เยว่หงหลิงคิดไม่ถึงเลยว่าถังไป๋เชียนจะเป็นคนแบบนี้ เยว่หงหลิงรู้สึกว่าตัวเธอนั้นไม่ได้รู้จักถังไป๋เชียนดีพอ
ปกติถังไป๋เชียนดีกับฉิงฉิงขนาดนั้น อีกทั้งถังไป๋เชียนก็ชอบพอฉิงฉิงมาโดยตลอด ปกติชอบหล่อนขนาดนั้น แต่ทำไมตอนนี้กลับกระทำการโหดร้ายขนาดนี้ล่ะ?!
หากแผนการที่ถังไป๋เชียนกำลังพูดถึงเมื่อสักครู่นี้ประสบความสำเร็จ เยว่หงหลิงไม่กล้าคิดเลยว่าฉิงฉิงจะถูกทำร้ายขนาดไหน แล้วก็ยังมีลูกอีกสองคน ลูกที่หล่อนรักและทะนุถนอมมากที่สุด
ในเวลานี้เยว่หงหลิงอดไม่ได้ที่จะพุ่งตัวเข้าไปในห้องเพื่อขัดขวางถังไป๋เชียน จากนั้นก็ค่อยว่ากล่าวถังไป๋เชียนสักยกหนึ่ง แต่ว่าสุดท้ายแล้วเยว่หงหลิงก็อดทนไว้ได้
เมื่อก่อนเธอคิดมาตลอดว่าถังไป๋เชียนเป็นสุภาพบุรุษคนหนึ่ง แม้ว่าบางครั้งจะดูเย็นชา แต่ว่าก็ปฏิบัติต่อพวกเขาไม่เลว ปกติก็เข้ากันได้ดี และพูดง่ายมาโดยตลอด
แต่ว่าในเวลานี้ เธอได้ยินคำพูดเหล่านั้นของถังไป๋เชียน ทำให้ตระหนักอย่างชัดเจนว่าถังไป๋เชียนที่เธอรู้จัดก่อนหน้านี้ ไม่ใช่โฉมหน้าที่แท้จริงของถังไป๋เชียน ถังไป๋เชียนที่เธอเห็นในตอนนี้เป็นโฉมหน้าที่แท้จริงของเขาต่างหาก
เรื่องเหล่านั้นที่เธอเพิ่งได้ยินเมื่อสักครู่นี้ ก็พอที่จะมองออกถึงความเหี้ยมโหดอำมหิตและโหดร้ายของถังไป๋ หากเธอพุ่งเข้าไปในตอนนี้ ก็เกรงว่าถังไป๋เชียนจะฆ่าเธอปิดปาก
ดังนั้นเธอจะเข้าไปไม่ได้เด็ดขาด ไม่เพียงแต่เข้าไปไม่ได้ ทั้งยังต้องแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องด้วย แน่นอนว่าเธอจำเป็นที่จะต้องบอกฉิงฉิงให้ทราบ ให้ฉิงฉิงเตรียมพร้อมล่วงหน้า จะให้แผนชั่วของถังไป๋เชียนสำเร็จไม่ได้อย่างเด็ดขาด
เยว่หงหลิงไม่ได้เข้าไปในห้องทำงานของถังไป๋เชียน แต่กลับค่อยๆเคลื่อนย้ายฝีเท้าเบาๆ เดินมุ่งไปยังด้านล่างตึก แต่ขณะที่เยว่หงหลิงเดินมาได้ครึ่งทาง จู่ๆก็คิดได้ว่าชั้นสองมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ ซึ่งวีดีโอของกล้องวงจรปิดถังไป๋เชียนสามารถดูจากห้องทำงานจากในห้องทำงานของเขา
ดังนั้น เรื่องที่เธอแอบฟังอยู่ด้านนอกห้องทำงานเมื่อสักครู่นี้ หากถังไป๋เชียนดูวีดีโอบันทึกของกล้องวงจรปิดก็จะทราบทันที
เยว่หงหลิงถอนหายใจอย่างเงียบๆครู่หนึ่ง จู่ๆก็รู้สึกว่าฝีเท้าของตนหนักอึ้งยากที่จะขยับ เธอยืนอยู่หน้าห้องของถังไป๋เชียนตั้งนาน ไม่สามารถที่จะใช้ข้ออ้างว่าเธอเดินผ่านมาเฉยๆไม่ได้อย่างเด็ดขาด อีกทั้งในตอนนั้นถังไป๋เชียนก็กำลังคุยโทรศัพท์อยู่
แต่ว่าหากตอนนี้เธอเดินกลับไปก็ไม่สามารถชดเชยอะไรได้แล้ว เยว่หงหลิงเหลือบหันกลับไปมองห้องทำงานของถังไป๋เชียนครู่หนึ่ง
ห้องทำงานทางด้านนั้นไม่มีการเคลื่อนไหวใดใด ภายในห้องทำงานก็ไม่มีการเคลื่อนไหวเช่นเดียวกัน
หรือว่าถังไป๋เชียนจะยังไม่เห็น เพราะหากเป็นเช่นนั้นถังไป๋เชียนจะยังคงนิ่งเงียบอยู่แบบนี้ได้ยังไง?
