แต่ว่าผู้ดูแลจ้งก็ไม่อยากจะยอมแพ้ทางคุณหนูใหญ่ตระกูลถังไปแบบนี้
“ทางคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง ฉันจะหาวิธีทำการยืนยันอีกครั้ง” ในตอนที่ผู้ดูแลจ้งพูดประโยคได้ขมวดคิ้วเบาๆ ผู้ดูแลจ้งเองก็รู้ว่าเรื่องนี้มีความยาก อีกอยากมีความยากขนาดมากอีกด้วย
ทว่าถึงแม้ว่าจะยากเพียงไหน ก็จำเป็นต้องไปทำ
อะเหลียงบอกว่าเลือดข้นกว่าน้ำ เรื่องที่หาเจ้าหญิงตัวจริงเจอแล้วหัวหน้าจะชอบผู้ดูแลจ้งยังไม่แน่ใจ
ทว่าหากตอนสุดท้ายสามารถยืนยันได้ว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังเป็นเจ้าหญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ของพวกเขา หัวหน้าพวกเขาจะชอบมากแน่ๆ และจะชอบมากๆ ด้วย
ตอนแรกผู้ดูแลจ้งอยากไปตามหาเจ้าหญิงตัวจริง ทว่าตอนนี้อยากจะไปทำการตรวจยืนยันอีกครั้งมากกว่า
“หัวหน้าน้อยไปแล้ว” ลุงเหลียงรู้ว่าหัวหน้าน้อยไม่ได้บอกผู้ดูแลจ้งแน่นอน เรื่องนี้ก็เก็บไม่อยู่อยู่แล้ว ในเมื่อผู้ดูแลจ้งพูดแบบนี้แล้ว ลุงเหลียงจึงบอกผู้ดูแลจ้งไปเลย
“อะเฉิงไปแล้ว?” ผู้ดูแลจ้งมีความแปลกใจเล็กน้อย ทว่าก็ดูอบอุ่นใจขึ้นมา “ก็ยังเป็นอะเฉิงที่เข้าใจหัวหน้า สมแล้วที่เป็นคนที่หัวหน้าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก”
คำพูดนี้ลุงเหลียงไม่ได้ตอบกลับ
“ในเมื่อหัวหน้าน้อยไปแล้ว งั้นเรื่องนี้ก็มอบให้หัวหน้าน้อยไปจัดการ พวกเราแก่แล้ว ตอนนี้เป็นโลกของเด็กวัยหนุ่ม เด็กวัยหนุ่มน่าจะทำดีกว่าเรา” ในคำพูดของผู้ดูแลจ้งมีความหนักแน่นลดน้อยลง และมีความผ่อนคลายเพิ่มมากขึ้น
ถึงแม้ผู้ดูแลจ้งอยากจะไปทำการยืนยันอีกครั้ง ทว่าจริงๆ แล้วผู้ดูแลจ้งก็ไม่ได้มีความหวังมากมาย ทว่าตอนนี้ผู้ดูแลจ้งได้ข่าวว่าหัวหน้าน้อยไปสืบแล้ว จู่ๆ ก็มีความหวังเพิ่มขึ้น ปกติแล้วหัวหน้าน้อยดูชอบก่อกวน ทว่าพอถึงเวลาสำคัญเขาไม่เคยสะเพร่าเลย
อีกอย่างเรื่องที่หัวหน้าน้อยทำก็ไม่เคยเกิดข้อผิดพลาด ผู้ดูแลจ้งรู้สึกว่าตนเองน่าจะเชื่อใจหัวหน้าน้อย ไม่ เขาจำเป็นต้องเชื่อใจหัวหน้าน้อย
“เรื่องนี้จะไปรายงานกับหัวหน้ายังไง?” ลุงเหลียงไม่ได้แสดงความคิดเห็นกับคำพูดของผู้ดูแลจ้ง ทว่าตอนนี้ความหมายของผู้ดูแลจ้งก็คือให้หัวหน้าน้อยไปสืบเรื่องของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังต่อ และเขาก็ไปตามเจ้าหญิงต่อ?
มีความกะทันหันเล็กน้อย จะรายงานกับหัวหน้ายังไง?
