ถึงแม้คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่จะกำหนดเรื่องแต่งงานแทนเขา เขาไม่รู้อะไรเลย ทว่าเมื่อเห็นเวินลั่วฉิง เขาก็ยังรู้สึกผิดเล็กน้อย
“ทำไมเหรอ?จะแต่งงานแล้ว ตื้นตันจนพูดไม่ออกเลยเหรอ?!”เวินลั่วฉิงเห็นท่าทางเขาในตอนนี้ก็อดหัวเราะในใจไม่ได้ เธอรู้จักเย่ซือเฉินนานขนาดนี้ เป็นครั้งแรกที่เห็นเย่ซือเฉินเป็นแบบนี้
“ฉันจำได้ว่าเมื่อกี้ฉันพูดว่า ยินดี ไปแล้วนะ หรือว่าคุณชายสามเย่อยากให้ฉันพูดอีกรอบ?!”เวินลั่วฉิงจงใจแกล้งเขา ยากนักที่จะเห็นเขาเป็นแบบนี้ ไม่แหย่หน่อยก็เสียดายแย่
“ฉิงฉิง คุณรู้ว่าผมไม่ได้คิดอย่างนั้น”เย่ซือเฉินได้ยินคำพูดของเวินลั่วฉิง สีหน้าพลันเปลี่ยนไป เขารีบก้าวไปด้านหน้าหนึ่งก้าว พลางจับมือเวินลั่วฉิงแน่นขนัด น้ำเสียงมีความร้อนรนอย่างเด่นชัด ทั้งยังมีความกระวนกระวายเล็กน้อย “คุณต้องเชื่อผม ผมไม่รู้เรื่องนี้เลยสักนิด”
เย่ซือเฉินกลัวเธอเข้าใจผิด เพราะเรื่องหมั้นของเขาเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ใช่เรื่องเล็ก ซึ่งไม่ใช่การเข้าใจผิดอะไรเล็กๆน้อยๆ เธอโกรธก็ถือว่าปกติ ทว่าเขาจำเป็นต้องอธิบาย
มันไม่ใช่ความคิดของเขา เขาไม่รู้เรื่องเลยสักนิด
“นั่นมันองค์กรโกสต์ซิตี้เลยนะ!!เก่งกาจมากเลยนะ!!”เวินลั่วฉิงดูออกว่าเขาร้อนรนก็ยิ่งขำในใจหนักขึ้นกว่าเดิม เย่ซือเฉินที่ฉลาดหลักแหลมมาแต่ไหนแต่ไร เป็นคนใจเย็นเสมอ เธอเห็นเขากังวล ตึงเครียด กระวนกระวายอย่างนี้น้อยมาก
“ฉิงฉิง คุณฟังผมอธิบายนะ ผมไม่รู้จริงๆ”คุณชายสามเย่ในขณะนี้ใจร้อนอย่างแจ่มชัด และไม่ฉลาดหลักแหลมเลยสักนิด ดูไม่ออกว่าเวินลั่วฉฺงกำลังล้อเล่นเขาอยู่
“เขาเป็นถึงองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ คุณแต่งงานกับเธอไม่เสียเปรียบหรอก”มุมปากเวินลั่วฉิงยกโค้งขึ้น ถึงแม้เธอกำลังแกล้งแหย่เย่ซือเฉินอยู่ ทว่าก็ยังคงติดใจเล็กน้อย เพราะเป็นการแถลงข่าวของคุณปู่เย่ที่ประกาศงานแต่งงานด้วยตัวเอง
ในเมื่อคุณปู่เย่ประกาศอย่างอลังการเช่นนี้ หากเย่ซือเฉินไม่ทำตาม ผลลัพธ์ต้องร้ายแรงแน่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงอีกฝ่ายเป็นองค์กรโกสต์ซิตี้เลย
เวินลั่วฉิงเข้าใจความรู้สึกที่เย่ซือเฉินมีต่อเธอดี ทว่าเรื่องนี้คงแก้ไขไม่ง่ายหรอก
“ฉิงฉิง คุณรู้ว่าในใจผมมีแต่คุณ ผมจะสู่ขอคุณเท่านั้น”เย่ซือเฉินยิ่งรู้สึกร้อนใจ จับมือเวินลั่วฉิงแน่นขึ้น คล้ายกับกลัวเวินลั่วฉิงจะทอดทิ้งเขาไป
เวินลั่วฉิงมองหน้าเขา ไม่ได้พูดอะไร!!
“ฉิงฉิง ตอนนี้ผมมีคุณ มีลูกสองคน ชีวิตนี้ผมก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว”หลังจากเย่ซือเฉินรู้เรื่องของลูกทั้งสองคนก็รู้สึกตื่นเต้นดีใจมาก รู้สึกเซอร์ไพรส์มาก เขามารับเวินลั่วฉิงที่สนามบินแต่เช้า เพื่ออยากคุยเรื่องแต่งงานของทั้งสองคน
เขาตื่นเต้นดีใจและเซอร์ไพรส์ไม่ใช่เพราะรู้ว่ามีลูกสองคนอย่างเดียว เพราะเขายิ่งรู้สึกว่าความรักระหว่างเขากับเวินลั่วฉิงจะยิ่งมั่นคงมากขึ้น
ก่อนหน้านี้ หลังทำความรู้จักกับถังจื่อซีแล้ว ถังจื่อซีบอกว่าปิดเรื่องนี้กับเวินลั่วฉิงก่อน ดังนั้นเขาจึงเก็บความตื่นเต้นดีใจนี้ไว้จนใกล้จะอกแตกแล้ว ตอนนี้พูดออกมาได้เสียที เขาต้องเจอหน้าเวินลั่วฉิงและบอกเธอทันที
ใครจะรู้ว่าจะเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น
“พูดแบบนี้ ไม่ใช่เพราะฉัน เพราะลูกๆทั้งสองคน?!”เวินลั่วฉิงมองหน้าเขา จงใจบิดเบือนเจตนาของเขา
ไม่ง่ายเลยที่เธอจะได้เห็นเย่ซือเฉินตึงเครียดเช่นนี้ เธอต้องดูเยอะๆสักหน่อย?!
ใครใช้ให้ตระกูลเย่ทำเรื่องน่าโมโหอย่างนี้กันล่ะ ต่อจากนี้พวกเขาต้องหาวิธีแก้ไขเรื่องนี้ด้วย
“เวินลั่วฉิง คุณพูดอย่างนี้เกินไปแล้วนะ คุณรู้อยู่แท้ๆว่าไม่ว่าจะมีลูกหรือไม่ ผมก็จะแต่งงานกับคุณเท่านั้น”เย่ซือเฉินชะงัก พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง เธอว่าเขาอย่างนี้ได้ไง เกินไปแล้ว
“ตอนนี้คุณหมั้นกับองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้แล้วไม่ใช่เหรอ?”เวินลั่วฉิงเบะปาก เธอยังไมได้หงุดหงิดเลย เขากลับเสียอารมณ์ก่อนซะงั้น
“ผมไม่รู้เรื่องเลย คุณวางใจเถอะ ผมจะจัดการเอง”แววตาเย่ซือเฉินเคร่งขรึม คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่เป็นผู้ก่อเรื่องนี้ขึ้น เรื่องมันเกี่ยวข้องกับเขา เขาต้องจัดการแน่นอน
“คุณจะจัดการยังไง?อีกฝ่ายเป็นถึงองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ ขัดใจได้เหรอ คุณเคยเจอหน้าองค์หญิงคนนี้ไหม?ไม่แน่ว่าองค์หญิงคนนี้อาจจะสวยมากก็ได้ คุณเห็นแล้วอาจจะชอบเลยก็ได้”ท้ายที่สุดเวินลั่วฉิงก็ยังคงรู้สึกถือสา หากเธอไม่ถือสาเลย งั้นก็แสดงว่าเย่ซือเฉินไม่ได้มีความสำคัญต่อเธอเลย
ย่ซือเฉินยิ่งสำคัญต่อเธอมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งถือสามากเท่านั้น ต้องรู้สึกไม่พอใจอยู่แล้ว
“ตอนเช้าผมให้คนโยนองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ออกนอกประตู เรื่องนี้เป็นข่าวในโซเชียลแล้ว คุณยังไม่เห็นเหรอ?”เย่ซือเฉินได้ยินเธอพูดก็ยกหางคิ้วเล็กน้อย น้ำเสียงเจือความได้ใจหลายส่วน โชคดีที่ก่อนหน้านี้เขาโยนคนออกไป เรื่องนี้แสดงจุดยืนของเขาได้แน่
“คุณ คุณโยนองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ออกไป?”เวินลั่วฉิงตะลึงงัน เธอไม่รู้จริงๆ เพราะเธออยู่บนเครื่องบิน บินมือถือตลอด
เธอไม่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์เช่นนี้จริงๆ เย่ซือเฉินถึงกับโยนเฉิงโหรวโหรวออกไป?