หากถังไป๋เชียนเห็นเธอ ก็ควรที่จะไล่ฆ่าปิดปากเธอไม่ใช่เหรอ?
แม้ว่าจะไม่ฆ่าเธอ แต่อย่างน้อยก็ต้องกักขับเธอไว้สิ
ดังนั้น ในเวลานี้ถังไป๋เชียนคงยังไม่ได้ดูกล้องวงจรปิดแน่ ในเมื่อตอนนี้ถังไป๋เชียนยังไม่ได้ดู งั้นเขาก็คงไม่ไปเช็กดูหรอกมั่ง?
บางทีถังไป๋เชียนอาจจะไม่เห็นก็ได้!!
ในเวลานี้เยว่หงหลิงทำได้แค่เพียงปลอบใจตนเองในใจ
แต่ว่าโชคร้ายมาก ที่ในเวลานี้ภายในห้องทำงาน ถังไป๋เชียนกำลังดูวีดีโอกล้องวงจรปิดอยู่
ในขณะที่เขาใกล้จะคุยโทรศัพท์เสร็จ ก็ได้มองไปยังวีดีโอบันทึกกล้องวงจรปิด จึงพบว่าเยว่หงหลิงยืนอยู่ด้านนอกห้องทำงาน เขาจึงกรอย้อนกลับไปนิดหน่อย ก็พบว่าเยว่หงหลิงยืนอยู่ด้านนอกตั้งแต่เขาคุยโทรศัพท์
เมื่อเห็นการตอบสนองของเยว่หงหลิงก็รู้ทันทีว่าเธอได้ยินสิ่งที่เขาคุยเมื่อสักครู่นี้
ดวงตาของถังไป๋เชียนค่อยๆหรี่ขึ้น พวกมันจะต่อต้านเขางั้นเหรอ?
เวินลั่วฉิงคนเนรคุณนั้นเพิ่งโทรศัพท์มาข่มขู่เขา ส่วนเยว่หงหลิงกลับกล้าแอบฟังเขาคุยโทรศัพท์
เมื่อเห็นเยว่หงหลิงค่อยๆแอบจากไป ดวงตาของถังไป๋เชียนก็เผยแววตตาเย็นยะเยือกออกมามากขึ้น แน่นอนว่าถังไป๋เชียนคงไม่ได้คิดเอาเองว่า การที่เยว่หงหลิงจากไปเช่นนี้จะแกล้งเสแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน
เขาทราบถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างเยว่หงหลิงกับเวินลั่วฉิง และเมื่อเขาเห็นปฏิกิริยาของเยว่หงหลิงเมื่อสักครู่นี้ ก็ทำให้เขาเข้าใจความคิดของเธอได้อย่างชัดเจนขึ้น
ในเวลานี้เยว่หงหลิงค่อยๆจากไปอย่างเงียบๆ แน่นอนว่าคงจะต้องแอบไปรายงานเรื่องนี้ให้เวินลั่วฉิงทราบ
แต่ว่าถังไป๋เชียนกลับไม่ได้ขัดขวางเยว่หงหลิง ในเมื่อเยว่หงหลิงได้ยินไปแล้ว เขาก็ไม่รังเกียจที่เปลี่ยนแปลงแผนการ
ตอนนี้เยว่หงหลิงกำลังไปรายงานให้เวินลั่วฉิงรู้เรื่องนี้ ก็ถือว่าเป็นการช่วยเขา
สำหรับเวินลั่วฉิงเขาไม่ปล่อยมืออย่างเด็ดขาด เวินลั่วฉิงเป็นของเขา และก็เป็นได้เพียงของเขาเท่านั้น
เขาจะไม่ยอมให้คนที่เขาเลี้ยงดูมาจนเติบใหญ่ให้กับคนอื่นอย่างเสียเปรียบเด็ดขาด
เพื่อที่จะให้เวินลั่วฉิงกับเย่ซือเฉินแยกจากกัน เขายอมสละแม้กระทั่งอำนาจของประเทศM ซึ่งนั้นก็ถือว่าเป็นผลสำเร็จในครึ่งชีวิตของเขา เพื่อหล่อน เขายอมสละทิ้งอย่างไม่ลังเล แล้วจะให้หล่อนจากเขาไปได้ยังไง?
ได้ยังไง?!
