ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – บทที่ 1307 ไม่ได้หึง จริงๆ(2)

บทที่ 1307 ไม่ได้หึง จริงๆ(2)

ถังหลินยังรู้สึกว่ามีโจ๋วอันหนานอยู่ด้วยความเป็นไปได้ที่หยวนหยูจะฟื้นขึ้นมานั้นมีอยู่มาก

“ถึงแม้ว่าหยวนหยูลดประมาณยาลง แต่เป็นเวลานานก็ตายได้อยู่แล้วนะคะ เพราะฉะนั้นวิธีที่หยวนหยูลดปริมาณยาลงก็ไม่ได้มีความหมายมากมายนัก นอกเสียจากเธอรู้ว่าจะมีคนมาช่วยเธอได้ทันเวลา” เวินลั่วฉิงมองไปยังถังหลิน แล้วจู่ๆก็โพล่งประโยคนี้ออกมา

ถังหลินตะลึงงันไปเล็กน้อย หลังจากนั้นก็หัวเราะออกมาเบาๆ : “หยวนหยูคงจะรู้ว่าฉันอยู่ที่โรงพยาบาล รู้ว่าฉันจะบอกโจ๋วชิงทันที รู้ว่าโจ๋วชิงจะพาตัวโจ๋วอันหนานมาได้ในเวลาที่เร็วที่สุด หยวนหยูเองก็เป็นหมอ หยวนหยูยิ่งชัดเจนมากในความสามารถของโจ๋วอันหนาน ดังนั้นหยวนหยูคงจะเดิมพันไว้ว่าโจ๋วอันหนานจะมาช่วยเธอ”

เวินลั่วฉิงได้ยินการวิเคราะห์ของถังหลินแล้ว ก็ไม่ได้เอ่ยพูดอะไรออกมาอีก เพียงแต่คิ้วของเธอนั้นกลับขมวดเข้าหากันเล็กน้อย เป็นแบบนี้จริงๆอย่างนั้นหรือ?

เธอรู้สึกว่าเรื่องราวดูเหมือนจะไม่ได้ง่ายขนาดนั้น

แต่การวิเคราะห์ของถังหลินทั้งหมดนี้จะว่าไปแล้วก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ดูมีเหตุมีผลด้วยเช่นกัน

ตอนนี้เพียงแค่รอให้การผ่าตัดสิ้นสุดลง ดูสถานการณ์ของหยวนหยูแล้วค่อยว่ากันอีกที

“ลูกพี่ การผ่าตัดเสร็จสิ้นแล้ว” พอดีเวลานี้ อะหย่งก็รีบเข้ามายังห้องกล้องวงจรปิดอย่างรวดเร็ว รายงานสถานการณ์ทางด้านนอกกับถังหลิน

“ไปดูกันเถอะ” ถังหลินลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แล้วเดินออกไปทางด้านนอกห้องกล้องวงจรปิด

เวินลั่วฉิงกับเย่ซือเฉินเองก็ตามไปด้วยเช่นกัน

ตอนที่ทั้งสามคนเดินมาถึงตรงด้านนอกห้องผ่าตัด โจ๋วอันหนานเดินออกมาจากห้องผ่าตัดพอดี

“อันหนาน หยวนหยูสถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?” พอถังหลินเห็นโจ๋วอันหนานก็อดที่จะเอ่ยถามขึ้นมาอย่างรวดเร็วไม่ได้

“ช่วยชีวิตได้แล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่ฟื้น” โจ๋วอันหนานดูแล้วจะเพลียๆอยู่บ้าง น้ำเสียงไร้เรี่ยวแรง ทำการผ่าตัดมาหลายชั่วโมงจะต้องเหนื่อยมากอย่างแน่นอน

“ถ้าอย่างนั้นเธอจะฟื้นเมื่อไหร่?” ถังหลินได้ยินว่าช่วยชีวิตเธอได้แล้ว ก็แอบถอนหายใจ

