เจ้าเก้าปกปิดได้เป็นอย่างดีแท้ๆ อีกอย่างเขาเองก็ระมัดระวังมาก เพื่อที่จะไม่สร้างความสงสัย เขาทำเป็นไม่รู้จักกับพี่เจ้าเก้าเลย ไม่ได้มองพี่เจ้าเก้าเลยแม้แต่แวบเดียว
ทว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังเห็นได้ยังไง?!
หรือว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังจะมีทิพย์?!
ชายหนุ่มอยากจะหันไปมองคุณชายหาน พี่เจ้าเก้าถูกเปิดโปงแล้ว งั้นพี่หานล่ะ?
ชายหนุ่มคิดไปคิดมา อดทนดีกว่า ตอนนี้พี่เจ้าเก้าถูกเปิดโปงแล้ว เขาห้ามให้พี่หานถูกเปิดโปงอีก
ชายหนุ่มไม่รู้ว่ายังมีหน้าที่อื่นอีก หน้าที่ที่เขารับมาก็คือแย่งของ จากนั้นก็สร้างความวุ่นวายดึงดูดคนรอบข้าง ดึงดูดความสนใจของคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง
เขารู้สึกว่าเขาปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างสำเร็จมาก!!
ดังนั้นถึงแม้ว่าจะเกิดปัญหาขึ้นก็ไม่ใช่ปัญหาจากเขาแน่นอน!!
ดังนั้น เขาห้ามกระวนกระวาย ห้ามรน เขายังไม่ถูกเปิดโปง ไม่แน่ตอนสุดท้ายอาจจะต้องพึ่งเขามาช่วยสถานการณ์ครั้งนี้ก็ได้!!
“ฝีมือของเธอไม่เลว” เวินลั่วฉิงมองเจ้าเก้า ยิ้มโค้งที่ริมฝีปาก
เจ้าเก้าตะลึงงัน เธอเงยหน้าขึ้นมองเวินลั่วฉิง เม้มปากเล็กน้อย ไม่ได้ตอบ ไม่ได้ตอบแสดงว่ายอมรับแล้ว
“ฝีมือดีแท้ๆ กลับปล่อยให้ฉันจับเธอแบบนี้ ไม่มีแม้กระทั่งการดิ้นรน?” เวินลั่วฉิงยิ้มโค้งที่มุมปาก “เธอไม่อยากดิ้นรน เธอกำลังกังวลอยู่ กังวลอะไร?”
เจ้าเก้าได้ยินคำพูดของเวินลั่วฉิงแล้ว นัยน์ตาคู่หนึ่งเปล่งประกายขึ้นทันที ก่อนหน้านี้เธอได้ยินหัวหน้าบอกว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังเก่งมาก ทว่าเธอคิดไม่ถึงว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังจะเก่งถึงเช่นนี้
เมื่อกี้เธอไม่ได้พูดอะไรเลย ไม่ได้ทำอะไรเลย และเธอปกปิดได้ดีมาก ไม่ว่ายังไงแล้วเธอก็เป็นเด็กที่ลุงเหลียงเลี้ยงดูมา สิ่งที่ควรเรียนเธอก็เรียนแล้ว สิ่งที่ควรฝึกฝนเธอก็ฝึกฝนแล้ว
คุณหนูใหญ่ตระกูลถังมองออกได้ยังไงกัน!
เวินลั่วฉิงหยุดพูดไปสักพัก มองไปทางเจ้าเก้า จากนั้นก็พูดเสริมอีกประโยคหนึ่งว่า “กลัวว่าจะทำร้านโดนฉัน?”
ถึงแม้เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าคำพูดนี้ไม่ค่อยถูกต้อง ฝ่ายตรงข้ามเหมือนมีเป้าหมายต่อต้านเธอ ตามหลักแล้วไม่ควรมีความกังวลแบบนี้
ทว่าทักษะความชำนาญของเวินลั่วฉิงบอกกับเธอว่า เธอไม่ได้มองผิด
วินาทีที่เธอจับเจ้าเก้าเมื่อกี้ การตอบสนองแรกของเจ้าเก้าคืออยากจะดิ้นรน ทว่าตอนที่เจ้าเก้ามองเธอแล้วก็ลังเลไปสักพัก มีความกังวลแฝงอยู่ในแววตา จากนั้นเจ้าเก้าก็เงียบสงบ ปล่อยให้เธอจับไป ไม่มีการดิ้นรนใดๆ เลย
ตอนแรกในใจของเจ้าเก้าตกใจมากพอแล้ว ขณะนี้พอได้ยินประโยคนี้ของเวินลั่วฉิงแล้ว ก็ตกใจมากจริงๆ ทันใดนั้นอารมณ์บนใบหน้าก็ไม่สามารถปกปิดไวได้ เผยความตกใจออกมาอย่างชัดเจน
เวินลั่วฉิงเห็นการตอบสนองของเธอแล้ว ก็เข้าใจว่าตัวเองเดาถูกแล้ว!!
หญิงสาวตรงหน้านี้ถูกเธอจับไว้ ไม่มีการดิ้นรนใดๆ เพียงเพราะกังวลว่าจะทำร้ายโดนเธอ
ดังนั้นนี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่?!
เจ้าเก้าในขณะนี้อึ้งไปเลย คุณหนูใหญ่ตระกูลถังอ่านความในใจออกเหรอ?
นี่สามารถมองออกเลยว่าในใจของคนอื่นกำลังคิดอะไรอยู่
นี่ก็ช่างน่ากลัวเกินไปแล้วมั้ง?!!!
เจ้าเก้าถูกลุงเหลียงเลี้ยงดูจนเติบโต ตำแหน่งที่อยู่ในองค์กรโกสต์ซิตี้ก็สูง และมีความสามารถจริงๆ คนที่สามารถทำให้เจ้าเก้าเคารพและเกรงกลัวนั้นมีไม่มาก ยกเว้นพวกที่อาวุโสกว่า
คนที่วัยเดียวกัน ความสามารถของคุณชายน้อยนั้นโดดเด่น ทว่านิสัยอย่าคุณชายน้อยกลับทำให้เธอรู้สึกเคารพและเกรงกลัวไม่ขึ้นเลย
ทว่าเจ้าเก้ารู้สึกตกใจในตัวของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังที่ยืนอยู่ตรงหน้านี้จริงๆ ในใจของเจ้าเก้าในตอนนี้นับถือมากๆแล้ว รู้สึกเลื่อมใสอย่างสุดจิตสุดใจ เคารพและเกรงกลัวจากใจจริง
สมกับที่เป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลถังจริงๆ สมแล้วที่เป็นเจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้พวกเขา……
อื้ม เหมือนว่ายังไม่แน่ใจมากนัก!!
แต่ว่าไม่เป็นไร จากวินาทีนี้ไป เจ้าเก้าตัดสินใจแล้ว ต่อจากนี้หากคุณหนูใหญ่ตระกูลถังเป็นเจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้พวกเขาจริงๆ เธอจะทำตามคำสั่งของเจ้าหญิงแน่นอน
“ทำไมล่ะ?” เวินลั่วฉิงคิดไปนานมากก็คิดไม่ออกถึงปัญหาที่อยู่ในใจ คนพวกนี้พุ่งตรงมาทางเธอแท้ๆ ทำไมถึงกลัวว่าจะทำร้ายโดนเธอล่ะ?
พวกเขาจะทำอะไรกันแน่?!