ไม่ ไม่ได้!!เขาไม่อนุญาตอย่างเด็ดขาด!!
หากเขาไม่ได้มันมา งั้นเขาก็จะทำลายมันทิ้ง ดังนั้นแม้ว่าจะต้องตาย เวินลั่วฉิงก็ต้องกลับมาอยู่ข้างกายเขา
อย่างอื่นเขาไม่สนใจ แต่ว่าเขาจะต้องได้เวินลั่วฉิงมาให้ได้
ริมฝีปากของถังไป๋เชียนเผยอเล็กน้อย เผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา เพียงแต่ว่ารอยยิ้มมุมปากของเขาให้เวลานี้ มองไม่เห็นความสุขใดใดเลย ทำให้คนรู้สึกถึงเพียงความขนพองสยองเกล้า
ในเวลานี้เยว่หงหลิงไม่ทราบว่าถังไป๋เชียนกำลังดูวีดีโอบันทึกกล้องวงจรปิดอยู่ในห้องทำงาน เธอไม่ทราบว่าถังไป๋เชียนเห็นทุกอย่างกระจ่างชัดแล้ว และเธอก็ยิ่งไม่ทราบว่าเขาได้เปลี่ยนแผนการแล้ว
แต่ว่า ตอนที่เธอเดินลงบันไดนั้น จู่ๆก็รู้สึกหนาวสั่น ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ทั้งๆที่ตอนนี้อุณหภูมิสูงมาก ทำไมจู่ๆเธอถึงได้รู้สึกหนาวล่ะ?
แต่ว่า เยว่หงหลิงไม่ได้คิดมาก เธอรีบกลับไปยังห้องของตนเองอย่างรวดเร็ว ห้องของเธอไม่มีกล้องวงจรปิด เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เดิมทีเธอต้องการที่จะโทรหาเวินลั่วฉิง แต่ว่าเมื่อเธอคิดถึงเรื่องที่เธอได้ยินถังไป๋เชียนคุยโทรศัพท์ตอนที่เธออยู่นอกห้องทำงานของเขาเมื่อสักครู่
เพื่อที่จะระมัดระวังมากขึ้น เยว่หงหลิงจึงได้พิมพ์ข้อความฉบับหนึ่งแล้วส่งให้กับเวินลั่วฉิง ในข้อความนั้นเขียนอย่างง่ายๆว่า เรื่องที่ถังไป๋เชียนวางแผนจะทำ ให้เวินลั่วฉิงเตรียมตัวรับมือให้ดี และป้องกันล่วงหน้าด้วย
สิ่งที่เยว่หงหลิงไม่รู้ก็คือ ขณะที่ข้อความของเธอถูกส่งออกไป เมื่อเวินลั่วฉิงได้รับข้อความนั้น ให้ขณะเดียวกันทางด้านของถังไป๋เชียนก็เห็นข้อความนั้นเช่นเดียวกัน
ถังไป๋เชียนได้แอบติดตั้งGPSในโทรศัพท์ของพวกเขาทุกคนไว้ตั้งแต่แรกแล้ว อีกทั้งเขายังติดตั้งตัวที่นำสมัยที่สุด โดยปกติที่พวกเขาคุยโทรศัพท์หรือส่งข้อความหากัน ถังไป๋เชียนจะรับรู้ความเคลื่อนไหวทั้งสิ้น
เพียงแต่ว่าพวกเยว่หงหลิงไม่เคยรู้มาก่อน และที่สำคัญพวกเขาไม่เคยสงสัยถังไป๋เชียนเลย
ถังไป๋เชียนไม่ได้ติดตั้งไว้ในโทรศัพท์มือถือของเวินลั่วฉิง เพราะว่าเวินลั่วฉิงเป็นนักจิตวิทยา ถังไป๋เชียนทราบดีว่า เวินลั่วฉิงเป็นคนช่างสังเกต เขากลัวว่าหากติดตั้งในโทรศัพท์ของเวินลั่วฉิงจะถูกเวินลั่วฉิงจับได้
แน่นอน การที่เขาไม่ได้ติดตั้งในโทรศัพท์มือถือของเวินลั่วฉิงยังมีอีกสาเหตุหนึ่ง นั้นก็คือ เขารู้ว่าเวินลั่วฉิงเชื่อใจเขามาก และซื่อสัตย์ต่อเขามาก และจะไม่มีทางหักหลังเขาอย่างเด็ดขาด
แต่สิ่งที่เขาคิดไม่ถึงก็คือเวินลั่วฉิงกลับเป็นคนแรกที่หักหลังเขา
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็คงโทษเขาไม่ได้ หญิงสาวที่เขาเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นสุนัขจิ้งจอกหรือว่าแมว ยังไงก็ต้องอยู่ข้างกายเขา นี่เป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้อย่างเด็ดขาด !!
ขณะที่เวินลั่วฉิงได้รับข้อความจากเยว่หงหลิงก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เพราะว่าเยว่หงหลิงเป็นคนใจร้อน ปกติมีเรื่องอะไรก็จะโทรศัพท์หาหล่อนโดยตรง น้อยมากที่จะส่งข้อความ เยว่หงหลิงมองว่าการพิมพ์ตัวอักษรนั้นยุ่งยาก แต่ว่าข้อความเมื่อสักครู่นี้แม้ว่าจะยังแสดงอยู่บนหน้าจอ แต่กลับรับรู้ได้ว่าตัวอักษรเยอะพอสมควร
เวินลั่วฉิงเปิดข้อความ ขณะที่เห็นเนื้อหาในข้อความ ดวงตาทั้งสองหรี่ขึ้น ถึงว่าพี่หงหลิงไม่โทรศัพท์มาแต่เลือกที่จะส่งข้อความมาแทย พี่หงหลิงน่าจะกลัวว่าจะมีใครมาได้ยินเข้า
หากเวินลั่วฉิงไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง ก็ไม่แน่ว่าเวินลั่วฉิงจะเชื่อเยว่หงหลิง ในเวลานี้หล่อนก็คงสงสัยเนื้อหาที่อยู่ในข้อความนี้
แม้ว่าเมื่อก่อนถังไป๋เชียนจะเคยปิดบังเรื่องที่ทำกับหล่อนไม่น้อย แม้ว่าหล่อนก็ทราบดีว่า เรื่องเมื่อวันก่อนที่ถูกเปิดเผยจะต้องเกี่ยวข้องกับถังไป๋เชียนอย่างแน่นอน แต่ว่าในใจของเวินลั่วฉิงก็ยังคงคิดว่าถังไป๋เชียนไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร อย่างน้อยก็ไม่ถือว่าเป็นคนเลว หล่อนคิดมาตลอดว่าอย่างน้อยถังไป๋เชียนก็ยังมีจิตสำนึกอยู่บ้าง
แต่เมื่อได้เห็นข้อความนี้ เวินลั่วฉิงก็รู้ทันทีว่า ถังไป๋เชียนไม่มีจิตสำนึกอะไรนั้นเลยแม้แต่น้อย
ถังไป๋เชียนกลับกล้าใช้วิธีน่าอายน่ารังเกียจแบบนี้กับหล่อน?!
เดิมทีหล่อนคิดว่า เมื่อสักครู่นี้ที่หล่อนโทรหาถังไป๋เชียนจะพูดคุยกันอย่างชัดเจนแล้ว อย่างน้อยถังไป๋เชียนก็ควรที่จะควบคุมตัวเองโดยการหยุดการกระทำนั้นซ่ะ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าถังไป๋เชียนไม่เพียงแต่ไม่ควบคุมตัวเอง แต่กลับสติฟั่นเฟือนมากขึ้นกว่าเดิม
เวินลั่วฉิงรู้จักเยว่หงหลิงดี หล่อนไม่สงสัยเยว่หงหลิง ดังนั้นหล่อนเชื่อว่าสิ่งที่เธอพูดเป็นความจริง และหล่อนก็ยังเชื่อว่าถังไป๋เชียนต้องการที่จะใช้วิธีที่ทุเรศต่อกรกับหล่อน
เวินลั่วฉิงไม่รู้สึกเสียดายที่หล่อนได้โทรศัพท์สายนั้นออกไป ในตอนนี้เมื่อคิดดูแล้ว หล่อนเพิ่งวางสายกับถังไป๋เชียนได้ไม่นาน ถังไป๋เชียนก็คิดวางแผนเช่นนี้ และเยว่หงหลิงก็บังเอิญได้ยินเข้า
แผนการเช่นนี้ไม่ใช่แผนการที่เพิ่งคิดขึ้นมาในขณะนั้นอย่างแน่นอน แผนการแต่ละแผนการค่อยๆผ่านการวางแผนจนสำเร็จ แสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่ามีการวางแผนไว้ตั้งแต่แรกแล้ว และยังแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนอีกว่าได้ผ่านการพิจารณาใคร่ครวญอย่างลึกซึ้งและรอบคอบ
มิฉะนั้นแล้วแผนการแต่ละแผนนี้คงไม่สามารถทำได้ถึงขนาดไร้รอยตะเข็บ ไม่มีช่องโหว่แม้แต่นิดเดียว
แม้ว่าข้อความของเยว่หงหลิงจะไม่ละเอียดมากนัก แต่ว่าเวินลั่วฉิงมองดูครู่เดียวก็รู้แล้วว่าเป็นแผนการสมบูรณ์แบบเป็นพิเศษแผนการหนึ่งเลยทีเดียว