“เรื่องนี้ฉันเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ เป็นเพราะคนเราแตกต่างกัน อาจจะฟื้นขึ้นมาได้เร็ว และอาจจะต้องใช้เวลาอีกสองสามวัน หรือแม้กระทั่งอาจจะ……” ใบหน้าของโจ๋วอันหนานแสดงถึงความจำใจออกมา

“หมายความว่าอะไร?” เดิมทีถังหลินที่รู้สึกโล่งใจแล้วนั้นก็รู้สึกขึ้นมาอีกครั้ง หมายความว่าอะไร? ช่วยชีวิตคนมาได้แล้ว แต่อาจจะไม่ฟื้นขึ้นมาตลอดไปเลยอย่างนั้นหรือ?

ถ้าหากหยวนหยูไม่สามารถฟื้นขึ้นมาได้ เบาะแสทั้งหมดของพวกเขาก็ขาดช่วงไปแล้ว คนที่รู้เรื่องราวเมื่อวานนี้ทั้งหมดไม่สามารถเอ่ยพูดได้ ถ้าจะคิดที่จะสืบหาคนนั้นที่ซ่อนอยู่ในเบื้องหลังก็จะยิ่งยากขึ้นแล้ว

“คุณหมายถึงว่าเธออาจจะไม่สามารถฟื้นขึ้นมาได้ตลอดไป อีกทั้งนี่ก็เป็นสถานการณ์ปกติด้วย”เวินลั่วฉิงที่ยืนอยู่ข้างๆถังหลินจู่ๆก็เอ่ยถามขึ้นมา ถ้าหากเธอได้ยินไม่ผิด ความจริงแล้วโจ๋วอันหนานต้องการจะสื่อออกมาก็คือความหมายสุดท้ายนี้ หยวนหยูอาจจะไม่สามารถฟื้นขึ้นมาได้ตลอดไป

ดวงตาของโจ๋วอันหนานมองไปยังเวินลั่วฉิงแวบหนึ่ง แววตานั้นเย็นชา เย็นชามาก เย็นชาเสียจนเหมือนกับเธอกำลังมองอากาศอย่างไรอย่างนั้น : “คุณจะเข้าใจแบบนี้ก็ได้”

น้ำเสียงของโจ๋วอันหนานก็เย็นชามากด้วยเช่นกัน เย็นชามากเสียจนไม่มีอารมณ์ความรู้สึกใดๆอยู่เลย

“ถ้าอย่างนั้นฉันจะเข้าใจว่า สิ่งที่คุณอยากจะบอกพวกเราก็คือเป็นไปได้มากที่หยวนหยูจะไม่ฟื้นขึ้นมาตลอดไปเลยแบบนี้ใช่ไหมคะ?” สำหรับที่โจ๋วอันหนานเย็นชาแบบนั้น มีทีท่าเห็นเธอไม่มีตัวตนอยู่แบบนั้น เวินลั่วฉิงไม่ได้รู้สึกโมโห เพียงแต่เวินลั่วฉิงต้องยิ่งพูดออกมาอย่างตรงไปตรงมา และยิ่งชัดเจนมากขึ้น

“คุณอยากจะให้ฉันตอบคุณอย่างไร?” โจ๋วอันหนานมองเวินลั่วฉิง แล้วจู่ๆก็หัวเราะออกมา เพียงแต่เสียงนั้นยิ่งเย็นชามากขึ้น

“คุณเองก็คงจะรู้เรื่องราวเหล่านั้นที่เกิดขึ้นเมื่อเช้า ตอนนี้เบาะแสสำคัญอยู่ที่ตัวของหยวนหยู พวกเราเองก็ร้อนใจเหมือนกัน คุณเพิ่งจะทำการผ่าตัดเสร็จ พวกเราไม่ควรจะรบกวนคุณ” ถึงแม้ว่าถังหลินจะเคยชินกับท่าทางที่เย็นชาและเย่อหยิ่งเป็นปกติของโจ๋วอันหนาน แต่เวลานี้ท่าทางที่โจ๋วอันหนานมีต่อเวินลั่วฉิงนั้น ในใจก็รู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง

คำพูดนี้ของถังหลินฟังแล้วดูมีความเกรงใจมาก แต่กลับซ่อนความหมายที่เขาต้องการแสดงออกมาอย่างชัดเจน

“ฉันจะพยายามคิดหาวิธีช่วยเธอให้เต็มที่” โจ๋วอันหนานหันตัวไปเล็กน้อยแล้วมองไปยังห้องผ่าตัด หลังจากนั้นก็สูดหายใจเข้าลึกๆ : “เพื่อโจ๋วชิง ฉันเองก็จะต้องพยายามทำให้ดีที่สุดเหมือนกัน ก่อนหน้านี้โจ๋วชิงแทบจะพังทลายอยู่แล้ว”

“คุณรู้เรื่องของพวกเขา?” ถังหลินเอ่ยถามไปตามคำพูดของโจ๋วอันหนาน

“รู้ค่ะ ปีนั้นโจ๋วชิงเคยพาเธอไปที่ตระกูลโจ๋ว ฉันเคยเจอ” โจ๋วอันหนานพยักหน้าลงเบาๆด้วยสีหน้าท่าทางที่เป็นธรรมชาติมาก

“แล้วคุณรู้หรือเปล่าว่าตอนนั้นทำไมพวกเขาถึงแยกกัน?” ถังหลินเอ่ยถามขึ้นดูเหมือนจะไม่ได้ตั้งใจ แต่ความจริงแล้วกลับมีเจตนา

“เรื่องนี้ฉันก็ไม่ชัดเจนนัก โจ๋วชิงไม่ได้พูดอะไรเลย ฉันไม่รู้” โจ๋วอันหนานส่ายหน้า สีหน้าท่าทางที่แสดงออกมาทางใบหน้านั้นมีไม่มากนัก โจ๋วอันหนานเป็นคนเย็นชามาตลอด ปฏิกิริยาแบบนี้ก็ถือว่าเป็นปกติเช่นกัน

ถังหลินไม่ได้เอ่ยพูดอะไรอีก เกี่ยวกับเรื่องนั้นเขาสืบอะไรไม่ได้เลย โจ๋วอันหนานไม่รู้ก็นับว่าไม่แปลก

“สถานการณ์ของหยวนหยูในตอนนี้ ความสามารถอย่างคุณ มีความมั่นใจไหม……” ถังหลินคิดแล้วนั้น ก็ยังคงอดที่จะเอ่ยถามออกมาไม่ได้

“ไม่ค่ะ ที่ฉันสามารถทำได้ฉันก็จะพยายาม” ครั้งนี้โจ๋วอันหนานตอบอย่างตรงไปตรงมามาก แม้กระทั่งเธอตัดบทถังหลินไปเลย ไม่ให้ถังหลินทันได้พูดจบ

“โอเค ผมรู้แล้วล่ะ” ถังหลินรู้สึกอึ้งไป ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ไม่เอ่ยถามให้มากความอยู่แล้ว

ถังหลินไม่ได้ถามอีก จากนิสัยอย่างโจ๋วอันหนานแล้วก็จะไม่ตอบอะไรมากอีกด้วย เธอก้าวเดินไปทางด้านหน้า

เพียงแต่ตอนที่ผ่านหน้าเย่ซือเฉินนั้น ดวงตาของเธอหันมามองยังเย่ซือเฉินแวบหนึ่ง

เวลานี้เวินลั่วฉิงยืนอยู่ข้างๆเย่ซือเฉิน ตอนที่โจ๋วอันหนานมองเย่ซือเฉินนั้นเธอมองเห็นแล้ว ถึงแม้โจ๋วอันหนานมองเย่ซือเฉินนั้นจะดูเป็นธรรมชาติมาก แววตาก็ปกติด้วยเช่นกัน ไม่ได้มีความผิดปกติอะไรมากมาย และเวินลั่วฉิงก็มองความผิดปกติอะไรไม่ออกด้วยเช่นกัน

แต่ไม่รู้ทำไม เวินลั่วฉิงมักจะรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไรนัก

ทำไมถึงรู้สึกไม่สบายใจกัน? แววตาของโจ๋วอันหนานเมื่อครู่ก็ไม่ได้มีแรงโจมตีใดๆ แม้กระทั่งมีความอ่อนโยนมากด้วย ทำไมเธอถึงได้รู้สึกไม่สบายใจ?

