ท่านปู่ถังคิดว่าถ้าหากเป็นแบบนี้จริงๆ ถ้าหากเป็นแบบนี้จริงๆ พวกเขาก็จะยิ่งจะทำเป็นไม่สนใจไม่ได้ แต่ท่านปู่ถังจะทำอะไรนั้นจะมีความสุขุม เวลานี้เขาไม่ได้เอ่ยถามต่อ เพียงแต่คิดว่าถึงตอนนั้นแล้วค่อยมาปรึกษากับถังหลินอีกทีว่าจะช่วยเย่ซือเฉินอย่างไร จะตีเสมอองค์กรโกสต์ซิตี้นั้น เย่ซือเฉินเพียงคนเดียวไม่สามารถทำได้อย่างเด็ดขาด
เวินลั่วฉิงมองไปยังเย่ซือเฉินในใจสั่นไหวเล็กน้อย เธอพอจะเดาได้ว่าเย่ซือเฉินจะทำอะไร มุมปากเวินลั่วฉิงขยับ อยากจะพูดอะไรออกมา แต่สุดท้ายแล้วก็อดทนเอาไว้ เรื่องนี้ให้เย่ซือเฉินเป็นคนจัดการเองจะดีกว่า
เย่ซือเฉินเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องโดยตรง เขามีอำนาจมากที่สุดที่จะตัดสินใจว่าจะทำอย่างไร
ในห้องวาดรูปของซ่างกวนหงผู้ดูแลจ้งเดินเข้ามาอย่างรีบร้อน ผู้ดูแลจ้งที่สุขุมมาโดยตลอดนั้นเห็นได้ชัดว่าเวลานี้ดูร้อนรนอยู่บ้าง เดินเข้ามาอย่างรีบร้อน และเสียงฝีเท้าก็หนักด้วยเช่นกัน
ซ่างกวนหงมองเขา ดวงตาไหวติงเล็กน้อย : “เกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก?”
เขารู้สึกว่าตั้งแต่หลังจากที่มาที่เมืองAในครั้งนี้ ผู้ดูแลจ้งราวกับเปลี่ยนเป็นคนละคนเลยอย่างไรอย่างนั้น เรื่องเล็กๆน้อยๆก็ทำให้ผู้ดูแลจ้งตื่นตระหนกร้อนรนได้
“หัวหน้า เกิดเรื่องขึ้นจริงๆแล้วครับ เจิ้งฉงพาเฉิงโหรวโหรวไปตระกูลเย่ แล้วก็ไม่รู้ว่าใช้วิธีอะไร ไม่คิดว่าจะทำให้คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่รับปากเรื่องการแต่งงานของเฉิงโหรวโหรวกับเย่ซือเฉินครับ ตอนนี้คุณปู่เย่ก็เรียกนักข่าวมาแล้วประกาศออกไปให้ภายนอกได้รับรู้แล้วครับ”
ครั้งนี้ผู้ดูแลจ้งรู้สึกว่าเรื่องราวดูรุนแรงมากขึ้นแล้วจริงๆ
“เย่ซือเฉิน?” ซ่างกวนหงอึ้งไป หลังจากนั้นก็มองไปยังผู้ดูแลจ้งแวบหนึ่ง น้ำเสียงทำให้คนรู้สึกไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรนัก
“ครับ เย่ซือเฉิน แฟนของคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง” ผู้ดูแลจ้งเห็นปฏิกิริยาของหัวหน้าตัวเองแล้ว ก็รีบพูดเสริมขึ้นอีกประโยคด้วยความรวดเร็ว หัวหน้าสนใจเพียงแค่เรื่องราวของคุณหนูใหญ่ของตระกูลถังมาโดยตลอด มีเพียงแค่คนที่เกี่ยวข้องกับตระกูลถังเท่านั้นถึงจะสามารถดึงดูดความสนใจจากหัวหน้าไปได้ ดังนั้นผู้ดูแลจ้งจึงเอ่ยพูดเสริมขึ้นมาเป็นพิเศษ ก็เพื่อเป็นการดึงดูดการให้ความสำคัญของหัวหน้าตัวเอง!!
