“ลูกไม่อยากมีชีวิตแล้วเหรอ?ลูกรู้ถึงผลที่ตามมาจากเรื่องนี้ไหม?ถ้าพวกเขารู้ตัวตนของลูก แม่กับลูกก็ไม่รอด พวกเราต้องตาย ลูกรู้บ้างไหม ทำไมลูกโง่แบบนี้ ไม่ระวังตัวเลย?”คุณแม่หลินตำหนิเสียงดัง น้ำเสียงนั้นแย่อย่างชัดเจน!!
เพราะว่าตัวตนของหลินเป้ย พวกเขาไม่ได้จ้างคนใช้ ดังนั้นคุณแม่หลินก็ไม่ห่วงว่าจะมีคนได้ยิน
จู่ๆหลินเป้ยก็อยากจะขำ แต่ในใจนั้นเยือกเย็น ขำไม่ออกจริงๆ
“ตอนแรกแม่ให้ฉันปลอมตัวเป็นผู้ชายเข้าไปในราชวงศ์ก็น่าจะนึกถึงผลที่ตามมาของเรื่องนี้ได้แล้ว ตอนนั้นฉันแค่กี่ขวบ ไม่รู้เรื่อง แม่ไม่เข้าใจเหรอ?”หลินเป้ยเป็นเด็กดีมาแต่เด็ก ฟังคำพูดของคุณแม่หลินมาเสมอ นี่คือครั้งแรกที่หลินเป้ยเถียงคุณแม่หลิน
เธอไม่มีพ่อตั้งแต่เด็ก มีแต่แม่ เธอรู้ว่าแม่มีชีวิตที่ยากลำบาก และเธอสงสารแม่มาก ดังนั้นเธอจึงฟังแม่ของเธอตั้งแต่ยังเด็ก แม่ให้เธอทำอะไรเธอก็ทำ ไม่เคยบ่นมาก่อน แต่ตอนนี้ในใจเธอมีโมโห
หรือว่าเรื่องท้อง และอาจจะเป็นเพราะสาเหตุอื่น คนอื่น……
หลินเป้ยไม่ได้คิดดีๆ และก็ไม่ให้ตัวเองได้คิดดีๆ
คุณแม่หลินตกใจ มองหลินเป้ยด้วยใบหน้าไม่อยากจะเชื่อ:“นี่ลูก ลูกกำลังโทษแม่?ลูกโทษแม่?ลูกโทษแม่เนี่ยนะ?”
“ฉันแค่บอกความจริง”หลินเป้ยแอบถอนหายใจ ให้ตัวเองใจเย็นลง
“ลูกโทษแม่ชัดๆ ลูกโทษแม่ที่ให้ลูกแต่งชายกลับราชวงศ์ โทษที่แม่ทำให้ลูกอันตราย”อารมณ์ของคุณแม่หลินเหมือนใจร้อนขึ้นมาทันที:“ลูกไร้มโนธรรม ทำไมลูกถึงโทษแม่ ถ้าไม่ใช่แม่ ลูกจะมีชีวิตอย่างวันนี้ไหม?ถ้าไม่ใช่แม่ ตอนนี้ลูกอาจจะลำบากอยู่ที่ไหนก็ได้ ถ้าไม่ใช่แม่ให้ลูกเข้าราชวงศ์ ก็ไม่รู้ว่าลูกจะถูกใครจับไปเป็นคนรักตั้งแต่สิบกว่าขวบแล้ว ถ้าไม่ใช่แม่ที่ให้ลูกเข้าราชวงศ์มา ไม่แน่ตอนนี้ลูกคงตายอยู่ที่ไหนแล้ว”
หลินเป้ยงง ที่จริงแม่พูดก็จริง ถ้าเธอไม่แต่งชายเข้ามาราชวงศ์ จากสถานการณ์ตอนนี้ของเธอแล้ว แม่พูดพวกนี้ออกมาก็อาจเกิดขึ้นที่เธอจริง
ยังไงผู้หญิงโสดที่เลี้ยงลูกสาวที่พ่อไม่รู้จัก ในประเทศที่คนอ่อนแอไม่มีหลักประกันด้านสิทธิมนุษยชน เธอสวยแค่ไหน ก็กลัวว่าจะถูกคนจับไปตั้งแต่ยังไม่โตด้วยซ้ำ
แน่นอนว่าอาจเป็นไปได้ที่จะไม่รู้ว่าถูกใครฆ่าตาย
หลินเป้ยไม่พูดอีก
“แม่ทำเพื่อตัวเองหรือไง?แม่ไม่ได้ทำเพื่อลูกอีกเหรอ ถ้าไม่ใช่เพื่อลูก แม่ต้องเสี่ยงอันตรายไหม?”คุณแม่หลินจับหลินเป้ย ออกแรงเขย่าเธอ:“ลูกมันไร้มโนธรรม ลูกมาโทษแม่ได้ ทำไมลูกถึง ……”
“ขอโทษค่ะ”หลินเป้ยพูดอีกครั้ง เสียงนั้นแหบเล็กน้อย:“ขอโทษค่ะ ฉันไม่ควรพูดอย่างนั้น”
“ลูกคิดว่าแม่ทำเพราะโลภเหรอ?ลูกคิดว่าถ้ามีคนจับได้แม่จะไม่รู้เหรอว่าจะเกิดอะไรขึ้น?ลูกคิดว่าแม่ไม่กลัวเหรอ?แต่ตอนนั้นแม่มีทางอื่นเหรอ?แม่จะมีทางอื่นเหรอ?”คุณแม่หลินยิ่งร้อนใจมากขึ้น ตาคู่นั้นมองไปที่หลินเป้ยเต็มไปด้วยการกล่าวหา น้ำตาไหลไม่หยุด คุณแม่หลินเขย่าตัวหลินเป้ยตลอดเวลา
หลินเป้ยถูกเธอเขย่าจนปวดหัว อาจเป็นเพราะการตั้งครรภ์ ร่างกายจึงไม่สบายอย่างมาก แต่หลินเป้ยไม่ได้สลัดออก และก็ไม่ห้ามการกระทำของคุณแม่หลิน และก็ไม่เถียงคุณแม่หลินสักคำ
ฟังคำบ่นของแม่แล้ว ตอนนี้หลินเป้ยเสียงใจที่เถียงแม่เมื่อกี๊จริงๆ!!