เจ้าเก้าเม้าปาก สาเหตุเพราะว่าเธอไม่สามารถพูดได้เด็ดขาด ก่อนหน้านี้หัวหน้าได้กำชับไว้แล้ว อีกอย่างเรื่องที่คุณหนูใหญ่ตระกูลถังเป็นเจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้จริงๆ หรือเปล่าก็ยังไม่แน่ใจ
หากหัวหน้าน้อยทำผิดพรากไป หากคุณหนูใหญ่ตระกูลถังไม่ใช่เจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้พวกเขา เจ้าเก้าไม่รู้แล้วว่าควรอธิบายเรื่องนี้ยังไง
เธอคงจะพูดไม่ได้หรอกว่า พวกเราสงสัยว่าคุณคือเจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้พวกเรา อยากขอใช้ผมของคุณไม่กี่เส้นไปตรวจดีเอ็นเอกับหัวหน้าพวกเรา
หากเธอพูดแบบนี้จริงๆ ไม่แน่อาจจะถูกคุณหนูใหญ่ตระกูลถังมองว่าผีบ้า
ไม่ว่ายังไงแล้วเจ้าเก้าก็เป็นคนข้างกายของลุงเหลียง สำหรับเรื่องนี้จริงๆ แล้วเจ้าเก้าก็พอรู้เรื่องบ้าง ตามที่เธอรู้ เรื่องนี้เหมือนว่าลุงเหลียงจะทำผิดพลาดไป จริงๆแล้วคุณหนูใหญ่ตระกูลถังคือคุณหนูใหญ่ของตระกูลเวิน คือลูกของเวินจือฝาง
อีกอย่างเหมือนว่าผู้ดูแลจ้งไปยังไปสืบเรื่องนี้เป็นพิเศษอีกด้วย น่าจะยืนยันจุดนี้ได้
ทว่าหัวหน้ายืนหยัดบอกว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังคือเจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้พวกเขา คำพูดของหัวหน้าพวกเขาไม่กล้าที่จะไม่เชื่อฟัง อีกอย่างหัวหน้าบอกแล้วว่าหลังจากทำการตรวจดีเอ็นเอก็สามารถยืนยันได้แล้ว ดังนั้นเจ้าเก้าจึงเชื่อคำพูดของหัวหน้าเล็กน้อย
เจ้าเก้ารู้สึกว่าเธอจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ไม่ใช่หลักสำคัญ ผลตรวจดีเอ็นเอในตอนสุดท้ายต่างหากที่สำคัญที่สุด
แต่ว่า ในใจของเจ้าเก้าในขณะนี้หวังว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังจะเป็นเจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้พวกเขา เจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้พวกเขาควรจะเป็นแบนนี้แหละ!
แน่นอนว่า ก่อนที่เรื่องราวยังไม่มั่นใจ เจ้าเก้าห้ามพูดออกมาเด็ดขาด ทว่าเธอก็ไม่สามารถโกหกได้ว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเป็นเจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้ ดังนั้น จึงทำได้แค่ปิดปากแน่น
จริงๆ แล้วเวินลั่วฉิงไม่ได้หวังให้เธอตอบ
เวินลั่วฉิงยกมือขึ้น ชี้ไปทางคุณชายหานที่ยืนตะลึงงันอยู่ตรงหน้าเธอ “เธอรู้จักกับเขา”
เวินลั่วฉิงพูดคำพูดนี้กับเจ้าเก้า ไม่ใช่ประโยคคำถาม แต่เป็นน้ำเสียงที่มั่นใจ
สองคนนี้เป็นพวกเดียวกันแน่นอน
มีเรื่องเมื่อกี้เกิดขึ้นแล้ว เจ้าเก้าก็ไม่ได้ตกใจมากในเรื่องที่คุณหนูใหญ่ตระกูลถังสามารถมองออกว่าเธอกับคุณชายหานเป็นพวกเดียวกัน
คุณหนูใหญ่ตระกูลถังสามารถมองออกแม้กระทั่งความในใจของเธอ สามารถมองออกว่าเธอกับคุณชายหานรู้จักกันก็เป็นเรื่องปกติ
แน่นอนว่าในตอนนี้เจ้าเก้าก็ยังรักษาความสงบอยู่ ห้ามยอมรับแบบนี้เลย และห้ามพูดปฏิเสธโกหก