“เรื่องนี้ไม่ต้องบอกหัวหน้า พวกนายตามหาของพวกนาย หัวหน้าน้อยสืบของหัวหน้าน้อย ต่างก็ไม่ต้องบอกหัวหน้า” ผู้ดูแลจ้งนึกถึงการตอบสนองของหัวหน้าบ้านตนเองก่อนหน้านี้แล้ว ผู้ดูแลจ้งรู้ว่าหัวหน้าไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องที่ตามหาเจ้าหญิงต่อ
ความหมายของหัวหน้าคือไม่ต้องตามหาแล้ว ทว่าผู้ดูแลจ้งก็ยังรู้สึกไม่พอใจ โดยเฉพาะหลังจากที่ได้ยินลุงเหลียงบอกว่าเลือดข้นกว่าน้ำ
สำหรับเรื่องที่หัวหน้าน้อยไปสืบเรื่องของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังนั้นดีที่สุดคือปิดบังไว้ก่อน ผู้ดูแลจ้งไม่อยากให้ความหวังกับหัวหน้าในตอนที่เรื่องราวยังไม่แน่ใจ หากสุดท้ายแน่ใจแล้วว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังก็ยังไม่ใช่ลูกสาวของหัวหน้า งั้นก็ต้องทำให้หัวหน้าผิดหวังอีกสิ
ดังนั้นสู้ปิดบังไว้ก่อนจะดีกว่า อีกอย่างหัวหน้าก็ดูไม่อยากให้พวกเขาไปรบกวนชีวิตของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังอย่างชัดเจน หากบอกกับหัวหน้าตอนนี้ เกรงว่าหัวหน้าอาจจะห้ามไว้
ทำไปก่อนแล้วค่อยรายงานละกัน หากสุดท้ายแล้วผลเป็นเหมือนเดิม งั้นเรื่องในวันนี้หัวหน้าจะรู้จะดีที่สุด
ลุงเหลียง “……”
ตอนนี้ผู้ดูแลจ้งยิ่งอยู่ยิ่งกล้าแล้ว กลับกล้าปิดยังหัวหน้า?
“พอแล้ว ตามนี้ละกัน สองสามวันนี้นายยังไม่ต้องมา ไม่ต้องปรากฏตัวต่อหน้าหัวหน้า เดี๋ยวหัวหน้าเจอหน้านายแล้วจะนึกถึงเรื่องคุณหนูใหญ่ตระกูลถังอีก” ผู้ดูแลจ้งไม่ได้ให้โอกาสคัดค้านกับอะเหลียง กำหนดไว้เลย
ผู้ดูแลจ้งก็ใช้ว่าตั้งใจห้ามไม่ให้ลุงเหลียงมาพบหัวหน้า หลักๆ คือตอนนี้หัวหน้าอยู่ในสภาพแบบนี้ ลุงเหลียงมาแล้วหัวหน้าก็ไม่พบหรอก
เมื่อกี้แม้กระทั่งเขาหัวหน้าก็ไล่ออกมาแล้ว
ผู้ดูแลจ้งรู้สึกว่าตอนนี้นอกจากคุณหนูใหญ่ตระกูลถังแล้ว ไม่ว่าใครมาหัวหน้าก็คงไม่พบ รวมถึงหัวหน้าน้อยด้วย!!
