ตอนนั้นถังจื่อโม่ไม่ได้บอกอะไรเลย แต่เขามองปราดเดียวก็มั่นใจว่าเป็นลูกชายของเขา ดังนั้นเขาไม่จำเป็นต้องตรวจดีเอ็นเอ
สาเหตุที่เมื่อครู่เขาไม่พูดจาก็เพราะกำลังคิดถึงเรื่องทั้งหมดอยู่ เขาคาดเดาวัตถุประสงค์ของถังไป๋เชียนได้แล้ว แต่คำถามก็คือ ถังไป๋เชียนทำได้ยังไง แถมยังประจวบเหมาะอย่างนี้อีก?
ทำไมถังไป๋เชียนไม่เปิดเผยแต่แรก แต่ดันประกาศตอนที่เขากับฉิงฉิงจะไปจดทะเบียนสมรส ดันเป็นเวลาที่ตระกูลถังคิดจะเปิดเผยสถานะของฉิงฉิงกับลูกด้วย
นอกจากคนตระกูลถัง ไม่มีใครรู้ว่าเขากับฉิงฉิงจะไปจดทะเบียนสมรสด้วยกัน ไม่รู้ว่าตระกูลถังจะประกาศสถานะของฉิงฉิงกับสถานะของเด็กๆ
เมื่อวานโจ๋วชิงก็อยู่ด้วย ทว่าโจ๋วชิงไม่ช่วยถังไป๋เชียนมาทำร้ายฉิงฉิงแน่นอน เขาเชื่อใจพี่น้องของเขา
สำหรับด๊อกเตอร์กู่นั้น อีกฝ่ายอยู่กับถังจื่อซีข้างนอกบ้านตลอด ไม่ได้อยู่ตอนพวกเขาคุยกัน แน่นอน ถึงแม้ด๊อกเตอร์กู่จะรู้ก็ไม่มีทางบอกคนอื่นเด็ดขาด ทุกคนรู้การปฏิบัติของด๊อกเตอร์กู่ดี
แล้วถังไป๋เชียนรู้ได้ไง ทำไมถังไป๋เชียนถึงขัดขวางถูกเวลาอย่างนี้?
ทำไมวันนี้ข่าวลือกระฉ่อนแต่เช้า ทั้งยังมีต่อๆกันเป็นทอดๆ ทำได้ดั่งภูษาฟ้าไร้ตะเข็บ
สำหรับเรื่องที่เย่ซือเฉินติดใจก็คือเรื่องที่เวินลั่วฉิงกับถังไป๋เชียนจดทะเบียนสมรสกันที่ประเทศM ทว่าเมื่อครู่ฉิงฉิงอธิบายแล้วว่าเธอไม่รู้เรื่องด้วย ถังไป๋เชียนวางแผนเองฝ่ายเดียว ถังไป๋เชียนใช้ความไว้วางใจที่ฉิงฉิงมีต่อเขา ใช้ข้ออ้างการทำภารกิจในการได้ทะเบียนสมรสไว้ครอบครอง
ทว่าเรื่องผลตรวจดีเอ็นเอล่ะ?ถังไป๋เชียนทำได้อย่างไร?