“วันนี้ช่วงสายเย่ซือเฉินไม่ใช่ว่าเอาตัวเธอโยนออกไปแล้วหรือ? ทำไมตอนนี้ถึงจะมาหมั้นกันแล้ว?” ซ่างกวนหงขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย เป็นอย่างที่คิดจริงๆเมื่อได้ยินว่าเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลถังแล้ว ก็มีปฏิกิริยาที่ไม่เหมือนเดิมแล้ว
เกี่ยวกับเรื่องที่เย่ซือเฉินเอาตัวเฉิงโหรวโหรวโยนออกนอกประตูมานั้น ก่อนหน้านี้ผู้ดูแลจ้งได้เคยพูดกับเขาแล้ว ตอนนั้นเขาไม่ได้เอ่ยถามอะไรมาก แม้กระทั่งไม่ได้สนใจด้วยว่าใครจับเฉิงโหรวโหรวโยนออกนอกประตูไป เป็นเพราะว่านั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เขาเองก็ไม่ได้มีความสนใจที่อยากจะรู้ด้วยเช่นกัน
แต่ตอนนี้ได้ยินผู้ดูแลจ้งอธิบายออกมาเป็นพิเศษแล้ว เขาก็เป็นฝ่ายเอ่ยถามขึ้นมาเองจริงๆ
แฟนของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังเอาตัวเฉิงโหรวโหรวโยนออกมาข้างนอก? นี่มันเรื่องอะไรกัน?!
“ครับ ตอนช่วงสายเย่ซือเฉินเอาตัวเฉิงโหรวโหรวโยนออกมา แต่หลังจากนั้นเฉิงโหรวโหรวกับเจิ้งฉงก็ไปที่ตระกูลเย่ด้วยกัน แล้วก็ยังมีไป๋หยิงคนนั้นก็ไปด้วยกันครับ ไม่รู้ว่าพวกเขาปรึกษากันอย่างไร หลังจากที่เจิ้งฉงและเฉิงโหรวโหรวออกไป คุณปู่เย่ก็จัดงานแถลงข่าว ประกาศเรื่องการแต่งงานของเย่ซือเฉินกับเฉิงโหรวโหรว” เวลานี้ผู้ดูแลมีสีหน้าที่เคร่งขรึมลงอย่างเห็นได้ชัด ตอนที่เอ่ยถึงเฉิงโหรวโหรวนั้น น้ำเสียงของเขาดูไม่พอใจอย่างชัดเจน เนื่องจากก่อนหน้านี้ยังไม่ได้สืบเรื่องให้ชัดเจน และเฉิงโหรวโหรวกับหัวหน้าก็ตรวจดีเอ็นเอกันพิสูจน์ว่าเฉิงโหรวโหรวคือลูกสาวของหัวหน้า ดังนั้นผู้ดูแลจึงยังคงคุ้มครองรักษาเฉิงโหรวโหรวมาโดยตลอด
แต่ตอนนี้สิ่งเหล่านั้นที่เฉิงโหรวโหรวทำนั้นได้ทำให้ผู้ดูแลจ้งรู้สึกผิดหวังมาก เจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ไม่ควรเป็นแบบนี้อย่างเด็ดขาด
เฉิงโหรวโหรวเติบโตในเขตภูเขา อะไรๆก็ไม่เข้าใจ อะไรๆก็ทำไม่เป็น เรื่องเหล่านี้ไม่มีอะไรเลย แล้วก็ไม่ใช่ความผิดของเฉิงโหรวโหรวด้วยเช่นกัน แต่เรื่องโง่ๆที่เฉิงโหรวโหรวทำในตอนนี้ แต่ละเรื่องก็ยิ่งทำเกินไป ทำให้ไม่สามารถทนรับได้เลย
ซ่างกวนหงถือพู่กันวาดรูป แล้วมองไปยังรูปภาพตรงหน้า ไม่ได้เอ่ยพูดอะไรออกมา แล้วก็ไม่ขยับด้วยเช่นกัน ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่?