ลุงเหลียงแอบเม้มริมฝีปากขึ้นไม่ไหว แต่ว่าสุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร
“ลุงเหลียง เมื่อกี้ผู้ดูแลจ้งโทรมาใช่ไหม? ผู้ดูแลจ้งบอกอะไรบ้าง?” คุณชายหานเป็นคนที่ขี้สงสัยมาโดยตลอด เมื่อกี้ลุงเหลียงมีการตอบสนองใหญ่ขนาดนั้นอีก คุณชายหานทนไหวนั่นแหละถึงแปลก
แน่นอนว่าคุณชายหานเองก็ได้ยินมาบ้าง เพราะว่าได้ยินมาเล็กน้อยถึงได้ยิ่งสงสัย
“หาเจ้าหญิงต่อ” ลุงเหลียงกวาดสายตามองไปทางเขา ไม่ได้พูดอะไรมาก ความหมายของผู้ดูแลจ้งก็คือให้พวกเขาตามหาเจ้าหญิงต่อ งั้นก็ตามหาเจ้าหญิงต่อ
ลุงเหลียงรู้สึกว่าสถานการณ์ในตอนนี้ต่างหากที่ถูกต้อง และตอนนี้ก็ตักคุณหนูใหญ่ตระกูลถังออกไป ลุงเหลียงรู้สึกว่าหากเทียบแล้วจะหาเจ้าหญิงตัวจริงเจอจะง่ายกว่า
“ตามหาเจ้าหญิงต่อเหรอครับ? แต่ว่าเมื่อกี้ผมได้ยินลุงบอกว่าไม่ต้องหาเจ้าหญิงตัวจริงแล้ว?” เมื่อกี้คุณชายหานได้ยินเสียงตกใจของลุงเหลียงอย่างชัดเจน เพราะว่าประโยคนี้ในใจของคุณชายหานตื่นเต้นเหมือนแมวข่วนเลย
และสำหรับคำพูดเมื่อกี้ของลุงเหลียง น่าจะพูดเรื่องที่หัวหน้าน้อยไปสืบเรื่องของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังบอกกับผู้ดูแลจ้งแล้ว ทางผู้ดูแลจ้งก็ไม่ได้มีความหมายที่จะห้าม หรืออาจจะพูดว่าทางผู้ดูแลจ้งก็เห็นด้วยอยู่
คุณชายหานรู้สึกว่าเรื่องนี้ยิ่งอยู่ยิ่งซับซ้อนแล้ว เพราะเมื่อกี้เขาแอบฟังไม่หมด
“ทำไม? ฉันยังพูดไม่ชัดเจนอีกเหรอ?” ลุงเหลียงกวาดสายตาไปทางเขาหนึ่งที ถึงแม้ว่าสีหน้าจะยังคงเหมือนปกติ ทว่าน้ำเสียงกลับต่ำลง “ตามหาเจ้าหญิงต่อ”
“ลุงเหลียง เรื่องที่หัวหน้าน้อยไปสืบเรื่องเกี่ยวกับคุณหนูใหญ่ตระกูลถังเมื่อกี้ลุงบอกผู้ดูแลจ้งแล้ว ผู้ดูแลจ้งไม่ได้คัดค้านใช่ไหม หรืออาจจะพูดว่าผู้ดูแลจ้งเห็นด้วย?” คุณชายหานเป็นคนที่ฉลาดมาโดยตลอด เรื่องที่เขาสนใจนั้นจะใส่ใจเป็นพิเศษ
“ดังนั้นล่ะ” นัยน์ตาที่เย็นชาคู่หนึ่งของลุงเหลียงมองมาทางเขา ลุงเหลียงเห็นคุณชายหานเติบโตมาตั้งแต่เด็กๆ จะไม่เข้าใจความคิดของคุณชายหานเหรอ
“ดังนั้น ผมสามารถไปช่วยหัวหน้าน้อยได้ไหม” คุณชายหานเข้าใจทันทีว่าเขาเดาถูกแล้ว ผู้ดูแลจ้งเห็นด้วยกับการกระทำของหัวหน้าน้อย ความหมายของผู้ดูแลจ้งก็คือความหมายของหัวหน้า ในเมื่อหัวหน้าเห็นด้วย งั้นก็แสดงว่าสามารถไปช่วยหัวหน้าน้อยได้แล้ว
เขาไม่อยากตามหาเจ้าหญิงอะไรต่อแล้ว เขาอยากไปสืบเรื่องของคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง
คุณชายหานรู้ การสืบเรื่องคุณหนูใหญ่ตระกูลถังสนุกกว่าการหาเจ้าหญิงเยอะเลย
ลุงเหลียงมองดูเขา เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ได้ยิ้ม “นายอยากไปช่วยหัวหน้าน้อยหรืออยากไปร่วมสนุก ข้างกายของหัวหน้าน้อยจะขาดคนเหรอ?”