“ตอนนั้นแม่มีทางอื่นด้วยเหรอ?แม่ถูกคนรังแกแม่ทนได้ แต่แม่เห็นแกถูกคนรังแกไม่ได้ ตอนนั้นแกแปดขวบ ดูนุ่มนวลขาวสะอาด ใครเห็นก็ชอบ ……”คำพูดของคุณแม่หลินหยุดลง ใครเห็นก็ชอบเป็นคำที่ดี แต่ตอนนี้พูดออกมาจากปากของคุณแม่หลิน ชัดเจนว่าไม่ใช่เรื่องดีนัก
ตัวของหลินเป้ยแข็งทื่อ สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างไว เธอเข้าใจความหมายของแม่ดี
ตอนนั้นเธอสวยจริงๆ น่ารักมาก เธอจำได้ว่าตอนนั้นเธออยู่บนถนน เริ่มมีคนที่เจตนาไม่ดีคอยจ้องแล้ว จนหลายๆครั้ง เธอยังถูกหยุดไว้ด้วย
ดีที่เธอฉลาด คล่องแคล่ว จึงหนีไปได้!!
“ตอนนั้นแม่พาลูกย้ายบ้านเปลี่ยนที่ไม่หยุด ลูกคิดว่าเพราะอะไร?แม่ได้ทำเพราะว่าไม่ให้ลูกถูกรังแกเหรอ”เสียงของคุณแม่หลินดังขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้สั่นจนหูของหลินเป้ยชาเล็กน้อย
เรื่องนี้เธอจำได้อยู่แล้ว เหมือนว่าตอนใกล้จะเจ็ดขวบ แม่ก็พาเธอย้ายบ้านไม่หยุด ตอนนั้นเธอไม่เข้าใจเพราะอะไร เธอแค่คิดว่าเพราะว่าแม่ทำงาน แต่ตอนนี้ได้ยินที่แม่พูด ในที่สุดเธอก็เข้าใจ
“ขอโทษค่ะ……”เสียงของหลินเป้ยสั่นหน่อยๆ เธอเสียใจจริงๆที่เมื่อกี๊พูดแบบนั้นไป ช่วงนี้เธอหงุดหงิดจริงๆ ไม่ควรเลยจริงๆ!!
“ตอนนี้ลูกมาบอกแม่ว่าขอโทษ แต่ในใจลูกโทษแม่มาตลอดหลายปีนี้ ไม่งั้นเมื่อกี๊ลูกก็ไม่ว่าแม่แบบนั้นหรอก ”คุณแม่หลินเสียใจอย่างชัดเจน ปลอบก็ปลอบไม่ได้:“ในประเทศเรา ผู้หญิงที่ไม่แต่งงานเลี้ยงลูกสาวคนเดียวอยากจะใช้ชีวิตต่อไป มันยากจริงๆ ยากมากๆ ลูกก็ยังไม่เข้าใจ ลูกไม่เข้าใจเลย”
“ฉันเข้าใจ ฉันเข้าใจ”จมูกของหลินเป้ยร้อนผ่าว เบ้าตาชื้น เธอเข้าใจ เพราะเธอได้ยินเรื่องแบบนั้นมาเยอะ และเธอก็เห็นกับตาที่ขุนนางจับผู้หญิงพวกนั้นกลับมา ผลที่ตามมาของผู้หญิงพวกนั้นแย่มาก
ผู้หญิงพวกนั้นที่ถูกจับกลับมา บางคนก็ถูกจุนเจืออยู่หลายครั้ง จากนั้นก็ถูกขุนนางพวกนั้นส่งไปให้คนอื่น บางคนอยู่ไม่นาน ก็ถูกคุณนายตัวจริงของบ้านขุนนางทำร้ายจนตาย และยังมีที่ถูกทรมานจนตายด้วย จุดจบของพวกเธออนาถมาก
หลินเป้ยรู้ ขุนนางพวกนั้นน่ากลัวแค่ไหน ในสถานที่ที่เธอไม่รู้ ในสถานการณ์ที่ไม่รู้ ผู้หญิงแบบนั้นจะกลัวแค่ไหน!
