่งที่ใหญ่มาก
“คนที่อยู่ในห้องน้ำเป็นใคร?” คุณชายสามเย่หรี่ตาลง เอ่ยถามด้วยเสียงเคร่งขรึม เดาได้ไม่ยากเลยว่ากระเป๋าเดินทางใบนี้เป็นของคนที่อยู่ในห้องน้ำ
แล้วคนที่อยู่ในห้องน้ำตกลงเป็นใครกันแน่?
เสียงนั่นเป็นเสียงของผู้ชาย กระเป๋าเดินทางใบนี้ก็ไม่เหมือนของผู้หญิง
เวินลั่วฉิงไม่ได้ตอบคำถามของเขา แต่ได้เปิดกระเป๋าเดินทางที่วางอยู่ในห้องออก เสื้อผ้าที่อยู่ในกระเป๋าเดินทางมีเพียงชุดสีขาวและดำเท่านั้น ไม่มีเสื้อผ้าสีอื่นเลย
ลักษณะของเสื้อผ้าทั้งหมดก็เป็นเสื้อเชิ้ตและชุดสูทสีเดียวกัน
คุณชายสามเย่จ้องไปที่เสื้อผ้าในกระเป๋าเดินทาง แล้วหรี่ตาลง แววตาเต็มไปด้วยความเลือดเย็น
สีในกระเป๋าเดินทางใบนี้จืดชืดยิ่งกว่าเขาซะอีก จืดชืดจนสะดุดตา
เขาคิดว่า ไม่มีกระเป๋าเดินทางของผู้หญิงคนไหนจะจืดชืดขนาดนี้หรอก เรียบง่ายเกินไปแล้ว!
และการที่เวินลั่วฉิงเปิดกระเป๋าเดินทางออกแบบนี้ นั่นหมายความว่าความสัมพันธ์ของเธอกับคนคนนั้นไม่ธรรมดา!!
ไม่ธรรมดามาก ๆ? พวกเขา….