“ข้างกายของหัวหน้าน้อยไม่ขาดคนอยู่แล้ว แต่ว่าเรื่องนี้ครั้งก่อนหัวหน้าน้อยส่งผมไปจัดการ ผมจะคุ้นเคยกับสถานการณ์มากกว่า ผมไปต้องเหมาะสมกว่าแน่ๆ อีกอย่างผมไม่ได้แย่ไปกว่าคนข้างกายของหัวหน้าน้อยเลย” สำหรับทางนี้ คุณชายหานมั่นใจมากๆ เขาเองก็อยากไปร่วมสนุก แต่ว่าก็อยากไปช่วยเหลือจริงๆ
บนเรื่องนี้ เขาเลือกที่จะเชื่อหัวหน้าน้อย
ลุงเหลียงขมวดคิ้ว คิดไปคิดมา ไม่ได้ยืนหยัดต่อ “แล้วแต่นายเถอะ”
เมื่อกี้คำพูดของผู้ดูแลจ้งชัดเจนเพียงพอแล้ว หัวหน้าหวังว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังจะเป็นเจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้ หัวหน้ายอมรับเพียงแต่คุณหนูใหญ่ตระกูลถัง
ดังนั้นให้อะหานไปช่วยหัวหน้าน้อยก็ดี
“จริงนะครับ?” นัยน์ตาของคุณชายหานเปล่งประกายขึ้น ตอนแรกเขาไม่ได้มีความหวังอะไร เพราะเขารู้ว่าลุงเหลียงเป็นพวกหัวโบราณ ทำงานแบบตายตัว ไม่เคยมีพื้นที่ให้เจรจาเลย
คิดไม่ถึงว่าครั้งนี้จะเจรจาได้ง่าย
“ไม่อยากไปก็ช่างเถอะ” ลุงเหลียงเห็นการตอบสนองแบบนี้ของเขาแล้ว จู่ๆ ก็รู้สึกรำคาญตา
“ไป ไป ไปแน่นอนครับ ผมไปเดี๋ยวนี้เลย” คุณชายหานกลัวว่าเขาจะกลับใจ แค่พริบตาเดียวก็วิ่งไปแล้ว
ดังนั้นในตอนที่ฟ้าสว่าง เจ้าเก้าตามหาเรื่องเจ้าหญิงกับลุงเหลียงต่อ และคุณชายหานก็ไปหาหัวหน้าน้อยเลย
หัวหน้าน้อยเห็นเขาแล้วก็ยักคิ้ว
“ลุงเหลียงให้ฉันมาเอง แล้วผู้ดูแลจ้งก็เห็นด้วยกับการกระทำของนาย” คุณชายหานกลัวว่าหัวหน้าน้อยจะไล่เขาไป จึงรีบอธิบาย
“ตาเฒ่านั่นกลับเห็นด้วย? นี่เกิดอะไรขึ้น?” จุดนี้ทำให้หัวหน้าน้อยแปลกใจมาก เขาจำได้ว่าครั้งที่แล้วตาเฒ่าไม่ค่อยเห็นด้วยเลย ครั้งนี้ตาเฒ่ากลับเห็นด้วย?
นี่เกิดเรื่องอะไรที่เขาไม่รู้ขึ้นเหรอ?
“ฉันเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทว่าดูจากการคุยโทรศัพท์ของลุงเหลียงและผู้ดูแลจ้งในเมื่อวานแล้ว ชัดเจนเลยว่าผู้ดูแลจ้งเห็นด้วย ไม่เช่นนั้นลุงเหลียงก็ไม่เห็นด้วยที่จะให้ฉันมาช่วยนายหรอก แต่ว่าลุงเหลียงก็ไปตามหาเจ้าหญิงต่อแล้ว”
“ตามหาเจ้าหญิงต่อ? ตามหาเจ้าหญิงอะไร? คุณหนูใหญ่ตระกูลถังก็คือเจ้าหญิงไม่ใช่เหรอ เขาจะไปตามหาที่ไหนอีก?” หัวหน้าน้อยทำท่าดูถูก เรื่องที่เขามั่นใจแล้วไม่เคยเปลี่ยนแปลง ตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังคือเจ้าหญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ของพวกเขา ดังนั้นสำหรับการไปตามหาเจ้าหญิงอื่นของลุงเหลียงนั้นเขาไม่พอใจอย่างชัดเจน
“พวกเขาอยากไปหาก็ให้พวกเขาไป พวกเขาไปหาของพวกเขา พวกเราสืบของพวกเขา พวกเขาไม่ส่งผลกระทบต่อเรา” ตอนนี้คุณชายหานพอใจกับสถานการณ์ในตอนนี้มากๆ แล้ว
“หัวหน้าน้อย นายมีแผนการใหม่อะไรไหม?” คุณชายหานไม่อยากคุยเรื่องที่ลุงเหลียงไปตามหาเจ้าหญิงแล้ว!