“อืม”เย่ซือเฉินพยักหน้าอย่างจริงจัง ความกระวนกระวายเมื่อครู่ลดลงเล็กน้อย บัดนี้คุณชายสามเย่มีความมั่นใจขึ้นมาแล้ว
“ทำไมล่ะ?ทำไมคุณถึงโยนออกไป?”เวินลั่วฉิงกะพริบตาปริบๆ เธอรู้จักเย่ซือเฉินดี ถึงแม้ก่อนหน้านี้องค์กรโกสต์ซิตี้โจมตีตระกูลถัง โจมตีเธอ เย่ซือเฉินก็ไม่มีทางโยนคนออกไปโดยไร้สาเหตุ
“เธอบอกว่าให้ผมแต่งงานกับเธอ”เดิมทีเย่ซือเฉินคิดจะปิดเวินลั่วฉิงก่อน แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้คงไม่จำเป็นต้องปิดบังอีก
ต่อจากนี้ เกรงว่าคงมีอะไรอีกมากมายที่เขาต้องเผชิญหน้า ต้องแก้ไข
“ดังนั้นคุณเลยโยนออกไป?”เวินลั่วฉิงเบิกตากว้าง มองเย่ซือเฉินอย่างตะลึงพรึงเพริด
ถึงแม้เธอก็ไม่ชอบองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ แต่ผู้หญิงคนนี้มาขอแต่งงานกับเขา เขาไม่ยินดี แค่ปฏิเสธ ไม่ตอบตกลงก็สิ้นเรื่อง ไม่จำเป็นต้องโยนออกไปอย่างนี้เลย?
“เหตุผลนี้ยังไม่พอเหรอ?”เย่ซือเฉินมองหน้าเวินลั่วฉิง พลางหรี่ตาขึ้นกะทันหัน น้ำเสียงมีความอันตรายหลายส่วน
เธอรู้สึกว่าเหตุผลนี้ยังไม่เพียงพอให้เขาโยนออกไปงั้นหรือ?
เธอได้ยินว่าผู้หญิงคนนั้นขอแต่งงานด้วย เธอก็ตอบสนองอย่างนี้เหรอ?
เธอรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่สำคัญ เป็นเรื่องเล็กเหรอ?!
“พอ พอ พอ”เวินลั่วฉิงเห็นดวงตาที่หรี่ขึ้นของเย่ซือเฉินก็รีบเปลี่ยนน้ำเสียง “โยนออกไปยังเบาไป”
เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าตัวเองหยอกล้อ โดยทำตัวงี่เง่าไม่ได้แล้ว เย่ซือเฉินโยนคนออกไปแล้ว ท่าทางนี้สื่อเจตนาชัดเจนแล้ว
เวินลั่วฉิงรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่เป็นคนตัดสินเรื่องงานหมั้น เย่ซือเฉินไม่รู้ด้วยแน่ เย่ซือเฉินไม่มีความผิด
อันที่จริงเธอรู้สึกสงสารเย่ซือเฉินด้วยซ้ำ คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่เป็นผู้ใหญ่ในครอบครัวของเย่ซือเฉิน ทว่าคุณปู่เย่กลับกำหนดเรื่องแต่งงานแทนเย่ซือเฉินเงียบๆ
กำหนดการแต่งงานอย่างฉุกละหุกเช่นนี้ คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ไม่รู้จักมักคุ้น ไม่รู้นิสัยขององค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ก็กำหนดงานแต่งงานให้เย่ซือเฉินซะแล้ว
หากพวกท่านมีความเป็นห่วงเป็นใยเย่ซือเฉินสักนิด คงไม่ทำอย่างนี้หรอก
“วางใจเถอะ ผมจัดการเรื่องนี้เอง ไม่กระทบพวกเราแน่”เย่ซือเฉินมองหน้าเวินลั่วฉิงด้วยสีหน้าเข้มงวด
“คุณจะจัดการยังไง กำหนดไว้แล้ว คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ต้องหารือกับองค์กรโกสต์ซิตี้แล้วกำหนดขึ้นมาแน่ๆ และคุณปู่เย่ยังประกาศออกสื่ออย่างนี้ หากไม่ทำตาม ผลลัพธ์ก็จะน่ากลัวมาก ยิ่งองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ยิ่งแล้วใหญ่”ใบหน้าเวินลั่วฉิงก็มีความจริงจังหลายส่วน เธอเริ่มพินิจพิจารณาถึงหนทางแก้ไขตั้งแต่เห็นข่าวนี้แล้ว ทว่าตอนนี้กลับคิดวิธีอะไรไม่ออกเลย
เธอไม่รู้จริงๆว่าควรสะสางเรื่องนี้เช่นไรดี?!
ถึงแม้คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่เป็นคนกำหนดเรื่องแต่งงาน ทว่าเย่ซือเฉินเป็นทายาทตระกูลเย่ เป็นหลานชายของพวกเขา สำหรับคนนอก การแต่งงานครั้งนี้เย่ซือเฉินเต็มใจก็ดี ไม่เต็มใจก็ช่าง แต่ก็ต้องยอมรับ หากเย่ซือเฉินไม่ยอมแต่งงาน ผลลัพธ์จะรุนแรงมาก