“หัวหน้าครับ เฉิงโหรวโหรวไปคุยกับตระกูลเย่ในฐานะของเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ ตอนที่คุณปู่เย่ประกาศออกมาก็ไม่ได้เน้นว่าเป็นองค์กรโกสต์ซิตี้เพียงแค่ครั้งเดียว พวกเขาแอบอ้างองค์กรโกสต์ซิตี้ของพวกเรานะครับ” ผู้ดูแลจ้งไม่ชอบที่สุดก็คือพวกที่ชอบอาศัยอำนาจข่มเหงคนอื่นไปทั่ว ตอนนี้มีคนยืมอำนาจขององค์กรโกสต์ซิตี้ไปรังแกคนอื่น ผู้ดูแลจ้งรู้สึกว่าองค์กรโกสต์ซิตี้จะไม่สนใจไม่ได้
“ยังมีเรื่องการแต่งงานที่ได้กำหนดเป็นที่เรียบร้อยแล้วอีกครับ ตระกูลเย่ประกาศออกไปแล้ว เรื่องการแต่งงานก็ไม่สามารถจะถอนการแต่งงานได้ เย่ซือเฉินเป็นแฟนของคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง ตอนนี้คุณหนูใหญ่จะต้องเสียใจมากแน่ๆเลยครับ” ผู้ดูแลจ้งรู้ว่าหัวหน้าของตัวเองจะสนใจเพียงแค่เรื่องของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังเพียงเท่านั้น ดังนั้นจึงตั้งใจที่จะพูดถึงคุณหนูใหญ่ตระกูลถังขึ้นมา
แต่ที่ทำให้ผู้ดูแลจ้งแปลกใจก็คือ ครั้งนี้หัวหน้าของเขานั้นกลับไม่ดูร้อนใจ เมื่อครู่ที่เขาพูดว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังจะเศร้าเสียใจ ไม่คิดเลยว่าหัวหน้าจะไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ผู้ดูแลจ้งรู้สึกตะลึงอยู่บ้าง หรือว่าหัวหน้าจะไม่ได้สนใจเรื่องของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังแล้วอย่างนั้นหรือ
ซ่างกวนหง หยิบพู่กันวาดรูป แล้วตั้งใจวาดรูปของตัวเอง ใบหน้าไม่มีความผิดปกติไปจากเดิมแม้แต่นิดเดียว
“หัวหน้าครับ เรื่องนี้พวกเราไม่ต้องสนใจแล้วหรือครับ?” ผู้ดูแลจ้งเห็นท่าทางที่ไม่สนใจของหัวหน้าตัวเองแล้ว ก็อดไม่ได้จริงๆ จึงเอ่ยถามต่ออีก
“เรื่องที่ควรจะสนใจก็ต้องสนใจอยู่แล้ว กล้าแอบอ้างองค์กรโกสต์ซิตี้ นายรู้นี่ว่าควรจัดการอย่างไร” ซ่างกวนหง เห็นท่าทางร้อนรนของผู้ดูแลจ้ง ก็วางพู่กันวาดรูปลงในที่สุด เวลานี้น้ำเสียงของเขานั้นแฝงความเยือกเย็นเอาไว้อย่างเห็นได้ชัด
เขาไม่ได้สนใจดูแลเรื่องขององค์กรโกสต์ซิตี้มาเป็นเวลานานแล้ว แต่เพียงแค่เขาจะดูแล ก็ไม่มีเรื่องที่ทำได้ไม่ดี
“ครับ ผมทราบ ผมทราบอยู่แล้วครับ” ผู้ดูแลจ้งจากท่าทีกลัดกลุ้มก็เปลี่ยนเป็นดีใจขึ้นมาทันที ดูแล้ว หัวหน้ายังสนใจคุณหนูใหญ่ตระกูลถังอยู่ ไม่สิ หัวหน้าใส่ใจเรื่องของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังมากเลยต่างหาก
ยี่สิบห้าปีมานี้ เพื่อตามหาตัวคุณนายหัวหน้าก็ได้วางทุกเรื่องขององค์กรโกสต์ซิตี้นี้ลง นี่เป็นเรื่องที่หัวหน้าเป็นฝ่ายออกปากขึ้นมาเองว่าจะดูแลองค์กรโกสต์ซิตี้ในช่วงหลายปีขนาดนี้
สำหรับเรื่องแบบนี้ ผู้ดูแลจ้งก็รู้อยู่แล้วว่าควรจะจัดการอย่างไร ไม่ใช่ว่าคุณปู่เย่อยากจะผูกสัมพันธ์เพื่อหวังผลประโยชน์ ไม่ใช่ว่าอยากจะอาศัยอิทธิพลอำนาจขององค์กรโกสต์ซิตี้หรอกหรือ? เขาจะต้องทำให้คุณปู่เย่เข้าใจอย่างชัดเจนว่าอำนาจขององค์กรโกสต์ซิตี้ไม่ใช่ว่าใครอยากจะมาอาศัยก็ทำได้อย่างนั้น
ที่สำคัญก็คือคุณปู่เย่อาศัยอำนาจขององค์กรโกสต์ซิตี้มารังแกคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง นี่เป็นการรนหาที่ตายชัดๆ!!
