นิสัยของ เฉิงโหรวโหรวแย่มากจริงๆ ตัวตนของ เฉิงโหรวโหรวร้ายอยู่แล้วตั้งแต่แรก ไม่เช่นนั้นก็คงไม่ทำเรื่องแบบนั้นออกได้
ลูกสาวอย่าง เฉิงโหรวโหรว ถึงแม้ว่าจะมีเลือดของหัวหน้าไหลอยู่ หัวหน้าก็ไม่อยากยอมรับ ไม่มีทางยอมรับแน่นอน!!
“ทำไมถึงไปสืบเจอเวินลั่วฉิง?” ซ่างกวนหงมองไปทางอะเหลียงจู่ๆ ก็ถามขึ้นประโยคหนึ่ง
ผู้ดูแลจ้งดึงสติกลับมา นัยน์ตาคู่หนึ่งมองไปทางอะเหลียงอย่างรวดเร็ว จริงด้วย อยู่ดีๆ ทำไมถึงไปสืบเจอเวินลั่วฉิง?
“เพราะว่าเรื่องคุณชายสามเย่ในเมื่อวานครับ” อะเหลียงพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาแล้วก็มีความรู้สึกผิด “เมื่อก่อนคุณชายสามเย่เคยเปิดงานแถลงข่าวครั้งหนึ่ง ประกาศออกมาว่าจะแต่งงานกับเวินลั่วฉิงคนเดียว นั่นเป็นเรื่องในเมื่อก่อนครับ ผมไม่ได้ติดตาม จึงไม่ทราบครับ”
“เมื่อวานเย่ซือเฉินเปิดงานแถลงข่าวว่าตัดความสัมพันธ์กับตระกูลเย่ครับ ชาวเน็ตต่างก็คอมเมนต์กันว่าเย่ซือเฉินทำแบบนี้เพื่อที่จะไม่สู่ขอเจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้ มีคอมเมนต์มากมายบอกว่าเย่ซือเฉินทำเพื่อเวินลั่วฉิง แต่เท่าที่ผมรู้ เย่ซือเฉินคือแฟนของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังครับ ดังนั้น ผมจึงไปสืบเรื่องนี้ครับ” อะเหลียงก็เพราะว่าเห็นคอมเมนต์เมื่อวาน แล้วเกิดความสงสัยในใจ จึงไปสืบ
เขาก็คิดไม่ถึงว่าจะสืบได้ผลแบบนี้
ผู้ดูแลจ้งถอนแอบถอนหายใจด้วยความเศร้าในใจ นี่เป็นเรื่องอะไรกัน?
“เวินลั่วฉิงกับเย่ซือเฉินรู้จักกันตอนไหน” แต่ว่าจู่ๆ ซ่างกวนหงก็ถามประโยคที่อะเหลียงและผู้ดูแลจ้งฟังแล้วแปลกๆ อย่างน้อยภายใต้การรับรู้ของพวกเขา ในสถานการณ์แบบนี้หัวหน้าไม่ควรถามคำถามแบบนี้
อีกอย่างผู้ดูแลจ้งคิดว่าเวลาแบบนี้จะผิดหวังมาก ถึงขั้นหมดหวัง ผู้ดูแลจ้งคิดว่าเวลาแบบนี้หัวหน้าคงไม่มีอารมณ์ไปสนใจเรื่องอื่นแล้ว
คิดไม่ถึงว่าหัวหน้าจะถามคำถามแบบนี้? หัวหน้าหมายความว่าอะไรกันแน่?
ตามความรู้จักที่เขามีต่อหัวหน้าในก่อนหน้านี้ หัวหน้าไม่มีทางถามเรื่องแบบนี้เองแน่นอน!
นอกจากว่ายังเป็นห่วงเรื่องของคุณหนูใหญ่ตระกูลอยู่!!
เป็นแบบนี้หรือเปล่า?!
ใช่ไหม?!
