ดวงตาของเวินลั่วฉิงหันกลับมา แล้วมองไปยังเย่ซือเฉิน มองเย่ซือเฉินโดยไม่กะพริบตาอยู่แบบนั้น
“ถ้าหากหยวนหยูไม่สามารถฟื้นขึ้นมาได้ เบาะแสะทุกอย่างก็คงจะขาดตอนไปทั้งหมด อยากจะหาตัวคนนั้นที่อยู่เบื้องหลังก็ยิ่งยากขึ้นไปอีก คงต้องยอมรับว่าคนๆนั้นหลบซ่อนได้ลึกมากเสียจริงๆ” ถังหลินเห็นโจ๋วอันหนานออกไปแล้วก็แอบถอนหายใจออกมา เดิมทีแล้วเป็นเพราะโจ๋วอันหนานเป็นคนผ่าตัด เขาจึงมีความหวังไว้มาก แต่เมื่อครู่ได้ยินคำพูดของโจ๋วอันหนานแล้ว เขารู้ว่าจริงๆแล้วมีความหวังเพียงน้อยนิดเท่านั้น
“เป็นครั้งแรกที่ฉันเจอคนแบบนี้ ซ่อนอยู่เบื้องหลัง แต่กลับสามารถจัดการทุกอย่างได้อย่างไม่มีข้อบกพร่อง มีฝีมือและโหดร้ายมากอีกด้วย สามคนเมื่อวานนี้ตายหนึ่ง ไม่ได้สติสอง สถานการณ์แบบนี้จะตรวจสอบได้อย่างไรกัน?” ถังหลินไม่เคยยอมแพ้มาก่อนเลย แต่เวลานี้เขาอดที่จะบ่นออกมาไม่ได้ หลักๆแล้วเรื่องนี้ทำให้รู้สึกกลัดกลุ้มมากเกินไปแล้วจริงๆ
“ฉิงฉิง ตอนนี้เธอยังมีวิธีอะไรอีกไหม? หรือมีความคิดอะไรอีกหรือเปล่า?” ตอนนี้ด้านความสามารถ ถังหลินไม่มีวิธีอื่นแล้ว เขาทำได้เพียงแต่ฝากความหวังเอาไว้กับเวินลั่วฉิง
ดูเหมือนกับเวินลั่วฉิงจะไม่ได้ยินคำพูดของถังหลิน ดวงตาคู่นั้นยังคงจ้องมองไปยังเย่ซือเฉินอยู่เช่นเดิม
“เป็นอะไรไปครับ?” เย่ซือเฉินถูกเธอมองแบบนี้ ในใจก็รู้สึกขนลุกขึ้นมา
“ใช่ ทำไมเธอมองซือเฉินขนาดนั้น ฉันรู้สึกกลัวขึ้นมาแล้วนะ ซือเฉินทำอะไรผิดกับเธอใช่ไหม?” ถังหลินเห็นสายตาที่เวินลั่วฉิงมองเย่ซือเฉินแล้วก็รู้สึกแปลกๆมากเป็นพิเศษ
“ความสัมพันธ์ของคุณกับโจ๋วอันหนานดีมากเลยนะคะ” มุมปากของเวินลั่วฉิงขยับเล็กน้อย คำพูดเอ่ยขึ้นเบาๆ ฟังดูไม่ตึงเครียด แต่กลับแฝงความหมายเอาไว้อย่างชัดเจน
เธอจำได้ว่าตอนนั้นที่เธอบอกเย่ซือเฉินว่าเธอไม่สามารถมีลูกได้ เย่ซือเฉินก็เคยไปสอบถามกับโจ๋วอันหนานว่าจะรักษาได้อย่างไร
เรื่องแบบนี้เดิมทีแล้วควรจะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่คิดไม่ถึงว่าเย่ซือเฉินจะไปถามโจ๋วอันหนาน นั่นก็แสดงว่าเย่ซือเฉินเชื่อใจโจ๋วอันหนานเป็นอย่างมาก และก็แสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ของเย่ซือเฉินกับโจ๋วอันหนานนั้นดีต่อกันมากด้วยเช่นกัน
“ทำไมจู่ๆก็พูดแบบนี้ล่ะ?” เย่ซือเฉินรู้สึกงุนงง ที่อยู่ดีๆก็โพล่งประโยคแบบนี้ออกมา ทำให้ในใจเขานั้นรู้สึกไม่แน่ใจ
ถังหลินได้ยินคำพูดของเวินลั่วฉิงแล้วก็ยิ่งรู้สึกอึ้งไป เกิดอะไรขึ้น? ตอนนี้สถานการณ์คืออะไรกัน?
คำพูดนี้ของฉิงฉิงหมายความว่าอะไร?
ความสัมพันธ์ของพี่สามกับโจ๋วอันหนาน?
ความสัมพันธ์ของพี่สามกับโจ๋วอันหนานไม่เลวอยู่จริงๆ แต่คงจะไม่มีปัญหาอื่นสิ?
“คุณก็พูดมาสิคะว่าความสัมพันธ์ของคุณกับโจ๋วอันหนานเป็นอย่างไรบ้าง?” ริมฝีปากของเวินลั่วฉิงเบะลงเล็กน้อย เย่ซือเฉินไม่ได้ตอบคำถามเธอตรงๆ แต่เบี่ยงประเด็นไปอย่างแนบเนียน
ปฏิกิริยาแบบนี้ของเย่ซือเฉินดูแปลกๆอยู่บ้าง
“โตมาด้วยกัน ความสัมพันธ์ก็ไม่เลวนี่ครับ” เย่ซือเฉินไม่เข้าใจถึงเจตนาของเวินลั่วฉิง ดังนั้นคำตอบนี้จึงดูเป็นทางการอยู่บ้าง
“เธอชอบคุณ คุณรู้หรือเปล่า?” เวินลั่วฉิงไม่ได้ปิดบัง ถามออกมาตรงๆ แน่นอนว่าเธอเชื่อเย่ซือเฉินอยู่แล้ว คนที่เย่ซือเฉินชอบนั้นคือเธอ ไม่ใช่โจ๋วอันหนาน
แต่โจ๋วอันหนานชอบเย่ซือเฉิน เรื่องนี้เย่ซือเฉินจะรู้หรือเปล่า?
เย่ซือเฉินกับโจ๋วอันหนานนับว่าเติบโตมาด้วยกัน หลายปีขนาดนี้ระหว่างทั้งสองคนก็ไม่เคยเกิดเรื่องอะไรขึ้นด้วยเช่นกัน
ตอนนี้เวินลั่วฉิงแน่ใจว่าโจ๋วอันหนานชอบเย่ซือเฉิน เย่ซือเฉินแสร้งทำเป็นไม่รู้อย่างนั้นหรือ?
หรือว่าเย่ซือเฉินจะไม่เคยรู้เลย?
ระหว่างสองคนนี้ยังมีความแตกต่างกันอยู่
คิ้วของเย่ซือเฉินขมวดเข้าหากัน เขาเม้มปาก ไม่ได้ตอบคำถามของเวินลั่วฉิง
“เพราะฉะนั้น คุณรู้สินะคะ” เวินลั่วฉิงเห็นปฏิกิริยาของเย่ซือเฉินก็มีคำตอบแล้ว เย่ซือเฉินไม่ได้ปฏิเสธออกมาตรงๆ นั่นก็แสดงว่าเย่ซือเฉินรู้ว่าโจ๋วอันหนานชอบเขา
“ช่วงเร็วๆนี้ผมถึงได้รู้สึกถึงปัญหานี้นี่แหล่ะ” เย่ซือเฉินเงยหน้าขึ้นมองเวินลั่วฉิง สีหน้าท่าทางของเขานิ่งมาก เมื่อก่อนเขาไม่เคยนึกถึงปัญหานี้จริงๆ มาช่วงเร็วๆนี้เขาถึงได้รู้เข้า
“โจ๋วอันหนานอายุสามสิบสองแล้วใช่ไหม? ยังไม่แต่งงาน อีกทั้งแม้แต่แฟนก็ยังไม่มีด้วย นี่ล้วนแต่เป็นเพราะคุณ” ตอนที่เวินลั่วฉิงเอ่ยพูดขึ้นมานั้น น้ำเสียงมีความมั่นใจมาก ทุกคนล้วนแต่คิดว่าเพื่ออาชีพโจ๋วอันหนานถึงไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้ แต่ตอนนี้ดูแล้วเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่แบบนี้
ผู้หญิงคนหนึ่ง ต่อให้หน้าที่การงานแข็งแกร่งเพียงใด ก็รอคอยความรักอยู่เช่นกัน ไม่แต่งงานก็ว่าแล้ว แต่อายุสามสิบกว่าแล้ว ไม่เคยคบผู้ชายซักคนเลยนี่สิ เรื่องนี้ดูผิดปกติแล้วล่ะ
เมื่อก่อนเวินลั่วฉิงไม่ได้สังเกตเรื่องพวกนี้เลย เวินลั่วฉิงกับโจ๋วอันหนานไม่ได้สนิทสนมกันมากนัก ถึงแม้หลังจากที่เธอกลับไปยังตระกูลถัง เธอกับโจ๋วอันหนานอย่างมากสุดก็เอ่ยพูดกันสองสามประโยคด้วยความเกรงใจเพียงเท่านั้น
เมื่อก่อนเวินลั่วฉิงคิดว่าโจ๋วอันหนานมีนิสัยเย็นชา กับใครก็จะเป็นแบบนี้ แต่ตอนนี้คิดดูแล้ว โจ๋วอันหนานดูเย็นชากับเธอมากที่สุด แต่เมื่อก่อนเธอไม่ได้คิดมาก อีกทั้งโจ๋วอันหนานก็ปกปิดเอาไว้เป็นอย่างดีอีกด้วย ดังนั้นเธอจึงไม่ทันได้สังเกต
ถังหลินตะลึงไปเล็กน้อย เมื่อก่อนเขาไม่เคยสังเกตเรื่องพวกนี้เลย และยิ่งเป็นไปไม่ได้อีกด้วยที่จะเอาเรื่องของโจ๋วอันหนานกับเย่ซือเฉินมาเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน แต่ตอนนี้ฉิงฉิงพูดมาแบบนี้?
เขาไม่เคยสงสัยในการคาดการณ์ของฉิงฉิงมาตั้งแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว?
แต่ นี่จะเป็นไปได้อย่างไร? เป็นไปได้อย่างไรกัน?!
“ทำไมครับ? นี่คุณหึงอย่างนั้นหรือ?” เย่ซือเฉินมองเธออย่างขำๆ เธอพูดมามากมายขนาดนี้ ก็เป็นเพราะหึง?
“หึงหรือไม่หึงนั่นไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดหรอก” เวินลั่วฉิงเบะปากเล็กน้อย เธอยอมรับว่าเธอรู้สึกหึงอยู่นิดหน่อยจริงๆ ถ้าไม่เช่นนั้นตอนที่โจ๋วอันหนานมองเย่ซือเฉิน เธอก็คงจะไม่รู้สึกไม่สบายใจแบบนั้น
แต่นี่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ประเด็นสำคัญคือโจ๋วอันหนานคนนี้ต่างหาก
โจ๋งอันหนานเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งมาก เย่อหยิ่ง เย็นชา ฉลาดเหนือกว่าคนทั่วๆไป มีพรสวรรค์ตั้งแต่เด็กๆ ทุกวันนี้ประสบความสำเร็จยิ่งกว่าคนทั่วไปที่คอยตามอยู่ข้างหลังเสียอีก คนแบบนี้ไม่คิดว่าจะแอบรักเย่ซือเฉิน?
อีกทั้งคงจะแอบรักมาตั้งนานแล้วอีกด้วย นี่ไม่ใช่นิสัยของโจ๋วอันหนานเลย
โจ๋วอันหนานมีต้นทุนกับความมั่นใจในตัวเองอยู่แล้ว ในเมื่อเธอชอบเย่ซือเฉิน แล้วทำไมไม่พูดออกมา?
ตอนเด็กๆอาจจะยังไม่เข้าใจ แต่โจ๋วอันหนานอายุสามสิบกว่าแล้ว เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่เข้าใจ
ดังนั้นแล้ว เวินลั่วฉิงจึงรู้สึกว่าความรู้สึกนี้ที่โจ๋วอันหนานมีต่อเย่ซือเฉินนั้นไม่ปกติ
ความรู้สึกที่ไม่ปกติ การแอบรักมาเป็นเวลานาน ความรู้สึกที่ยาวนาน ถ้าหากคนที่แอบรักแต่งงานขึ้นมากะทันหัน โจ๋วอันหนานจะทำอย่างไร?
ไม่ทำอะไรเลย แล้วอวยพรให้อย่างนั้นหรือ?
เวินลั่วฉิงรู้สึกว่านี่ไม่สอดคล้องกับภาพลักษณ์ของโจ๋วอันหนานเลย
“หมายความว่าอะไรครับ?” เย่ซือเฉินเองก็ฟังออกถึงความหมายแฝงของเวินลั่วฉิง คิ้วของเขาจึงขมวดเข้าหากันอีกครั้ง
“ก็รู้สึกว่าไม่ค่อยเหมาะกับตรรกะเท่าไหร่ คุณกับโจ๋วอันหนานโตมาด้วยกัน คงจะเข้าใจโจ๋วอันหนานมากกว่า คุณไม่มีความคิดอะไรบ้างเลยหรือคะ?” เวินลั่วฉิงเองก็เพียงแค่คาดเดาเท่านั้น ไม่มีหลักฐาน เธอก็จะไม่ตัดสินอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้เธออยากจะฟังการวิเคราะห์ของเย่ซือเฉิน