ส่วนเฉิงโหรวโหรวคนนั้น เนื่องจากคนที่แอบวางแผนอยู่เบื้องหลังยังจับตัวไม่ได้ จึงไม่สามารถทำอะไรกับเฉิงโหรวโหรวได้เป็นการชั่วคราว แต่หากเรื่องราวสืบได้อย่างชัดเจนแล้วนั้น ตำแหน่งเจ้าหญิงของเฉิงโหรวโหรวนี้อย่าคิดที่จะต้องการมันอีกเลย
เดิมทีเรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของเฉิงโหรวโหรว เฉิงโหรวโหรวเองก็ไม่ได้มีความผิดเช่นกัน เป็นคนที่ถูกหลอกใช้ ถ้าหากเฉิงโหรวโหรวปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสม……..
ไม่ เพียงแค่เฉิงโหรวโหรวไม่ก่อเรื่องที่มันดูเกินไปมากมายขนาดนี้ ถึงแม้เรื่องราวจะสืบออกมาอย่างชัดเจนแล้ว ว่าเฉิงโหรวโหรวไม่ได้มีความสัมพันธ์กับหัวหน้า ถึงตอนนั้นองค์กรโกสต์ซิตี้ก็ไม่ได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่ยุติธรรมเช่นกัน
เพียงแต่น่าเสียดายที่เฉิงโหรวโหรวไม่ได้เข้าใจตรงจุดนี้ ช่วงเวลานี้เฉิงโหรวโหรวก็พยายามหาเรื่องใส่ตัวมาโดยตลอด และนี่ก็คงจะโทษคนอื่นไม่ได้ เฉิงโหรวโหรวเป็นแบบนี้ รอจนความจริงทุกอย่างกระจ่างแล้ว ก็ทำได้เพียงแค่ต้องส่งตัวเฉิงโหรวโหรวกลับไป ทำให้เฉิงโหรวโหรวที่มาจากไหนก็ต้องกลับไปที่นั่น
ความฝันในการเป็นเจ้าหญิงของเฉิงโหรวโหรวทำได้ไม่กี่วันแล้ว
ผู้ดูแลจ้งได้รับคำสั่งของหัวหน้าก็อยากจะไปจัดการ
“นายรีบร้อนอะไรน่ะ?” เพียงแต่ซ่างกวนหงตะโกนเรียกเขาเอาไว้
ผู้ดูแลจ้งรู้สึกงง ชะงักเท้าลง แล้วมองไปยังหัวหน้าของตัวเองด้วยความสงสัย ไม่ใช่ว่าหัวหน้าให้เขาไปจัดการเรื่องนี้หรอกหรือ?
“รอดูไปก่อน” ซ่างกวนหงหยิบพู่กันขึ้นมาอีกครั้งแล้วเริ่มวาดรูปของเขาต่อ แล้วกลับไปมีสีหน้าท่าทางที่นิ่งเฉยอย่างเมื่อครู่นี้อีกครั้ง
“หัวหน้าครับ ต้องรออะไรอีกหรือครับ?” ผู้ดูแลจ้งมองไปยังหัวหน้าตัวเอง ครั้งนี้ผู้ดูแลจ้งไม่เข้าใจจริงๆว่าจะต้องรออะไร
“คนที่หมั้นคือเย่ซือเฉิน เขายังไม่ร้อนรนเลย แล้วนายจะไปรีบร้อนอะไรนักหนากัน?” ซ่างกวนหงวาดลายเส้นเสร็จแล้ว ก็เงยหน้าขึ้นมามองผู้ดูแลจ้ง
ผู้ดูแลจ้ง : “…………”
เย่ซือเฉินไม่ร้อนรน? หัวหน้ารู้ได้อย่างไรว่าเย่ซือเฉินไม่ร้อนรน?