ทว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังไม่ใช่ลูกสาวของหัวหน้า……
“เรื่องนี้ผมก็สืบอย่างชัดเจนแล้วครับ เวินลั่วฉิงกับเย่ซือเฉินรู้จักกันเมื่อครึ่งปีก่อน เมื่อห้าปีก่อนเวินลั่วฉิงถูกตระกูลเย่ยกเลิกงานแต่ง จากนั้นก็ไปที่ประเทศM จนกระทั่งครึ่งปีก่อนจึงจะกลับมาครับ เวินลั่วฉิงกลับมาได้ไม่นานก็คบกับเย่ซือเฉิน ตอนนั้นพวกเขาจดทะเบียนสมรสด้วยกัน แต่ไม่ได้จัดงานแต่งครับ ตอนนั้นได้ข่าวว่าเป็นเพราะจะช่วยเย่ซือเฉินให้ได้รับหุ้นส่วนของบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ป หลังจากนั้นสามเดือนพวกเขาก็หย่ากัน เวินลั่วฉิงกลับไปที่ประเทศM อีกครั้งครับ เย่ซือเฉินตามไปที่ประเทศMอย่างบ้าคลั่ง ตอนนั้นถังไป๋เชียนห้ามเย่ซือเฉินไว้ ปรากฏว่าเย่ซือเฉินพังที่พักของถังไป๋เชียนไปเลยครับ……” ครั้งนี้อะเหลียงสืบอย่างละเอียดมาก ครบถ้วนมาก
“ถังไป๋เชียน?” ซ่างกวนหงได้ยินชื่อของถังไป๋เชียนแล้ว นัยน์ตาก็เปล่งประกายขึ้น
“ครับ คือถังไป๋เชียนครับ คือถังไป๋เชียนที่ออกข่าววันนี้ครับ ถังไป๋เชียนที่จดทะเบียนสมรสกับคุณหนูใหญ่ตระกูลถังที่ประเทศMครับ” อะเหลียงตะลึงงันไปที จากนั้นก็รีบดึงสติกลับมา แล้วรีบอธิบายต่อ อะเหลียงคิดไปคิดมา พูดเสริมอีกประโยคหนึ่งว่า “ถังไป๋เชียนคือรุ่นพี่ของเวินลั่วฉิงครับ ตลอดห้าปีที่เวินลั่วฉิงอยู่ประเทศMล้วนทำงานอยู่ข้างกายของถังไป๋เชียนครับ”
“คุณหนูใหญ่ตระกูลถัง และก็คือเวินลั่วฉิง เชื่อใจถังไป๋เชียนมากใช่ไหม?” ผู้ดูแลจ้งนึกถึงการวิเคราะห์ของหัวหน้าในก่อนหน้านี้ ก็อดถามไปประโยคหนึ่งไม่ได้
“ครับ เวินลั่วฉิงยังไม่กลับบ้านเวินก็รู้จักกับถังไป๋เชียนแล้วครับ ถังไป๋เชียนช่วยเหลือเวินลั่วฉิงมาโดยตลอด และสอนเวินลั่วฉองมากมาย เวินลั่วฉิงไปถึงเมืองMก็มีเรื่องราวมากมายที่ถังไป๋เชียนจัดการให้ เวินลั่วฉิงน่าจะเห็นถังไป๋เชียนเป็นเหมือนคนในครอบครัวครับ” ครั้งนี้อะเหลียงสืบได้ครบถ้วนมาก แม้กระทั่งเรื่องราวก่อนที่เวินลั่วฉิงจะกลับบ้านเวินก็สืบเจอหมดแล้ว
“หากเป็นแบบนี้จริงๆ สิ่งที่หัวหน้าพูดก่อนหน้านี้ก็ยิ่งมีความเป็นไปได้แล้ว” ผู้ดูแลจ้งพูดพึมพำไปประโยคหนึ่ง
“หืม?” อะเหลียงมองไปทางผู้ดูแลจ้งด้วยความแปลกใจ เพราะไม่รู้เรื่องก่อนหน้านี้ อะเหลียงไม่เข้าใจจริงๆ ว่าสิ่งที่ผู้ดูแลจ้งพูดหมายความว่าอะไร
“ก่อนหน้านี้หัวหน้าบอกว่าใบทะเบียนสมรสของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังกับถังไป๋เขียน มีความเป็นไปได้ที่ถังไป๋เชียนจะแอบทำขึ้นโดยที่คุณหนูใหญ่ตระกูลถังไม่รู้เรื่อง ตอนนี้พอนายพูดแบบนี้ ฉันรู้สึกว่ายิ่งมีความเป็นไปได้แล้ว” ผู้ดูแลจ้งรีบอธิบายตอบ
อะเหลียงตะลึงงันไปเล็กน้อย นัยน์ตาคู่หนึ่งหันไปมองหัวหน้าของตัวเองอย่างรวดเร็ว คิดไม่ถึงว่าหัวหน้าของตัวเองจะวิเคราะห์ออกมาได้?
หากไม่ใช่เพราะหัวหน้าสนใจเรื่องของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังมากๆ หากไม่ใช่เพราะหัวหน้าเป็นห่วงเรื่องของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังมากเกินไป จะวิเคราะห์เรื่องแบบนี้ออกมาได้ยังไง?