ใช่ เป็นความอ่อนโยน อ่อนโยนเกินไป โจ๋วอันหนานเป็นถึงผู้หญิงที่แข็งแกร่ง ปกติแล้วไม่ว่าโจ๋วอันหนานจะปฏิบัติกับใครก็ล้วนแต่จะมีท่าทางที่ดูสูงส่ง และโดยปกติแล้วไม่ว่าโจ๋วอันหนานจะมองใครก็จะมีสายตาที่เย่อหยิ่งและเย็นชา แน่นอนว่าคนที่สามารถทำให้คุณหนูใหญ่โจ๋วมองได้ตรงๆนั้นก็มีไม่มากอยู่แล้ว

แต่เมื่อครู่ตอนที่โจ๋วอันหนานมองเย่ซือเฉิน แววตานั้นช่างอ่อนโยนเหลือเกิน อ่อนโยนเสียจนไม่เหมือนโจ๋วอันหนาน หลังจากที่โจ๋วอันหนานมาแล้ว ตอนที่มองถังหลินนั้นไม่ใช่แววตาที่อ่อนโยนแบบนี้แน่นอน แม้กระทั่งตอนที่โจ๋วอันหนานมองโจ๋วชิงก็ไม่ใช่แววตาที่อ่อนโยนด้วยเช่นกัน

แต่ที่โจ๋วอันหนานมองเย่ซือเฉินนั้นไม่เหมือนกัน ดังนั้นสำหรับโจ๋วอันหนาน เย่ซือเฉินนั้นแตกต่างออกไป

ดวงตาของเวินลั่วฉิงกระพริบลงอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็มองไปยังโจ๋วอันหนาน แต่เวลานี้โจ๋วอันหนานเดินเลี้ยวไปทางอีกมุมหนึ่งพอดี เวินลั่วฉิงจึงเห็นแค่เพียงด้านหลังสุดท้ายของเธอเพียงเท่านั้น

ดวงตาของเวินลั่วฉิงหันกลับมา จากนั้นก็มองไปยังเย่ซือเฉิน เธอเองก็มองตรงๆขนาดนั้น มองเย่ซือเฉินอย่างไม่กะพริบตา

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Status: Ongoing

มองที่เด็กๆ ที่มีหน้าตาเหมือนกับตัวเอง สมองเขาว่างเปล่า ชั่วคราว”แม่เราก็คือภรรยาของคุณนะคะ ทำไม ภรรยาของ คุณมีลูกสองคน คุณไม่รู้หรอ”เด็กๆ จ้องมองเขา เตือนเขา อย่าง”มีน้ำใจ” เขาชะงักไปสองวินาที สีหน้าเปลี่ยนหลาย แบบ”ที่รัก อยู่ไหน” วินาทีต่อไป เขาโทรหาเวินลั่วฉิง “ได้ รอ ฉันสักครู่ ฉันจะไปที่ที่อยู่ทันที จะมีSurpriseให้นะ”ดี ดีจัง เขาอยากจะดูว่าเธอยังมีเรื่องอะไรที่ปิดบังเขาไว้ จะคิดบัญชี อย่างจริงจังแล้วนะ”นี่มันร้ายใจเกินไปมั่ง”เด็กสองคนนี้ตะลึง Surpriseนี่มันใหญ่จัง ดูเหมือนว่า คนนั้นจะซวยค่ะ! ! !

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท