ท่านปู่ถังพบว่าเขาคิดผิดไปแล้ว ที่ผ่านมาท่านปู่ถังเป็นคนใจกว้าง แต่ไม่มีทางยอมปล่อยให้ลูกของตัวเองโดนรังแกฟรีอย่างแน่นอน
สีหน้าของท่านปู่ถังเคร่งขรึมลง “ดังนั้นที่พวกคุณทั้งสองมาที่นี่แต่เช้าก็เพราะว่าจะมาขอหลักฐานจากพวกเรางั้นหรือ”
เมื่อท่านปู่ถังพูดถึงคำว่าขอหลักฐาน น้ำเสียงของเขาก็เย็นเฉียบลงและเจือความเยาะเย้ย ขอหลักฐาน? เรื่องราวที่โจ๋วอันหนานทำ โจ๋วชิงเป็นคนมาบอกพวกเขาเอง
คุณพ่อโจว๋คุณแม่โจว๋ไม่เชื่อคำพูดของลูกชายแท้ๆ ของตัวเองหรอกหรือ
คิดว่าโจ๋วชิงจะใส่ร้ายพี่สาวแท้ๆ ของตัวเองงั้นหรือ
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อวานโจ๋วอันหนานคิดจะฆ่าโจ๋วชิงให้ตายไปพร้อมกันด้วย โจ๋วชิงคิดจะเอาเรื่องนี้มาพูดมั่วๆ ได้อย่างไร
พอคุณพ่อโจว๋คุณแม่โจว๋ได้ยินว่าโจ๋วอันหนานจะฆ่าโจ๋วชิงกลับมีปฏิกิริยาแบบนี้น่ะหรือ
ท่านย่าถังเองก็ฟังความหมายของคนสองคนนี้ออก บวกกับความอัดอั้นใจของท่านย่าถังที่มีอยู่เดิมอยู่แล้ว แต่พยายามอดกลั้นเอาไว้เพราะไม่อยากโยนเรื่องนี้ให้เป็นความผิดของคุณพ่อโจว๋คุณแม่โจว๋และไม่อยากทำให้พวกเขาลำบากใจ
คิดไม่ถึงเลยว่าสองคนนี้จะถึงขั้นย้อนถามพวกเขาก่อน
“เรื่องนี้พวกเราไม่รู้เรื่องด้วยเลยจริงๆ แถมตอนนี้ยังติดต่อหนานหนานไม่ได้ แค่อยากจะถามเรื่องราวยังไม่มีโอกาสได้ถาม ดังนั้นพวกเราเลยอยากเจอหนานหนานจะได้ถามลูกว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่” คุณแม่โจว๋เห็นแล้วว่าท่านปู่ถังไม่พอใจ แต่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับลูกของเธอ เธอจะปล่อยไปเฉยๆ ไม่ได้
เมื่อวานตอนที่โจ๋วชิงเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟัง พวกตนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสยดสยองและไม่อยากจะเชื่อว่านั่นคือเรื่องที่หนานหนานทำ แถมยังติดต่อหนานหนานไม่ได้อีก ตอนนี้จึงมีแต่ความกังวลใจ
เนื่องจากได้ยินมาว่าเย่ซือเฉินจับตัวหนานหนานไป คุณแม่โจว๋จึงไม่พอใจอย่างมาก เย่ซือเฉินมีสิทธิ์อะไรมาจับตัวลูกสาวของพวกตนไป ต่อให้หนานหนานทำผิดจริง อย่างน้อยก็ต้องให้เป็นหน้าที่ของตำรวจจัดการ เย่ซือเฉินมีสิทธิ์อะไรมาจับตัวเธอไป
การที่เย่ซือเฉินจับตัวคนไปโดยพลการแบบนี้ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
เย่ซือเฉินจับเธอไปขังเอาไว้ไม่ยอมให้พวกเขาได้เจอหนานหนาน คุณแม่โจว๋จึงคิดว่าเย่ซือเฉินกำลังจะใส่ร้ายลูกสาวของพวกเขา และถึงขั้นคิดว่าโจ๋วชิงถูกเย่ซือเฉินหลอก
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นคุณแม่โจว๋จะต้องพบหน้าลูกสาวตนให้ได้ แต่ว่าหนานหนานอยู่กับเย่ซือเฉิน พวกเขาจึงไม่มีสิทธิ์ได้พบหน้า จึงทำได้เพียงให้ตระกูลถังเป็นคนช่วย
“พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง” ท่านย่าถังทนไม่ไหว จึงเอ่ยเสียงแข็งออกมา “เธอกำลังสงสัยใคร สงสัยโจ๋วชิงงั้นรึ หรือว่าสงสัยพวกเรา”
“พวกเราแค่คิดว่าบางทีอาจจะมีเรื่องเข้าใจผิดอะไรบางอย่าง เลยไม่อยากปล่อยให้ใครอยากพูดอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ต้องถามหนานหนานให้รู้เรื่องก่อนว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ไม่ว่าจะอย่างไรอย่างน้อยก็ควรเปิดโอกาสให้หนานหนานได้มีโอกาสพูดบ้าง หากหนานหนานทำผิดจริงก็ควรหาหลักฐานมาแล้วให้ตำรวจจัดการ ไม่ใช่จับตัวไปขังเองแบบนี้ ทำแบบนี้มันผิดกฎหมาย” คุณแม่โจว๋ฟังออกถึงน้ำเสียงเยาะเย้ยของคุณย่าถัง เดิมทีคุณแม่โจว๋ไม่อยากจะฉีกหน้าใคร แต่เธอรู้สึกว่าเย่ซือเฉินกำลังรังแกคนอื่น แถมตอนนี้ตระกูลถังยังมาช่วยเย่ซือเฉินอีก
“อ้อ ฉันเข้าใจแล้ว ตอนนี้เธอกำลังต่อว่าเย่ซือเฉินว่าเย่ซือเฉินจับคนไปขัง” ท่านย่าถังแค่นหัวเราะอีก คุณแม่โจว๋ไม่ไหวจริงๆ เลย โจ๋วชิงตามสืบนิดหน่อยก็เกือบถูกโจ๋วอันหนานสังหาร และโจ๋วชิงยังอุตส่าห์เอาความจริงมาเล่าให้พ่อกับแม่ฟังอย่างละเอียดแล้ว แต่พวกเขาก็ยังวิ่งแจ้นมาที่นี่เพื่อหาหลักฐาน
คำพูดของโจ๋วชิงไม่นับว่าเป็นหลักฐานหรืออย่างไร วิลล่าของโจ๋วอันหนานที่โดนเผาไปแล้วไม่นับว่าเป็นหลักฐานหรืออย่างไร
รอยแผลบนตัวของโจ๋วชิงยังไม่นับว่าเป็นหลักฐานได้อีกหรือ
ไหนจะมีมือสังหารที่ถูกเย่ซือเฉินชนตกลงมาจากเนินเขาอีก ในมือถือของมือสังหารคนนั้นมีประวัติการโทรติดต่อกับโจ๋วอันหนาน แถมก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์ขึ้น โจ๋วอันหนานยังโทรติดต่อกับมือสังหารก่อนด้วย
ทั้งๆ ที่เหตุการณ์เหล่านี้ โจ๋วชิงเล่าให้พ่อแม่ของตัวเองฟังหมดแล้ว เห็นชัดๆ ว่าหลักฐานพวกนี้มากเพียงพอแล้ว อีกอย่างโจ๋วชิงยังเป็นคนวิ่งมาบอกพวกเขาเอง แต่คุณพ่อโจว๋คุณแม่โจว๋กลับคิดว่าโจ๋วอันหนานถูกใส่ร้าย?
“เรื่องราวยังไม่ชัดเจน แต่เย่ซือเฉินมาจับตัวเธอไปแบบนี้ดูจะไม่เหมาะสมนัก” ในเมื่อเล่าเรื่องออกมาแล้ว คุณแม่โจว๋ก็ถือโอกาสแสดงท่าทีของตัวเองออกไปด้วยเลย
“ว่าไงนะ โจ๋วชิงไม่ได้บอกพวกคุณหรือว่าทำไมซือเฉินถึงจับตัวเธอไป ก่อนอื่นโจ๋วอันหนานวางแผนจะวางระเบิดฉิงฉิงกับโจ๋วชิง พอทำไม่สำเร็จก็ส่งมือสังหารไปฆ่าฉิงฉิงกับโจ๋วชิงอีก พฤติกรรมบ้าระห่ำแบบนี้ยังจะให้ปล่อยเธอเดินก่อความวุ่นวายอยู่ข้างนอกอีกหรือ” ท่านย่าถังเข้าใจเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้เป็นอย่างดี ดังนั้นท่านย่าถังจะคิดว่าการที่เย่ซือเฉินจับตัวโจ๋วอันหนานไปแบบนี้ถือเป็นเรื่องที่เหมาะสมแล้ว
โจ๋วอันหนานคิดจะฆ่าฉิงฉิงกับโจ๋วชิง พอทำไม่สำเร็จยังส่งมือสังหารไปตามฆ่าพวกเขา
เห็นชัดๆ ว่าโจ๋วอันหนานเป็นบ้าไปแล้ว ใครจะรู้ว่าต่อไปเธอจะก่อเรื่องอะไรขึ้นอีก
ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของทุกคน ควรจะจับตัวโจ๋วอันหนานเอาไว้ก่อน
ท่านย่าถังยังรู้อีกว่าเย่ซือเฉินกำลังรวบรวมหลักฐานเรื่องนี้อยู่ เย่ซือเฉินเป็นคนรอบคอบ เขากำลังหาหลักฐานที่จะมัดตัวโจ๋วอันหนานได้แน่น ทำให้เธอต้องติดคุกสิบปีเป็นอย่างน้อยหรืออาจจะตลอดชีวิต
หากตอนนี้ปล่อยโจ๋วอันหนานออกมา และตระกูลโจ๋วใช้อำนาจเข้ามาก้าวก่ายจนตำรวจไม่สามารถจับตัวโจ๋วอันหนานได้ และหากโจ๋วอันหนานเกิดคลุ้มคลั่งขึ้นมาอีก ไม่มีใครรู้ว่าเธอจะก่อเรื่องอะไรต่อไปอีก
ในสถานการณ์เช่นนี้ เย่ซือเฉินไม่มีทางยอมปล่อยให้เกิดเรื่องผิดพลาดอะไรเกิดขึ้น อันที่จริงแล้วท่านย่าถังคิดว่าการที่เย่ซือเฉินทำเช่นนี้มีผลดีต่อโจ๋วอันหนานด้วยซ้ำ อย่างน้อยๆ เธอจะได้ไม่ก่อเรื่องเลวร้ายอะไรขึ้นอีก โทษจะได้ไม่รุนแรงมากไปกว่านี้
ด้วยความบ้าคลั่งของโจ๋วอันหนานตอนนี้ ไม่มีใครกล้ารับประกันทั้งนั้นว่าเธอจะไม่ก่อเรื่องที่โหดร้ายมากไปกว่านี้ขึ้นมาอีก
“ท่านย่าถังจะพูดแบบนี้ก็ไม่ถูกนัก ที่ผ่านมาหนานหนานเป็นคนว่านอนสอนง่าย พวกเราไม่เชื่อว่าเธอจะทำเรื่องราวแบบนั้น พวกท่านก็เคยเห็นหนานหนานมาตั้งแต่เด็ก พวกท่านเองก็รู้จักหนานหนาน พวกท่านคิดว่าเธอจะทำเรื่องราวแบบนั้นได้หรือ” พอคุยกันถึงตอนนี้คุณแม่โจว๋ก็เริ่มเล่นบทดราม่า
“ว่านอนสอนง่าย?” ริมฝีปากของท่านย่าถังเริ่มกระตุก “หมายความว่าเธอจะบอกว่าพวกเราใส่ร้ายโจ๋วอันหนาน?”
“ฉันรู้สึกว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็น่าจะปล่อยให้พวกเราได้ถามหนานหนานเอง” จุดประสงค์ในการมาที่นี่วันนี้ของคุณแม่โจว๋ก็เพื่อจะได้พบหน้าลูกสาว ความโหดร้ายของเย่ซือเฉินเธอเองเคยได้ยินมาบ้าง เลยกลัวว่าเย่ซือเฉินจะทำร้ายลูกสาวตัวเอง
“อย่างนั้นพวกคุณคงมาผิดที่แล้ว ลูกสาวของคุณไม่ได้อยู่ที่บ้านตระกูลถัง” สีหน้าของท่านย่าถังเคร่งเครียดขึ้น เพราะตอนนี้รู้แน่ชัดแล้วถึงจุดประสงค์ที่คุณพ่อโจว๋กับคุณแม่โจว๋มาถึงที่นี่แต่เช้า
“พวกเรารู้ว่าตอนนี้เย่ซือเฉินคุมตัวหนานหนานเอาไว้ แต่ตอนนี้พวกเราเองก็ติดต่อเย่ซือเฉินไม่ได้ เรื่องทุกอย่างเกิดขึ้นจากฉิงฉิง ฉันอยากคุยกับฉิงฉิง” แน่นอนว่าตอนนี้คุณแม่โจว๋เห็นสีหน้าของท่านย่าถังแล้ว แต่เพื่อลูกสาวเธอจึงต้องอดกลั้นเอาไว้
“คุยกับฉิงฉิง? ทำไมฉันต้องให้พวกคุณพบฉิงฉิงด้วย พวกคุณได้เจอฉิงฉิงแล้วจะทำอะไรต่องั้นรึ” ท่านย่าถังมองไปที่คุณแม่โจว๋ ด้วยสีหน้าตกตะลึง ท่านย่าถังคิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะถึงขั้นกล้าขอพบฉิงฉิง
“ท่านปู่ถัง คุณหนูถังอยู่ที่บ้านหรือไม่ครับ” คุณพ่อโจว๋ฟังความหมายของท่านย่าถังออกจึงแน่ใจว่าท่านย่าถังไม่มีทางยอมให้พวกเขาพบหน้าเวินลั่วฉิงแน่ แต่เขามั่นใจว่าท่านปู่ถังเป็นคนมีเหตุผล
“อืม ฉิงฉิงอยู่บ้าน” ท่านปู่ถังเหลือบตาขึ้นมองคุณพ่อโจว๋แล้วตอบรับด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยเดาอารมณ์ไม่ถูก
บ้านตระกูลถังยังไม่ทันจะเปิดประตู สองคนนี้ก็บุกเข้ามา ถ้าเขาบอกว่าฉิงฉิงไม่อยู่ พวกเขาไม่มีทางเชื่อ หรือพูดอีกอย่างหนึ่งว่า ท่านปู่ถังอยากรู้ว่าคนสองคนนี้คิดจะทำอะไร
“อย่างนั้นให้พวกเราได้เจอคุณหนูถังได้ไหม” คุณพ่อโจว๋รู้ดีว่าพอเกิดเรื่องราวแบบนี้ขึ้น ความสัมพันธ์ของตระกูลถังกับตระกูลโจ๋วต่อจากนี้ไม่มีทางดีเหมือนอย่างแต่ก่อนแล้ว จึงเปลี่ยนท่าทีในการพูดไป
“ขอโทษด้วย ตอนนี้ฉิงฉิงยังไม่ตื่น” ท่านปู่ถังตอบปฏิเสธคำขอของคุณพ่อโจว๋ออกไปตามตรง แม้ว่าเสียงจะไม่ดังมากนัก แต่ไม่เหลือหนทางให้พวกเขาได้ต่อรอง
“ท่านถัง พวกเราแค่อยากเจอคุณหนูถัง จะได้คุยกับคุณหนูถังสักหน่อย……”
เมื่อคุณพ่อโจว๋เห็นท่านปู่ถังตอบปฏิเสธอย่างไม่เหลือเยื่อใยก็รู้สึกประหลาดใจและรู้สึกไม่พอใจขึ้น ท่านปู่ถังเป็นคนไม่มีเหตุผลเหมือนท่านย่าถังงั้นหรือ
ไม่แน่ชัดว่าเรื่องนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมถึงมั่นใจกันนักว่าหนานหนานทำผิด บางทีอาจจะเป็นเวินลั่วฉิงก็ได้ที่เป็นฝ่ายทำผิด?
ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามคุณแม่โจว๋ไม่มีทางเชื่อว่าหนานหนานของพวกตนจะทำผิด เธอคิดว่าเย่ซือเฉินกับตระกูลถังจะต้องมีเจตนาไม่ดีบางอย่าง ถึงจับตัวหนานหนานของเธอไปไม่ให้พวกตนได้พบหน้าหนานหนาน
ถ้าหากเรื่องนี้ไม่มีลับลมคมใน ทำไมเย่ซือเฉินต้องจับตัวหนานหนานไปเองด้วย ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตามสามารถคุยกันต่อหน้าให้ชัดเจนได้ทั้งนั้น