อำนาจหลักของถังไป๋เชียนอยู่ในประเทศM และหลังจากที่เขาโจมตีคู่กรณี อำนาจอิทธิพลของถังไป๋เชียนก็ลดลงมาก เขายังจับตามองถังไป๋เชียนอยู่ด้วย เป็นไปไม่ได้ที่ถังไป๋เชียนจะแอบทำอะไรลับๆได้มากมายเพียงนี้
ยิ่งไม่ต้องพูดถึง การตรวจดีเอ็นเอครั้งนี้ เพราะตรวจที่โรงพยาบาลภายในประเทศ ซึ่งที่มีชื่อเสียงระดับโลก และแพทย์ก็เป็นแพทย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในประเทศ คงไม่ทำเอกสารยืนยันผลตรวจสุ่มสี่สุ่มห้าแน่ ต้องใช้เงื่อนไขอะไรบ้างอย่างแน่ และคนทั่วไปก็ขอให้แพทย์ผู้มีชื่อเสียงคนนี้ตรวจดีเอ็นเอให้ไม่ได้ด้วย
เมื่อก่อนถังไป๋เชียนอาจจะมีความสามารถเช่นนี้ ทว่าตอนนี้หลังโดนเขาโจมตี และมีเขาคอยจับตามอง ถังไป๋เชียนจึงไม่มีวันทำได้ด้วยตัวคนเดียวแน่
ดังนั้นต้องมีคนช่วยเหลือถังไป๋เชียนแน่ และคนผู้นี้ทำฝีมือไม่ใช่ย่อย หรือบอกว่ามีอิทธิพลไม่น้อย
แถมคนนี้ยังรู้เรื่องภายในของตระกูลถังด้วย รู้สถานะของฉิงฉิง รู้สถานะของลูกๆ รู้กระทั่งว่าวันนี้เขากับฉิงฉิงจะไปจดทะเบียนสมรสกัน รู้ว่าวันนี้ตระกูลถังจะเปิดเผยสถานะของฉิงฉิงกับของลูกๆ
แล้วมันผู้นี้เป็นใครมาจากไหน?
“ซือเฉินเชื่อก็ดี เชื่อก็ดี ฉันเป็นห่วงว่าพวกนายจะเข้าใจผิดด้วยเรื่องนี้”ท่านย่าถังโล่งอกไปแจ่มชัด สิ่งที่ท่านย่าถังให้ความใส่ใจที่สุดก็คือความสุขของลูกหลาน สำหรับเรื่องใหญ่ก็ปล่อยให้เหล่าสุภาพบุรุษไปแก้ไขปัญหาแล้วกัน
ดังนั้น ท่านย่าถังกังวลใจก็ส่วนของเรื่องกังวลใจ สิ่งที่ท่านควรคำนึกถึงก็มีมากมายอย่างเข้มแข็งเช่นกัน
เวินลั่วฉิงได้ยินคำพูดของเย่ซือเฉิน หัวใจที่แขวนอยู่บนเส้นด้ายด้วยความหวาดหวั่นก็ทุเลา ไม่ว่าอย่างไร ในเมื่อเกิดเรื่องติดต่อกันเป็นทอดๆแบบนี้ ซึ่งล้วนมีหลักฐานหนักแน่น มันจึงทำให้เธออธิบายไม่ถูก
เย่ซือเฉินเชื่อก็เพียงพอแล้ว
“ตอนนี้เรื่องมันรุนแรงขึ้นกว่าเดิม ต้องหาวิธีแก้ไขให้ได้”ท่านปู่ถังหรี่ตาขึ้น“หากปล่อยให้เขาก่อเรื่องอย่างนี้ต่อ ไม่รู้ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร”
“ยังมีอะไรให้เขาก่อเรื่องอีก สองข่าวที่เขาเปิดเผยก็ทำให้แตกตื่นเกินพอแล้ว เขาบอกว่าฉิงฉิงแต่งงานกับเขา บอกว่าเด็กๆเป็นลูกของเขา ฉันไม่เชื่อว่าเขาจะเผยข่าวที่น่าตกใจกว่านี้ได้อีก”ท่านย่าถังสบถหนึ่ง “เขาอยากก่อเรื่อง แต่เขาก็ต้องมีเรื่องให้สร้างความวุ่นวายถึงจะได้”
“เขาคงทำอะไรเกินไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว แต่แค่สองข่าวนี้ หากไม่จัดการเร็วๆ ปล่อยให้แผ่ขยายต่อเนื่อง เรื่องก็จะยิ่งบานปลายหนักขึ้นแน่”ท่านปู่ถังก็รีบเสริมอีกหนึ่งประโยค“เมื่อกี้ผมอ่านคอมเมนต์ในโซเชียลแล้ว สถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยกับพวกเราเลย”
“คอมเมนต์ว่าไง ฉันขอดูหน่อย”ท่านย่าถังคว้าแว่นสายตายาวและมือถือของท่านปู่ถังมาดูเอง ตอนนี้ท่านรอให้คนอื่นบอกท่านไม่ไหวแล้ว
ตอนนี้มีข้อคิดเห็นถล่มทลาย หลั่งไหลมาเป็นเทน้ำเทท่า มีเยอะกว่าเรื่องข่าวของถังจื่อโม่เมื่อวานเสียอีก
เดิมทีทุกคนก็อยากรู้เรื่องคุณหนูใหญ่ตระกูลถังมากอยู่แล้ว ทว่าตระกูลถังเก็บความลับได้ดี คุณหนูถังคนนี้ก็ลี้ลับมาโดยตลอด ดังนั้นทุกคนจึงเคยได้ยินแต่เรื่อง ‘ผลงานงานที่น่าทึ่ง’ ส่วนเรื่องอื่นนั้นก็ไม่รู้อะไรเลยสักนิด
สำหรับรูปถ่ายคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง สื่อถ่ายเก็บได้เฉพาะตอนที่ตระกูลถังจัดงานเลี้ยงต้อนรับครั้งแรก นอกนั้นก็ไม่มีรูปถ่ายอีกเลย
ตอนนี้เกิดข่าวใหญ่เช่นนี้ แถมยังเป็นที่สนใจของประชาชน ชาวโซเชียลต่างตั้งหน้าตั้งตารอคอยรายละเอียดแทบจะบ้าคลั่งอยู่แล้ว
“คุณหนูใหญ่ตระกูลถังแต่งงานแล้วหรือ นึกไม่ถึงเลย”
“บนทะเบียนสมรสเขียนว่าห้าปีก่อน ซึ่งจดที่ประเทศM ตอนนั้นอายุคุณหนูใหญ่ตระกูลถังยังไม่ถึงยี่สิบปีเลย ไม่คิดว่าคุณหนูถังจะแต่งงานเร็วอย่างนี้”
“ต้องท้องก่อนแต่งแน่ แต่งเพราะมีลูก คุณเห็นข่าวต่อจากนี้ไหม ตรงผลตรวจดีเอ็นเอชี้ว่าอายุเด็กใกล้จะถึงห้าขวบแล้ว เรื่องนี้ยังชัดเจนไม่พอเหรอ?”
“ใช่ ต้องเป็นแบบนี้แน่ คิดไม่ถึงว่าคุณหนูถังจะเป็นคนแบบนี้……”
“แปลกตรงไหน สมัยนี้ท้องก่อนแต่งมีถมเถ มันไม่ใช่เรื่องอะไรเลย เขาแต่งงานกันแล้วยิ่งไม่ใช่ปัญหา”มีคนออกมาวิเคราะห์อย่างเป็นกลาง
“ใช่ เขาแต่งงานกันแล้ว ท้องก่อนแต่งก็ไม่เห็นเป็นไรเลย แต่ฉันอยากรู้มากเลยว่าสามีของคุณหนูใหญ่ถังคือใคร ถังไป๋เชียน เหมือนไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน เป็นเศรษฐีปิดทองหลังพระหรือเปล่า?”
“คุณหนูใหญ่ถังต้องแต่งงานกับคนรวยอย่างเดียวเหรอ?ไม่แน่ว่าอาจจะรักใคร่ชอบพอกันตั้งแต่เด็กก็ได้?และตอนนั้นคุณหนูถังยังไม่ได้กลับบ้านตระกูลถัง ยังไม่ใช่คุณหนูใหญ่ถัง ไม่แน่ว่าถังไป๋เชียนคนนี้อาจจะเป็นคนสามัญชนทั่วไปก็ได้”
“ในเมื่อคุณหนูใหญ่ถังแต่งงานแล้ว แถมยังมีลูกแล้ว เด็กโตขนาดนี้แล้ว ทำไมที่ผ่านมาจึงไม่เปิดเผย แถมยังปิดข่าวได้สนิทมาก หากวันนี้ไม่เป็นข่าวใหญ่ พวกเราก็ไม่รู้เรื่องด้วยเลย ทำไมคุณหนูใหญ่ถังถึงคิดจะปิดบังล่ะ?!