ยังวิเคราะห์ได้ละเอียดขนาดนี้ ตรงเป๊ะขนาดนี้?
“นายรู้ไหมว่าทำไมถังไป๋เชียนถึงทำแบบนี้?” ผู้ดูแลจ้งอดไม่ได้ถามไปอีกประโยค หลักๆ เป็นเพราะหัวหน้ามีความสนใจในหัวข้อการคุยนี้ ขอแค่เรื่องที่หัวหน้าสนใจ ผู้ดูแลจ้งรู้สึกว่าสถานการณ์ไม่ได้แย่เหมือนที่เขาคิด
“ถังไป๋เชียนชอบเวินลั่วฉิงมาโดยตลอด อยากจะเก็บเวินลั่วฉิงไว้ข้างกายครับ เพื่อที่จะเก็บเวินลั่วฉิงไว้ข้างกาย เขาถึงขั้นกีดกันไม่ให้ถังหลินพบกับเวินลั่วฉิง ต่อมาหลังจากที่เวินลั่วฉิงหย่ากับเย่ซือเฉินแล้วกลับไปที่ประเทศM ถังไป๋เชียนถึงขั้นยอมทิ้งที่พักของตัวเองเพื่อไม่ให้เย่ซือเฉินหาเวินลั่วฉิงเจอ น่าจะเป็นเพราะถูกกระตุ้นจากเรื่องของเย่ซือเฉินเมื่อวาน น่าจะเป็นเพราะกลัวว่าเย่ซือเฉินกับเวินลั่วฉิงจะคบกัน ดังนั้นถึงได้ออกท่าไม้ตายมั้งครับ” อะเหลียงตอบเร็วมาก พูดครบถ้วนมากเช่นกัน
“ชอบ? เรื่องพวกนั้นที่เขาทำกับคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง เรียกว่าศัตรูค่อยว่าไปอย่าง มีการชอบแบบเขาด้วยเหรอ? นายลองดูว่าบนอินเทอร์เน็ตเขาคอมเมนต์ด่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังยังไงบ้าง? เขากำลังทำร้ายคุณหนูใหญ่ตระกูลถังอยู่ชัดๆ” ผู้ดูแลจ้งตอบกลับอย่างเย็นชา การชอบแบบนี้ผู้ดูแลจ้งไม่เห็นด้วยเลย
อะเหลียงตะลึงงันไปเล็กน้อย กะพริบตาเล็กน้อย มีความอึ้งเล็กน้อย ตอนแรกเขาจะมาสารผิดกับหัวหน้า ขอรับโทษกับหัวหน้า แต่หัวข้อการคุยในตอนนี้ห่างกันไกลมากแล้ว
แม้กระทั่งผู้ดูแลจ้งก็พร่ำบ่นแล้ว!!
“หัวหน้า เมื่อกี้หัวหน้าให้ผมไปสืบเรื่องถังไป๋เชียน ตอนนี้ยังต้องสืบอีกไหมครับ?” ผู้ดูแลจ้งคิดไปคิดมา จากนั้นก็มองไปทางซ่างกวนหง ถามไปประโยคหนึ่ง
ตอนที่ผู้ดูแลจ้งถามประโยคนี้ หัวใจดวงหนึ่งกระตุกขึ้น เขากลัวจริงๆ ว่าหัวหน้าจะบอกว่าไม่ต้องสืบแล้ว เขากลัวจริงๆว่าหัวหน้าจะกลับไปเหมือนเมื่อก่อนที่ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นแล้ว อะไรก็ไม่เอา อยู่ในสภาพที่ไม่กังวลอะไรเลย
“สืบ ทำไมไม่สืบ” ทว่าตอนที่ซ่างกวนหงมองไปทางผู้ดูแลจ้ง กลับให้นัยน์ตาที่แปลกกับผู้ดูแลจ้ง ราวกับว่าเหมือนสิ่งที่ผู้ดูแลจ้งถามเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด
“ครับ ผมไปสืบเดี๋ยวนี้เลยครับ รอให้สืบชัดเจนแล้ว ผมจะให้ยัยถังไป๋เชียนนี่ได้เจอดีแน่นอน!!” ผู้ดูแลจ้งรู้สึกสมองสั่นไปที ดวงตาคู่หนึ่งประกายขึ้น หัวหน้าบอกว่าให้ไปสืบเรื่องของถังไป๋เชียนต่อ แสดงว่าหัวหน้ายังเป็นห่วงเรื่องของคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง!!