เมื่อช่วงสายเย่ซือเฉินเพิ่งจะจับเฉิงโหรวโหรวโยนออกมานอกประตู จะต้องไม่อยากแต่งงานกับเฉิงโหรวโหรวแน่นอนอยู่แล้ว ตอนนั้นเป็นเจิ้งฉงกับเฉิงโหรวโหรวที่ไปยังตระกูลเย่ด้วยกัน เย่ซือเฉินจะต้องรู้ถึงสถานะของเฉิงโหรวโหรวอย่างแน่นอน ดังนั้นตอนนั้นทั้งที่เย่ซือเฉินรู้ว่าเฉิงโหรวโหรวเป็นเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้แต่ก็ยังเอาเธอโยนออกมา
เพราะฉะนั้นเย่ซือเฉินจะไม่ยอมแต่งงานกับเฉิงโหรวโหรวเป็นอันขาด คนที่เย่ซือเฉินชอบนั้นคือคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง แต่คุณปู่เย่กลับกำหนดเรื่องการหมั้นอื่นแทนเย่ซือเฉิน เย่ซือเฉินจะไม่ร้อนรนได้อย่างไรกัน
หัวหน้าหมายความว่าอะไรกันแน่?
ซ่างกวนหงไม่ได้มองผู้ดูแลจ้งอีก แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรด้วยเช่นกัน
ผู้ดูแลจ้งอึ้งไปพักหนึ่ง แล้วก็เข้าใจในที่สุด : “หัวหน้าอยากจะดูว่าเย่ซือเฉินจะทำอะไรใช่ไหมครับ?”
ถึงอย่างไรผู้ดูแลจ้งก็ติดตามซ่างกวนหงมาเป็นเวลาหลายปีขนาดนั้นแล้ว เขาก็เข้าใจความหมายของหัวหน้าตัวเองขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
“หัวหน้า อยากจะทดสอบเย่ซือเฉิน หัวหน้าทำแบบนี้ก็เพื่อคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง” ตอนที่ผู้ดูแลจ้งพูดมานั้นน้ำเสียงมีความมั่นใจเป็นอย่างมาก เสียงสูงขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
เป็นแบบนี้อย่างแน่นอน หัวหน้าจะต้องคิดแบบนี้แน่ๆ เป็นอย่างที่คิดเอาไว้จริงๆว่าหัวหน้าจะมีเพียงแค่เรื่องของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังเพียงเท่านั้น
ซ่างกวนหงไม่ได้ตอบคำถาม เพียงแต่มือที่จับพู่กันอยู่นั้นชะงักไปเล็กน้อย
“หัวหน้าครับ หัวหน้าคิดว่าเย่ซือเฉินจะทำอย่างไรครับ?” ผู้ดูแลจ้งเห็นปฏิกิริยาของหัวหน้าตัวเองแล้ว ในใจก็ยิ่งมั่นใจ เพียงแต่เรื่องนี้ซับซ้อนมากเกินไป เย่ซือเฉินจะทำอย่างไรกัน? เย่ซือเฉินจะสามารถทำอย่างไรได้?
ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็กลายเป็นการตัดสินใจที่แน่นอนแล้ว ตระกูลเย่ได้ประกาศออกไปแล้ว เย่ซือเฉินยังจะสามารถเป็นฝ่ายถอนหมั้นฝ่ายเดียวได้เชียวหรือ? ถ้าหากเย่ซือเฉินกล้าถอนหมั้นขององค์กรโกสต์ซิตี้ นั่นก็มีความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวมากจริงๆ มีอำนาจเป็นอย่างมาก!