ถ้าไม่ใช่ว่าตอนนั้นแม่ให้เธอแต่งชายกลับเข้าราชวงศ์ กลัวว่าจุดจบของเธอคงอนาถกว่าสาวๆพวกนั้น!!
“ถ้าลูกเข้าใจแม่จริงๆ ลูกก็ไม่โทษแม่หรอก ถ้าลูกเข้าใจแม่จริงๆ ลูกก็จำไว้ว่าต้องระมัดระวังให้ดี อย่า เผยให้เห็นข้อบกพร่อง อย่าถูกพระราชินีจับได้”ที่คุณแม่หลินเสียงการควบคุมแบบนี้ เพราะว่าห่วงมากไป กลัวมากไป
“เปล่า พระราชินีไม่ได้จับเรื่องฉันได้ พระราชินีเรียกแม่ไปเพราะเรื่องอื่น ดังนั้นแม่ไม่ต้องห่วงมาก”หลินเป้ยจึงมีโอกาสอธิบายให้แม่ฟัง
คุณแม่หลินงง ในที่สุดก็หยุดร้องไห้:“ลูกบอกว่าพระราชินีไม่ได้เป็นเพราะตัวตนของลูก เป็นเพราะเรื่องอื่น?เรื่องอะไร?”
“มีคนเอาฉันกับเจ้าชายสามมาเปรียบเทียบกัน คนของพระราชินีได้ยิน ดังนั้นพระราชินีจงใจทำเพื่อให้แม่ลำบากใจ”หลินเป้ยเอาเรื่องที่ถามจากเจ้าชายใหญ่เมื่อกี๊มาบอกคุณแม่หลิน
“ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ พระราชินีต้องไม่ปล่อยลูกไปง่ายๆแน่ กลัวว่าพระราชินีจะจับตาดูลูกตลอด ลูกวางแผนยังไง?”คุณแม่หลินเงียบไปแป๊บหนึ่ง หยุดร้องไห้ แล้วสงบลงอีกครั้ง
“เจ้าชายใหญ่ให้ฉันไปต่างประเทศระยะหนึ่ง……”หลินเป้ยแอบถอนหายใจ:“แม่จะไปกับฉันไหม?”
“ไม่ แม่ไปกับลูกไม่ได้ ถ้าแม่ไปกับลูก พระราชินีอยากระบายความโกรธแล้วไม่เจอเรา ถึงตอนนั้นก็จะยิ่งโกรธ ยิ่งเกลียดลูก ดังนั้นลูกกลับมาแล้วจะยิ่งลำบาก ดังนั้นแม่ไปไม่ได้”คุณแม่หลินส่ายหน้าไปมา ใบหน้ามีความเด็ดเดี่ยว:“ดังนั้นแม่จำเป็นต้องอยู่ แม่ไม่เหมือนกับลูก สำหรับพวกเขาแล้วแม่ไม่มีอะไรให้ข่มขู่ อย่างมากพระราชินีก็ขู่แม่แบบวันนี้ ทำอัปยศกับแม่ แต่ลูกต่างกัน ยังไงตอนนี้ลูกก็เป็นเจ้าชายน้อย เป็นคนข้างกายที่เจ้าชายใหญ่ไว้ใจ ปลายปีนี้ลูกยังช่วยเจ้าชายใหญ่จัดการเรื่องยากๆ เกรงว่าพระราชินีคงไม่ถูกชะตากับลูก กลัวว่าครั้งนี้ลูกจะถือโอกาสแสดงความคิดเห็น เลยหาข้อผิดพลาดของลูก”
หลินเป้ยมองไปที่แม่ งงเล็กน้อย เธอคิดมาตลอดว่า ทุกวันแม่ของเธอก็แค่เล่นไพ่เดินเล่น เธอคิดว่าแม่ของเธอไม่เข้าใจพวกนี้เลย คิดไม่ถึงว่า แม่ของเธอจะเข้าใจหมด
และเพื่อเธอแล้ว แม่ของเธอก็ยอมให้ตัวเองน้อยเนื้อต่ำต้อย
“เจ้าชายใหญ่ให้ลูกไปต่างประเทศถูกแล้ว ลูกไม่ต้องสนแม่ แม่ไม่เป็นไรหรอก มีเจ้าชายใหญ่อยู่ พระราชินีก็ไม่กล้าทำอะไรมั่วๆ ลูกห่วงตัวแล้วแล้วไปหลบดีกว่า ……”
หลินเป้ยแอบถอนหายใจ ปวดตาเล็กน้อย เธอก็รู้ว่าเจ้าชายใหญ่รู้เรื่องนี้ พระราชินีไม่อาจทำอะไรแม่ได้
ยังไงก็อย่างที่แม่เพิ่งพูด สำหรับพวกเขาแล้วแม่ไม่มีอะไรให้ข่มขู่!!
แต่เธอไม่เหมือนกัน!!