คนตรงหน้านี้อาจจะเป็นเจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้พวกเขา ให้ความกล้ากับเธอ เธอก็ไม่กล้าโกหกเจ้าหญิง
เจ้าเก้าไม่ตอบ เวินลั่วฉิงไม่ได้แปลกใจ และไม่ได้พูดอะไรมาก
เวินลั่วฉิงโบกมือไปทางคุณชายหาน อื้ม เหมือนกับโบกเรียก……สุนัข
คุณชายหานที่มีความตะลึงงันเล็กน้อยในตอนแรกเห็นเวินลั่วฉิงโบกมือเรียกเหมือนสัตว์เลี้ยง การตอบสนองแรกของเขาก็คือมองไปรอบๆ ข้าง เห็นว่ารอบๆ ข้างไม่มีคนอื่นๆ เลย คนที่ยืนอยู่ตรงนั้นมีเพียงเขาคนเดียว
สุดท้ายก็ต้องถูกบังคับยอมรับว่าคนที่คุณหนูใหญ่ตระกูลถังเรียกคือเขา
คุณชายหานไม่ชอบวิธีการโบกเรียกดั่งสัตว์เลี้ยง ในใจของเขามีความปฏิเสธเล็กน้อย ทว่าพอนึกถึงว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังอาจจะเป็นเจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้ เขาก็รู้สึกว่าไม่ได้เขาไม่ได้มีความกล้าที่จะปฏิเสธขนาดนั้น
ดังนั้นสุดท้ายแล้วคุณชายหานก็เดินขยับไปอย่างโดยที่ไม่พอใจ
ทว่าในขณะที่เดินตรงไปทางเวินลั่วฉิง เขาก็รีบส่งข้อความหนึ่งออกไป
เนื้อหาของข้อความง่ายมาก —— แผนการ A ล้มเหลว!!
ก่อนที่จะมา หัวหน้าน้อยบอกว่าต้องเตรียมแผนการไว้เยอะๆ จึงสร้างแผนการA แผนการ B ถึงขั้นสร้างแผนการC เพื่อป้องกันไว้ด้วย
คุณชายหานรู้สึกว่านี่เหมือนเป็นการทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ คุณหนูใหญ่ตระกูลถังจะเก่งขนาดไหน นั่นก็ตัวคนเดียว พวกเขามีคนมากมายขนาดนี้ มีเขา แล้วก็เจ้าเก้าออกมือเองยังมีเจ้าเด็กผีที่ปลิ้นปล้อน อีกอย่างแผนการของพวกเขาก็เพอร์เฟกต์ขนาดนั้น
คุณชายหานไม่เชื่อว่าแผนการของพวกเขาจะล้มเหลว
แผนการของพวกเขาเพอร์เฟกต์ขนาดนั้นแท้ๆ ไม่มีช่องโหว่ใดๆ ให้เจ้าเด็กผีไปแย่งของก่อน ดึงดูดความสนใจของพวกเขา จากนั้นก็ให้เจ้าเด็กผีสร้างความวุ่นวายในห้องโถง ดึงดูดความสนใจของผู้คน
จากนั้นเขาจะยืนอยู่นอกผู้คน ใช้ปืนจ่อไปทางคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง
พวกเขาวางแผนมาดีขนาดนั้น ไม่ว่าใครก็ตามที่เห็นคนคนหนึ่งจ่อปืนมาทางตัวเองกะทันหันล้วนแต่ต้องตื่นตระหนกตกใจทั้งนั้น ต่างก็จะหลบโดยอัตโนมัติ งั้นเจ้าเก้าที่ซ่อนตัวอยู่ในหมู่ผู้คนก็สามารถสัมผัสกับคุณหนูใหญ่ตระกูลถังได้ จากนั้นก็หาโอกาสคว้าเส้นผมของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังมา
ไม่ว่าเวินลั่วฉิงจะหลบไปทางไหน ฝีมือของเจ้าเก้าหากอยากจะสัมผัสกับคุณหนูใหญ่ล้วนเป็นไปได้ทั้งนั้น อยากจะหาโอกาสคว้าเส้นผมของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังมาเป็นเรื่องที่ง่ายมากๆ อยู่แล้ว
ก่อนที่จะมา คุณชายหานคิดว่าเป็นแบบนี้จริงๆ!!
ไม่ว่ายังไงคุณชายหานก็นึกไม่ถึงว่า จะขายหน้าเร็วขนาดนี้ อีกอย่างการขายหน้าครั้งนี้ก็สาหัสมาก นี่ไม่ใช่ว่าแผนการของเขาล้มเหลวเท่านั้น พวกเขาเหมือนดั่งออกไปรบแต่ตัวตายก่อนจะรบชนะ